004:ก่อนพายุเข้า
「――ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มางานวันเกิดของลูกสาวของผม ลูน่า เบลล์ ดิแซค เพราะงั้นจะขอเพลิดเพลินให้เต็มที่เลย」
บางทีอาจเป็นเพราะแขกมาตามกำหนดการแล้ว ท่านพ่อและลูน่ากล่าวว่า「ขอตัวสักครู่」เหล่าซามูไรทั้งสองต่างมองมาทางนี้และยิ้มมาให้ฉันกับอลิซ่าและทักทายกัน
เสียงเย็นที่ดังก้องกังวาลใลานบ้าน
มีแขกที่มาเป็นทั้งสาวน้อยและผู้ชายที่ดูอายุพอๆกัน
นอกจากนั้นคนอื่นๆยังเหลือบมองเหล่าผู้ใหญ่ที่มีปฏิกิริยาแตกต่างจากผู้อื่น
คำพูดของเธอนั้นมันสั้นผิดปกติสำหรับการทักทายในฐานะเจ้าภาพ
แต่นั่นก็เป็นสัญญาณว่าเธอไม่อยากคุยกับใครมากนัก อลิซ่าที่อยู่ข้างๆกับลูน่าพูด
「พี่สาวของฉันน่ะเป็นคนที่เน้นทางด้านปฏิบัติและประสิทธิภาพ ดังนั้นเธอจึงเกลียดการใช้คำพูดฟุ่มเฟือยของเหล่าขุนนาง สำหรับฉัน ต่อให้พี่สาวจะพูดแบบไหนฉันก็ฟังได้ทั้งวัน」
「โอ้ เป็นแบบนั้นเองสินะคะ」
ฉันเองก็เห็นด้วยกับอลิซ่า
เมื่อฉันเป็นนักเรียนตอนฟังคำบรรยายของอาจารย์ใหญ่ในช่วงประชุมตอนเช้า
ในเวลานั้นมันน่าเบื่อมากที่ใช้คำพูดวกวนไปเรื่อย
ฉันรู้สึกรำคาญอย่างมากเพราะคำพูดเหล่านั้นมันไร้แก่นสาร
ในแง่นั้น คำพูดของท่านลูน่านั้นมีแต่คำพูดที่เข้าประเด็นชี้ชัดแบบตรงไปตรงมา และแม้มันจะฟังดูขวานผ่าซากไปบ้าง แต่หากพิจารณาถึงสภาพของงานเลี้ยงที่ยิงยาวไปจนถึงตอนค่ำก็พอเข้าใจได้เลยว่าเธอต้องเก็บแรงเอาไว้
ท่านลูน่าที่ดูเหมือนนางฟ้าตอนนี้ได้หายไป โทนเสียงของเธอที่พูดด้วยความเย็นชาก็ยังดูน่าฟัง
ขณะที่ฉันมองเธอที่กลับมาหาฉันด้วยสีหน้าเหนื่อยๆก็ได้ยินจากอลิซ่าที่ยิ้มแย้ม「เธอเองก็คิดเช่นเดียวกันกับฉันสินะคะ」ฉันไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ได้แต่ตกตะลึง
「ขอโทษที่ทำให้ทั้งสองคนรอนะคะ」
「เอาล่ะพี่สาวเจ้าคะ พวกเราไปหาที่นั่งสักมุมหนึ่งเพื่อพูดคุยกันเถอะ」
อลิซ่ากอดลูน่าอีกครั้งแล้วเธอก็หันหน้ามาพูดกับทางนี้ว่า「เธอเองก็จะมาด้วยกันไหมคะ?」เธอกำลังชวนฉันไปร่วมโต๊ะด้วย
ฉันไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้จึงเอื้อมมือออกไปและควงแขนของลูน่าอีกข้างหนึ่ง
(――ทำไมฉันถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้กันนะ?)
คำถามเกิดขึ้นในหัวของเธอ
อย่างไรก็ตาม มันหายไปอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเธอยิ้มออกมา
อ่าฉันทนไม่ไหวแล้ว
ฉันอยากจะอยู่กับเธอคนนี้ตลอดไปเลย……。
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ฝืนความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้เลยสักนิด
ฉันที่เข้าไปควงแขนของท่านลูน่า และก่อนที่จะรู้ตัวพวกเราก็มาถึงที่นั่งกันแล้ว
「ลูน่า เบลล์ ดิแซค ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนท่าน?」
มีเสียงดังมาจากด้านหลังของพวกเรา
ลูน่าดูเหมือนจะไม่แปลกใจและหันกลับไปมอง
ฉันกับอลิซ่าเองก็หันกลับไปมองและก็ต้องตกตะลึง
「ผมมีนามว่าคีร์กีส ฟอน บราวนี่ ยินดีที่ได้รู้จัก」
「เอ่อท่านเจ้าเมืองคีร์กีสงั้นเหรอคะ」
คนที่เรียกออกมาเป็นชายร่างใหญ่ที่ไม่เหมาะกับงานนี้สักเท่าไหร่ และเขาน่าจะอายุราวๆสี่สบ
เขาลูบผมสั้นๆที่เหมือนกับหมี และมองมาที่พวกเราและพูดด้วยความกังวลว่า「ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ กระผมมีธุระแค่แปปเดียวเท่านั้น」
「ต้องขอบคุณคำแนะนำของท่านพ่อของท่าน ทำให้ผมรอดชีวิตมาได้ ท่านมาร์ควิสได้มาห้ามกระผมไว้ และผมก็อดไม่ได้ที่อยากจะเข้าไปขอบคุณท่านโดยตรง ดังนั้นแม้จะรู้สึกที่มางานนี้ด้วยจุดประสงค์อื่น แต่ว่าก็อยากจะขอบคุณเป็นการส่วนตัว」
「นั่นเป็นสิ่งที่ดีนะคะ ดิฉันแน่ใจว่าพลังของท่านจะสามารถช่วยพวกเราในอนาคตได้ และฉันจะขอบคุณมากหากท่านให้การช่วยเหลือดิฉันในอนาคตจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ」
「ครับ ท่านเจ้าหญิงที่แสนงดงาม」
คีร์กีซกล่าวพร้อมกับก้มศีรษะและจากไป
อลิซ่าถามว่า「เกิดอะไรขึ้น?」ลูน่าก็อธิบายเอาไว้ว่า「อืม ตอนนี้รอก่อนนะคะยังไม่ใช่เวลาที่จะมาอธิบาย」เธอกล่าวเช่นนั้นและมองมาที่ฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง
「เอ่อคือว่า……?」
「อะ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ」
เธอยิ้มให้กับฉันอีกครั้งและมุ่งหน้าไปยังม้านั่งแต่ก็โดนหยุดเอาไว้อีกแล้ว
คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงอายุรุ่นเดียวกับพวกเรา
「อ่า ท่านลูน่าสินะคะ ดิฉันคือลูกสาวของไวเคานต์ ชวาร์ช ชิวาอาร์ค มีนามว่า คริสทีน ชิวาอาร์ค ค่ะ 」
「ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ」
ถ้าดูก็จะเห็นว่าเธอมีผมสีดำ และดูเหมือนเธอจะมีความเป็นผู้ใหญ่สุขุมเยือกเย็น
ชุดสีขาวที่ใส่ไม่ได้มีการประดับตกแต่งอะไร ให้ความรู้สึกว่าไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่
เธอพูดด้วยความประหม่า
「เอ่อ ดิฉันได้ยินมาจากท่านพ่อของท่านว่า พวกท่านได้วิ่งเต้นเพื่อขอความอนุมัติในการสร้างเขื่อน และฉันเองก็อยากจะมาขอบคุณพวกท่านเป็นอย่างมากค่ะ ! ขออภัยด้วยนะคะที่รบกวนพวกท่านไว้มาก! ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลืออันล้นพ้นจริงๆค่ะ!」
ท่านคริสทีนโค้งคำนับหลังจากพูดเช่นนั้น
「อืม」ฉันพูดออกมาได้แค่คำเดียว
ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่ปรากฏใน “ฟ้าคราม”
ท่านคีร์กีซถูกใส่ร้ายและโดนประหารชีวิต และผู้คนจำนวนมากจะเสียชีวิตในเขตการปกครองของชิวาอาร์คเพราะเหตุการณ์อุทกภัย
ฉันก็แค่อ่านเนื้อเรื่องแบบผ่านตา แต่ดูเหมือนว่าท่านลูน่าจะเตรียมมาตรการรับมือที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้าสำหรับเหตุการณ์เหล่านั้น
ท่านลูน่าหันมามองฉันอีกครั้งก่อนจะหันไปมองคริสทีน
「ถ้ามาขอบคุณดิฉันโดยตรงแบบนี้ แสดงว่าคุณได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาจากท่านพ่อของฉันแล้วสินะคะว่าเหตุการณ์เป็นมาเช่นไร ไม่ว่ากรณีใด โชคยังเข้าข้างพวกเราที่ภัยพิบัตินั่นมาไม่ถึงเมืองของพวกเรา พวกเราไม่ได้ทำอะไรที่เหมาะแก่การขอบคุณหรอกค่ะ ก็แค่เตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเท่านั้นเอง」
「เอ่ออย่าได้พูดแบบนั้นเลยค่ะ」
คริสทีนนั้นถ่อมตนมาก
ท่านลูน่าปล่อยมือที่จับฉันเอาไว้และเอามือสัมผัสแก้มของเธอด้วยปลายนิ้วแล้วลูบแก้มเธอ
「อาาาาา……♡」
จากนั้นดวงตาของคริสทีนเปียกชื้นและแก้มของเธอก็แดงขึ้น
นี่กำลังทำอะไรอยู่คะเนี่ย?
ขณะที่ทำเช่นนั้นลูน่าก็ปล่อยนิ้วของเธอและบอกว่า「ไว้พบกันใหม่นะคะ」และคราวนี้เธอก็กลับมากอดเอวฉัน
「อิย๊าาาาาาาาา?!」
ร่างของฉันตึงเครียดขึ้นมาทันทีราวกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่าง ร่างกายของฉันอ่อนแรงและเผลอกอดลูน่า
ความสงสัยในใจของฉันมลายหายไปอีกแล้ว และฉันเองก็ถูกพามาที่ม้านั่งด้วยสภาพอ่อนแรง
「นี่มาเรีย เธอคิดยังไงกับโลกใบนี้เหรอคะ?」
เรานั่งข้างๆกันบนม้านั่ง
ลูน่าถามฉันด้วยรอยยิ้ม
一ฉันไม่เข้าใจว่าเธอหมายความว่ายังไง แต่ก็เข้าใจด้วยคำพูดถัดไป
「สิ่งสำคัญคือพวกเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้มากแค่ไหน แน่นอนว่ารวมถึงความสัมพันธ์ของพวกเราด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นบุคคลที่สร้างโลกแห่งนี้มันต้องมีรสนิยมแบบไหนถึงได้สร้างโลกที่เลวร้ายแบบนี้ขึ้นมากันนะ?」
「อย่างที่คิดจริงๆท่านลูน่า……」
เธอกลับชาติมาเกิดและพยายามพลิกผันอนาคตแสนเลวร้ายของตัวเธอเอง
ในเวลานี้ฉันเชื่อว่านางเอกที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
เพราะถ้าคิดตามสามัญสำนึกแบบปกติ หากลูกสาวของตระกูลบารอนและเจ้าชายที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ตกหลุมรักกัน และลูกสาวของตระกูลมาร์ควิสที่หมั้นหมายกันมาโดนเนรเทศและถูกเพิกถอนการหมั้น ซึ่งมันเป็นแบดเอนด์อย่างแน่นอน
แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าครอบครัวของเธอจะก่อกบฏขึ้นและหากเป็นเช่นนั้นประเทศแห่งนี้จะเกิดสงครามกลางเมือง
เพื่อนบ้านเองก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสันติภาพ ดังนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการรุกรานขึ้น
ความรู้สึกตื่นเต้นตอนที่ได้มาที่ลาทอสเมื่อวานี้อาจขึ้นอยู่กับเรื่องเหล่านี้ก็ได้
ทันทีที่ฉันนึกถึงอะไรแบบนั้นก็มีเหงื่อไหลเย็นตามกระดูกสันหลัง
「นี่ มาเรียจัง พูดถึงเรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเจ้าชายจะไปตกหลุมรักใคร เพราะในตอนแรกฉันคิดว่าไอ้ผู้ชายที่เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยแบบนั้นน่ะมันสวะชัดๆเลยล่ะ ฉันน่ะจะไม่ยอมเป็นภรรยาของคนแบบนั้นเด็ดขาด ถ้าได้เป็นขึ้นมาจริงๆฉันจะสาปส่งชีวิตที่ตัวเองเกิดมา คงเศร้าเสียใจและตายไปพร้อมกับความโง่เขลาของตัวเอง」
ภาพลักษณ์ที่ดูงดงามจนถึงเมื่อกี้มลายหายไปหมดแล้ว
ฉันไม่คิดว่าฉันได้ยินว่าเจ้าชายได้หมั้นกับใคร แต่นี่ฉันพลาดอะไรไปงั้นเหรอ
「อ่า เพื่อความชัดเจน ฉันเป็นลูกสาวของมาร์ควิส แต่ท่านแม่ฉันมาจากตระกูลดยุค และฉันมีสายเลือดราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งความพยายามของท่านพ่อและท่านปู่ทำให้เรื่องการพูดคุยการหมั้นของฉันถูกเลื่อนออกไป และฉันเองก็ไม่อยากจะเจอหน้าหมอนั่นด้วย แต่ดูเหมือน…………..อืมเธอตามสถานการณ์ไม่ทันงั้นเหรอ」
ขณะที่เธอพูดลูน่าก็เอานิ้วชี้คางของเธอ
หากมองไป จะเห็นผู้หญิงที่ดูรูปร่างสูง เด็กสองคน และอัศวินอีกหลายคนที่เป็นผู้คุ้มกัน
「เอาล่ะ มาเรียจัง อลิซ่า ทั้งสองต้องมองฉากตรงหน้านี้ให้ดี มันจะเกิดเรื่องราวที่น่าสนใจขึ้นมากเลยล่ะ」
ลูน่าลุกขึ้นจากม้านั่ง
ฉันมีพัดอยู่ในมือในขณะที่ตามเหตุการ์ณไม่ทันก็ ได้แต่พัดหน้าของฉัน
「มาเรีย มนุษย์นั้นสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความประทับใจแรกและสิ่งที่พวกเราจะพูดยามได้พบกัน และฉันจะตัดสินใจทำให้เธอเป็น “น้องสาว” ของฉัน แน่นอนฉันจะไม่ยกเธอให้ไปตกอยู่ในมือพวกเส็งเคร็งแบบนั้นหรอกนะ」
ภาพลักษณ์นั่นมลายหายไปจนหมดแล้ว
หน้าอกของฉันรู้สึกว่ามันน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
และเธอก็เริ่มเดินออกไป
เธอสะบัดผมยาวๆสีเงินของเธอ
เธอเดินจากไปอย่างเงียบๆพร้อมกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่
ทันทีที่มองไปยังแผ่นหลังของลูน่าฉันก็คิดว่าฉันตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว
น้องสาว เก็ตโตะ