เสียงโทรศัพท์ของแกริคดังขึ้น
“มีอะไร”
(ฉันแค่คิดถึงน้องชายไม่ได้รึไง) เกรสัน ซีคีเลียโน พี่ชายคนเดียวของ แกริค ซีคีเลียโน ที่คลานตามกันมา
“คนอย่างแกไม่คิดถึงฉันหรอก”
(พี่ชายไม่คิดถึงน้องชายจะคิดถึงใครล่ะวะ)
“เลิกกวนประสาทแล้วพูดมามีอะไร” แกริคตัดบทกับความกวนประสาทของพี่ชาย ที่มีนิสัยต่างกันสิ้นเชิง คนหนึ่งขี้เล่นกวนประสาทอีกคนเงียบขรึมปากร้ายมีแต่คนเกรงกลัว แต่นิสัยที่เหมือนกันคือเรื่องผู้หญิง ทำให้พ่อของทั้งสองคนอ่อนอกอ่อนใจกลัวว่าลูกชายจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตเพราะไม่เห็นจริงใจกับใครสักคนเห็นผู้หญิงเป็นแค่ทางผ่าน
แม่ของทั้งสองคนเสียชีวิตด้วยโรคร้ายตั้งแต่ แกริคและพี่ชายเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ทั้งสองคนอายุห่างกันแค่สองปี จึงสามารถเป็นเพื่อนเล่นกันได้
“เรื่องธุรกิจที่ประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง แด๊ดให้โทรมาถาม นายไม่ส่งรายงาน”
“เรียบร้อยดี นายดำเนินการต่อได้เลย”
“โอเค แล้วนี่นายพักร้อนอยู่ใช่ไหม”
“ใช่ หรือฉันจะลาออกแล้วยกทุกอย่างให้นายคนเดียวดี” บางครั้งแกริคก็คิดว่าเขาไม่อยากทำ ความจริงแล้วเขาเป็นคนชอบอิสระ ไม่ชอบนั่งทำงานในห้อง แต่เป็นเพราะบิดาขอร้องให้เขาช่วยงานพี่ชายที่บ่นอยู่ทุกวันว่าเหนื่อยอยากได้คนแบ่งเบาภาระ เขาถึงต้องทำมาจนถึงทุกวันนี้
“เฮ้ยๆ ๆ โนๆ นายทำอย่างนั้นไม่ได้นะโว้ย เราต้องแบกรับภาระนี้ด้วยกัน ฉันไม่ยอมเหนื่อยคนเดียวเป็นอันขาด แด๊ดสร้างมันมาให้เรา เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน” คู่พี่น้องสองคนนี้ก็เป็นซะอย่างนี้ ส่วนมากเขามีแต่แย่งชิงกันเพื่อที่จะได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดแต่นี่มีแต่ผลักไสให้กัน
“เออ แค่นี้ เวลาพักผ่อนของฉันนายไม่ต้องโทรมาอีก” แกริคตัดสายไปด้วยความรำคาญ ถึงทั้งสองจะพูดโต้ตอบกันแบบแข็งกระด้าง แต่ทั้งสองก็เป็นพี่น้องที่รักกันมากช่วยเหลือกันทุกอย่าง เหตุนี้ที่แกริคยอมนั่งทำงานอยู่บนหอคอยเพราะไม่อยากให้พี่ชายเหนื่อยคนเดียว
ทางฝ่ายของพิรุณรักที่เข้ามาในครัวเธอก็เปิดตู้เย็นเห็นทั้งของสดของคาวเต็มตู้ เตรียมพร้อมจริงๆ เธอใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งคิดว่าจะทำอะไรให้เขากินดี อาหารไทยเขาจะชอบไหม เพราะเธอทำเป็นแต่อาหารไทย และถ้าจะเดินออกไปถามเขาก็ไม่คิดจะทำ
พิรุณรักได้ข้อสรุปกับความคิดตัวเองว่า จะทำต้มยำทะเล ผัดผัก และปลากะพงนึ่งมะนาว แค่สามอย่างพอ แค่นี้ก็ใช้เวลานานแล้ว
ดีที่อยู่บ้านเธอเองก็ชอบทำอาหาร เลยไม่ยากนักที่จะทำ แต่เรื่องความอร่อยคงแล้วแต่คนจะชอบ หลังจากทำต้มยำและปลากะพงนึ่งมะนาวเสร็จก็หันมาผัดผัก
กลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาที่ห้องนั่งเล่นของคนที่นั่งทำงานอยู่ แกริคหันไปมองทางห้องครัวแล้วหันกลับมาสนหน้าหน้าจอต่อ ความหิวเพิ่มขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมๆ ที่ลอยมา
“เสร็จแล้วค่ะ ทานเลยไหมคะ” พิรุณรักเดินออกมาเรียกเขาเมื่อทำทุกอย่างเสร็จหมด สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขากับเธอเหมือนคู่รักที่มาเที่ยวพักผ่อนกัน
“อืม”
อาหารทุกอย่างถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะ พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ หญิงสาวมองหน้าเขาเมื่อเขาเห็นหน้าตาอาหาร
“ทานได้ไหมคะ หนูไม่รู้ว่าคุณเคยกินรึเปล่า”
“เคยสิ แม่ฉันก็เป็นคนไทย” ใช่สินะ แม่เขาเป็นคนไทยนี่นา เธอลืมข้อนี้ไปได้ยังไง เขาก็ต้องเคยกินอาหารไทยอยู่แล้ว
พิรุณรักนั่งลุ้นเมื่อเขาตักต้มยำเข้าปาก ไม่รู้ว่าเขากินเผ็ดได้ไหมเธอใส่พริกไปซะเยอะเลยตามความชอบของตัวเอง
“ทำไมไม่กิน” คนโดนจ้องเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“อร่อยไหมคะ”
“พอกินได้” คำตอบของเขาทำให้เธอหน้าหงอยแต่ก็ไม่เสียใจมาก ถือว่ากินได้ หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานข้าวกันเงียบๆ
แกริคจัดการอาหารทุกอย่างบนโต๊ะจนหมดทำให้คนทำตาโตมองเขา ไหนบอกว่าพอกินได้แต่เล่นกินซะหมดเลย แต่เธอก็ไม่ได้โต้แย้งหรือล้อเลียนกลัวว่าจะโดนดุเอา
เมื่อเขากินเสร็จพิรุณรักก็จัดการเก็บจานไปล้าง ทำความสะอาดห้องครัว พิรุณรักแอบคิดว่าเป็นผู้หญิงของเขานี่ต้องทำได้ทุกอย่างขนาดนี้เลยเหรอ หรือว่าเป็นเฉพาะเธอ
เพราะเธอเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ผู้หญิงที่เขาควงส่วนมากจะเป็นดารานางแบบดังๆ ทั้งนั้น ผู้หญิงพวกนั้นต้องทำอะไรแบบเธอรึเปล่านะ
“เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องด้วย ห้องฝั่งซ้ายสุด” นี่เขาเห็นเธอเป็นแม่บ้านรึไง ถึงจะคิดแบบนั้นหญิงสาวก็ยอมทำตามคำสั่งเขา ดีเหมือนกันเธออยากอาบน้ำพอดี
พอลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้องก็จัดการเก็บเข้าตู้ เธอไม่รู้หรอกว่าเขาให้เธอนอนห้องเดียวกับเขาไหมเพราะเธอจัดเสื้อผ้าของตัวเองเข้าตู้เดียวกับเขาเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวมองดูเสื้อผ้าสองฝั่งที่มีของเขากับของเธอมันให้ความรู้สึกที่ วิเศษมากสำหรับเธอ นี่เธอกำลังหลงรักเขาเข้าแล้วใช่ไหม
จากแค่ลุ่มหลงชื่นชอบตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นความรัก มันจะแปลกอะไรหากเธอรักเขาเพราะเขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ แต่หลังจากนั้นเธอคงยอมรับให้ได้ ว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะสมกับเขาสักนิดและคงจะไม่ได้รับความรักตอบกลับมา
น้ำอุ่นๆ ทำให้ความฟุ้งซ่านของเธอลดลงได้บ้าง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่สะลึมสะลือลืมตาขึ้น
“นี่เราหลับเหรอ”
“พิรุณรักอยู่ในนั้นรึเปล่า” พอขึ้นมาบนห้องเขาก็ไม่เห็นสาวเจ้า เห็นประตูห้องน้ำปิดอยู่คิดว่าเธอคงอาบน้ำ แต่นั่งรอสั่งพักก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจนทนรอไม่ไหว
“อยู่ค่ะ” ร่างบางรีบลุกขึ้นจากอ่างแล้วรีบล้างตัว มองหาเสื้อคลุม นึกด่าตัวเองที่ลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาด้วย
“ทำอะไรอยู่ตั้งนาน”
“คือ”
“อย่าบอกนะว่าหลับ” เธอเพียงส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้เขา
“เข้ามาอาบอีกรอบ” หญิงสาวตาโตเมื่อได้ยินคำสั่ง
“แต่หนู พึ่งจะอาบเสร็จ” ตัวเธอจะเปื่อยอยู่แล้วยังจะให้อาบอีกเหรอ
“นี่เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่เธอต้องทำ” ปากที่กำลังจะโต้ตอบเขากลับรีบงับลงเมื่อเจอสายตาดุๆ อาบน้ำกับเขาเนี่ยนะคือหน้าที่ของเธอด้วย
“ตามเข้ามา” แกริคพูดเสียงเรียบแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการถอดเสื้อผ้าออก เปิดน้ำใส่อ่างแล้วลงไปแช่