“แหม แฟนไลน์มาเหรอจ๊ะ ถึงกลัวพวกพี่เห็น” ต้นหลิวได้ทีจึงพูดขึ้นอย่างล้อเรียน รู้สึกหมั่นไส้พิรุณรักนิดๆ ที่ทำตัวเป็นนางเอกไม่อยากเปิดเผยเรื่องของตัวเองกับแกริค ถ้าเป็นเธอนะมีแฟนหล่อรวยแบบนี้จะประกาศให้โลกรู้ แต่ก็ว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง เธอก็ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ
“เจ๊อิจฉาน้องมันรึไงที่มีแฟน” มาร์คคู่กัดเจ้าเก่าพูดขึ้น
“ไอ้มาร์ค เลิกกัดฉันสักวันจะตายไหม” ต้นหลิวยกซ้อมชี้หน้ามาร์คอย่างอารมณ์ขึ้น มาร์คจึงยักไหล่ให้อย่างกวนๆ
ปลายฝน : มาทำอะไรที่นี่คะ
พิรุณรักเลิกสนใจสองคนนั้นหันมาสนใจข้อความแทน เธอรีบถามคู่สนทนาทันที
แกริค : มาโรงอาหารจะให้มาทำอะไรล่ะ
พิรุณรักได้แต่ส่งค้อนให้กลับข้อความที่ตอบกลับมา ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมา ทำไมต้องมาวันนี้ด้วย
ปลายฝน : คุณแกล้งหนูใช่ไหม
แกริค : ฉันจะทำอย่างนั้นทำไม คิดมาก
ปลายฝน : ไม่เชื่อสักนิด
การที่เขาเดินตรงมานั่งโต๊ะใกล้ๆ กับเธอทั้งที่มีโต๊ะว่างตั้งมากมายนี่ไม่แกล้งเธอเลย
แกริค : ทำยังไงถึงจะเชื่อ ต้องมองตาด้วยไหมถึงจะเชื่อว่าฉันไม่โกหก
ปลายฝน : ใช่ค่ะ
การจ้องตากันเป็นการจับผิดได้ดีที่สุด
แกริค : งั้นฉันก็หันไปคุยกับเธอได้สิ หันล่ะนะ
พิรุณรักอ้าปากค้างกับข้อความที่ได้รับ
“ไม่ หยุดนะ” เธอรีบโผล่ขึ้นทันที ทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นหันมามอง
แกริคได้แต่กลั้นยิ้มเอาไว้ทั้งที่อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ก็กลัวกว่าจะเสียงมาด เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้สักครั้ง แต่รู้สึกว่าทำแล้วมันสนุกชะมัด
“เป็นอะไรแก” หทัยรัตน์ถามเพื่อนทันทีที่อยู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คนชอบแกล้ง คอยดูนะคืนนี้จะให้นอนนอกห้อง” ทุกคนในโต๊ะหน้าเหวอที่ได้ยินพิรุณรักพูดแบบนี้ ถึงจะรู้ว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน แต่มันก็ไม่ชิน และไม่คิดด้วยว่าแกริคจะยอมให้พิรุณรักข่มขู่ได้
ส่วนแกริคก็สะดุ้งทันที ชอบขู่แบบนี้อยู่เรื่อยเอะอะนอนนอกห้อง คอยดูเถอะพ่อจะจัดให้หนัก
แกริค : ขู่บ่อยนะ เดี๋ยวจะเจอเอาคืน
ปลายฝน : ไม่กลัว
แกริค : เด็กน้อยเตรียมตัวไว้เลย
การแชทคุยกันอะไรแบบนี้ทำให้แกริคเหมือนย้อนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง แถมยังมาต่อล้อต่อเถียงกับเธอแบบนี้อีก เหมือนวัยรุ่นพึ่งริรัก
ปลายฝน : หนูไม่พูดกับคุณแล้ว ขึ้นไปที่ห้องทำงานก่อนนะคะ
คุยไปเหมือนจะเข้าตัวเลยรีบหาทางออก
แกริค : อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนกันก่อนสิ ฉันอุตส่าห์ลงมากินข้าวด้วย
ปากบางเม้มเข้าหากัน
ปลายฝน : ยอมรับแล้วงั้นเหรอคะว่าลงมาเพื่อแกล้งหนู
แกริค : ไม่ได้แกล้งแค่อยากกินข้าวกับเมีย ฉันผิดเหรอ
พิรุณรักได้แต่ฮึดฮัดกับโทรศัพท์รู้สึกเขินแล้วหน้าร้อนกับข้อความของเขา จนพวกพี่ๆ มองกันเป็นตาเดียวแล้วพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่คิดว่าคนอย่างแกริค ซีคีเลียโนจะมีมุมนี้กับเขาด้วย
“พี่ต้นหลิว ทำยังไงตาจะหาแบบนี้ได้กับเขาบ้าง” มุตามองไปที่แกริคด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
“ชาติหน้าตอนบ่ายๆ จะได้รึเปล่าก็ไม่รู้” ต้นหลิวตอบกลับ
“เฮ้อ” มุตาถอนหายใจ
“ขอโทษนะครับ ผมขอแรงพนักงานสักหนึ่งคนไปช่วยยกอาหารได้ไหมครับ” แซคที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไปสนใจ ยกเว้นมุตาที่เอาแต่เหม่อลอยเพ้อฝัน
“ครับ คุณแซค” ทัศนัยตอบรับ
แต่สายตาของแซคกลับจ้องอยู่ที่มุตาที่ไม่รู้การมาของเขา ทำให้ทุกคนมองตาม และเข้าใจความหมาย
“มุตา ไปช่วยคุณแซคเขายกอาหารมาให้ท่านประธานหน่อย”
“คะ ตาเหรอคะ” มุตาหลุดออกจากภวังค์
“ใช่ ไปช่วยคุณแซคยกอาหารและเครื่องดื่มหน่อย” ทัศนัยพูดย้ำ
มุตามองหน้าแซคตาปริบๆ แล้วมองหน้าทุกคน ประมาณว่าทำไมต้องเป็นเธอ แต่ทุกคนก็มองเธอเหมือนกันประมาณว่าให้รีบลุก มุตาจึงจำใจยอมลุกขึ้นและเดินตามแซคไปยังร้านอาหารตามสั่ง
ทำให้ผู้หญิงหลายคนอิจฉามุตาและพนักงานแผนกไอทีไม่ได้ ที่ได้พูดคุยกับผู้ช่วยของแกริคที่หล่อไม่แพ้เจ้านาย
หลังจากที่แกริคลงไปสร้างความฮือฮาที่โรงอาหาร ก็กลับขึ้นมาทำงานอย่างสบายใจ การประชุมทางไกลใช้เวลาไปสามชั่วโมงเศษและคุยกับเกรสันตบท้ายอีกสามสิบนาที แกริคโดนพี่ชายบ่นยับที่โยนงานให้เขาคนเดียว แล้วตัวเองหนีมาพักผ่อนอยู่กับผู้หญิง การบริหารงานที่ประเทศไทยความจริงแกริคไม่จำเป็นต้องมาเองก็ได้ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะมาเอง
เกรสันก็พอจะเดาออกว่าสาเหตุคงมาจากสาวไทยคนนั้นเมื่อสองปีก่อน เห็นน้องชายผู้ไม่เคยมีความรักถึงกับทำขนาดนี้เพื่อผู้หญิง เขาจะทำอะไรได้ เขาคงเป็นพี่ชายที่ใจร้ายมากถ้าไปขัดขวางความรักของทั้งสองคน
แต่เกรสันก็ยื่นข้อเสนอให้แกริคว่าเขาให้เวลาแค่สามเดือน ถ้าแกริคยังจัดการอะไรๆ ไม่เรียบร้อยยังไงก็ต้องกลับมาทำงานตามเดิม เขาจะไม่ยอมแบกรับภาระมหาศาลพวกนี้คนเดียวเด็ดขาด
นิ้วแกร่งเคาะปากกาลงบนโต๊ะเบาๆ สายตาเหม่อลอยจ้องมองไปข้างหน้าเหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิด จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูและแซคเดินเข้ามา แกริคจึงหลุดออกจากภวังค์
"มีเรื่องรายงานครับ"แกริคพยักหน้าให้แซคพูดต่อ
"คุณริก้าขอเข้าพบครับ"คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
"ริก้า ริก้าไหน"
"เอ่อ เธอเป็นนางแบบที่เจ้านายเคยควงเมื่อนานมาแล้วครับ ตอนนี้เธอเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อเดินแบบและเธอรู้ว่าเจ้านายอยู่ที่นี่เลยขอเข้าพบครับ"แกริคครุ่นคิดและพยายามนึกหน้านางแบบที่ชื่อริก้า แต่นึกยังไงเขาก็นึกไม่ออก และมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาไม่เคยจำชื่อคู่ควงหรือแม้แต่หน้าคู่ควงได้สักคน
"ปฏิเสธเธอไป"แกริคให้คำตอบโดยไม่ต้องคิด เขาไม่มีความจำเป็นต้องพบเธอ
"ครับ"
"มีอะไรอีก"แซคเหมือนมีเรื่องจะรายงานต่อ แกริคจึงชิงถามขึ้นเมื่อเจ้าตัวไม่พูดซะที
"เอาเรื่องงานก่อนนะครับ"
"มีเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงานด้วยเหรอ"
"ครับ"
"งั้นก็รีบพูดมา ลีลาอยู่ได้"
"คุณได้รับเชิญไปงานเดินแบบประมูลเครื่องเพชรครับ"
"อืม แล้วเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงานล่ะ"
"คุณปลายโดนจีบครับ"คิ้วหนากระตุกทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เมียเขาโดนจีบงั้นเหรอ ใครมันกล้า
"ใคร"