[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว 42- 019:การรบครั้งแรก⑤ งานเลี้ยงฉลอง

ตอนที่ 42- 019:การรบครั้งแรก⑤ งานเลี้ยงฉลอง

019:การรบครั้งแรก⑤ งานเลี้ยงฉลอง

 

พื้นที่รัศมีห้ากิโลเมตรกลายเป็นดินแดนรกร้างที่ไม่มีพืชพรรณ

 

ลูน่าที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อดูว่าไอ้งูยักษ์มันจะฟื้นคืนชีพไหม แต่ว่าร่างกายของมันระเหยไปในอากาศด้วยความร้อนสูง ดูเหมือนว่ามันจะตายเป็นที่เรียบร้อย

 

 

 

「เอ่อยังมีงานอีกอย่างที่ต้องทำนี่นะ」

 

 

 

เธอพูดเช่นนั้นขณะลงจอดกลางกองทัพของอัศวินเวลซัคที่โดนแรงระเบิดซัดจนล้มลง ในขณะที่เธอยังยืนอยู่ในเครื่องแบบเบลเซอร์ที่ไร้รอยขีดข่วน

 

เมื่อฟังเสียงคร่ำครวญของเหล่าทหารเธอก็เปิดโหมดเทพธิดาตามปกติ

 

 

 

「เฮ้อทำแบบนี้แต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว!」

 

 

 

คราวนี้ฉันรู้แล้วว่ามีคนหลายพันคนที่ฉันต้องรักษา ฉันเลยไม่คิดจะปกปิด

 

ปีกสีขาวบริสุทธิ์หกคู่ผุดออกมาและวงแหวนทั้งสี่ก็ลอยอยู่เหนือศีรษะ

 

การักษานั้นครอบคลุมไปทั่วเพราะพลังอันแสนบริสุทธิ์

 

เสาแห่งแสงแผ่กระจายออกไปและเสียงแหลมสูงได้กลืนกินกองทัพทั้งหมด แม้กระทั่งกำแพงส่วนหนึ่งของซิเรียส ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ด้านหลังค่าย

 

 

 

จากมุมมองของลูน่าที่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดจากตะวันลับฟ้า นั้นส่ร้างความเสียหายไม่เลือกฝั่ง

 

พูดตรงๆก็คือกะจะฆ่าทุกคนให้ตายตั้งแต่ต้นเพราะว่าคืนชีพเหนือพิภพมันทำให้ทุกคนเยาว์วัยลง

 

 

 

แถมยังมีนัยยะอื่นๆแอบแฝงอีกมากมาย

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสลักความน่าเกรงขามของฉันให้ทุกคนได้เห็นและแสดงให้เห็นถึงปาฏิหาริย์อันน่ากลัวที่สามารถทำลายล้างและฟื้นคืนชีพได้ในเวลาเดียวกัน

 

เพื่อให้สามารถออกคำสั่งยามขับคันได้ลูน่าจึงทำให้พวกเขาต้องติด “หนี้บุญคุณ”

 

 

 

หากลูน่าทำตามชะตากรรมของเธอในหนังสือแห่งคำทำนาย ในที่สุดเธอก็จะโดนถอนหมั้น

 

ยังไม่ต้องพูดคุยถึงเรื่องอื่น แต่เธอควรทำประกันชีวิตไว้มากกว่านี้

 

ขั้นตอนแรกฉันอยากถอนหมั้นให้เร็วที่สุด ฉันเคยเห็นเจ้าชายทั้งสองที่บุกมาในงานวันเกิดของฉัน และคิดว่าเป็นพวกเด็กเปรตที่ริอาจลงมือกับสาวน้อย ถ้าต้องมาอยู่ใกล้ฉันจะจับฝึกให้ตายไปข้างเลย และจากมุมมองของฉันในฐานะผู้หญิง พวกนั้นไม่ใช่สเปคฉันเลย และฉันเองก็มีความปรารถนาอย่างจะล้างแค้นไอ้พวกที่ขับไสไล่ส่งฉัน

 

 

 

ขุนนางนั้นเป็นมาเฟียถูกกฏหมายที่ห่อหุ้มร่างกายไว้ด้วยคำพูดอันสวยหรู กล่าวอีกนัยหนึ่ง “ถ้าพวกนั้นโดนลงโทษ ก็จบเห่”

 

และหากลูกสาวของตระกูลขุนนางถูกขับไล่ก็จะทำให้ตระกูลเกิดความด่างพร้อย แต่ว่าจะยังไม่ถูกยึดอำนาจเว้นแต่จะสร้างหายนะขึ้นมา

 

ในท้ายที่สุดแล้วการมีกองกำลังไว้โค่นล้มราชวงศ์ก็เป็นคีย์สำคัญในการเป็นประกันภัยของฉันเช่นกัน

 

 

 

การทรยศต่อราชวงศ์จะถูกประหารโดยไม่มีการซักถาม

 

ดังนั้นต้องก่อกบฏให้สำเร็จรุล่วง หากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

 

ลูน่าคิดว่าวิธีเดียวที่จะสามารถเพิ่มโอกาสชนะของลูน่าได้เพียงเล็กน้อยนั่นคือการสร้างรากฐานที่มั่นคง

 

 

 

「เหล่านักรบที่ได้รับบาดเจ็บล้มหายตายจากไปเอ๋ย ฉันจะมอบชีวิตที่สองให้พวกเจ้าได้จับดาบอีกครา!!」

 

 

 

ฉันพูดประโยคที่ดูเหมือนกับเทพธิดาออกมา

 

ต่อไปพลังงานทั้งหมดของฉันก็ถูกถ่ายเทไปสู่ร่างของทหารทั้งหมดที่อยู่โดยรอบทันที

 

แล้วเหล่าทหารที่ค่อยๆลุกขึ้นเหมือนกับหนอนผีเสื้อนั้น

 

 

 

ลูน่ายังลอยอยู่บนอากาศในขณะที่พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยแสงสว่าง เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา

 

เมื่อแสงจางลง เหล่าทหารก็มองมาทางลูน่าด้วยสีหน้าวาดกลัว

 

 

 

「ศัตรูของพวกเจ้าได้ถูกกำจัดจนหมดสิ้น ตอนนี้ถึงตาพวกเจ้าแล้วที่จะตอบแทนตันฉัน หากยามใดที่ฉันต้องการความช่วยเหลือได้โปรดเป็นดาบให้กับฉันคนนี้」

 

 

 

เธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

 

ทหารทุกนายก้มกราบพร้อมบอกว่า「แน่นอนครับ ท่านเทพธิดา!!」

 

 

 

 ……เฮ้อ ไปกันใหญ่แล้วนะพวกเอ็ง

 

ทำไมพวกทหารเหล่านี้ถึงได้พูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยนะ ฝึกมารึไง

 

ลูน่ามองไปยังเหล่าลูกน้องของเธอด้วยความกังวลใจ

 

 

 

 

 

◆ ◆ ◆

 

 

 

 ――คืนนั้นทหารของเวลซัคกำลังยุ่งกับการกำจัดซากของปีศาจจนถึงรุ่งสาง และดูเหมือนว่าจะมีพลังงานเหลือเฟือโดยที่ไม่เจอศัตรูเหลือเลย

 

ลูน่าและหน่วยรบของเธอได้รับ MVP ในการปฏิบัติการครั้งนี้และใช้เวลาทั้งคืนในเต็นท์ที่อยู่ปลายสุดของฐานบัญชาการ ใกล้กับกำแพงเมืองซิเรียส เมื่อถึงวันต่อมาทุกคนลุกขึ้นด้วยใบหน้าร่าเริงพร้อมออกเดินทางกลับ

 

 

 

ปรากฏว่ากระสุนลูกปรายนั้นจัดการฮอบก็อบลินได้ประมาณร้อยกว่าตัว

 

 

 

「――ณ เวลานี้กองทัพปีศาจได้ถูกจัดการอย่างราบคาบ!」

 

 

 

เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ท่านแกรนด์ ประกาศออกมาขณะที่เหล่าลูกน้องกำลังเข้าแถว

 

จำนวนทหารนั้นกลับมาเป็นสามพันคนดั่งเดิม

 

เพราะพวกเขานั้นฟืนคืนชีพมาจากความตาย ทำให้ไม่เสียทหารไปเลยสักคน

 

การต่อสู้ถูกจัดขึ้นไกลจากตัวเมืองพอสมควร และจำนวนผู้เสียชีวิตเท่ากับศูนย์ หรืออาจะเพราะโดนกินจนไม่เหลือแม้แต่ร่างก็เป็นได้ หากอยู่ในระยะพลังของลูน่าก็คงฟื้นคืนชีพขึ้นมา

 

 

 

ตอนแรกลูน่าคิดว่ามันจะง่ายเพราะมีผู้บาดเจ็บมากมาย แต่เธอคิดว่ามันแปลกเพราะมันใช้พลังศักดิ์สิทธิ์มากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ และนี่คือผลลัพธ์

 

 

 

ทหารที่กลับมาจากความตายนั้นยังมีชุดเกราะกับดาบที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมากในการฟื้นกำลังรบ

 

 

 

「ศึกนี้พวกเราได้รับชัยชนะ ในกรณีนี้ให้ทหารจำนวนหนึ่งเฝ้าระวังและที่เหลืออยู่ไปดื่มเหล้าองุ่นซะ!!」

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าท่านแกรนด์ชอบเหล้ามาก เพราะร่างกายที่เหมือนกับหมีล่ะมั้ง

 

เมื่อเขาประกาศเช่นนั้นเหล่าทหารต่างก็แสดงสีหน้ามีความสุขออกมาและส่งเสียงเชียร์

 

แน่นอนว่ากองกำลังพิทักษ์นางฟ้าเองก็ด้วย

 

แต่ว่าเนื่องจากลูน่าไม่ใช่ผู้ใหญ่ เธอจำเป็นจะต้องดื่มน้ำผลไม้แทน แต่…

 

 

 

「เอาล่ะ อย่างที่ทุกคนได้ยินทุกคนได้รับอนุญาตให้ดื่มและคืนนี้พวกเราจะเมาหัวราน้ำไปเลย」

 

 

 

「「「โอ้วววววววววววว!!」」」

 

 

 

เมื่อเธอพูดเช่นนั้นเหล่าหทารก็ดีใจยกใหญ่

 

พวกทหารกินดื่มกันอย่างหนักและก็ล้มทั้งยืนด้วยความเมา

 

จากนั้นฉันก็คำนวณในหัวว่าวันพรุ่งนี้หลังเที่ยงที่กลับบ้าน

 

 

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมางานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้น ณ กำแพงด้านนอกเมือง

 

โต๊ะจำนวนมากที่ไม่รู้เอามาจากไหนเยอะแยะวางทอดยาวและมีอาหารจำพวกเนื้อย่างและอื่นๆ

 

แก้วที่ถือเต็มไปด้วยเหล้า และพวกเขาดื่ม ร้องเพลง และเต้นกันจนไม่รู้จักเหนื่อย

 

แสงของกองไฟถูกจุดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เหล่าทหารนั้นคึกคัก

 

 

 

「แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ……」

 

 

 

ท่ามกลางเหล่าหทารลูน่าดื่มน้ำส้มและนั่งลงบนท่อนซุง

 

หากกัดเนื้อที่เสียบไม้อยู่ไว้ในมืออีกข้างหนึ่งก็จะสัมผัสได้ถึงความช่ำที่แพร่กระจายไปทั่วปาก

 

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านพ้นไป สิ่งที่มาในอกของฉันคือความรู้สึกที่ได้ทำบางอย่างสำเร็จและความเหงาที่เข้ากัดกินจิตใจ

 

แต่ว่ามันก็สบายกว่าที่ต้องทำตัวเป็นลูกขุนนางอยู่ตลอดเวลา

 

ฉันคิดเสมอว่าคนอย่างฉันไม่ควรจะมีชีวิตที่หรูหราแบบนี้

 

 

 

แต่แล้วผู้บัญชาการก็ทำลายบรรยากาศสะเทือนอารมณ์ของฉันไปจนหมด

 

ซึ่งนั่นก็คือท่านแกรนด์ของฉันเอง

 

 

 

「ลูน่า พอดีมีเรื่องจะคุยด้วยขอนั่งด้วยได้ไหม?」

 

 

 

「ท่านแกรนด์ เอ่อ เชิญค่ะ」

 

 

 

「ข้าจะมีความสุขมากกว่านี้นะหากเจ้าเรียกข้าว่าปู่」

 

 

 

「เอ่อแบบนั้นไม่ดูหยาบคายเกินไปเหรอคะ」

 

 

 

「อืม…………ไม่สำคัญหรอก ข้าอยากให้เจ้าเรียกน่ะ」

 

 

 

แกรนด์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเธอ

 

นายพลที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชนกำลังจ้องมองกองไฟตรงหน้าขณะที่เหล่าทหารกำลังเต้นรำและเรียกหลานสาว

 

 

 

「พอดีข้ามีเรื่องอยากจะถาม」

 

 

 

「ค่ะ」

 

 

 

「……เจ้าเป็นใครกันแน่」

 

 

 

「ลูน่า เบลล์ ดิแซค เป็นลูกสาวของตระกูลมาร์ควิส อายุ 12 ปี……….คงไม่ใช่คำตอบแบบนี้สินะคะ?」

 

 

 

ลูน่าถามเขาที่อยู่ข้างๆ ในขณะที่เธอกำลังม้วนผมเล่น

 

 

 

「ใช่」

 

 

 

นั่นคือคำตอบของชายคนนั้น

 

ลูน่าพยักหน้า และจากนั้นเธอก็พูดออกมา

 

 

 

「กาลครั้งหนึ่งเคยมีคนโง่ที่พยายามท้าทายเทพเจ้า ชายคนนั้นคิดแต่ว่าเขาจะสามารถโค่นล้มเทพได้ยังไง จากนั้นเขาก็ได้คิดวิชาสำนักมังกรซากุระขึ้นมา ซึ่งมันคงหายไปตามประวัติศาสตร์ ชายคนนั้นได้โค่นล้มจอมมาร ฆ่าล้างบางเทพเจ้า และตายโดยไม่มีใครรับรู้」

 

 

 

「วิชาสำนักมังกรซากุระ ! นี่เจ้า……!!」

 

 

 

「อย่าพูดเสียงดังสิคะ………อย่าพูดมันออกมาเด็ดขาด คนที่ตายไปแล้วมันก็ตายไปแล้วนั่นแหละ เศษเสี้ยวของความฝันที่ผลิบานเพียงชั่วครู่ภายในโลกแห่งนี้มันจะไปมีค่าอะไรกันล่ะคะ?」

 

 

 

ดูเหมือนเขาจะรู้จักวิชาของฉัน

 

แต่ลูน่าพยายามปิดปากเขา

 

จากนั้นเขาก็ถามฉันอีกครั้ง

 

 

 

「แล้วท่านผู้ยิ่งใหญ่ไร้ซึ่งนามเอ๋ย ! ถ้างั้นให้ข้าได้ถามเจ้าหน่อยเถอะ……..ข้าคิดเกี่ยวกับมันมาตลอดเวลาเลยเมื่อวานนี้ วิธีที่เจ้าใช้สู้แตกต่างออกไปอย่างมาก แสงสีสามารถทำลายล้างได้แม้แต่ทวยเทพด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปาฏิหาริย์ที่สามารถฟื้นคืนชีพคนตายได้ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่เหรอ?」

 

 

 

「ไม่ช้าก็เร็ววิธีที่ผู้คนต่อสู้จะเปลี่ยนไป มันเป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในไม่ช้าความแข็งแกร่งของคนเองจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ฉันก็แค่พยายามทุกวิถีทางเพื่อมีชีวิตรอดเท่านั้นค่ะ」

 

 

 

「แล้วเจ้าไปถึงตัวตนที่ใกล้เคียงกับเทพเจ้าได้ยังไง?」

 

 

 

「ตอนที่ฉันได้สังหารเทพ ความคิดแรกก็คือการไปอยู่ดินแดนเดียวกับเทพ แต่ว่าถ้าฉันยังคงก้าวเดินไปบนวิถีนั้นอีก ฉันจะกลายเป็นเทพซะเอง……」

 

 

 

เธอพูดและยิ้มออกมา

 

ช่างเป็นการประชดประชันต่อจุดจบของฉันที่คิดจะกำราบเทพด้วยการให้ฉันเป็นเทพเสียเอง

 

แกรนด์หลับตาและก้มหัว

 

 

 

「ข้าเข้าใจแล้ว แกรนด์ เวลซัค ผู้นี้ตราบใดที่ชีวิตยังหาไม่ จะขอปกป้องเจ้าจนกว่าชีวิตจะดับสูญ」

 

 

 

เขาลุกขึ้นและโค้งคำนับต่อหน้าฉัน

 

ลูน่าค่อยๆวางมือบนศีรษะของเขาและยิ้มออกมา

 

 

 

「อืม ความภักดีของท่าน เราจะรับมันไว้เอง」

 

 

 

คำสาบานของผู้เป็นนายและข้ารับใช้ได้ถือกำเนิดขึ้น

 

พรุ่งนี้เธอจะนำกองทัพออกจากดินแดนแห่งนี้

 

อย่างไรก็ตาม คำสาบานนี้จะถูกบังคับตราบชั่วชีวิตนี้จะหาไม่

 

 

 

「นอกจากนี้ยังมีคำขอที่เห็นแก่ตัวหนึ่งอย่าง」

 

 

 

「ว่ามาสิ」

 

 

 

「อย่างน้อยก็ช่วยเรียกข้าว่าปู่ทีเถอะ……」

 

 

 

「「……」」

 

 

 

นายพลชรามองมาที่เธอด้วยความคาดหวัง

 

รอยยิ้มของลูน่ากระตุกเล็กน้อย

 

 

สถานะการแปลนิยายตอนนี้ 42/124

เรื่องนี้ผู้แต่งยังอัพเดทเรื่อยๆ

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ(ตรงไหนฟะ) เรื่องราวสามัญที่พบเห็นได้ดาษดื่นกับคนธรรมดาทั่วไปที่ตายไปในโลกแฟนตาซีและเกิดใหม่ในโลกใบเดิม ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ต่างโลก ก็แค่กลับชาติมาเกิดธรรมดา(ถึงปกติจะไปเกิดใหม่ต่างโลก……)แต่ว่าเกิดใหม่ทั้งทีก็ดันเป็น TS ไปซะแล้ว กลายเป็นสาวน้อยที่อาจจะเติบใหญ่ ――ในอดีต เขาเป็นชายผู้เป็นจ้าวนักสู้ปรมาจารย์ด้านพลังคิ (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานพลังกายและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน) ขณะที่ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญทั่วไป เขาก็ได้พยายามข้ามแม่น้ำซันสึ แต่ก็ล้มเหลว กลับมาเกิดใหม่ จุดหมายปลายทางที่มาเกิดคือลูกสาวขุนนาง เป็นนางร้ายที่ถูกลิขิตให้หมั้นกับเจ้าชายและโดนเนรเทศ โชคดีภายใต้ความโชคร้ายลูน่าที่เป็นลูกสาวของมาร์ควิสได้มองเห็นอนาคต(สิ่งมีชีวิตลึกลับที่อ้างตัวเองว่ามาจากต่างโลก ได้นำแผ่นเกมจีบสาวจากอีกโลกหนึ่งพร้อมกับเกมคอนโซล) และขณะที่เผชิญหน้ากับอนาคตอันเลวร้ายเธอก็ได้ใช้เทคนิค คิ ที่เชี่ยวชาญมาจากชาติก่อนอย่างเต็มที่ ผม(ฉัน)นั้น TUEEE(โครตแกร่ง)ในโลกแห่งนี้ แต่กลับไม่มีพัฒนาการเลยสักนิด หากรังเกียจใครก็พร้อมที่จะซัดหน้ามัน ดังนั้นไม่ได้มีความกวนประสาทแบบนางร้ายปกติ ตัวละครหลักนั้นเป็นสาวสวย(TS) แต่นางเอกเองก็สวยไม่แพ้กัน เหล่าสาวๆต่างโดนรุมจีบ ตัวละครหลักค่อยๆตกหลุมรักทั้งนางเอกและTS หลงรักเพียงแรกเห็น ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วย “คิ” พลังเวทย์อะไรนั่นไม่ได้ใช้เลย เป็นเรื่องราวสุดแสนจะวายป่วงที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและใช้พลังในการแก้ปัญหา ทำสิ่งต่างๆที่ชอบ ด้วย การเป็นไอดอล หรือ นักแสดงชั้นเลิศ และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี

Options

not work with dark mode
Reset