009:ซ้อมรบ② (ชะตากรรมของนักผจญภัย)
ฉันมีชื่อว่า เบงกาซี่(ベンガジ)
เป็นนักผจญภัยอายุ สามสิบสอง ปี
เป็นเวลาสิบปีแล้วที่เข้าร่วมกิลด์ตอนอายุยี่สิบสองปี แต่ถ้าชั้นยังทำงานอยู่ในแนวหน้าบัตรนักผจญภัยที่ควรจะหมดอายุในสิบปีจะถูกยืดออกไป และกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของชั้น ซึ่งก็ปลอดภัยกว่าจะไปทำอย่างอื่น เรียกได้ว่าประสบการณ์โชคโชนแบบมืออาชีพ
แรงค์ของชั้นคือ ซิลเวอร์
แรงค์ของกิลด์นั้นมีห้าระดับ แพลตตินั่ม โกลด์ ซิลเวอร์ บรอนด์ ไอรอน ซึ่งฉันแรงค์ซิลเวอร์อยู่ในระดับกลาง
ชายที่เริ่มต้นจากแรงค์ไอรอนและไต่เต้าสู่แรงค์ซิลเวอร์ได้ในเวลาสิบปี
กล่าวอีกนัยหนึ่งมันคือการประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต
แน่นอนว่าพวกแรงค์แพลตตินั่มและโกลด์เป็นแรงค์ที่จะถูกส่งไปจัดการกับพวปีศาจชั้นแนวหน้า
ซึ่งหมายความว่า เขาไม่ได้โดนเด่นนัก แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างจริงจังและรอดตายมาด้วยความรู้และประสบการณ์
「เอ่อ เบงกาซี่ดูอารมณ์ดีน่าดูเลยนะ」
「อ่า เทปปาจิ(テッパチ) ชั้นกำลังจะมีลูกคนที่สอง ดังนั้นเลยดีใจน่ะ」
「หนอยนี่นายปล่อยตัวปล่อยใจมากเกินไปรึเปล่า」
「เอ่อ ไม่คิดแบบนั้นหรอกนะชั้นต้องเลี้ยงลูกและภรรยาอีกดังนั้นมาตายในที่แบบนี้ไม่ได้หรอก」
เทปปาจิเป็นโจรมืออาชีพซึ่งเป็นสมาชิกปาร์ตี้ที่ชอบพูดติดตลก และชั้นก็ตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ภรรยาของฉันเองก็เคยเข้าร่วมปาร์ตี้นี้ ดังนั้นแม้แต่เทปปาจิเองก็รู้จักดี
ชั้นเป็นนักรบและเทปปาจิเป็นโจรส่วนลิเบียภรรยาของชั้นเป็นนักเวทย์
โดยพื้นฐานแล้วพวกเราออกผจญภัยด้วยกันสามคนและสำหรับคำขอที่อันตรายพวกเราจะทำงานร่วมกับปาร์ตี้อื่นๆ
ปาร์ตี้ที่สมาชิกไม่ครบมักจะถูกสายตาคนรอบข้างดูถูกอยู่เสมอ
เพราะเรียกได้ว่าเหมือนกับพวกเอาชีวิตไปทิ้ง
แต่นั่นก็เป็นสไตล์ของพวกเรา และท้ายที่สุดแล้วพวกเราก็ยังมีความสุขในการใช้ชีวิต ดังนั้นพวกเราคิดว่าพวกเรามาถูกทางแล้ว
「แน่นอนชั้นไม่คิดจะรับงานเสี่ยงอันตรายหลังจากแต่งงานแล้วหรอกนะ และก็ค่อนข้างหงุดหงิดบ้างอะไรบ้าง แต่การใช้ชีวิตแบบนี้ก็คงจะยืนยาว」
เทปปาจิแสดงสีหน้ากังวล
「นั่นสินะทั้งนายและชั้นเองก็เข้าเลขสามแล้ว และพละกำลังของพวกเราเทียบช่วยวัยทองไม่ได้เลย อย่าฝืนเกินไปจะดีกว่าเนอะ」
「อ่าใช่ เรื่องไปรวมตัวกันที่ป่าตะวันออก ชั้นรับคำขอคุ้มกันที่นั่น นายจะเอายังไงล่ะ?」
เทปปาจิพูดขณะมองไปที่คำขอที่ถูกติดอยู่บนป้ายประกาศของกิลด์
พวกเราอยู่ในกิลด์นักผจญภัยและพวกเรากำลังหาคำขอ
ไม่ว่าจะเป็นภารกิจรวบรวมหรือภารกิจคุ้มกัน เพียงแค่ได้เงินมาประทังชีวิตก็ดีมากแล้ว
ยิ่งระดับความเสี่ยงมากเท่าไหร่ค่าตอบแทนก็ยิ่งสูง
แต่จุดแข็งของปาร์ตี้สองคนคือพวกเราพยายามรับค่าตอบแทนที่ไม่มากเกินไป
เหตุผลง่ายๆก็คือยิ่งผลตอบแทนต่ำความเสี่ยงก็จะต่ำตาม ซึ่งหมายถึงว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเยอะ และในบางกรณีจะเป็นกำไรมากกว่า
ตัวอย่างเช่นได้รับคำขอให้กำจัด เวน่อม สเนค ก็ต้องเตรียมยาถอนพิษและใส่เกราะเพื่อป้องกันการโดนกัด หากเป็นภารกิจระยะยาวก็ต้องเตรียมอาหารและอุปกรณ์สำหรับตั้งแคมป์ด้วย
นั่นก็คือไม่ว่าค่าตอบแทนจะมากแค่ไหน ค่าใช้จ่ายก็จะมากขึ้นตาม และบางครั้งมันก็ไม่ได้กำไรด้วย และต้องคำนวณถึงอัตราการรอดชีวิต
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายเลยรับคำขอที่ความเสี่ยงต่ำและสามารถหารายได้เสริมจากภารกิจอื่นๆด้วย
แทนที่จะตัดสินจากเงินที่ได้รับหลังทำภารกิจเสร็จ แต่จงคำนวณหลังหักลบค่าใช้จ่ายนั่นล่ะคือรายได้ของพวกเรา
มันเป็นวิธีคิดที่ขาดไม่ได้สำหรับนักผจญภัย นั่นคือ การทำงานภารกิจที่เป็นแบบรายวันจะดีกว่า
「ถ้าเป็นการคุ้มกันและรวบรวม จะต้องใช้คนเยอะ แม้ว่าจะรู้ว่าสมุนไพรอยู่แถวไหนบ้าง ก็สามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน ชั้นคงกลายเป็นคนโง่ที่ต้องทำหน้าที่คุ้มกันแม้จะเกรงใจผู้ว่าจ้าง」
ผู้ว่าจ้างในคำขอคุ้มกันมักจะเป็นเหมือนโชคหล่นทับสำหรับพวกเรา
สมาคมการค้าโอดาน่าเป็นบริษัทการค้าขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน มีทีมคุ้มกันพิเศษ ดังนั้นจึงไม่ยืมมือนักผจญภัย
นอกจากนี้ หากเป็นพวกพ่อค้าเร่ ก็จะไม่เห็นข้อดีของการจ้างวานคนคุ้มกันเพราะรับภาระทางการเงินมากเกินไป
ดังนั้นหากมีกำลังทรัพย์เพียงพอก็จะจ้างแม้จะไม่ใช่ร้านค้าขนาดใหญ่ แต่เป็นพ่อค้าที่ไม่เข้าใจกลไกการทำงานของโลกใบนี้ และความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือหวังฟันกำไรมหาศาล
และการทำเงินด้วยความโลภนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ในบางกรรณี มันมีพวกสมองกลวงที่แค่ว่าต่อให้ต้องทำอะไรขอแค่ได้เงินมาก็มีอยู่ถมเถไป
หากมองจากมุมมองของนักผจญภัยแล้ว จะสังเกตเห็นได้ชัดว่าพ่อค้าที่ทำธุรกิจมานานและทำกำไรมีความคิดที่จะให้บริการกับสังคมส่วนมาก และธุรกิจนั้นจะทำให้โลกขับเคลื่อน ดังนั้นมักจะทำธุรกรรมที่เป็นประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย
ในทางกลับกันพ่อค้าหัวหมอมักจะคิดหากำไรเข้าตัวเองฝ่ายเดียว เพราะแบบนั้นเลยด้อยกว่าในด้านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเหล่านี้จะตายจากไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่สำหรับพ่อค้าทุกคนบนโลกใบนี้ แต่โดยเฉพาะพ่อค้าที่ร้องขอต่อกิลด์นักผจญภัย
ดังนั้นหากไม่ได้อยากสร้างคอนเนคชั่นกับนักธุรกิจก็อย่าไปเสี่ยงจะดีกว่า
「ไปเก็บสมุนไพรกันดีกว่านะ?」
「อ่า เอาแบบนั้นก็แล้วกัน」
เทปปาจิหยิบคำขอออกมาและไปที่เคานต์เตอร์ด้านหลังอาคาร
ชั้นนั่งรออยู่ที่โต๊ะขณะที่คู่หูของฉันคอยดำเนินเรื่องทั้งหมด
――จากนั้นพวกเราเองก็มาที่ร้านขายยาไว้สำหรับรักษาบาดแผลไว้ในกรณีฉุกเฉิน一อาหารเองก็เตรียมพร้อมพอที่จะไปที่ป่าตะวันออก
เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากลาทอสไปยังป่านั้นใช้เวลาสองชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าพวกเราสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ เว้นแต่ว่าจะหลงทางหรือติดอยู่ในป่า
ด้วยเหตุนี้พวกเรานั้นไม่มีปัญหาและเมื่อเรามาถึงป่าที่พวกเราคุ้นเคย พวกเราก็เข้าไปส่วนลึกของป่าโดยไม่ลังเล
อุปกรณ์ของชั้นคือชุดเกราะเหล็กและดาบยาวที่มีคมด้านเดียว แม้ว่าจะเป็นดาบเหมือนกัน แต่ดาบที่มีสองคมน่ะแพงเกินไป และด้อยกว่าในแง่ของความทนทาน เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน……。
ในทางกลับกันเทปปาจิสวมเกราะหนังที่เบาและความทนทานปานกลาง
อาวุธของเขาคือมีดสั้นและมีดขว้างหลายเล่ม
เขามีอาชีพเป็นโจร ดังนั้นจึงถนัดด้านการบุกเบิกมากกว่าการต่อสู้
พวกเราเองก็คุ้นเคยกับการรวบรวมสมุนไพร ซึ่งหมายความว่าพวกเรารู้จุดเก็บสมุนไพร
เข้าใจถึงขนาดที่ว่าต้องเป็นใบไม้ประมาณไหนที่จะส่งผลต่อการทำยาที่รักษาบาดแผล วัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพในการทำยาซึ่งใช้กันโรคและบางวัตถุดิบบางอันอาจจะมีพิษแต่ก็เป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับยาแก้พิษด้วย
ท้ายที่สุดแล้วจะทำเงินได้หรือไม่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความรู้รอบตัวของตัวเราเอง
「……เฮ้ นี่มันดูแปลกๆนะ」
「อ่า นั่นสินะ」
พวกเขาเข้ามาในส่วนลึกของป่า
จุดหมายปลายทางอยูไม่ไกลจากพื้นที่เก็บสมุนไพร
ตอนนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาเกิดขึ้น
「จำนวนมัน ห้า ไม่สิ หก」
「สถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ」
พวกเรากระซิบกันและดึงอาวุธออกมา
เห็นโครงร่างสีดำเคลื่อนไหวไปมาระหว่างพุ่มไม้
พวกมันอาจเป็นปีศาจ
พวกเราพบเห็นสัตว์ป่าสองสามตัว แต่สิ่งเดียวที่ต้องระวังก็คือหมูป่า ความจริงที่ว่าทั้งหมาป่า สูญพันธ์ไปแล้วเป็นเรื่องที่ทราบในกิลด์
「ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้ว พวกมันเห็นพวกเราเป็นเหยื่อ แต่ว่ามันไม่ได้จบไปตั้งแต่การกวาดล้างครั้งที่แล้วเหรอ?」
「อ่า นั่นสิ」
เมื่อมาทำภารกิจเก็บสมุนไพร โอกาสเจอปีศาจนั้นต่ำ
แต่ว่าความน่าจะเป็นมันต่ำ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเจอ
ความตีงเครียดแผดเผาไหลไปทั่วร่าง
ในที่สุดปีศาจก็พุ่งเข้ามาหาเราราวกับปิดระยะห่างพร้อมกับมองเราเป็นเป้าหมาย
「เอาเลย!!」
ในกรณีนี้ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องตาย
นั่นเป็นเหตุผลที่ชั้นกรีดร้องและใช้ดาบในมือสังหารพวกมัน
ศัตรูคือปีศาจที่ดูเหมือนหมาป่าตัวใหญ่
เท่าที่เห็นมีทั้งหมดหกตัว
แต่ละตัวมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์สองเท่า
ลูกตาที่ไม่มีม่านตาและเปล่งประกายแสงสีแดง
วิธีแยกแยะพวกสัตว์ประหลาดกับปีศาจก็คือการมองเข้าไปในดวงตาของมัน
ปีศาจจะไม่มีรูม่านตา แต่สัตว์จะมี
นอกจากนี้อย่างที่เห็นหากเผชิญหน้ากับมันก็หลีกเลี่ยงความตายไม่พ้น
「ย๊ากกกกกกกกกก!!」
ชั้นฟันดาบออกไปและหัวหมาป่าก็หลุดออกกระแทกกับลำต้นของต้นไม้
หลังจากมันกระตุกและชักไปแล้ว เขาก็หันไปมองอีกตัวที่พุ่งเข้ามา
「กร๊อดดดดดดดดดดด!」
จากนั้นหมาป่ามันคำราม และพุ่งเข้ามาด้วยแรงมหาศาล
ตัวชั้นที่ปลิวไปรอบๆและใช้แรงที่มันผลักเข้ามาในการฟันพวกมัน
「หนอยยย?!」
แต่ว่าการโจมตีมันไม่สร้างความเสียหายให้เลย
หมาป่ากัดขาของเขา
「อ๊ากกกกก!!」
เสียงที่น่าขยะแขยงกำลังบดขยี้กระดูกและเนื้อของชั้นอย่างรุนแรง
แม้จะเป็นแบบนั้นชั้นจะมาตายที่นี่ไม่ได้ เขาแทงดาบเข้าไปในลำคอของมัน
「อั๊ก!!」
พอได้ยินเสียงมาจากที่อื่นก็รีบลุกขึ้นอย่างร้อนรน
ในอีกฝั่งหนึ่งเทปปาจิไม่สามารถโจมตีใส่หมาป่าขนาดใหญ่ได้และถูกผลักลงโดนกัดที่คอ
เพื่อนร่วมอาชีพที่ทำงานด้วยกันหลายปี
บางครั้งก็พูดเรื่องแย่ๆ แต่ก็เป็นคนที่นิสัยดี
ชั้นพยายามอย่างสิ้นหวังเพื่อไปช่วยหมอนั่น
แต่ว่าด้วยขาข้างหนึ่งที่หายไป ชั้นจึงไม่สามารถขยับตามต้องการได้ และล้มลงกับพื้น
「อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก!」
เขากลิ้นไปบนพื้นเพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ด้านหลัง และยกดาบทันทีที่หงายตัว
จากนั้นร่างของหมาป่าก็ถูกแทงด้วยดาบ
เพล้ง
อาวุธของชั้น
ดาบที่เป็นที่รักของชั้นหักลงตรงนี้
อา ทุกอย่างจบแล้ว
ภรรยาและลูกของชั้นที่ถูกทิ้งไว้ที่บ้านและลูกคนที่สองที่ยังคงอยู่ในครรภ์
ไม่รู้เลยว่าจะขอโทษทั้งสามคนยังไงดี
ครอบครัวของชั้นที่ยังจ่ายหนี้ไม่หมดและมันควรจะเป็นชีวิตที่มีความสุขแล้วแท้ๆ
ภรรยาของชั้นจะโกรธรึเปล่าที่ชั้นไม่สามารถมีชีวิตกลับไปหาเธอได้อีกแล้ว?
ภรรยาและลูกๆของชั้นที่ขาดผู้นำครอบครัวอย่างชั้นจะมีชีวิตต่อไปยังไง?
ความคิดต่างๆเข้ามาในหัวของชั้น
หากเงยหน้าขึ้นก็จะเห็นภาพของคู่หูที่กำลังโดนกินทั้งเป็น เลือดสดๆสาดกระเซ็นไปทั่วขณะร้องด้วยความสิ้นหวัง
――ถ้ามีโอกาสอีกสักครั้งชั้นก็อยากจะกลับไปเห็นหน้าลูกและภรรยาของชั้น
นั่นคือสิ่งที่ชั้นคิดในขณะสติเริ่มเลือนลาง
ไม่ว่าจะกังวลเรื่องความปลอดภัยมากแค่ไหน ต่อให้พยายามหลีกอันตรายสุดชีวิต แต่วันหนึ่งก็ต้องมีวันที่โชคไม่เข้าข้างและยิ้มทักทายต่อตัวชั้น
นั่นแหละคือทั้งหมด
คนที่ไร้ซึ่งโชคต่อให้ระมัดระวังแค่ไหนก็ตายอยู่ดี
ถึงจะรู้แบบนั้น
ชั้นได้แต่หลับตาคิด
――วิชาสำนักมังกรซากุระ ดาบแห่งแสง(勁功剣)
บาซุนนนนนนนนนนนนน!
จากนั้นก็เกิดเสียงดังๆ
ชั้นลืมเปลือกตาที่ควรจะปิดลง
แล้วแหงนหน้ามอง
ผมยาวสีเงินกำลังล่องลอย
เธอบินอยู่บนท้องฟ้าร่ายรำในอากาศเหมือนกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
ดาบแห่งแสงปรากฏขึ้นบนแขนของเธอผ่าร่างของหมาป่าเป็นสองท่อน
เทพธิดา……。
นั่นคือสิ่งที่คิดในแวบแรก
จากนั้นขณะที่หมาป่าสองสามตัวกำลังเข้ามาใกล้ บางสิ่งบางอย่างก็ตกลงสู่พื้นและทำให้ร่างของพวกมันแหลกสลาย
นั่นคือพรรคพวกของเธอ
ทหารที่ล้อมรอบสาวน้อยคนนั้นกำลังบินลงมา
「จัดการให้สิ้นซาก!」
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
「「「รับทราบครับ/ค่ะ!」」」
ทหารตอบโต้
ทันทีที่พวกเขาปล่อยหมัดออกไปร่างของหมาป่าก็สลายหายไป
ทรงพลัง ทรงพลังมากจริงๆ
ตอนแรกก็คิดว่ามีแค่หกตัว แต่พอนับศพแล้วมันมากกว่ายี่สิบตัว
แต่พวกมันก็หยุดพวกเขาไม่ได้
เธอคนนั้นก้มหน้าลงมามองและยิ้มให้กับชั้นที่ยังหายใจ
「พวกนายนี่โชคดีชะมัด พาพากเขามานอนข้างๆกัน」
เธอประกาศเช่นนั้น
จากนั้นหัวใจของชั้นก็เต้นแรง
เรื่องที่ว่าชั้นเกือบตายมันเหมือนกับกลายเป็นเรื่องโกหกและชั้นก็จ้องมองเทพธิดาตัวน้อย
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง