นางบำเรอเติมใจ 76

ตอนที่ 76

“ตามสบายเลยแม่หนูน้อย” เมื่อโดนกล่าวหาว่าอิจฉาดนุก็ไม่มีคำจะพูด จะพูดแบบนั้นก็ถูกเขารู้สึกอิจฉาแกริคอยู่ลึกๆ ที่พี่ชายเจอรักแท้

“แล้วผู้หญิงที่พี่นุบอกว่ากำลังจีบอยู่นี่ไปถึงไหนแล้วคะ” พิรุณรักเงยหน้าจากโทรศัพท์ถาม

“พี่พูดตอนไหนว่ามีคนที่จีบอยู่” ดนุเฉไฉ

“พูดสิปลายจำได้ แค่นี้บอกน้องไม่ได้รึไง” ดนุถอนหายใจ

“ไม่มีแล้ว แห้ว พี่ก็ไม่เข้าใจทำไมผู้ชายหล่อๆ รวยๆ พร้อมทุกอย่างแบบพี่ต้องอาภัพกับความรักแบบนี้ด้วย” พิรุณรักเบ้ปากกลอกตาให้คนที่โอดครวญ

“ไม่ใช่พี่เทเขาเพราะเบื่อหรอกเหรอ อย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย”

“บ้า มีแต่คนทิ้งพี่ทั้งนั้น” ดนุหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำกล่าวหานั้น แต่เขายังเถียงข้างๆ ขู่ๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เขาควงหรือจีบมีแต่ตีตัวออกจากเขาทั้งนั้นเพราะเขาไม่สนใจพวกเธอ เขาเป็นประเภทที่เบื่อง่าย ความสนใจของเขาอยู่ได้ไม่นานก็เลิก ผู้หญิงเลยทนเขาไม่ได้

ดนุเองก็ไม่สนใจหรือแคร์เผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยควงก็เหมือนกันหมดสนใจแต่เรื่องเงิน คนที่คิดว่าจะดีก็ดีแตก เขาเลยไม่ค่อยสนใจใครจริงจัง จะสนใจก็แค่ตอนอยู่บนเตียงเสร็จกิจก็ลาจาก

“ไม่เชื่อสักนิด”

“หึ” ดนุหัวเราะเบาๆ ไม่แถต่อเพราะมีแต่จะเข้าตัวหันไปสั่งอาหาร พิรุณรักเองก็กลับมาสนใจโทรศัพท์ต่อเธอกำลังขมวดคิ้วกับข้อความของแกริค

(ห้ามกลับดึก เพราะเย็นนี้ฉันก็ไม่ว่างกลับไปกินข้าวด้วยเหมือนกัน มีธุระข้างนอก) เธออยากพิมพ์ถามกลับไปเหลือเกินว่าธุระของเขาคืออะไร แต่ก็ไม่กล้าเพราะเขาจำกัดความมาแค่นี้แสดงว่าอยากให้เธอรู้เท่านี้ บางทีเขาอาจจะไปทานข้าวกับลูกค้า

(ค่ะ คุณเองก็อย่ากลับดึกเหมือนกันนะคะ) พิรุณรักตลกกับความคิดของตัวเองเธอไม่กล้าถามว่าเขาไปธุระที่ไหนแต่กล้าที่จะบอกให้เขาไม่กลับดึก

(ครับ) แกริคตอบกลับมาสั้นๆ แสดงว่าเขาไม่ว่าอะไรเธอสามารถบอกเขาได้

(งั้นหนูทานข้าวก่อนนะคะ)

(ฉันก็จะออกไปแล้วเหมือนกัน)

“เงยหน้าขึ้นมาทานข้าวได้แล้วจะได้รีบกลับ” ดนุเรียกคนที่สนใจแต่โทรศัพท์

“คร๊า หูย สั่งมาเยอะเชียวนี่กะจะเอาจนเลยใช่ไหมคะ” พิรุณรักมองอาหารหลายอย่างที่ว่างอยู่บนโต๊ะแล้วโอดครวญ

“ยัยงก สามีให้เงินใช้ก็ใช้บ้าง”

“ยังไม่ใช่สามีจริงๆ ซะหน่อย” พิรุณรักบ่นเบาๆ ตอนนี้ทุกคนที่รู้จักอาจมองว่าเขาเป็นของเธอ แต่อนาคตใครจะรู้

“นายเห็นไหมเมฆว่าแม่นี่มันร้ายแค่ไหน จ้องจะจับแต่ผู้ชายรวยๆ” มิรินไม่คิดว่าตัวเองจะบังเอิญขนาดนี้ มาเจอแม่เด็กใหม่นั่งกินข้าวกับนักธุรกิจอีกคน คนนี้เธอพอจะรู้จักเพราะเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ความอิจฉายิ่งพุ่งขึ้นสูง ยัยเด็กใหม่นี่มีอะไรดีถึงได้แต่ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ คงคั่วอยู่หลายคนสิท่า ว่าแล้วเธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้ ผู้ชายถึงจะใช้ผู้หญิงเปลืองแค่ไหน แต่ก็คงไม่ชอบใจแน่ถ้าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายหลายคน ยิ่งผู้ชายอย่างแกริคยิ่งไม่มีทางยอมกับเรื่องแบบนี้แน่

“เห็น ฉันไม่คิดว่าปลายฝนจะเป็นแบบนั้น” เมฆาไม่คิดว่าผู้หญิงที่ตัวเองสนใจจะเป็นเด็กเสี่ย

“ที่พูดเพราะนายคิดจะจริงจังกับยัยนั่นรึไง”

“เปล๊า ฉันแค่ไม่คิดว่าตัวเองมองคนผิด” ที่เมฆาพูดแบบนี้เพราะเขาผ่านผู้หญิงมาเยอะ เห็นมาทุกรูปแบบทุกมารยามองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบไหน รวมทั้งผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วย เขาไม่คิดว่าตัวเองจะมองพิรุณรักผิดจากที่เห็น

“ผิดไม่ผิดนายก็อยากเคลมยัยนั่นอยู่แล้วไม่ใช่รึไง จะสนใจอะไร” มิรินพูดเสียงฉุนและหงุดหงิดที่เห็นชายหนุ่มมองว่ายัยเด็กใหม่เป็นคนดี

“อืม ก็ใช่ฉันไม่สน” ยิ่งเป็นผู้หญิงแบบนี้เขาคิดว่ามันน่าจะง่ายกว่าที่คิด ที่ผ่านมาเธอคงเล่นตัวไปเองเพราะอยู่ในบริษัท

“งั้นนายก็รีบจัดการซะ”

“เธอมั่นใจมากแค่ไหนว่าถ้าฉันจัดการปลายฝนแล้ว ท่านประธานจะสนใจเธอ” เมฆาคิดว่าคนอย่างแกริคไม่ใช่ใครจะเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ ถ้าเจ้าตัวไม่อนุญาต ความน่าเกรงขามบวกกับความน่ากลัวที่แผ่ออกมาทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าไปต่อกรด้วย

แต่เขาก็อยากลองของเหมือนกันและคิดว่าผู้หญิงที่แกริคใช้แล้วอย่างพิรุณรักคงไม่พิเศษอะไรที่จะทำให้ผู้ชายอย่างนั้นมาสนใจ ยิ่งพิรุณรักคั่วอยู่หลายคนแบบนี้ยิ่งไม่มีปัญหา

“ฉันจะหาวิธีของฉันเอง”

“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้”

“ขอบคุณเหมือนกันค่ะที่เลี้ยงข้าว ขับรถดีๆ นะคะ”

หลังจากที่ซื้อของเสร็จกวินก็มาส่งหญิงสาวที่คอนโดทีแรกเขาชวนเธอไปทำอาหารกินที่ห้องแต่เธอปฏิเสธ ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้เขารู้คำตอบแล้วว่าเธอคิดยังไงกับเขา นี่ขณะยังไม่ได้เริ่มจริงจังก็แห้วซะแล้วกวิน

“ครับ” หทัยรัตน์มองรถของกวินที่ขับออกไปก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอหวังว่ากวินจะไม่คิดอะไรกับเธอมากมาย

หทัยรัตน์หันหลังเดินเข้าไปในคอนโด พอขึ้นมาบนห้องก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ดูเวลาเกือบจะสองทุ่มก็แอบมองไปที่ประตูเป็นระยะ

เธอไม่ได้รอคุณกรอยู่ใช่ไหมหวาน

“จะรอเขาทำไมเขาไม่รู้ซะหน่อยว่าเราอยู่ที่นี่” ใช่ หทัยรัตน์ยังไม่เคยบอกกรวิทย์ว่าเธอย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วเขาจะมาหาเธอได้ไง

หทัยรัตน์เลิกสนใจหน้าประตูหันหน้ามาหารายการโทรทัศน์ ปกติเธอก็นอนดึกอยู่แล้วนี่พึ่งจะสองทุ่มยังไม่ถึงเวลานอน แต่การย้ายออกมาอยู่นี่คนเดียวก็ทำให้เธอนอนเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ดูทีวีไปตาก็เริ่มจะเคลิ้มหลับ

แต่เสียงกริ๊งหน้าห้องทำให้เธอสะดุ้งตื่น

“ใครมา” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน คนที่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ก็มีแค่พิรุณรักกับเอมมี่สอง คนนั้นคงไม่มาหาเธอ หรือว่าจะเป็นกรวิทย์เขารู้ที่อยู่ของเธองั้นเหรอ

เสียงกริ๊งหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้งทำให้เธอหลุดออกจากความคิดตัวเองแล้วรีบเดินไปที่ประตู ส่องตาแมวดูก็ทำให้อ้าปากค้าง แล้วค่อยๆ เปิดประตูให้แขก

“นอนแล้วเหรอ”

“รู้ได้ไงคะว่าหวานอยู่ที่นี่” เธอไม่ตอบคำถามเขาแต่อยากรู้มากกว่าว่าเขารู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่นี่

“มันไม่ได้เกินความสามารถฉันหรอก” กรวิทย์ยักไหล่แล้วแทรกตัวเข้ามาในห้อง

ใช่สินะ เธอไม่น่าถามเรื่องแค่นี้เขาสามารถอยู่แล้ว แต่กระเป๋าใบเล็กที่เขาหิ้วมาด้วยทำให้หทัยรัตน์ขมวดคิ้ว

“เอากระเป๋ามาทำไมคะ”

“เสื้อผ้า”

“หวานไม่ให้ค้างด้วยหรอกนะ” หทัยรัตน์รีบพูดดักคอเขาไว้ สถานะของเขากับเธอไม่เหมือนแต่ก่อนและตอนนี้อะไรๆ มันก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก เธอไม่ยอมกลับไปเป็นนางบำเรอให้เขาเหมือนก่อนหรอกนะ

“หวาน มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะไล่อีกเหรอ” กรวิทย์หน้าบึ้ง นี่เขาบอกรักเธอพยายามเคลียร์ทุกอย่างเธอยังไม่เชื่อเขาอีกเหรอ

“ไล่ค่ะ หวานไม่ใช่เด็กของคุณอีกแล้วนะคะ”

“ก็ไม่ใช่ไง แต่เป็นเมียเข้าใจไหมครับ ผัวจะมานอนค้างกับเมียมันผิดตรงไหน” คำว่าเมียของกรวิทย์ทำให้เธออ้าปากค้าง มองคนที่เดินเข้าห้องนอนเธอหน้าตาเฉย

“คุณกร เรายังไม่แต่งงานกันหวานไม่นับ” หทัยรัตน์เดินบึ่งตามเขาเข้าไปในห้อง

“แต่งเลยไหมล่ะ” แต่แทนที่จะเข้ามาจัดการเขาได้ เขากลับทำให้เธออ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม ทำไมเขาพูดอะไรง่ายๆ แบบนี้

“หวานไม่ตลก”

“ฉันก็ไม่ได้ตลกนี่จริงจังสุดๆแล้ว เราอยู่ด้วยกันมาตั้งกี่ปีแล้วหวานมาหวงตัวอะไรตอนนี้” ปากบางเม้มเข้าหากัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องหวงตัวซะหน่อย เธอแค่ไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

“ยังไงก็ไม่ได้หวานไม่ยอม” หทัยรัตน์ยังยืนยันคำเดิม

“ไม่ยอมงั้นปล้ำ” กรวิทย์พูดสีหน้าจริงจัง เขาคิดถึงเธอแทบบ้าแต่เธอก็เอาแต่ไล่

“คุณกร หวานไม่ยอมคุณจะขืนใจหวานงั้นเหรอคะ” หทัยรัตน์รู้ว่าถ้าเขาจะทำ เธอก็ต้องใจอ่อนแน่เพราะร่างกายเธอไม่เคยต่อต้านเขาได้สักครั้ง แต่จิตใจของเธอตอนนี้ไม่อยากยอมเขา

“ใครจะไปทำอย่างนั้น “กรวิทย์วางกระเป๋าลงแล้วเดินเข้ามากอดหญิงสาว

“เป็นอะไร” เขาอยากรู้ว่าเธอเป็นอะไร คิดอะไรอยู่ตอนนี้ ทำไมถึงต่อต้านเขาขนาดนี้

“หวาน หวานแค่ไม่อยากเป็นเหมือนแต่ก่อน หวานไม่อยากเป็นแค่นางบำเรอบนเตียงของคุณ” หทัยรัตน์เผยความในใจให้เขารู้ ถึงเขาจะบอกรักเธอแล้ว แต่อะไรหลายๆ อย่างมันก็ยังไม่ชัดเจน จากที่คิดว่าจะบอกรักเขาถ้าเขาบอกรักเธอ เธอก็ยังไม่พร้อมจะบอก

“บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ เธอเป็นคนรักของฉัน” กรวิทย์กอดเอวบางแน่น

“เรื่องจริงเหรอคะ”

“จริงสิ”

“แต่หวานเคยขายตัว” นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอกลัวว่าเขาจะยอมรับไม่ได้ แล้วยิ่งถ้าถึงขั้นแต่งงานครอบครัวเขาคงรับไม่ได้เช่นกัน

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset