นางบำเรอเติมใจ 28

ตอนที่ 28

“ดิฉันไม่รบกวนหรอกค่ะ” หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทันที เมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับบอดี้การ์ดหน้าห้องที่มองเธอตาไม่กะพริบเมื่อเห็นสภาพของเธอ แต่เธอไม่สนใจ

“คุณครับ” แซคเรียกหญิงสาวที่เจ้านายเขาพาขึ้นรถมาด้วยตั้งแต่เมื่อคืน เป็นเพราะเมื่อคืนเขาไม่เห็นหน้าเธอเพราะมีหน้ากากเลยไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขาแจ่มแจ้งแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เจ้านายเขานี่ร้ายไม่เบา ตอนที่เห็นกรวิทย์พาผู้หญิงคนนี้มาส่งที่รถเขายังนึกสงสัยว่ากรวิทย์มาได้ยังไง รู้จักกับนางแมวที่นายจ้องได้ยังไง

ตอนนี้เขารู้แล้ว

“ขอตัวนะคะฉันรีบ เจ้านายคุณปล่อยฉันกลับบ้านได้แล้วค่ะ” หญิงสาวพูดให้ลูกน้องหนุ่มเข้าใจว่านายของเขาใช้งานเธอเสร็จแล้ว

“แต่..”

“ขอตัวค่ะ” พิรุณรักไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดกลัวจะยาว เธอหยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาเบอร์ที่เธอต้องการ

“พี่นุ มารับปลายหน่อยได้ไหมคะ” คนที่เธอคิดออกคนเดียวตอนนี้ก็คือดนุ

(ปลายอยู่ไหนครับพอดีพี่มาทำธุระพึ่งเสร็จ)

“อยู่โรงแรม…..ค่ะ” เธอบอกชื่อโรงแรมไป

(พี่อยู่แถวนี้พอดี เดี๋ยวเข้าไปรับไม่เกินห้านาที)

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เมื่อว่างสายเธอก็ควานหายางรัดผมในกระเป๋า จัดการรวบผมเพื่อไม่ให้ดูกระเชิงเกินไป ลงมารอดนุข้างล่าง สายตาหลายคู่มองมาที่เธอ เธอก็พยายามไม่สนใจ จนกระทั่งเห็นรถดนุเธอก็รีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งทันที

“ปลาย ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ ไปทำอะไรมา” เธอคิดไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องโดนถาม

“ถ้าพร้อมปลายจะเล่าให้ฟังค่ะ” เรื่องผู้ชายคนแรกของเธอดนุไม่รู้ เพราะถ้ารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอยอมขายตัวแลกกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ยอมที่จะได้อยู่กับผู้ชายที่ตัวเองชอบเพียงเวลาสั้นๆ เขาคงไม่มองเธอเหมือนน้องสาวอย่างทุกวันนี้

ดนุมองหญิงสาวข้างกายด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล สภาพของเธอเขารู้ได้ทันทีเลยว่าโดนอะไรมา รอยเขียวเป็นจ้ำๆ ที่คอ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นรอยอะไร

“ไม่ได้โดนทำร้ายมาใช่ไหม” ถามเพื่อความแน่ใจ เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย ถ้าโดนทำร้ายหรือโดนข่มขืนคงไม่อยู่ในอาการแบบนี้

“ไม่ค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ถ้าจะให้บอกว่าโดนลักหลับเธอก็ไม่อยากพูด อีกอย่างถ้าพูดไปดนุคงไปโวยวายเอาเรื่องแกริคแน่ ซึ่งดนุไม่มีทางสู้แกริคได้เลย

“โอเค พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้พี่ฟังก็ได้” ถึงจะอยากรู้ใจแทบขาดว่าน้องสาวของคนนี้โดนอะไรมา แต่เมื่อเธอเงียบเขาก็ไม่อยากเซ้าซี้

“ขอบคุณค่ะ”

“คุณผู้หญิงมีคนมารับไปแล้วนะครับ เป็นผู้ชาย” แซคเดินเข้ามารายงานเจ้านาย เขาเดินตามผู้หญิงของเจ้านายลงไปเพื่อที่จะไปส่งเธอ แต่ก็ไม่ทันเมื่อเห็นว่ามีคนมารับไปแล้ว

“ฉันไม่ได้ถาม” แกริคตอบเสียงขรึม เขาพอเดาได้ว่าคนที่มารับเธอเป็นใคร เพราะมีผู้ชายคนเดียวที่เข้ามาวุ่นวายกับหญิงสาวเกือบสองปีที่ผ่านมา

“แต่ผมไม่คิดเลยนะครับว่าเจ้านายจะซุ่ม นี่ไม่ไว้ใจผมขนาดนี้เลยเหรอครับ” แซคเกิดความกังวลขึ้นมาทันที เพราะคิดว่าเจ้านายไม่ไว้ใจ

“นายมันปากสว่าง” ที่แกริคไม่บอกแซคหรือให้แซคประสานงานเรื่องนี้เพราะความปากสว่างของมัน มันรู้พี่ชายเขาต้องรู้ พ่อเขาก็ต้องรู้ ซึ่งเขาไม่อยากโดนซักถามเรื่องนี้ทั้งที่ยังไม่ได้จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง

“โถ่ นายครับ” แซคโอดครวญในเหตุผล

“รู้แล้วก็ไปจับตาดูไว้”

“ให้ผมพาเธอมาให้เลยไหมครับ โอ๊ย” แกริคคว้างหมอนใส่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า พูดไม่คิด

“ผมพูดผิดตรงไหนครับ” แซคเก็บหมอนขึ้นมาถือไว้

“พูดไม่คิด”

“ถ้างั้นก็เอาเช็คไปให้เธออีกสักใบ ฮั่นแน่ไม่ได้กินผมหรอกครับ” หมอนอีกใบถูกคว้างตามกันไปติดๆ แต่คราวนี้แซครับไว้ทัน

“ออกไปได้แล้วไป ไปหารายละเอียดของแผนกที่เธอทำงานอยู่มาให้ฉัน”

“แล้วอย่าปากสว่างไม่งั้นฉันจะส่งนายไปทำงานกลางทะเลทราย”

“ครับ” แซคคิดว่าเขาไม่ควรท้าทายอำนาจนายเหนือหัว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ปากสว่างสักหน่อยแค่เจ้านายถามก็ตอบ ความซื่อสัตย์มันคือสิ่งที่ลูกน้องควรทำไม่ใช่เหรอ

แกริคพักสายตาภาพนางแมวน้อยเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัว เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะหน้ามืดตามัวทำคนเมาได้ แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ แค่เห็นหน้าเธออีกครั้งความต้องการของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นทันทีอย่างไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหน

พิรุณรักทำให้เขาแทบบ้า

“ให้ฉันเข้าไปในตัวเธอนะเด็กดี” แกริคพูดเสียงพร่าหายใจหอบอยู่ข้างใบหูสวย เขาเหมือนคนอดอยากปากแห้งที่ลักหลับคนเมา ลอกคราบนางแมวออกตั้งแต่หน้าประตู

“เข้ามาสิคะ” คำอนุญาตจากคนที่หลับตาสนิทแต่ร่างบิดส่ายไปมาเหมือนจงใจยั่วยวนแค่นี้ก็ทำให้เขากัดฟันแน่น กดแก่นกายที่จ่ออยู่ปากทางเข้าแอ่งชุ่มชื้นถูไถไปมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างบาง

“เธอจะโกรธฉันไหม แต่ฉันอดใจไม่ไหวจริงๆ” แก่นกายใหญ่โตค่อยๆ หายเข้าไปในร่องสีแดงสด สดเหมือนครั้งแรกที่เคยมีอะไรกัน

“อ๊ะ เจ็บ” ร่างบางหน้าบิดเบี้ยว เพราะฤทธิ์เหล้าด้วยทำให้เธอไม่มีสติ

“นิดเดียว ไม่เจ็บมาก มันเหมือนตอนนั้นที่ฉันเคยเข้าไปในตัวเธอ” แกริคกัดฟันแน่น เงยหน้าขึ้นซูดปากกับความคับแน่นที่เขาสัมผัสอยู่ นี่สิคือสิ่งที่เขาต้องการ ผู้หญิงคนนี้เกิดมาเพื่อเขา และเธอต้องเป็นของเขาคนเดียว

“อือ”

“ฉันจะขยับแล้วนะ” เขาคิดว่าตัวเองเหมือนคนโรคจิตเข้าไปทุกวัน สะโพกสอบขยับเบาๆ มองดูปฏิกิริยาของคนใต้ร่างก็เห็นว่าเธอหลับตาพริ้มปากเผยอออกครางเบาๆ

“อ๊า” เสียงครางหวานของเธอที่เขาคิดถึง

“อ๊า เยี่ยมมากเด็กน้อยเธอเยี่ยมกับฉันเสมอ” แกริคคำรามลั่นกักเก็บความต้องการไว้ไม่อยู่ เขาระเบิดใส่เธอไม่ยั้ง ขับเคลื่อนตัวอยู่บนร่างบางนับชั่วโมงกว่าจะสงบลงได้

“ไว้ฉันจะแก้ตัวใหม่ ฝันดี” แกริคจูบซับหน้าผากมนที่ชื้นเหงื่อเบาๆ ขนาดไม่รู้ตัวเธอยังตอบสนองเขาได้ดีเยี่ยม ถ้ารู้ตัวจะดีขนาดไหน ไม่ต้องคิดเพราะเขาเคยรู้สึกมาแล้ว

“คิดว่าจะไปจากฉันได้ง่ายๆ งั้นเหรอ”

หลังจากกลับมาถึงคอนโดพิรุณรักก็เอาแต่นอน เธอนอนคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดถึงผู้ชายที่อยู่สูงเกินจะเอื้อมถึง หลังจากที่พยายามตัดใจจากเขามาเป็นปีๆ ทุกอย่างกลับพังทลายลงเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เธอเจอหน้าเขา

แต่ยังไงเธอก็ต้องเตือนตัวเองว่าอย่าริทำตัวแบบนั้นอีก ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

หทัยรัตน์มีโทรมาหาเธอในช่วงเย็นแต่เธอเลือกที่จะไม่รับ ไม่โทรกลับ ขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดวันหยุด เธอต้องฝืนตัวเองมาทำงานเพราะแค่คิดว่าเธอต้องเจอกับอะไร เธอก็ไม่อยากมาแล้ว

หรือว่าเธอจะลาออกดี

พิรุณรักเดินเข้ามาในแผนกก็เจอกับพวกพี่ๆ เธอยกมือสวัสดีทุกคน และสบตาเข้ากับหทัยรัตน์

“ปลายโทรไปทำไมไม่รับ ฉันเป็นห่วงแกรู้ไหม”

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset