“หวงก้างงั้นเหรอคะ”
“แน่นอนก็เธอเป็นของฉัน” กรวิทย์พูดหน้าบึ้ง
“หวานไม่ได้เป็นของใครคะ ระหว่างเราไม่มีคำว่านายจ้างและลูกจ้างแล้วค่ะ”
“มันไม่ใช่แบบนั้น เธอเป็นคนรักของฉัน เธอก็ต้องเป็นของฉันสิ” กรวิทย์พูดอย่างเอาแต่ใจ
“ขี้ตู่” คำพูดของเขาทำให้เธอแทบยิ้มออกมา
“ฉันพูดจริง”
“มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ หวานจะได้กลับไปหาเพื่อน”
“หวานอย่าทำแบบนี้สิ เราเข้าใจกันแล้วใช่ไหม”
“ไม่รู้สิคะ ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อยจะเข้าใจกันแล้วเหรอคะ ถ้าเกิดคุณเคลียร์กับที่บ้านคุณได้ คุณคิดว่าทุกคนจะยอมรับหวานงั้นเหรอคะ คุณจะให้หวานอยู่ตรงไหน”
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง เราจะแต่งงานกันหลังจากที่ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อย” คำพูดของกรวิทย์ทำให้เธอตาโต
“แต่งงานคุณพูดอะไรออกมารู้ตัวไหมคะ” เธอไม่คิดถึงขั้นว่าเขาจะขอแต่งงาน
“ฉันรู้ตัวทุกอย่าง ฉันทำทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำ”ถึงจะดีใจเธอคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเธอไม่อยากให้เขาด่วนตัดสินใจ
“หวานว่าเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีดีกว่าค่ะ”
“โอเค เราค่อยคุยกันเรื่องนี้ แต่วันนี้กลับกับฉันนะ”
“ไม่ได้หวานนัดคุณวินไว้แล้วจะไปช่วยเขาเลือกของเข้าห้อง”
“เลือกของเข้าห้อง ทำไมต้องไปกับมันด้วย” กรวิทย์โวยวาย
“เขาชวนหวานค่ะ”
“แล้วทำไมเธอถึงตอบตกลง”
“เพราะเขาเป็นเพื่อนหวานค่ะ”
“แต่มันไม่ได้คิดแค่เพื่อน เธอน่าจะรู้”
“แต่คุณวินเขาไมได้ทำอะไรผิดนะคะ เขาดีกับหวานเขาปลอบใจหวานตอนที่คุณไม่อยู่ เขาช่วยเหลือหวานทุกอย่างตอนที่ยายเสีย” กรวิทย์พูดไม่ออกเมื่อเธอพูดถึงเรื่องนี้
“ฉันขอโทษ”
“คุณวินเขาเป็นคนดีหวานไม่อยากทำให้เขาเสียความรู้สึก”
“แต่ยิ่งให้ความหวังเขาจะยิ่งเสียใจ”
“เหมือนที่คุณให้ความหวังน้องพิมพ์รึเปล่าคะ” กรวิทย์สะอึกเมื่อโดยตอกกลับ หน้าจ๋อยลงทันที ตอนนั้นเขาก็มีความสงสารให้พิมพ์ประภาเหมือนกัน เพราะเห็นว่าเธอเป็นคนดีเขาเลยไม่กล้าทำร้ายใจจิต นี่เธอกำลังเอาคืนเขาใช่ไหม ร้ายนักนะ
หทัยรัตน์แอบยิ้มเธอขอเอาคืนเขาหน่อยเถอะทำให้เธอเสียใจร้องไห้มาเป็นอาทิตย์ เรื่องของกวินเธอเชื่อว่าเขาเป็นคนดีพอและเชื่อว่าคนดีๆ แบบเขาต้องเจอคนดีๆ เหมือนกัน เขาคงไม่จ่มปักอยู่กับเธอนานหรอก
“หวาน”
“เอาเป็นว่าวันนี้หวานจะไปช่วยคุณวินเลือกของ คุณกรไม่มีสิทธิ์ห้าม โอเค”
“ก็ได้ งั้นคืนนี้ฉันจะไปหา โอเค เธอก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม” หทัยรัตน์ตาโตเมื่อโดนเอาคืน
“แต่..”
“ไปกันเถอะ เพื่อนเธอรอแย่” พูดจบคนตัวโตก็เดินออกไปเลย เธอได้แต่มองตามหลังเขาอ้าปากค้าง
“เป็นไงบ้างแก” หลังจากที่เดินกลับเข้ามาในร้าน พิรุณรักก็ถามขึ้นเป็นคนแรก แต่เห็นสีหน้าเพื่อนไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็เบาใจ
“ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะค่ะคุณวิน ฉันจะไปช่วยคุณวินเลือกของนะแก พี่นุฝากไปส่งปลายด้วยนะคะ”
“ครับ”
พิรุณรักมองตามหลังเพื่อนสาวที่เดินออกไปกับหมอกวิน
“ทำหน้าอย่างนั้นทำไมครับ มีอะไรสงสัย” ดนุเองถึงจะสงสัยในความสัมผัสของหทัยรัตน์กับผู้ชายทั้งสองคนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะถาม
“ปลายแค่อยากรู้ว่ายัยหวานจบกับคุณกรจริงๆ รึยัง” ดนุพยักหน้า
“ก็ถามเพื่อนเราสิ”
“ถามแน่ค่ะ ตอนนี้ปลายแค่พูดลอยๆ” พิรุณรักยู่หน้าใส่คนกวนประสาท
“พูดลอยๆ เข้าหูพี่น่ะเหรอ”
“พี่นุ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พี่นุว่าชุดไหนที่คุณริคจะชอบคะ” สรุปว่าตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ชุดที่ต้องการ เพื่อนก็ชิงไปกับผู้ชายไม่ถามเธอสักคำว่าได้ชุดรึยัง
“มีชุดไหนอยู่ในใจบ้าง”
“นี่ค่ะ แล้วก็นี่ๆ ๆ ๆ” พิรุณรักชี้ไปที่ห้าหกชุดที่เธอเลือกไว้ในใจ
“เยอะไป”
“ก็มันสวยหมดหนิคะ” หญิงสาวทำหน้าง่ำงอ
“ส่งรูปไปให้พี่ริคดูสิ แล้วก็ถามเลยว่าชอบชุดไหน” สำหรับดนุถ้าจะให้บอกว่าชอบชุดไหน เขาก็ชอบชุดที่มันเซ็กซี่ๆ หน่อย ผู้ชายก็ต้องชอบมองอะไรที่มันสวยๆ งามๆ แต่นั่นเพราะพิรุณรักไม่ใช่แฟนเขา ถ้าเป็นแฟนเขา เขาไม่มีทางให้ใส่ชุดเซ็กซี่โชว์นั้นโชว์นี่เด็ดขาด
ดนุทำหน้าครุ่นคิด
“ไม่เอาปลายอยากเซอร์ไพส์”
“เอางั้นเหรอ”
“ค่ะ” ตอบอย่างจริงจัง
ดนุไล่สายตามองดูชุดที่น้องสาวตัวแสบเลือกไว้ ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัวกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ชุดนี้พี่ว่าพี่ริคน่าจะชอบ” ดนุชี้ไปที่ชุดผ่าร่องอกโชว์แผ่นหลัง พิรุณรักทำหน้าเงยเกกับชุดที่ดนุเลือก มันเป็นชุดที่อยู่ในใจเธอลำดับสุดท้ายเพราะมันโชว์มากเกินไป ที่เธอเอาเข้ามาอยู่ในช้อยเพราะคิดว่าแกริคอาจจะชอบผู้หญิงเซ็กซี่ เพราะที่ผ่านมาคู่ควงของเขาเวลาออกงานเธอเห็นแต่ล่ะคนแต่งตัวเซ็กซี่ทั้งนั้น
“จริงเหรอคะ”
“ครับ ปลายเคยเห็นคู่ควงคนก่อนของพี่ริคไหมล่ะ อย่าพึ่งทำหน้าอย่างนั้นครับ พี่หมายถึงคนอื่นๆ เมื่อนานมาแล้วไม่ใช่ช่วงนี้” ดนุรีบแก้ตัวเมื่อเห็นสาวเจ้าทำหน้าบึ้ง
“ค่ะ”
“หรือจะเอาไปเผื่อไปอีกสักชุดสองชุดก็ได้นะ” ดนุให้ทางเลือกเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ ปลายไม่อยากใช้เงินเยอะ” ถึงแกริคจะบอกว่าให้ซื้อของที่เธออยากได้แต่เธอก็ไม่อยากใช้เงินเยอะเกินไปเกรงใจเขา
“มีสามีรวยกลัวอะไร”
“รวยแต่ไม่ใช่เงินปลายหนิคะ งั้นปลายเอาชุดนี้นะคะ”
พิรุณรักแจ้งต่อพนักงานว่าเธอต้องการชุดนี้ ดนุยิ้มกริ่มเพราะเขาเชื่อว่าแกริคต้องระเบิดลงแน่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องเขาหวงเมียแค่ไหน
“เลี้ยงข้าวพี่ด้วย” ดนุรีบทวงก่อนที่สาวเจ้าจะขอตัวกลับ
“คร๊า ไม่ลืมหรอก” หญิงสาวส่งค้อนให้
เสียงข้อความแจ้งเตือนโทรศัพท์ของพิรุณรักดังขึ้นเธอจึงหยิบขึ้นมาดูเป็นแกริคที่ส่งมา
(เรียบร้อยรึยัง)
(เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูมีอะไรจะบอก วันนี้หนูไม่ได้กลับไปทานข้าวด้วยนะคะ)
(ทำไม) ยังไม่ทันที่เธอจะพิมพ์ต่อประโยคเมื่อครู่ที่กดส่งไป เขาก็พิมพ์แทรกเข้ามาซะก่อน
(หนูทานกับพี่นุค่ะ พอดีเจอพี่นุที่ห้างเลยให้ไปช่วยเลือกชุด)
(อืม แล้วเลือกแบบไหนทำไมไม่ส่งมาให้ฉันดู) ดูก็รู้ว่าข้อความที่ส่งมามีความระแวงอยู่ในนั้น
(แบบที่คุณชอบไงคะ)
“ปลายร้านไหน” ดนุเรียกหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์
“พี่นุอยากทานอะไรล่ะคะ”
“งั้นร้านนี้” ทั้งสองเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดนุเลือก
“พี่นุสั่งเลยนะคะ ปลายทานได้หมด” เป็นเธอจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์เลยบอกให้คนที่มาด้วยสั่งเลย
“ต้องรายงานทุกความเคลื่อนไหวเลยรึไง” ดนุอดหมั่นไส้ไม่ได้ ไม่คิดว่าแกริคจะเป็นมากขนาดนี้ แต่ก็นับประสาอะไรกับแค่นี้ ให้เขาตามเฝ้าให้ตั้งสองปีหนักไม่หนักก็ไม่ต้องพูดแล้ว เห็นๆ กันอยู่ ตอนนี้เขาคงรอแค่การ์ดแต่งงานอย่างเดียว
“ก็เปล่า แค่คุยเฉยๆ ทำไมคะอิจฉาน้องรึไง”