016:แม่ลูกแห่งตระกูลวินเบล
――มาพูดคุยกันสักหน่อย
ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จเพราะได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาจากอลิสเทีย ซี่งบอกว่าตัวเองเป็นเทพธิดา แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็น “นามของพระเจ้า” ซึ่งไม่ใช่ชื่อของบุคคล
มากกว่านั้น ในฐานะที่บอกเล่าเป็นเรื่องราว เทพนั้นเป็นหนึ่งเดียวและมีจำนวนที่ไม่สิ้นสุด
สิ่งนี้หมายความว่าพลังอีเทอร์ศักดิ์สิทธิ์ยังคงไหลเวียนอยู่ในอากาศ แต่ว่าถ้ามองอย่างใกล้ชิดมันก็เหมือนกับคลื่นความถี่หลายๆแบบมากองรวมกัน
ดังนั้นเมื่อมนุษย์ใช้ปาฏิหาริย์ของพระเจ้า
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือจะต้องใช้คลื่นความถี่เดียวกันในการส่งและรับสาร
……พูดแบบไม่อ้อมค้อม
ความถี่ที่มีมากมายไม่สิ้นสุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของเทพเจ้า และเรียกแบบเหมารวมว่า “เทพเจ้าเพียงหนึ่งเดียว”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ลูน่า ที่คิดค้นวิชามังกรซากุระเพื่อเอาชนะทวยเทพในชาติก่อน แต่หาคำจำกัดความของ “เทพเจ้า”ที่เธออยากเอาชนะผิดตั้งแต่เริ่ม
เนื่องจากพลังงานอีเทอร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลก็เปรียบเสมือนพระเจ้า จึงไม่มีทางที่จะสามารถโค่นล้มได้
เป็นเรื่องแปลกที่ตัวฉันคิดจะสู้กับเทพอย่างเท่าเทียม ท้ายที่สุดแล้วก็นึกว่าจะเผชิญหน้าเพียงหนึ่ง แต่ที่ไหนได้กลับไม่ใช่
ดังนั้น อลิสเทีย เป็นใคร นิยามตัวเองว่าเป็นเทพ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่เฝ้าดูการไหลเวียนพลังงานอีเทอร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเวียนไปทั่วจักรวาล และหากมีปัญหา ก็สามารถแก้ไขกลับเข้าสู่สภาวะปกติ พูดได้ว่าเป็นตัวตนที่อยู่อีกโลกหนึ่ง ทำงานเป็นระบบเครือข่าย
แน่นอนว่าเนื่องจากอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ จึงไม่มีแนวคิดเรื่องอายุขัย และยังมีความสามารถในการควบคุมพลังงานอีเทอร์ศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่าเธอสามารถจัดการกับคลื่นความถี่ได้
พูดง่ายๆก็คือหากเธอเป็นเทพแห่งความงามและอุดมบสมบูรณ์ เธอก็เป็นคนดูแลระบบนั้นแหละ
สิ่งลี้ลับ ดวงจิต หรือ ภูติ ไม่รู้ล่ะเฟ้ย?!
แชลแนลคืออะไรฟะ……(ฮะ)
โลกหมุนรอบระบบตามตรรกะแต่แล้วมันคืออะไรฟะ
นั่นแหละคือตัวตนที่เรียกว่าพระเจ้าอยู่เหนือความเข้าใจ
ดังนั้นก็ไม่น่าจะผิดแน่หากตัวเธอที่เรียกตัวเองว่าเทพธิดา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นเทพเจ้าในแบบที่มนุษย์คิด
ก็ไม่รู้หรอกว่าพระเจ้าคืออะไรจนนึกขึ้นได้เมื่อชาติที่แล้ว
จากนั้นก็กลายเป็นคำถามมากมายไปหลายร้อยล้านคนว่าจะมีคำตอบเดียวกันรึเปล่า
ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าพระเจ้านั้นเฝ้าดูโลกเบื้องล่างจากสรวงสวรรค์
นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนอริษฐานต่อพระเจ้าอย่างไม่รู้จบ
ใช่ ไม่มีใครเข้าใจถึงแก่นแท้ของคำอธิษฐานและไม่รู้ว่าอธิษฐานไปจะได้อะไร ซึ่งมันเป็นการกระทำที่ไร้เหตุและผล
「โอ้ยยยยยยยย………..ปวดไปทั่วร่างเลยแหะ……」
ลูน่าลูกสาวของมาร์ควิสผมสีเงินที่หน้าแดงพยายามลุกขึ้นจากเตียง โดยไม่สามารถกำจัดความคิดของความรู้สึกที่เป็นผู้ชายในความฝันของเธอได้และด้วยเหตุนี้เธอจึงจมปลักกับความคิดของชายคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
「อูยยยยยยยยยยยยยยยยยย?」
เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใต้เท้าของเธอ ถ้ามองลงไปก็คงเห็นชิโระที่กำลังขดตัวในที่นอน
(ไอ้หมาโง่นี่เดี๋ยวก็ฆ่าซะหรอก……!)
ลูน่ารู้สึกรำคาญ
อารมณ์ที่มีความสุขหลังจากที่ได้ฝันดีก็ตกลงไปเพราะไอ้หมาโง่นี่ขโมยผ้าห่มอีกแล้ว
ในช่วงเวลาดังกล่าวแอนนาก็เคาะประตูและเข้ามาในห้อง
「คุณหนูคะ เคาน์เตสวินเบลและลูกสาวของท่านอลิซ่ามาถึงแล้วค่ะรีบแต่งตัวเร็วเข้านะคะ」
「……หาาาาาาาาาาาาาาา?」
ลูน่าตกใจเมื่อได้ยิน
เมื่อเธอทวนพูดซ้ำอีกครั้ง เมดคนอื่นๆก็รีบแต่งหน้าแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ
「เอาล่ะไหนดูสิ」
「เฮ้อ ขอบคุณนะ แต่ว่าจำเป็นต้องแต่งหน้าด้วยเหรอ?」
「คุณหนู เนื่องจากคุณหนูเป็นลูกสาวของตระกูลมาร์ควิส และกำลังจะไปเจอกับลูกสาวของเคาน์เตส อะแฮ่ม คุณหนูจะแพ้ไม่ได้นะคะ」
แต่ว่าฉันยังอายุ 7 ขวบ ยังเติบโตได้อีกนะ……
ลูน่าเดินตามอนนาพร้อมกับสีหน้าครุ่นคิด
เอ่อพวกเมดดูหน้าเครียดๆกันหมดเลยแฮะ? ต้องขอบคุณสาวน้อยอย่างฉันที่เหมือนเทพธิดามาโปรดยังโลกใบนี้
ชุดวันนี้เป็นชุดเดรสที่เต็มไปด้วยลูกไม้ และโทนสีเป็นสีน้ำเงินพาสเทล ซึ่งเข้ากับผมสีเงินเงางามเป็นอย่างดี
◆ ◆ ◆
「――ขอบคุณท่านพี่ที่เชิญฉันมาในวันนี้นะคะ」
หากมาที่ชั้นแรกก็จะเจอกับท่านแม่ที่กำลังพูดคุยกับคุณมิน่าพร้อมกับลูกสาวอลิซ่า
มิน่า เคาน์เตสโค้งคำนับตาหน้าซาราเอล่า ท่านแม่ของเธอ จากนั้นมองไปที่ลูน่าและยิ้ม
「ท่านลูน่าเองก็สบายดีใช่ไหมคะ」
「ค่า คุณมิน่าเองก็ด้วยนะคะ」
เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งใหญ่
ดีแล้วที่เธอเงียบเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ท่านแม่ตระหนักดีถึงเรื่องนี้
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างช้าๆในขณะที่ดื่มชา
ลูน่าปล่อยให้มันเป็นธุระของคนอื่น
สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรำคาญก็คือคุณมิน่าชอบเรียกท่านแม่ว่า “พี่สาว”
พวกเธอสองคนก็แค่หาเพื่อนดื่มชาเพราะเขตอยู่ติดกัน
เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยบนใบหน้าของลูน่าท่านแม่ก็ยิ้ม
「โอ้วว ลูน่าลูกรัก ในความเป็นจริงมิน่ากับแม่น่ะเป็นพี่น้องกัน เหมือนกับพี่สะใภ้นั่นแหละจ้ะ เพราะงั้นคิดไว้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของทั้งสองสาวนั้นแนบแน่นยิ่งกว่าความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่อีกนะจ้ะ」
「งั้นเหรอคะ……」
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ประมาณนั้นน
หรือจะเรียกว่าเหมือนกับการแลกจอกสาบาน「แม้พวกเราจะเกิดต่างกัน แต่พวกเราจะเป็นพี่น้องกัน」อะไรทำนองนั้น
ลูน่าพยักหน้าเข้าใจ
「お姉様っ!」
และอลิซ่าก็วิ่งเข้ามาพร้อมกระโดดกอดฉัน
เอ่อพวกเราเองก็ไม่ได้ดื่มจอกร่วมสาบานว่าจะเป็นพี่น้องกันหรอกนะ
ในขณะที่คิดว่าพวกเราคงจะไม่ได้มีความสัมพันธ์เหมือนกับพวกท่านแม่ เธอก็จ้องมองอลิซ่า
ฉันรีบนั่งลงและก้มลง
「อา อลิซ่า อย่ามากวนกันจะได้ไหมคะ?」
「เอ่อไม่ดีเหรอคะพี่สาว」
「นอกจากนี้ฉันจำไม่ได้เลยว่ามีน้องสาวแบบเธอ?」
「พี่สาวจ๋า♡」
อย่าหวังซะให้ยาก
อลิซ่ากอดลูน่าและจูบแก้มของเธอราวกับหมาน้อยนิสัยไม่ดี
อืม อืม เธอเองก็อายุ เจ็ด ขวบ เหมือนกับฉันไม่ใช่เหรอ แต่ฉันก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของร่างกายที่ได้สัมผัสกัน แต่ว่าน้านุ่มมากเลย
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลูน่ารู้สึกมีความสุข