นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) 196 วัตถุต้องห้าม ACE-005

ตอนที่ 196 วัตถุต้องห้าม ACE-005

ตอนที่ 196 – วัตถุต้องห้าม ACE-005

 

“วัตถุต้องห้าม ACE-005……ท่านให้ผมแต่แรกแล้ว?” ในน้ำเสียงของชิ่งเฉินเจือความกังขาสามส่วนและความประหลาดใจเจ็ดส่วน 

วัตถุต้องห้ามเป็นสิ่งของที่สำคัญขนาดนี้ ถ้าอีกฝ่ายมอบให้ตนเองแล้ว ตนเองทำไมไม่ได้ค้นพบล่ะ 

แต่ว่า หลี่ซูถงไม่เคยหลอกชิ่งเฉิน   

ขณะนี้ รถลอยฟ้าเร่งผ่านเหนือเรือนจำหมายเลข 18 แล้ว ทิ้งตัวลงในป่าอย่างแผ่วเบา 

หลี่ซูถงพาชิ่งเฉินเดินเท้าไปยังทางเข้าลับซึ่งนำไปสู่ห้องเย็นของเรือนจำเส้นนั้น สองคนเดินหนึ่งหน้าหนึ่งหลังอยู่ในอุโมงค์อันคับแคบ รอบด้านของอุโมงค์ยังฝังโคมไฟทริเทียม* เอาไว้ด้วย   

ถ้าไม่เกิดเหตุเหนือคาด โคมไฟทริเทียมพวกนั้นสามารถสว่างได้ 20 ปี หรือแม้กระทั่งนานกว่านั้น 

หลี่ซูถงเดินอยู่ข้างหน้าพูดกับตัวเองว่า “ฉันเอา ACE-005 ให้เธอแล้วจริง ๆ ก็รอมาตลอดว่าตอนเธอเปิดปากขอ ฉันจะให้เธอได้ตื่นเต้นดีใจสักรอบ แต่เธอมันดื้อ ไม่เปิดปากมาตลอดเลย ดังนั้น ว่ากันอย่างเคร่งครัด ฉันต่างหากเป็นผู้อาวุโสคนแรกที่มอบวัตถุต้องห้ามให้เธอ ครั้งหน้าตอนเธอไปสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 อีก จำไว้ว่าพูดกับตาแก่พวกนั้นสักคำ อย่าให้พวกตาแก่เขาคิดว่าฉันขี้เหนียว”

ชิ่งเฉินตามอยู่ข้างหลังอึ้ง ๆ เขาคิดในใจว่านี่ก็ต้องประชันกันด้วยเหรอ? 

เขาเดินอยู่ข้างหลังหลี่ซูถง ค้นหาความทรงจำของตัวเอง พยายามลิสต์รายการสิ่งของทั้งหมดที่หลี่ซูถงเคยให้ตนเอง จากนั้นวิเคราะห์ว่าอันไหนจึงเป็นวัตถุต้องห้าม ACE-005

อุโมงค์แสนยาวมืดสลัวอยู่บ้าง ชิ่งเฉินแอบทบทวนความทรงจำ         

ชิ่งเฉินกล่าวเสียงเบา ๆ ว่า “ผมย่อมอยากเป็นอย่างนักท่องเวลาคนอื่นมาก ๆ เหมือนกัน ครอบครองวัตถุต้องห้ามหนึ่งชิ้น สิ่งของนี้สามารถเอาทะลุสองโลก มีส่วนช่วยเหลือโลกภายนอกมากจริง ๆ แต่ว่านั่นเป็นสิ่งของของท่านอาจารย์นะครับ ผมไม่เคยคิดจะเปิดปากขอจริง ๆ แถมตอนนี้ผมมีหุ่นเชิดแล้ว ไม่เลวมากแล้วครับ แน่นอนว่า……ถ้าท่านตั้งใจจะยัดเยียดให้ผมก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”

หลี่ซูถงเอ่ยอย่างเต็มตื้นว่า “ช่วงเวลานี้ยุ่งอยู่แต่กับการทำให้เธอฟื้นคืนสภาพจิตใจของวัยรุ่น ดูท่าฉันก็ไม่ได้ยุ่งเสียเปล่า ๆ ปลี้ ๆ”

ว่าแล้ว หลี่ซูถงหันหน้ากลับมามองชิ่งเฉิน

เพียงแต่ในอุโมงค์มืดสลัวนี้ ชิ่งเฉินจู่ ๆ เห็นว่าบนใบหน้าท่านอาจารย์ตัวเองเพิ่มหน้ากากหน้าแมวลายสีแดงอันแปลกประหลาดอีกหนึ่งอัน 

คำตอบทุกอย่างล้วนผุดออกมาอย่างแจ่มชัด เขาถามว่า “ท่านอาจารย์ครับ วัตถุต้องห้าม ACE-005 ก็คือแมวใหญ่ตัวนั้นที่อยู่ข้างตัวท่านเหรอครับ? ดังนั้น ที่ท่านอาจารย์สามารถเปลี่ยนรูปโฉมได้ตามใจชอบก็เป็นเพราะมัน?”

ที่แท้ วัตถุต้องห้าม ACE-005 ก็คือแมวใหญ่ตัวนั้น! 

ชิ่งเฉินจดจำได้อย่างชัดเจนว่า หลังจากที่หน้ากากหน้าแมวอันนั้นปรากฏขึ้น แมวใหญ่ที่มักจะงีบหลับบนโต๊ะตัวนั้นจู่ ๆ ก็ไม่เห็นแล้ว ทั้งสองสิ่งไม่เคยปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน 

สิ่งมีชีวิตกลายเป็นหน้ากากหนึ่งอัน เรื่องประเภทนี้ก็มีเพียงวัตถุต้องห้ามของโลกภายในที่สามารถทำได้กระมัง

อีกอย่าง หลี่ซูถงเคยมอบสิ่งของนี้ให้กับเขาจริง ๆ เพียงแต่ภายหลังเขาเอาหน้ากากนี่คืนให้อีกฝ่ายไปอีก!   

ชิ่งเฉินคิดถึงว่าแต่ก่อนนี้ตั้งนานแสนนานแล้วตนเองก็เคยได้ถือวัตถุต้องห้าม รู้สึกอารมณ์ซับซ้อนไปชั่วขณะ 

“ท่านอาจารย์ครับ ท่านได้วัตถุต้องห้ามชิ้นนี้มาได้ยังไงเหรอครับ?” ชิ่งเฉินถาม         

“เพื่อนคนหนึ่งให้มา” หลี่ซูถงกล่าวราวกับมีเหตุผล 

“เพื่อนผู้หญิง?” ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างกังขา 

“ทำไมเธอช่างซุบซิบขนาดนี้นะ” หลี่ซูถงไม่เข้าใจ 

“คานบนไม่ตรงคานล่างย่อมเบี้ยว” ชิ่งเฉินตอบอย่างสงบนิ่ง “ผมคิดไม่ออกว่านอกจากอาจารย์ท่านแล้วก็เจตจำนงของบรรพบุรุษพวกนั้นในสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ยังจะมีใครที่มอบวัตถุต้องห้ามให้คนอย่างใจกว้างขนาดนั้น”

หลี่ซูถงยิ้มเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “นี่เป็นของที่มิตรร่วมเป็นร่วมตายคนหนึ่งมอบให้ฉัน ACE-005 เป็นวัตถุต้องห้ามที่เหมาะสมกับอัศวินที่สุด เพราะว่าวิชาหายใจของอัศวินสามารถเปลี่ยนเส้นเสียง วัตถุต้องห้าม ACE-005 สามารถเปลี่ยนรูปโฉม ดังนั้นวัตถุต้องห้ามชนิดนี้ก็ควรจะอยู่ในกำมือของพวกเราอัศวินโดยธรรมชาติ แถมประเด็นสำคัญที่สุดคือ ตอนที่มันกลายเป็นแมวใหญ่มันน่ารักมาก”

ชิ่งเฉินลังเลสองวินาทีแล้วถามว่า “เหตุผลข้อหลังนั่น ท่านจริงจังเหรอครับ?”

“แน่นอนว่าจริงจังสิ” หลี่ซูถงกล่าว “แมวเมนคูนถูกเรียกว่าเป็นยักษ์ผู้อ่อนโยน ติดคนมาก แถมวัตถุต้องห้ามไม่ผลัดขนด้วย! เธอต้องไม่เคยเลี้ยวแมวแน่ ๆ ดังนั้นไม่รู้ว่าการเลี้ยงแมวที่ไม่ผลัดขนสักตัวมันหายากแค่ไหน!”

ชิ่งเฉินถามว่า “งั้นมิตรร่วมเป็นร่วมตายคนนี้ของท่านเป็นใครครับ? อยู่ไหน?”

“มิตรร่วมเป็นร่วมตาย ย่อมจะเป็นเพื่อนที่ตอนที่ตายตกไปแล้วมอบวัตถุต้องห้ามออกมาน่ะสิ” หลี่ซูถงกล่าว “ดังนั้น เขาตายไปนานมากแล้วล่ะ”

ชิ่งเฉิน “???”

เขายังนึกว่าเป็นของขวัญที่พี่น้องเหล็กกล้าอะไรมอบให้หลี่ซูถงจริง ๆ ที่แท้วัตถุต้องห้ามนี่เป็นสิ่งที่หลี่ซูถงชิงมา!

เวลานี้ หลี่ซูถงถอดหน้ากากหน้าแมววางลงบนมือของชิ่งเฉิน “หลังจากนี้มันเป็นของเธอแล้ว”

ชิ่งเฉินมองดูหน้ากากหน้าแมวในมือเงียบ ๆ “ท่านอาจารย์ครับ มันอยู่ในมือท่านมากี่ปีแล้วครับ?”

“18 ปี” หลี่ซูถงอาวรณ์อยู่บ้าง “ปีนั้นพกมันไปทำเรื่องผิดศีลธรรมไม่น้อย แต่คำพูดต้องกลับมากล่าว สามารถเปลี่ยนเป็นรูปโฉมของคนอื่นได้ทุกเมื่อเป็นเรื่องที่เจ๋งมากจริง ๆ นะ เรียกได้ว่าอุปกรณ์ขั้นเทพอันจำเป็นของการใส่ร้ายปัดสวะทั้งตอนอยู่บ้านหรือออกเดินทางเลย”

ชิ่งเฉินใบ้กิน เขาถึงขนาดสามารถจินตนาการได้ว่าอาจารย์บ้านตัวเองเคยใช้วัตถุต้องห้าม ACE-005 ไปทำเรื่องอะไรเลย! 

“ท่านอาจารย์ครับ เงื่อนไขรองรับของมันคืออะไรครับ?” ชิ่งเฉินถาม         

“หยดเลือดเป็นขั้นแรก” หลี่ซูถงจับข้อมือของชิ่งเฉิน จากนั้นมืออีกข้างดึงผมของชิ่งเฉินลงมาสองเส้น 

ปราณแท้ถ่ายเทเข้าไปในเส้นผม ผมสองเส้นนั้นที่เดิมยังอ่อนนุ่มยืดตรงราวกับเข็มขึ้นมาทันที   

“ท่านอาจารย์ครับ ทำไมต้องดึงสองเส้นครับ?” ชิ่งเฉินกังขา 

หลี่ซูถงกล่าวอย่างนิ่งเฉยว่า “ผมเธอหนาเกินไป ฉันดึงเกิน”

ชิ่งเฉิน “……”

ว่าแล้วเขาก็โยนผมทิ้งหนึ่งเส้น เหลือแค่เส้นเดียว ปาดไปบนข้อมือของชิ่งเฉินเบา ๆ ถัดจากนั้นเลือดสีแดงสดก็ไหลตามข้อมือตกลงไปบนหน้ากาก ซึมเข้าไปทั้งหมดทีละนิด 

“ขั้นที่สอง เรียกชื่อของมัน” หลี่ซูถงยิ้มเอ่ยว่า “เธอจำได้ไหมว่ามันเรียกว่าอะไร?”

ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว เขาค้นหาความทรงจำอย่างรวดเร็วหนึ่งรอบแต่ค้นพบว่าตนเองถึงกับไม่รู้เลยว่าแมวใหญ่ตัวนั้นเรียกว่าอะไร!   

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าตัวเองความทรงจำมีปัญหา ถึงอย่างไรแมวใหญ่ปรากฏตัวมานานขนาดนั้น จะไม่มีคนเคยเรียกชื่อของมันได้อย่างไร         

แต่ทว่าชิ่งเฉินกลับแน่ใจมาก: แม้แต่หลินเสี่ยวเสี้ยว, เยี่ยหว่านล้วนไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของแมวใหญ่ บางทีสองคนนี้ก็อาจจะไม่รู้ว่าชื่อของแมวใหญ่เรียกว่าอะไร

“ท่านอาจารย์ครับ มันเรียกว่าอะไรครับ?” ชิ่งเฉินถาม 

“ต้าฝู” หลี่ซูถงยิ้มแล้วกล่าว “คนที่รู้ชื่อของมันจะสามารถกลายเป็นเจ้านายของมัน นี่เป็นเงื่อนไขรองรับของ 005 ตอนนี้เลือดในหน้ากากหน้าแมวเปลี่ยนเป็นของเธอแล้ว เธอแค่ต้องเรียกชื่อของมันออกมาก็จะกลายเป็นเจ้านายของมัน”

“ต้าฝู……” ชิ่งเฉินพึมพำ “นี่เป็นชื่อที่ใครตั้งครับ บ้าน ๆ ขนาดนี้”

พริบตาถัดมา หน้ากากหน้าแมวราวกับสัมผัสได้ถึงเสียงเรียกของชิ่งเฉิน กลายเป็นแมวเมนคูนตัวใหญ่ที่ยาวหนึ่งเมตรกว่าในพริบตา หมอบอยู่บนสองแขนของชิ่งเฉินด้วยสีหน้างุนงง 

มันสะบัดขนอันนุ่มฟูบนตัว จากนั้นร้องเหมียวใส่หลี่ซูถงหนึ่งคำ ชิ่งเฉินถึงกับฟังความหมายของมันเข้าใจอยู่ในใจว่า “เฒ่าทารกแกยกฉันให้ลูกศิษย์แล้ว?!”

หลี่ซูถงยิ้มให้ชิ่งเฉินกล่าวว่า “สวมหน้ากากเถอะ พวกเราต้องกลับคุกแล้ว จำไว้นะ ห้ามบอกชื่อของมันกับคนอื่น อย่างนี้ถึงคนอื่นจะได้มันไปก็ไม่มีประโยชน์”

ชิ่งเฉินถามว่า “บนโลกนี้ไม่มีคนที่รู้ชื่อของมันแล้วเหรอครับ?”

“อืม ข้อมูลที่บันทึกไว้ถูกฉันลบหมดแล้ว” หลี่ซูถงกล่าว “คนที่รู้ ก็ถูกลบแล้ว”

ชิ่งเฉินคิดในใจว่าเป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าคำศัพท์ ‘ลบ’ มีความหมายที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ เขาสั่งในใจ ต้าฝูก็หดตัวลงเป็นหน้ากากหน้าแมวอีกครั้ง 

ครั้งนี้ที่ชิ่งเฉินสวมมันไว้บนใบหน้าอีกรอบ หน้ากากหน้าแมวไม่ได้เป็นวัตถุแข็งเย็นชิ้นหนึ่งอีกต่อไป 

หลี่ซูถงกล่าวว่า “ลองเปลี่ยนหน้าตาให้ตัวเองดู ใช้ครั้งแรกค่อยข้างยุ่งยาก……ช่างเหอะ เธอลองดูก่อน”

ชิ่งเฉินขบคิดว่าตนเองควรจะเปลี่ยนเป็นใครดี เขาเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ของหลินเสี่ยวเสี้ยวก่อน และถึงขนาดใช้วิชาหายใจเลียนแบบเส้นเสียงของอีกฝ่ายกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ครับ อย่างนี้ถูกไหมครับ?”

“วัตถุต้องห้าม ACE-005 นี่มันเหมาะกับเธอจริง ๆ” หลี่ซูถงเอ่ยปลง ๆ “ฉันเปลี่ยนหน้าทุกครั้งต้องเทียบกับรูปถ่ายอยู่ครึ่งชั่วโมง สิ่งของนี้อยู่ในมือเธอ หายใจอึดเดียวหน้าก็เปลี่ยนแล้ว แม้แต่ฉันก็แยกจริงเท็จได้ยาก”

ชิ่งเฉินเปลี่ยนเป็นรูปโฉมของเยี่ยหว่านอีก เพียงแต่หน้าเขาเปลี่ยนได้ แต่ร่างกายกลับห่างไกลจากความบึกบึนสูงใหญ่ของเยี่ยหว่าน ดังนั้นดูพิลึกพิลั่น

ดูท่า หลังจากนี้ตอนที่ตัวเองเปลี่ยนหน้าต้องหาคนที่รูปร่างใกล้เคียงกันถึงจะได้ 

“จริงสิครับท่านอาจารย์ วัตถุต้องห้าม ACE-005 นี่มีแรงก์อะไรครับ?” ชิ่งเฉินถาม “มันยังมีรูปแบบขั้นที่สองไหมครับ?”

“พูดตามหลักน่าจะเป็นแรงก์ S เพราะว่าผู้เหนือมนุษย์ที่สกัดมันออกมาก็เป็นแรงก์ S” หลี่ซูถงกล่าว “แต่จนถึงทุกวันนี้ฉันก็คลำหารูปแบบขั้นที่สองขั้นที่สามของมันไม่ออกว่าเป็นแบบไหน อันที่จริง ในวัตถุต้องห้าม พวกที่ต้องการการสังเวยกลับสืบหาง่ายที่สุด อย่างเงื่อนไขรองรับประเภทแบบต้าฝูเนี่ยพิลึกอยู่บ้าง จะทำให้คนงงงวยมาก เพราะว่าคุณไม่รู้ว่าควรจะลงมือจากทิศทางไหน”

เวลานี้ ชิ่งเฉินจู่ ๆ คิดถึงเรื่องหนึ่งได้ “ท่านอาจารย์ครับ องค์กรโพดำมีคนมากเท่าไหร่ครับ?”

“ตัวจริงมีตามลำดับเลขเลย จาก A โพดำถึง 2 โพดำ รวมทั้งสิ้น 13 คน” หลี่ซูถงตอบกลับมา “นี่เป็นสมาชิกแกนหลักของโพดำ วงนอกยังมีคนอีกหลายร้อยคน แต่คนที่มีความแข็งแกร่งของผู้เหนือมนุษย์อย่างแท้จริงน่าจะเป็น 13 คนนี้ ความแข็งแกร่งสูงต่ำไม่เสมอกัน”

“งั้นมีสมาชิกโพดำที่รูปร่างคล้ายคลึงกับผมรึเปล่าครับ?”

“มีคนหนึ่งจริง ๆ นั่นล่ะ”

ตอนนี้ชิ่งเฉินรู้แล้วว่าตนเองควรจะเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์อะไร “ท่านมีรูปถ่ายคนคนนี้ไหมครับ?”

“มี” หลี่ซูถงยิ้มอย่างเร้นลับ “รอกลับถึงคุกหมายเลข 18 แล้วจะให้หลินเสี่ยวเสี้ยวเอาให้เธอ”

คนทั้งสองเดินไปยังส่วนลึกของอุโมงค์ต่อ ชิ่งเฉินถามว่า “จริงสิครับท่านอาจารย์ นักเรียนพวกนั้นเดินขบวนจะมีอันตรายอะไรรึเปล่าครับ?”

“ไม่” หลี่ซูถงตอบกลับมา “จะมีคนคุ้มครองส่งพวกเขา”

………………………

*โคมไฟทริเทียม เรียกง่าย ๆ ก็คือโคมไฟเรืองแสงอะค่ะ แบบที่ใช้กันในคอนเสิร์ต

 

แมวเมนคูนได้ชื่อว่าเป็นแมวบ้านที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ บ้านเกิดน้องอยู่อเมริกา รัฐเมน (maine) บ้านน้องเป็นป่าสนหิมะ ขนเลยหนามาก ๆ ได้ชื่อว่าเป็น หมาในร่างแมว คือนิสัยคล้ายหมาอะค่ะ จงรักภักดีไม่สวบเจ้าของเหมือนแมวไทย แถมยังติดคนเอามาก ๆ

 

ถ้าให้เราเลือกวัตถุต้องห้ามที่เราอยากได้ที่สุดเนี่ย 005 เป็นอันที่เราจะเลือกโดยไม่ลังเลเลย แมวขนฟูตัวโตที่ ข้าวไม่กิน ไม่ต้องตักขี้ ขนไม่ติดเสื้อ ไม่สวบเรา พกไปได้ทุกที่ นี่มันความฝันชัด ๆ

 

 

ตอนที่ 197 – A โพดำ

 

Options

not work with dark mode
Reset