นางบำเรอเติมใจ 92

ตอนที่ 92

จากเหตุการณ์ที่แกริคประกาศกร้าวไปทั่วโรงอาหารว่าพิรุณรักเป็นคนสำคัญของเขา เหล่าพนักงานก็ต่างเกรงใจพิรุณรัก คำนินทาก็ไม่มีเข้าหูของพิรุณรักอีก ทุกอย่างสงบเงียบ

ส่วนเรื่องของนิรินพิรุณรักเองก็ไม่ได้ถามแกริคว่าเขาจัดการกับผู้หญิงคนนั้นยังไง แต่เธอก็ไม่เห็นหล่อนในบริษัทอีกเลย

ร่างบางนอนแอบอิงอยู่บนอกแกร่งลูบไล้ขึ้นลงเบาๆ แกริคที่เช็คเมลล์อยู่หายใจติดขัด มือวางแทบเล็ตลงแล้วหันมาสนใจหญิงสาว

“วันมะรืนฉันต้องไปสิงคโปร์” ร่างบางชะงักทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เงยหน้าขึ้นมองปลายคางบึกบึน ไรเคราจางๆ ของเขาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะจูบมันเบาๆ แล้วยันตัวขึ้นให้ระดับหน้าตรงกับเขา

“ไปกี่วันคะ”

“สาม” แกริคกำหนดวันกลับเร็วที่สุด ความจริงเขาอยากไปกลับด้วยซ้ำ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างไม่สามารถทำอย่างนั้นได้

พิรุณรักพยักหน้าเข้าใจ แล้วซบลงบนอกเขาเหมือนเดิม

“ไปด้วยไหม” แกริคลองชวนเธอดู ซึ่งมันก็ทำให้พิรุณรักหัวใจเต้นแรง เขาอยากให้เธอไปด้วย

พิรุณรักส่ายหน้าปฏิเสธ เธอไปก็ไม่มีประโยชน์จะเกะกะเขาทำงานเปล่าๆ แค่เขาชวนเธอก็ดีใจแล้ว ซึ่งแกริคก็คิดไว้อยู่แล้วเธอจะปฏิเสธซึ่งเขาเองก็ไม่เซ้าซี้

“กลับมาฉันมีอะไรอยากจะถามเธอ”

“อะไรคะ” พิรุณรักยันตัวขึ้นไปถามเขาด้วยความตื่นเต้น

“กลับมาก่อน” หน้าสวยบึ้งตึงเล็กน้อย แต่ก็ยอมตัดใจ เพราะถึงเธอตื้อถามไปเขาก็คงไม่ยอมบอก

อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงกำหนดสามเดือนที่เขาอยู่ที่นี่แล้ว เธอควรจะทำยังไงต่อดีนะ จะถามเขาเลยไหมว่าจะเอายังไงเรื่องของเราแต่เธอก็ไม่กล้าพอ คงต้องรอให้เขาเป็นฝ่ายพูดก่อน

พิรุณรักถอนหายใจเบาๆ

“เป็นอะไรถอนหายใจทำไม หืม” แกริคก้มลงถามคนตัวเล็กที่อยู่ดีๆ ก็ถอนหายใจ

“เปล่าค่ะหนูแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เธอบอกเขาตามความจริงแต่ไม่ได้บอกว่าคิดเรื่องอะไร

“คิดเยอะนะเรา มานี่ดีกว่า”

“อะไรคะ”

“ฉันต้องตุนไว้เพราะจะไม่อยู่หลายวัน” ว่าแล้วแกริคก็ขึ้นคร่อมร่างบาง ก้มลงจูบปากดูดดื่มความวาบหวามก็เกิดขึ้นทันที พิรุณรักเองก็ไม่ปฏิเสธให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาจะไม่อยู่หลายวันเธอเองก็คงคิดถึงเขาเหมือนกัน

วันนี้แกริคเดินทางไปสิงคโปร์วันแรก หลังจากที่กลับมาจากที่ทำงานพิรุณรักก็นั่งเหงาอยู่ห้องคนเดียว ส่งข้อความไปหาหทัยรัตน์รายนั้นก็ไม่อยู่ออกไปข้างนอกกับคุณกร

เรื่องหทัยรัตน์กับคุณกรเธอยังไม่ถามเพื่อนเลยตกลงเป็นยังไง แต่จากที่เห็นคงเดาได้ไม่ยาก เพื่อนเธอคงสมหวัง

พิรุณรักนอนจับโทรศัพท์พลิกไปพลิกมา รอข้อความจากแกริคแต่เขาก็เงียบ เขาส่งข้อความมาหาเธอแค่ครั้งเดียวก็คือตอนที่ไปถึงที่โน่น นี่ก็ค่ำแล้วยังไม่มีวี่แววอีกเลย

จนกระทั่งสามทุ่มเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น พิรุณรักรีบวิ่งออกจากห้องน้ำมาคว้าโทรศัพท์ เห็นว่าเป็นแกริคก็รีบกดรับ

“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสดใส

(นอนรึยัง)

“ยังเลยค่ะ หนูพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ แล้วคุณล่ะคะ”

(ฉันต้องออกไปข้างนอกต่อ เลยโทรมาส่งเด็กเข้านอน) ปากบางเม้มเข้าหากันทันทีที่ได้ยินว่าเขาจะออกไปข้างนอก ดึกป่านนี้แล้วคงไม่มีอะไรนอกจากออกไปเที่ยว

“ค่ะ”

(เป็นอะไร ทำไมตอบสั้นจัง)

“หนูก็จะนอนแล้วไงคะ คุณจะออกไปข้างนอกก็ไปเถอะค่ะ” น้ำเสียงติดงอนๆ ทำให้คนที่อยู่ในสายยิ้มขำ

(ฉันคงไปไหนไม่ได้เพราะมีเด็กงอน) พิรุณรักส่งค้อนให้เขาทางโทรศัพท์

“หนูเปล่างอนซะหน่อย”

(งอนชัดๆ กลัวว่าฉันจะออกไปทำอะไร) พิรุณรักค้อนแล้วค้อนอีกให้กับคนที่รู้ทันความคิดของตัวเอง

“หนูจะไปรู้ไหมล่ะคะว่าคุณจะออกไปทำอะไร” เสียงหัวเราะในลำคอดังมาจากปลายสาย

(หลอกถามเหรอเด็กน้อย)

“หนูเปล่า” พิรุณรักตอบกลับไปเสียงสูง แกริคยิ่งหัวเราะออกมาเสียงดัง

(ถามฉันตรงๆ เลยก็ได้)

“หนูไม่ได้อยากรู้” แต่แม่เด็กดื้อก็ยังปากแข็ง

(จริงเหรอ) แกริคถามอย่างไม่เชื่อ

“จริงสิคะ หนูจะนอนแล้ว”

(ง่วงแล้วเหรอ)

“ง่วงแล้วค่ะ” ว่าแล้วพิรุณรักก็อ้าปากห้าว เธอรู้สึกง่วงจริงๆ ทั้งที่พึ่งจะสามทุ่ม แต่การที่นอนโดยไม่มีแกริคเธอจะนอนหลับรึเปล่าก็ไม่รู้

(นอนหลับเหรอไม่มีฉันนอนกอด)

“หลับสิคะ”

(ไม่คิดถึงฉันรึไง มีแต่ฉันที่คิดถึงเธออยู่ฝ่ายเดียว) ปากบางยิ้มกว้างหัวใจเต้นแรงกับคำบอกคิดถึงของเขา

(ว่าไง)

“คิดถึงค่ะ หนูคิดถึงคุณ” คราวนี้พิรุณรักยอมรับตรงๆ ทำให้ฝ่ายนั้นยิ้มบ้าง

(ฉันไม่ออกไปข้างนอกดีไหม ปล่อยให้ลูกค้าไปกินเลี้ยงกันเอง) คำพูดของแกริคบอกได้กลายๆ ว่าที่เขาออกไปข้างนอกคือออกไปกินเลี้ยงกับลูกค้า

“ก็ดีค่ะ” พิรุณรักพูดตามใจคิด เพราะการที่ออกไปกินเลี้ยงแบบนี้คงไม่วายที่จะมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง

(หืม นี่เธอกำลังจะทำให้ฉันเสียงานนะ)

“คุณเป็นคนพูดเองนะคะว่าจะไม่ออกไป จะมาโทษหนูได้ไง”

(ฮ่าๆ ใช่) แกริคหัวเราะชอบใจกับคนชั่งย้อน

(ได้เวลาแล้วครับ) แต่เสียงแซคที่ตะโกนเข้ามาทำให้พิรุณรักรู้ว่ายังไงเขาก็ต้องออกไปอยู่ดี

แล้วมาหลอกให้เธอดีใจทำไม

(ฉันต้องไปแล้ว เธอก็อย่านอนดึกล่ะ)

“ค่ะ” พิรุณรักตอบรับสั้นๆ จากนั้นแกริคก็วางสายไป แต่ทำไมเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกนี้มันคืออะไร

วันนี้ก็เป็นวันที่สามแล้วที่แกริคเดินทางไปสิงคโปร์ หลังจากวันแรกที่เขาโทรมาหาเธอจนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่โทรมาอีกเลยเธอโทรไปเขาก็ปิดเครื่อง บอกว่าจะไปสามวันแล้วกลับมาก็ไม่มีวี่แวว เพราะนี่ก็จะเกือบเที่ยงคืนแล้ว หรือว่าเขาจะเลื่อนกำหนดกลับ เบอร์คุณแซคเธอก็ไม่มีด้วย

การหายไปเงียบๆของเขาทำให้พิรุณรักเกิดความกังวลกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป เขาไม่น่าจะขาดการติดต่อนานขนาดนี้ ร่างบางเดินไปเดินมารอบห้อง มือก็กดโทรศัพท์แต่ทางนั้นก็ปิดเครื่องเหมือนเดิม จนเธอทนไม่ไหวตัดสินใจลงไปหาหทัยรัตน์เพื่อที่จะไปขอเบอร์แซคกับกรวิทย์

ก๊อกๆ ๆ

เคาะประตูสองสามทีไม่นานคนข้างในก็เดินมาเปิด

“มีอะไรรึเปล่าแก” หทัยรัตน์ขมวดคิ้วถามเพื่อนตาปรือๆ

“คุณกรอยู่กับแกไหม”

“อยู่ มีอะไรรึเปล่า” คราวนี้หทัยรัตน์ตื่นเต็มตา เมื่อเห็นท่าทีร้อนใจของเพื่อน

“ฉันอยากขอเบอร์คุณแซคกับคุณกร ฉันติดต่อคุณแกริคไม่ได้กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป”

“เข้ามาก่อน” ท่าทีร้อนใจของเพื่อนทำให้หทัยรัตน์พลอยเป็นกังวลไปด้วย เมื่อเข้ามาในห้องหทัยรัตน์ก็เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อปลุกกรวิทย์ไม่นานทั้งสองก็เดินออกมา

พิรุณรักเบี่ยงหน้าหนีนิดหน่อยเมื่อเห็นคนรักของเพื่อนใสแค่กางเกงนอนตัวเดียวออกมา เธอไม่ได้ตื่นเต้นหรือคิดอะไรกับกรวิทย์หรอกนะ แต่เห็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แกริคถอดเสื้อแบบนี้มันแปลกๆ

หทัยรัตน์เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเธอก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่ากรวิทย์อยู่ในชุดไม่เรียบร้อยก็รีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบชุดคลุมมาให้เขาสวม ส่วนชายหนุ่มที่ยังสะลึมสะลือไม่ตื่นเต็มตาก็รับมาอย่างงงๆ

“ขอโทษนะคะที่มารบกวน” พิรุณรักพูดอย่างรู้สึกผิด

“ปลายจะมาขอเบอร์คุณแซคคุณกรมีไหมคะ” หทัยรัตน์เป็นคนพูดแทนเพื่อน กรวิทย์มองคนรักของเจ้านายอย่างงงๆ แต่ก็พยักหน้ารับ เดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในห้องแล้วเดินออกมาหาทั้งสองสาว

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ” เขาส่งเบอร์โทรให้พิรุณรัก

“ปลายติดต่อคุณแกริคไม่ได้ค่ะ กลัวว่าจะเป็นอะไร” กรวิทย์พยักหน้าเข้าใจ เขาพอจะรู้ว่าแกริคไปไหนเพราะหทัยรัตน์เล่าให้ฟัง

“เขาไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ” จากการที่เคยร่วมงานกับแกริคมาทำให้ก็พอรู้

“แต่เขาไม่เคยขาดการติดต่อแบบนี้นะคะ” กรวิทย์ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้หรอกว่าแกริคติดต่อคนรักบ่อยแค่ไหน แต่จากการที่เขาเคยทำงานกับแกริคมา แกริคเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจใครไม่ค่อยสนใจโทรศัพท์เท่าไหร่นอกจากเรื่องงาน เขาเองก็ไม่ได้อยู่กับแกริคในช่วงที่มีแฟน เลยไม่รู้ใจเจ้านายเก่าช่วงนี้เท่าไหร่

“กี่วันแล้วครับ”

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset