“เจ้านายครับ มีสายด่วนตรงมาจากอิตาลี” แซคเดินหน้าเครียดเข้ามาหาเจ้านายในบ้านพักส่วนตัว
“ฉันรู้แล้ว เราจะรีบกลับเร็วที่สุด” เกรสันโทรแจ้งข่าวน้องชายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ว่าหัวเรือใหญ่ของตระกูล ซีคีเลียโน เข้าโรงพยาบาล
“ครับ ผมจะไปเตรียมเรือ” แซคเดินออกไป แกริคก็มองขึ้นไปบนบ้านที่มีผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยตลอดหลายวันที่ผ่านมา
พิรุณรักทำให้เขาพอใจมากตลอดหลายวันที่ผ่านมา ถึงเธอจะทำตัวเหมือนเด็กในบางครั้ง แต่ในเรื่องของเซ็กส์เธอทำให้เขามีความสุขมาก ถึงเธอจะไม่ประสาแต่เธอก็ตอบสนองเขาได้ดีเยี่ยม จากทีแรกคิดว่าจะได้พักผ่อนเป็นอาทิตย์ พอเกิดเรื่องแบบนี้คงต้องกลับก่อน
“เก็บของเราจะกลับกันแล้ว” หญิงสาวที่กำลังแต่งตัวอยู่ชะงัก
“ไม่ใช่อีกสองวันเหรอคะ” เธอแอบใจหายเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“ฉันต้องกลับอิตาลี ฉันจะรออยู่ข้างล่างแซคได้เตรียมเรือให้เราแล้ว” เมื่อพูดเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ทำให้ร่างบางยืนนิ่งอยู่กับที่ กลับอิตาลี หมดเวลาของเธอแล้วสินะ
พิรุณรักทำตามที่เขาบอก เก็บเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธอแล้วลงมาข้างล่างที่มีเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงโรงแรม แกริคก็เรียก กรวิทย์มาพบ
“ฉันต้องกลับก่อนกำหนด ขอบคุณมากที่คอยอำนวยความสะดวกให้”
“ผมเต็มใจครับ”
พิรุณรักยืนอยู่กับหทัยรัตน์ที่จับมือเธอแน่น เธอยังไม่มีโอกาสได้พูดกับเขาเลยตั้งแต่มาถึงโรงแรม และตอนนี้เขากำลังจะไป แกริคก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธออีกเช่นกัน
“เราต้องไปที่สนามบินแล้วครับ เครื่องบินพร้อมแล้ว” แซคเดินเข้ามารายงาน แกริคพยักหน้า หันไปมองพิรุณรักที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“แซคจัดการเรื่องเงินให้พิรุณรักด้วย” แกริคพูดแค่นั้นก็เดินออกไปทันที ทำให้หัวใจของหญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
ใช่สินะ ปลายฝนเธอกำลังหวังอะไร
“นี่ครับผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว” แซคยื่นเช็คที่เตรียมไว้ให้กับหญิงสาว
“ปลายรับสิแก” หทัยรัตน์สะกิดเพื่อนเมื่อเพื่อนไม่ยอมรับเช็คที่ลูกน้องของแกริคยื่นให้
“ค่ะ” เธอยื่นมือไปรับ
“ผมต้องไปแล้ว แล้วเจอกันไหมนะครับ ไปก่อนนะกร”
“อืม ส่งข่าวด้วย”
เมื่อทั้งเจ้านายและลูกน้องเดินจากพิรุณรักก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง
“ไม่เป็นอะไรนะแก” หทัยรัตน์ จับมือเพื่อนแล้วบีบแรงๆ
“ฉันว่าจะกลับกรุงเทพ”
“งั้นฉันกลับด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกแก อยู่ต่อเถอะ” เมื่อหมดหน้าที่แล้วเธอก็ควรกลับ
“ไม่เอาฉันจะกลับ คุณกรคะ หวานขอกลับกับเพื่อนนะคะ” เธออยากอยู่กับเพื่อนมากกว่าตอนนี้ ถึงแม้จะขัดใจกรวิทย์เธอก็ยอม ดูจากตอนนี้เพื่อนเธอคงหลงรักนายจ้างเข้าเต็มเป้า
“อืม ไปเถอะ หลังจากนี้ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกัน จะให้รถของโรงแรมไปส่งที่สนามบิน” กรวิทย์ยอมตามใจ เพราะหลังจากนี้เขามีงานต้องทำ หลังจากที่เกเรเที่ยวมาหลายวัน
หลังจากกลับมาจากกระบี่ พิรุณรักก็ยังไม่ยอมเล่าอะไรให้เพื่อนฟัง เธอไปเรียนตามปกติ ทำตัวปกติ แต่เพื่อนๆ รู้ดีว่าเธอไม่ปกติ
“ปลาย เล่ามาเลย แกกับหนุ่มสุดหล่อนั้นเป็นยังไง ทำไมแกต้องมาทำหน้าเหมือนจะตายแบบนี้” เอมมี่เพื่อนชายใจหญิงที่ทนเห็นเพื่อนทำหน้าเศร้าไม่ไหวถามขึ้น
“เฮ้อ” พิรุณรักถอนหายใจ
“ฉันว่าเพื่อนเราหลงรัก เขาแล้วล่ะแก” หทัยรัตน์ที่คอยสังเกตเพื่อนมาตลอดพูดขึ้น
“ใช่ไหม แกรักเขา”
พิรุณรักพยักหน้าเบาๆ ให้เพื่อน เธอแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว ว่าเธอรักเขา รักผู้ชายที่ไม่มีหัวใจคนนั้น
“ใช่ ฉันรักเขา แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อฉันกับเขามันอยู่กันคนละโลก”
แกริคเป็นนักธุรกิจที่มากความสามารถโด่งดังไปทั่วโลก ร่ำรวยมหาศาล แล้วเธอล่ะเป็นอะไร ก็แค่นักศึกษาสาวใจแตกคนหนึ่งที่ยอมนอนกับเขา เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของเขา
“มันก็ใช่ เขาเป็นคนที่เราไม่มีวันเอื้อมถึง” หทัยรัตน์เห็นด้วย
“งั้นก็ต้องทำใจ แล้วแกเสียใจไหมที่ต้องเสียครั้งแรกให้กับเขา” เอมมี่ถาม
“ไม่ ฉันไม่เสียใจสักนิด ฉันชอบเขามาก ตอนอยู่ด้วยกันเขาก็ดีนะ ถึงจะชอบทำหน้าดุ ไม่อ่อนหวานแต่เขาก็ไม่ได้บังคับหรือทำให้ฉันกลัว” พิรุณรักหลับตาลงภาพตอนที่อยู่กับแกริคเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ความวาบหวามที่เธอทำร่วมกับเขามันยังตราตรึงในหัวใจ
“แล้วเขาให้เงินแกมาเท่าไหร่วะ” เอมมี่ถามอย่างอยากรู้ พิรุณรักชะงักกับคำถามของเพื่อน นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอคิด เพราะจำนวนเงินที่เขาให้มันทำให้เธอตกใจ
“นี่” เธอยื่นเช็คที่ยังไม่เอาไปขึ้นเงินให้เพื่อนพูด มันเยอะเกินไปจนเธอไม่กล้าเอาไปขึ้นเงิน
“โอ้ว มายก๊อด ยัยหวานแกช่วยฉันดูหน่อย ว่านี่มันเลขศูนย์กี่ตัว” เอมมี่ตาโตแล้วขยับเข้าไปหาหทัยรัตน์ ที่พอเห็นแล้วก็ตาโตเท่าไข่ห่านเหมือนกัน
“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก แกนี่มันค่าเวอร์จิ้นของแกใช่ไหม” เขาให้เธอมากเกินไป มากเกินไปจริงๆ สำหรับผู้หญิงที่เข้าหาเขาในฐานะนางบำเรอ
“แกว่าฉันควรเอาไปคืนให้เขาดีไหม” เธอทบทวนเรื่องนี้มาหลายคืนแล้ว อยากจะขอร้องให้เสี่ยของหทัยรัตน์ติดต่อเขาให้ แต่ใจก็ไม่กล้าพอ กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เพราะผู้หญิงอย่างเธอคงไม่สำคัญอะไร ที่เขาให้ค่าเป็นแค่เศษเงิน เขาจะจำเธอได้รึเปล่าก็ไม่รู้
“คืนทำไม เขาให้แล้วก็ให้เลยสิ แกอย่าโง่หน่อยเลย” เอมมี่ว่าเพื่อน
“แต่มันเยอะเกินไป”
“โอ๊ย อย่าทำตัวเป็นนางเอกหน่อยเลยแก ถึงแกจะเอาไปคืนเขา เขาก็คงไม่รับหรอก เงินแค่นี้ขนหน้าแข่งเขาไม่ร่วงหรอก”
“จริงของเอมมี่มัน คุณกรเคยบอกว่า ถ้าเขาถูกใจใคร เขาก็จะให้เยอะ”
“งั้นแสดงว่าเขาถูกใจฉันงั้นสิ” พิรุณรักพูดด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ ไม่ได้นึกดีใจกับคำสันนิษฐานของตัวเอง
“แก อย่าเศร้าเลยน่า ไปเที่ยวไหมฉันจะพาไปส่องผู้หล่อๆ”
“ไม่อ่ะ” เธอไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนทั้งนั้น
“ฉันว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ อย่ามัวแต่ทำตัวเศร้า เพราะถึงแกจะเศร้าแค่ไหน คนที่แกรักแกชอบ เขาก็ไม่เห็นหรอก ทำได้อย่างเดียวคือตัดใจ ตัดใจ เรื่องของเรากับเขามันเป็นไปไม่ได้”
“พวกแกนี่ ปลอบฉันหน่อยก็ไม่ได้”
“ปลอบแกแล้วแกไม่เลิกเศร้า ฉันไม่ปลอบ เลิกฝัน เลิกมโน ลมๆ แล้งๆ ตื่นค่ะเพื่อนตื่น”
“โอ๊ย พวกบ้า เออ ไปก็ไป ไปแรดให้สุดไปเลย” นี่อาจจะเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ลืมคนที่เหมือนอยู่ในความฝันได้