พิรุณรักเลิกคิดอะไรฟุ้งซ่านลากกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนแต่ยังไม่กล้าจัดเข้าตู้ เลือกหยิบเสื้อผ้าที่ตัวเองจะใส่เท่านั้นออกมาแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำ อาบเสร็จก็รีบแต่งตัวแล้วเดินลงมาข้างล่างอย่างที่เขาบอก
คิ้วสวยๆ ของเธอขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยแต่ก็คงไม่แปลกเพราะตรงนั้นมีเสี่ยของเพื่อนเธอด้วย
“ยัยปลาย” หทัยรัตน์เมื่อเห็นเพื่อน เธอก็ขยับปากเบาๆ ไม่กล้าตะโกน เพราะแค่นี้คนรอบข้างก็มองจะแย่ จะไม่ให้มองได้ไงก็มีคนชุดดำนับสิบยืนอยู่รอบๆ ถึงจะกระจายกันไปทั่วก็เถอะ
พิรุณรักเดินเข้าไปหยุดต่อหน้าทุกคน
“ฉันไปก่อนนะ ขอบคุณมาก ไว้เจอกัน” แกริคลุกขึ้นแล้วบอกกรวิทย์ เดินมาแตะที่แขนของพิรุณรักเบาๆ บอกว่าให้เธอตามเขามา
“รีบไปสิแก” หทัยรัตน์บอกเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนยังนิ่ง แต่คนที่ยังงงอยู่อยากคุยกับเพื่อนมากกว่า อยากปรึกษาเพื่อนว่าเธอควรจะทำยังไง
“ไปเถอะครับ อย่าทำให้เขาโกรธ” กรวิทย์เร่งอีกคน เพราะรู้ดีว่าเวลาแกริคไม่พอใจจะเป็นยังไง
“ฉันอยากคุยกับแกหวาน” พิรุณรักเริ่มงอแง ตอนนี้เธอยังไม่อยากอยู่กับเขาสองต่อสอง
“เดี๋ยวค่อยคุย รีบไปเถอะคุณเขาหันกลับมามองแล้ว” พิรุณรักหันไปมองตามที่เพื่อนบอกเธอก็เห็นแบบนั้นจริงๆ แกริคหันมามองเธอ ถึงสายตาเขาจะว่างเปล่าแต่มันก็มีความหมายแฝงอยู่ในนั้น ว่าทำไมเธอไม่ตามมา
พิรุณรักจำยอมต้องเดินตามแกริคไป เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะพาไปไหน เมื่อเขาเห็นว่าเธอเดินตามมาแล้วก็ออกเดิน หญิงสาวก็เดินตามเขาเงียบๆ โดยมีลูกน้องเขาเดินตามสองสามคน ส่วนที่เหลือเธอไม่รู้ว่าหายไปไหน
เขาพาเธอมาที่ท่าเรือของโรงแรม
“เชิญครับ” แซคเชิญหญิงสาวให้ขึ้นเรือตามเจ้านายไปเมื่อเห็นเธอยังยืนอยู่กับที่
“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอคะ” เรือลำที่จะขึ้นเป็นเรือยอชต์ขนาดใหญ่
“ล่องเรือครับ ช่วงนี้เป็นช่วงพักผ่อนของเจ้านายมันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะทำให้เขาผ่อนคลาย” พิรุณรักพยักหน้าเข้าใจ ใช่สินะเขามาพักผ่อนหนิ เธอก้าวขึ้นเรือตามหลังคนตัวสูงไป
“เจ้านายคงอยู่ข้างล่างครับ ตามลงไปได้เลยครับ” แซคบอก เมื่อหญิงสาวยืนเงอะงะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน คิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างไม่เหมือนคนที่ผ่านมาจริงๆ
“ค่ะ” พิรุณรักเดินลงข้างล่างก็เจอกับความหรูหรา เรียกได้ว่ามีครบหมดทุกอย่างแบ่งออกเป็นโซน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนที่มีประมาณสามห้อง และยังมีบันไดขึ้นไปอีกด้านของเรือ
“มานี่สิ” มัวแต่สำรวจความหรูหราข้างในจนลืมไปเลยว่าเธอลงมาหาใคร
แกริคเรียกให้เธอได้สติ นึกหงุดหงิดว่าเรือมันน่าสนใจมากกว่าเขาตรงไหน ทำไมเธอต้องคอยให้เขาเรียกอยู่เรื่อย เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงวิ่งเข้าหาเขาโดยไม่สนใจอะไร
แกริคตบลงที่ว่างข้างๆตัวเอง เมื่อเห็นว่าเธอจะนั่งลงอีกฟาก เธอก็เลยต้องยกตัวที่กำลังจะนั่งลงขึ้นแล้วไปนั่งข้างๆ เขาแทน
“ทำไมต้องเกร็งทุกครั้งที่เข้าใกล้ฉัน ไม่เคยรึไง” แกริคถามตรงประเด็น
“ขอโทษค่ะ ฉัน..” ใครจะไปกล้าบอกว่าไม่เคย ถ้าบอกแบบนั้นเขาต้องไล่เธอแน่ๆ
“ทำงานแบบนี้นานรึยัง” เขาถามต่อ เมื่อเห็นว่าเธออึกอัก
“คะ?”
“ทำงานแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว” พิรุณรักฟังคำถามเขาอีกรอบ เม้มปากแน่น เธอทำงานนี้กับเขางานแรกจะต้องตอบว่าไง ถ้าบอกว่างานแรกมันจะเป็นยังไงนะ โอ๊ย ทางไหนก็มีแต่โดนไล่ เลือกที่จะโกหกแล้วกัน
“ก็ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ”
“ทุกครั้งได้ค่าตัวเท่าไหร่” มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายอย่างเขาต้องถามคำถามแบบนี้ด้วย เขาเป็นคนที่ไม่สนใจใครไม่ใช่เหรอ
แกริคเองก็แปลกใจตัวเองว่าทำไมต้องอยากรู้การทำงานที่ผ่านมาของเธอด้วย ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลแย้งกับตัวเองว่าเขาต้องรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ซึ่งเขาจะขอข้อมูลกับกรวิทย์ก็ได้ แต่เขาก็ไม่ทำเพราะเชื่อใจลูกน้องเก่า
เขาถึงยังไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้หญิงตรงหน้านี้
“คือ” จะตอบว่าเท่าไหร่พิรุณรักกำลังคิดคำนวณ ไม่เคยถามเพื่อนด้วยว่าได้ค่าตัวเท่าไหร่
“เอาล่ะ ขึ้นมา” ในเมื่อเธอไม่อยากตอบแกริคก็ไม่เซ้าซี้ เธออาจจะคิดว่าเขาจะโก่งค่าตัว ให้เธอน้อยหรือมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่สำหรับเขาถ้าพอใจเขาให้เธอมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาของเธออยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาอยากจะทดสอบสินค้าของตัวเอง
เรียกให้เธอขึ้นมานั่งบนตัก แต่แม่คุณตรงหน้าก็เหมือนจะเข้าใจอะไรยากซะเหลือเกินแถมยังหน้าแดงๆ ของเธอตลอดเวลานี้อีก ถ้าไม่คิดว่าเธอทำงานแบบนี้เขาคิดว่าเธอคงเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาแน่
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืน
พิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญ
ร่างบางค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก
“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่
“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอ
แกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ
“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน
“อืม” แกริคครางในลำคอกับความขี้อายของเธอ เขาลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มเธอติดมือขึ้นด้วย ทำให้พิรุณรักผวาคล้องคอเขาไว้
จะลุกก็ไม่บอก