กรวิทย์ส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่เขาอยากคุยด้วย หทัยรัตน์มองหน้าเพื่อนและมองหน้ากวินแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ เธอควรคุยกับเขาให้รู้เรื่อง เธอควรจบเรื่องนี้ได้แล้ว บางทีที่เขาเดินเข้ามาหาเธอแบบนี้ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยอาจจะเป็นเพราะเขาอยากจบข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ก็เป็นได้
“หวานขอตัวสักครู่นะคะคุณวิน ฝากคุณวินด้วยนะแก”
หทัยรัตน์เดินนำเขาออกมา พอเดินผ่านผู้หญิงของเขาเธอก็หยุดเพราะเธอรู้ว่าเขาเองก็หยุด
“พิมพ์ไปกับพี่หน่อย” กรวิทย์บอกกับพิมพ์ประภาที่เปลี่ยนชุดรอเขาเรียบร้อยแล้ว
“คะ”
“พี่มีเรื่องให้ช่วย”
“อ่อค่ะ” หทัยรัตน์ไม่รอเขาเธอเลือกที่จะเดินออกมาก่อน เขาถึงขนาดอยากให้ผู้หญิงของเขามาฟังด้วย นี่เขาเล่าเรื่องของเธอให้ผู้หญิงคนนั้นฟังงั้นเหรอ
หทัยรัตน์อยากหายไปจากตรงนี้เธอไม่อยากคุยอะไรกับเขาทั้งนั้น แต่อีกใจก็อยากจบๆ เรื่องนี้ไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเจ็บอยู่แบบนี้
“หวาน ไปไหนมานี่” กรวิทย์เดินไปจับมือเธอเมื่อเห็นว่าเธอเดินไปโดยไม่รอเขา
“ฉันเดินเองได้ค่ะ” หทัยรัตน์ดึงมือเขาออกมองไปทางผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเขา
“งั้นก็ตามมา ขอเวลาแป๊บเดียว”
“ไปสิคะ” หทัยรัตน์เดินตามเขาเข้าไปในร้านอาหารร้านหนึ่งเขาเลือกมุมที่เงียบที่สุด
“นี่พิมพ์ พิมพ์นี่หวานที่พี่เล่าให้ฟัง” หทัยรัตน์เม้มปากแน่น เธอกำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้ กลัวว่ามันจะไหลออกมาให้ขายหน้า
“สวัสดีค่ะคุณหวานเจอตัวจริงสักทีนะคะ พี่กรพูดถึงคุณบ่อยมาก” หทัยรัตน์ฝืนส่งยิ้มกลับไปเมื่อผู้หญิงตรงหน้าทักทายเธอและส่งยิ้มหวานมาให้
“ค่ะ” หทัยรัตน์ไม่รู้จะพูดอะไร เธอไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ
“หวานฉันบอกเรื่องของเรากับน้องพิมพ์แล้วนะ น้องพิมพ์เขายินดีจะช่วย” หทัยรัตน์ชะงักกับคำพูดของกรวิทย์ เขาหมายความว่ายังไง
“พิมพ์ยินดีช่วยพี่กรค่ะ เรื่องของพิมพ์กับพี่กรผู้ใหญ่เป็นคนจัดการเราสองคนไม่ได้รักกันคุณหวานไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” หทัยรัตน์มองทั้งสองคนอย่างไม่เชื่อสายตาและสิ่งที่ได้ยิน
“จริงเหรอคะ”
“จริง ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด ที่หายไปเพราะฉันกำลังหาทางแก้ไขเรื่องนี้อยู่” หลังจากวันที่ตกลงกันกับหญิงสาว กรวิทย์ตัดสินใจพูดความจริงกับพิมพ์ประภาบอกว่าเขาไม่ได้รักเธอ ถึงจะสงสารน้องแต่เขาเชื่อว่าทางนี้คือดีที่สุดเพราะถ้าแต่งงานกันไปก็คงไปกันไม่รอด
เขาคิดว่าเรื่องทุกอย่างมันจะแย่แต่ไม่ใช่มันง่ายกว่าที่คิดเมื่อพิมพ์ประภาบอกว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้รักเธอ และที่เธอบอกว่ารักเขาเพราะแค่อยากหนีปัญหา การบอกว่ารักเขาจะทำให้เธอได้แต่งงานกับเขาตามที่ผู้ใหญ่กำหนดไว้และตอนนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าเขามีใครทางผู้ใหญ่บอกว่าเขายังโสดเธอเลยไม่คิดอะไรมาก
ที่พิมพ์ประภาทำแบบนี้ก็เพราะเธอมีปัญหากับแฟนหนุ่มที่คบกันอยู่ที่เมืองนอก และเธอกำลังตั้งท้อง เรื่องนี้มันทำให้เขาตกใจมาก
พิมพ์ประภาขอโทษเขาที่ใช้เขาเป็นเครื่องมือ ถ้าเธอรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วเธอคงไม่ทำแบบนี้ ตอนนั้นเขาก็อยากแก้ปัญหาช่วยน้องเลยไม่มีเวลาไปหาหทัยรัตน์อย่างที่ตั้งใจไว้ว่า ถึงเธอจะบอกให้ห่างกันจนกว่าเขาจะแก้ปัญหาได้แต่เขาจะไม่ทำอย่างนั้น เขาจะไม่ห่างจากเธอ แต่มันดันเกิดเรื่องนี้ขึ้นซะก่อน
เขาคิดหาทางออกไม่เจอเพราะถ้าเขาทิ้งพิมพ์ประภาเธอก็จะเสียหาย ถึงเธอบอกว่าไม่เป็นไรเธอจัดการทุกอย่างได้ก็เถอะ แต่เขาในฐานะพี่ชายเขาก็ไม่อยากจบปัญหาแล้วไปมีความสุขคนเดียว
แต่แล้วปัญหาทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้นเมื่อแฟนของพิมพ์ประภาตามมาง้อถึงที่นี่ เขาไม่ทราบสาเหตุที่ทั้งสองคนทะเลาะกันเพราะน้องไม่ได้เล่าให้ฟัง เขาคิดว่ามันคงหนักพอสมควรไม่งั้นเธอคงไม่ทิ้งแฟนมาทั้งที่รู้ว่าตัวเองท้องแบบนี้
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเมื่อพิมพ์ประภาคืนดีกับแฟน แต่ก็เหลือทางผู้ใหญ่ เรากำลังหาทางจะพูดเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ ส่วนคนรักของพิมพ์ประภานั่นก็พร้อมที่จะเข้าไปพูดกับทางผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง แต่พิมพ์ประภาห้ามไว้ซะก่อนเพราะกลัวว่าแฟนตัวเองจะตายเอา พ่อเธอดุน้อยซะที่ไหน
เธอบอกให้แฟนเธอกลับไปก่อน ขอเคลียร์เรื่องแต่งงานของผมกับเธอก่อนแล้วค่อยลุยเรื่องของเธอต่อ กรวิทย์รู้สึกโล่งใจมากที่เรื่องเป็นแบบนี้เขาไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง
“เชื่อฉันนะหวาน รอฉันอย่ามีคนอื่น ฉันสัญญาจะกลับไปหาเธอ” กรวิทย์รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่ขอให้เธอรอแบบนี้ทั้งที่เธอมีคนมากมายเข้ามาในชีวิตแต่เขาก็ไม่อยากเสียเธอไป
“หวาน” กรวิทย์เธอเสียงอ่อยเมื่อเห็นว่าเธอยังเงียบ
“เชื่อพี่กรนะคะคุณหวาน พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณหวานกับพี่กรเข้าใจผิดกัน ถ้าพิมพ์รู้พิมพ์คงไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนี้ ขอโทษจริงๆ นะคะ” พิมพ์ประภาขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
หทัยรัตน์ที่ยังไม่รู้ความจริงทั้งหมดว่าเพราะเหตุใดพิมพ์ประภาถึงทำแบบนี้เธอก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง เธอจะเชื่อผู้หญิงคนนี้ได้แค่ไหน คงไม่ใช่นางร้ายในละครที่กำลังเล่นตบตาพระเอกหรอกนะ
“ฉันรู้ฉันเห็นแก่ตัว แต่ฉันรักเธอนะ” หทัยรัตน์ตัวแข็งทื่อที่ได้ยินคำว่ารักโดยไม่ทันตั้งตัว มองชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อสายตา
“ตอนนี้พิมพ์ท้องค่ะ พิมพ์ท้องกับแฟนของพิมพ์ พิมพ์ไม่มีทางแต่งงานกับพี่กรแน่นอนค่ะ คุณหวานมั่นใจได้เลย” และยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีกจากคำพูดผู้หญิงตรงหน้า แล้วภาพความสนิทสนมก่อนหน้านี้ของเขาสองคนคืออะไร
“แต่พวกคุณสองคนจูบกัน” หทัยรัตน์เลือกที่จะพูดตรงๆ ในเมื่อเขาอยากเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้จบวันนี้เธอก็จะขอพูดตรงๆ บ้าง
“จูบกัน ตอนไหน” กรวิทย์ตาโต เขาพยายามนึกว่าเขาไปจูบกับพิมพ์ประภาตอนไหน
“ในร้านรึเปล่าคะ หอมแก้มใช่ไหมคะที่คุณหวานหมายถึง พิมพ์ขอโทษนะคะ พิมพ์ติดนิสัยขอบคุณมาจากเมืองนอก” พิมพ์ประภารู้สึกผิดเลยพูดเสียงอ่อย
“เธอเห็น” กรวิทย์นึกว่าเธอไม่เห็นซะอีก เขานึกแล้วว่าถ้าเธอเห็นเธอต้องโกรธแน่ และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“ในร้านมีกระจกค่ะ”
“พิมพ์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” พิมพ์ประภาเมื่อเธอได้พูดทุกอย่างหมดแล้วและช่วยพี่ชายอย่างเต็มที่ ที่เหลือคงให้ทั้งสองคนเคลียร์กันเอง
“เชื่อฉันไหม” กรวิทย์ถามหลังจากอยู่กันสองคน หทัยรัตน์มองหน้าเขาสบตากันตรงๆ เธอเห็นความจริงใจอยู่ในนั้น
“เชื่อค่ะ”
“เชื่อใช่ไหมว่าฉันรักเธอ” ปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อได้ยินคำว่ารักอีกครั้งหัวใจเธอเต้นแรงแทบทะลุออกมาข้างนอกกับคำว่ารักของเขา เธอไม่คิดว่าจะได้ยิน อยู่กับเขามาตั้งสองปีไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลย พอเธอออกมาจากชีวิตเขาเท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น
“อันนี้ไม่รู้สิคะ”
“โถ่หวาน” กรวิทย์โอดครวญ หทัยรัตน์กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ที่เห็นท่าทางแบบนั้นของเขา กรวิทย์ไม่เคยขี้เล่นแบบนี้กับเธอ เขามีขอบเขตการแสดงออกของเขาเสมอ แต่ตอนนี้เขาเหมือนอีกคน
“ทำไมคุณถึงเลือกที่จะบอกหวานตอนนี้คะ” เธอถามด้วยความสงสัย กลับเข้าสู่โหมดจริงจัง
“ความจริงฉันกะว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนค่อยกลับไปหาเธอ แต่ฉันทนไม่ได้ที่เห็นเธอมากับผู้ชายคนอื่น” เธอควรดีใจใช่ไหมที่เห็นเขาแสดงความหึงหวงแบบนี้
“คุณวินน่ะเหรอคะ”
“ใช่ ดูก็รู้ว่าหมอนั้นคิดยังไงกับเธอ”