ตอนที่ 192 – ชดเชยข้อบกพร่องของชิ่งเฉิน
ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ
หลี่ซูถงกล่าวว่า “ในการต่อสู้นัดเมื่อกี้ อันที่จริงเธอก็สามารถใช้ปราณแท้อัศวินไปคว้าชัยนะ”
ชิ่งเฉินถามว่า “ถึงยังไงก็เพื่อขัดเกลาประสบการณ์ต่อสู้จริง ดังนั้นผมอยากใช้หมัดเท้าจริง ๆ ไปต่อสู้คว้าชัยชนะครับ จริงสิท่านอาจารย์ ผมลองดูเมื่อครั้งก่อน ปราณแท้อัศวินของผมสามารถทำให้คนร้องไห้น้ำตาไหล ยังมีอัศวินรุ่นก่อนคนอื่นเหมือนกับผมไหมครับ?”
หลี่ซูถงกล่าวว่า “ปราณแท้อัศวินมีเป็นร้อยแปด แต่ยังไม่มีซ้ำกันจริง ๆ ของอาจารย์ลุงเธอคือทำให้คนอ้วก ของอาจารย์เธอคือทำให้คนรู้สึกถูกไฟช็อต ของอาจารย์ปู่รองของเธอ……คือทำให้คนเกิดความรู้สึกลวงว่าชอบเขา”
“เดี๋ยวนะครับ!” ชิ่งเฉินมองท่านอาจารย์อย่างตกตะลึงสุดจะบรรยาย “ทำไมปราณแท้อัศวินของอาจารย์ปู่รองเว่อร์ขนาดนี้ครับ?”
“นี่ฉันก็ไม่รู้” หลี่ซูถงถอนหายใจ “ในการต่อสู้จริงปราณแท้อัศวินนั่นของเขามีประสิทธิภาพมากเลย ทำให้ผู้คนขวัญกำลังใจตกต่ำได้ ฉันเคยเข่นฆ่าเอาเป็นเอาตายกับเขาด้วยนะ สู้ไปสู้มาจู่ ๆ ก็ลงมือต่อไม่ได้แล้ว”
“ดูอย่างนี้ ปราณแท้ของท่านอาจารย์นับว่าค่อนข้างมีคุณธรรมแล้วนะครับเนี่ย” ชิ่งเฉินเอ่ยปลง ๆ
“แน่นอนว่าก็ไม่ใช่ว่าปราณแท้อัศวินของทุกคนจะมีประโยชน์ในการต่อสู้หรอกนะ” หลี่ซูถงกล่าว “มีปราณแท้ของอัศวินรุ่นก่อนคนหนึ่งสามารถทำให้คนเกิดความรู้สึกลวงปลุกเร้า ตอนที่รุ่นก่อนถ่ายทอดปราณแท้ใส่ร่างศัตรูครั้งแรกโดนทุบตีเสียหนักเลย”
ชิ่งเฉินฟังจนปากอ้าตาค้าง
แต่ทว่าเวลานี้หลี่ซูถงได้กล่าวว่า “ในองค์กรอัศวิน ไม่เคยจะมีคนที่ปราณแท้มีประสิทธิภาพซ้ำกับคนอื่นเลย แต่ยกเว้นเธอ”
ชิ่งเฉินสับสน “ผม? หรือว่าองค์กรอัศวินเคยปรากฏปราณแท้ที่สามารถทำให้คนหลั่งน้ำตาเหมือนกันครับ?”
“ใช่” หลี่ซูถงพยักหน้า
“ยังมีรุ่นก่อนคนไหนที่เป็นอย่างนี้เหรอครับ?”
“ผู้ก่อตั้งองค์กรอัศวิน ก็คือคนที่สลักตัวอักษรหนุ่มสาวตลอดกาลสี่ตัวนั้นบนหน้าผาชิงซานไง” หลี่ซูถงพูดจบก็ลุกขึ้นยืน “พักผ่อนเร็วหน่อยเถอะ อาจารย์จะออกไปทำธุระหน่อย”
“อืม” ชิ่งเฉินถามว่า “ท่านอาจารย์ครับ ผมสามารถไปที่ค่ายมวยคนเดียวไหมครับ?”
“ได้อยู่แล้ว แถมที่นั่นก็เป็นที่ที่เธอควรจะไปที่สุดในตอนนี้เลยด้วย” หลี่ซูถงกล่าว “ถึงเมื่อไหร่ที่เธอสู้ชนะนักมวยรุ่นพยัคฆ์ได้อย่างสบาย ๆ ก็สามารถใคร่ครวญถึงด่านเป็นตายครั้งถัดไปแล้ว”
……
……
นับถอยหลัง 40:00:00
แปดโมงเช้า นอกประตูมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ชิ่งเฉินคืบคลานขึ้นจากเตียงสมองมึนเบลอ ตอนที่ลุกขึ้น บาดแผลทั้งร่างล้วนเจ็บปวดเหมือนจะเริ่มฉีก ราวกับว่าคนทั้งคนกำลังจะปริขาด
แต่เขาไม่ร้องสักคำ เพียงขยับไปที่ประตูช้า ๆ “ใครครับ?”
เสียงของยางยางดังขึ้นมา “ฉันเอง ไปโรงเรียนด้วยกันนะ!”
“นั่น……” ชิ่งเฉินลังเล “วันนี้ฉันมีธุระนิดหน่อยเลยจะไม่ไปเรียนแล้ว เธอไปเองเถอะ”
ยางยางถามว่า “เสียงนายนี่มันยังไงอะ? ฟังดูทะแม่ง ๆ นะ”
ณ ขณะนี้ ใบหน้าครึ่งหนึ่งของชิ่งเฉินบวมเป็นซาลาเปา คำพูดอู้อี้นิดหน่อย ฟังแล้วย่อมทะแม่ง ๆ
สาเหตุที่เขาไม่ไปเรียนก็เพราะกังวลว่าจะถูกเพื่อนนักเรียนเห็นสารรูปนี้ของตัวเอง
อีกอย่าง วันนี้เขาเคลื่อนไหวไม่สะดวกจริง ๆ ขยับนิดเดียวก็เจ็บ
ชิ่งเฉินเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ตอนนี้ถึงจะเจ็บยิ่งกว่านี้เขาก็ไม่ส่งเสียงสักคำ
แต่เข้มแข็งไม่ได้แปลว่าเขาอยากแบกบาดแผลไปเรียนนะ นั่นไม่ใช่เข้มแข็ง แต่โง่
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่เป็นไร พวกเธอรีบไปเข้าเรียนเถอะ ไม่งั้นจะสายเอานะ”
ยางยางลดเสียงลงกล่าวว่า “คุณอาบอกฉันหมดแล้วล่ะ บอกว่านายขึ้นเวทีมวยได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้จมูกช้ำหน้าบวม ให้ฉันช่วยดูแลนายหน่อย”
ชิ่งเฉิน “???”
ฉันละขอบคุณจริง ๆ!
“รีบไป ๆๆ ฉันไม่ต้องการการดูแล!” ชิ่งเฉินกล่าว
“ก็ได้ คืนนี้ฉันจะเอาข้าวมาให้นายนะ” เสียงหัวเราะสดใสของยางยางค่อย ๆ ไกลออกไป
……
……
ณ ขณะนี้ ชิ่งเฉินกำลังนอนบนโซฟาหลับตาพักผ่อน
เขารู้ว่าจุดประสงค์ที่หลี่ซูถงพาเขาขึ้นเวทีมวยก็เพื่อให้เขาย่อยพลังที่ตนเองได้รับมาในการต่อสู้จริง
การเลื่อนขึ้นของอัศวินทุก ๆ คนล้วนเป็นแบบก้าวกระโดด ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องมีกระบวนการทำความคุ้นเคยกับตัวเอง
เหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งจู่ ๆ ได้เงินสิบล้าน แต่เขาแค่รู้ว่าสิบล้านสามารถซื้อลูกอมได้ แต่ไม่รู้ว่าสิบล้านยังสามารถให้ซื้อบ้าน, ซื้อรถ, ซื้อรถบ้าน
ทุกวันในค่ายมวยล้วนเกิดการเข่นฆ่าถึงตาย พวกนักมวยก็คือกลุ่มคนที่เชี่ยวชาญทักษะการต่อสู้มือเปล่าที่สุด ดังนั้นอัศวินทุกรุ่นจึงไปขัดเกลาตัวเองที่นั่น
ชิ่งเฉินจะได้ศึกษาทักษะการต่อสู้มือเปล่าที่ดีที่สุดจากนักมวยมือที่ดีที่สุดในค่ายมวยที่ดีที่สุดของเขตที่สี่
ถึงเวลานั้น เขาจึงจะไม่ได้เป็นเพียงคนโง่ที่มีพลังเสียเปล่า
คิดถึงตรงนี้ ชิ่งเฉินยุติการทบทวนของวันนี้ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรเบอร์หนึ่ง “ฮัลโหล สวัสดีครับ ผมคือกวงเสี่ยวถู่ ให้รถตู้มารับผมได้ไหมครับ?”
เสียงหัวเราะของเจียงเสี่ยวถังดังมาจากปลายสาย “โอเค จะจัดเตรียมให้คุณนะ ตอนนี้คุณเป็นนักมวยที่กำลังดังในค่ายมวยเรา อยากมาเมื่อไหร่ก็ได้เสมอ ฉันดูหน่อยนะ ที่อยู่ที่คุณพ่อคุณทิ้งไว้คืออาคารลั่วเสิน ถูกไหม?”
“อืม เป็นอาคารลั่วเสิน ขอบคุณครับ” ชิ่งเฉินวางสายโทรศัพท์
เขาสับสนอยู่บ้าง พูดตามหลักเหตุผล การรับสายโทรศัพท์ประเภทนี้ไม่ควรเป็นเจ้าหน้าที่ของค่ายมวยเหรอ ทำไมต่อตรงไปที่โทรศัพท์ของบอสค่ายมวยเลยล่ะ?
รถตู้มาถึงอย่างรวดเร็ว ชิ่งเฉินนั่งบนรถตู้อันหรูหรา ค้นพบว่าบนโต๊ะข้างที่นั่งเตรียมผลไม้กับเครื่องดื่มไว้ให้เขาแต่แรกแล้ว
รถตู้สีดำทะลุผ่านเมืองที่ใหญ่มโหฬารและซับซ้อนวกวน ราวกับเดินทางอยู่ในเขาวงกต
หลายสิบนาทีให้หลัง รถตู้ขับตรงเข้าไปในประตูหลังของค่ายมวย แต่พริบตาที่ชิ่งเฉินเปิดประตูรถก็ต้องตะลึงไป
เห็นเพียงหวงจื่อเสียนนั่งอยู่บนรถเข็นรอคอยเงียบ ๆ เขาเห็นชิ่งเฉินลงจากรถก็ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก
กลับเห็นหวงจื่อเสียนใช้มือขวาผลักผู้ช่วยที่อยากจะพยุงเขา จากนั้นโค้งคำนับให้ชิ่งเฉิน “บอสเจียงบอกผมว่าคุณกำลังมา ดังนั้นออกมาจากโรงพยาบาลข้าง ๆ มารอที่นี่ อยากจะพูดขอบคุณสักคำครับ”
ชิ่งเฉินส่ายหน้ากล่าวว่า “ที่จริงไม่จำเป็นเลย ตอนนั้นคุณไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องฆ่าคุณ”
หวงจื่อเสียนส่ายหน้า “คนอื่นในกรงแปดเหลี่ยมไม่แน่ว่าจะใจดีอย่างคุณ บางทีก่อนหน้านี้คุณไม่ได้มาที่สถานที่ประเภทค่ายมวยนี่บ่อย ๆ แล้วก็ไม่ได้ดูมวยมืดบ่อย ๆ ดังนั้นไม่รู้ว่ากรงแปดเหลี่ยมโหดร้ายขนาดไหน แต่ผมรู้ชัดมากว่านี่เป็นสถานที่อะไร แล้วก็อยากแสดงความขอบคุณคุณแทนภรรยาของลูกของผม ถ้าผมตายเมื่อวาน พวกเขาจะจบอนาถมาก”
ยังไม่รอให้ชิ่งเฉินพูดอะไร หวงจื่อเสียนกล่าวต่อว่า “ความขอบคุณของผมเป็นน้ำใสใจจริง ตอนนี้ผมอาจจะไม่มีทางแสดงความซาบซึ้งอย่างมีแก่นสารมากกว่านี้ แต่เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง ผมติดหนี้ชีวิตคุณหนึ่งชีวิต ผมจะจัดแจงเรื่องในบ้านให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ถึงเวลาชีวิตนี้จะสามารถคืนให้คุณได้ทุกเมื่อ”
ชิ่งเฉินมองหวงจื่อเสีย แววตาอีกฝ่ายจริงจังไร้ที่เปรียบ
บนเวทีมวยทุกคนเป็นคู่แข่ง แต่ทว่าใต้เวทีมวย แต่ละคนล้วนเป็นคนที่มีชีวิตทั้งนั้น มีภรรยา มีลูก มีญาติ จะพูดเรื่องตลก จะดื่มเหล้า
ก่อนหน้านี้ชิ่งเฉินไม่เคยสำรวจลึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร แต่ชั่วขณะนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความกล้าหาญและนิสัยของราชามวยรุ่นพยัคฆ์จากตัวอีกฝ่ายแล้ว
ชิ่งเฉินเงียบงันไปครู่หนึ่ง “ได้ น้ำใจนี้ที่คุณติดค้าง ผมจดเอาไว้แล้ว”
……………………………..
ชื่อตอนแปลก ๆ นะ ถ้าให้เดาสงสัยคนเขียนจะรีไรท์ใหม่ทั้งตอนแล้วไม่ได้แก้ชื่อตอนแน่เลย
ตอนที่ 193 – ยุทธจักรของคนตัวเล็ก ๆ