เมื่อแสงไฟสาดส่องไปกลางเวที เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหล่าของหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลี สายตาคมกวาดมองไปทั่วห้องจัดเลี้ยง เสียงกรี๊ดของพนักงานสาวๆ ดังขึ้นเมื่อได้เห็นความหล่อของเจ้าของบริษัทตัวจริง เขาไม่ได้ใส่ชุดแฟนตาซีเหมือนพนักงาน ประธานบริษัทอยู่ในชุดสูทเรียบหรูหราสง่างาม
“หล่อ หล่อมาก ท่านหล่อมากพี่ต้นหลิว” มุตาสะกิดรุ่นพี่สาว
“เห็นแล้ว”
“ฉันได้ยินว่าท่านยังโสด”
คำว่าโสดสะดุดหูพิรุณรักเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเขายังโสดเพราะติดตามข่าวเขาตลอด
ผู้ชายคนนี้คงไม่มีหัวใจไว้รักใคร
“โสดแล้วยังไง แกจะไปจีบท่านรึไง”
“บ้า ใครจะไปกล้า ฉันแค่อยากเป็นติ่งท่าน” มุตาสาวที่บ้าดาราเกาหลีอยากกลายมาเป็นติ่งฝรั่งบ้าง
“ยัยนี่ ท่านไม่ใช่ดาราเกาหลีของแกนะ”
“เหมือนกันแหละน่าเพราะท่านหล่อ”
“ฟัง ทานจะพูดแล้ว”
ทุกอย่างเงียบลงเมื่อคนที่อยู่บนเวทีเริ่มพูด ภาษาไทยชัดแจ๋วของเขาทำให้ทุกคนแปลกใจและรู้สึกถึงความสามารถของประธานบริษัทของตนมากยิ่งขึ้น
การกล่าวเปิดงานเป็นไปอย่างสั้นๆ และรวบรัด ถัดมาก็เป็นหน้าที่ของพิธีกร ซึ่งงานในวันนี้มีรางวัลสำหรับพนักงานมากมาย แต่สำหรับพนักงานที่เข้าใหม่ทำงานได้ไม่ถึงสามเดือนหรือพูดง่ายๆ คือยังไม่ผ่านโปรจะไม่มีสิทธิ์ได้รางวัล
“งานน่าสนุกดีนะครับ” แซคกระซิบพูดกับผู้เป็นนายแกริคนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ทางบริษัทจัดไว้ให้ ซึ่งนั่งหันหน้าเข้าไปในงาน
“อืม” ชุดแฟนตาซีหลากหลายทำให้งานดูน่าค้นหา มองดูชุดแต่ล่ะคนที่ใส่ได้ไม่เบื่อตา แต่สำหรับแกริค เขาไม่สนใจเรื่องพวกนั้น สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่จุดจุดหนึ่งไม่วางตา ตั้งแต่เข้ามาในงาน
“ท่านสนใจนางแมวเหรอครับ” แซคที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของผู้เป็นนายตลอด ก็อดสงสัยไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเจ้านายจับจ้องอยู่นางแมวนางหนึ่ง
“แค่มอง” แกริคตอบเสียงเรียบ เรื่องบางเรื่องเขาก็ไม่จำเป็นต้องให้คนสนิทรู้ทุกเรื่อง
มันรู้ก็เหมือนโลกรู้
“อ่อ เซ็กซี่ดีนะครับแต่ไม่รู้ว่าจะสวยแค่ไหน” แซคจ้องมองนางแมวสุดเซ็กซี่ แต่น่าเสียดายที่ไม่เห็นหน้าเพราะเธอใส่หน้ากากเอาไว้
“น่าจะเป็นพนักงานเข้าใหม่แผนกไอที” อาเธอร์เอ่ยเข้าร่วมในบทสนทนา
“อ่อ” แซคพยักหน้ารับรู้
“ฉันไม่ได้อยากรู้” แต่แกริคกลับพูดเสียงเย็น
“ครับ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม นายอยากย้ายกลับไปที่สาขาใหญ่รึเปล่า ฉันจะให้แซคมาทำแทน” แกริคเอ่ยถาม ทำให้ลูกน้องคนสนิทหน้าซีดลงทันตาเห็น
“โถ่นายครับ” แล้วโอดครวญออกมา เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดรึเปล่า ทำไมเจ้านายต้องมาลงที่เขาด้วย
“เหอะ ผมชอบที่นี่ครับ” อาเธอร์หัวเราะเบาๆ ให้กับแซค แซคเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ยกนิ้วโป้งให้เพื่อนของตน
“ดื่มอะไรดีครับ”
“เอาไวน์แล้วกัน” หลังจากนั้นก็เป็นการพูดคุยกันระหว่างผู้บริหาร แกริคใช้เวลาอยู่ในงานนานพอสมควรทั้งที่ไม่เคยอยู่งานไหนนาน
ทางด้านของสองสาวที่เป็นพนักงานใหม่ก็โดนรับน้องเสียยกใหญ่
“ไม่ไหวแล้วค่ะ” หทัยรัตน์ยกมือขึ้นยอมแพ้พวกพี่ๆ ถึงเธอจะดื่มเหล้าเป็นแต่เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
“ปลายก็ไม่ไหวแล้วค่ะ” หญิงสาวอีกคนก็ยกมือยอมแพ้เหมือนกัน เธอเริ่มเวียนหัวแล้ว
“พวกแกก็ไปแกล้งน้อง” ทัศนัยหัวหน้าแผนกเอ่ยขึ้น
“ฮ่าๆ รับน้องไงครับ” มาร์คตัวตั้งตัวตีเอ่ยขึ้น
คนเป็นหัวหน้าได้แต่ส่ายหัวให้กับลูกน้อง ทุกคนดูสนุกสนานเฮฮา เข้ากันได้เขาก็ดีใจ
จนเวลาล่วงเลยมาเกือบห้าทุ่ม
“ปลายคุณกรโทรมาบอกว่าจะมารับนะ ฉันจะไปส่งแกด้วย” ปลายฝนที่รู้สึกเบลอๆ พยักหน้าตอบรับเพื่อน ตอนนี้เธอต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะไม่ไหวแล้ว”
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่ต้อง”
ความจริงเธอไม่อยากจะเข้าห้องน้ำสักนิดแต่มันทนไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าได้เข้าครั้งแรกครั้งต่อไปก็จะตามมาติดๆ นี่แหละเขาเรียกว่าอาการของคนเริ่มเมา
ร่างบางค่อยๆ เดินตามทางเพื่อไปเข้าห้องน้ำ สะบัดหัวเบาๆ เมื่อภาพข้างหน้าเบลอๆ พอเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็นั่งจมอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร ถอดหน้ากากออกล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ดีนะเครื่องสำอางที่ใช้กัดน้ำเลยไม่หลุด ซับหน้าเบาๆให้แห้งแล้วก็สวมหน้ากากไว้เหมือนเดิม
ทำให้สร่างขึ้นมาหน่อย แต่ความเซ่อซ่าของเธอก็ทำให้ชนเข้ากับใครเข้าจนได้
“โอ๊ย ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบเอ่ยขอโทษเพราะมันเป็นความผิดของเธอที่เดินไม่ดูทาง
“เจ็บไหม” เสียงทุ้มที่ดังชิดหูทำให้ร่างบางแข็งทื่อ ถึงเธอจะไม่ได้ยินนานแล้วแต่เธอก็จำได้ดี อาการมึนก่อนหน้านี้เกือบหายเป็นปลิดทิ้ง
“ไม่เจ็บค่ะ ขอโทษนะคะท่านประธาน” พิรุณรักไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่เธอก็รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคือท่านประธานใหญ่ และหวังว่าเขาคงจะจำเธอไม่ได้ เพราะถ้าเขาจำเธอได้ เธอกลัวว่าเธอจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทนี่อีก
ความเป็นไปได้แทบจะไม่มีเลยว่าเขาจะจำเธอได้ เพราะผู้ชายแบบเขาคงไม่จดจำผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว แต่ความประหม่าก็ทำให้เธอไม่กล้ามองหน้าเขา
“ยังไม่มองหน้าผม รู้ด้วยเหรอว่าผมเป็นใคร” คนที่สังเกตเธอตั้งแต่ต้นถามขึ้น ร่างบางใส่ชุดรัดรูปเผยให้เห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นชัด มันทำให้แกริคขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก
“เอ่อ…คือ….คนที่ใส่สูทวันนี้มีแค่ท่านประธานคนเดียวค่ะ” พิรุณรักอึกอักหาทางออกให้ตัวเอง
“ลูกน้องผมก็ใส่สูทนะ” หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาต่อล้อต่อเถียงกับเธอทำไม
“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ ดิฉันขอกลับเข้าไปในงานก่อน” เธอเอ่ยจบปัญหาแล้วรีบขอตัว
แกริคมองตามคนตัวเล็กจนสุดตา เมื่อลับร่างบางเขาก็เดินเข้าห้องน้ำและโทรศัพท์
“เอาให้เมา”
พูดแค่นั้นเขาก็ว่างสายและกลับเข้าไปในงาน