“ลูกเราต้องได้คุณมาเต็มๆ แน่” ผลการอันตร้าซาวด์บอกว่าเธอได้ลูกผู้ชาย ซึ่งทำให้หลายๆ คนดีใจ ยิ่งเจสันยิ่งตื่นเต้นที่ได้หลายชาย
แต่สำหรับพิรุณรักและแกริคจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้
“หือ เหมือนฉันเหรอ ใช่ ลูกต้องหล่อเหมือนฉันถูกแล้ว” แกริคบีบจมูกเธอเบาๆ พิรุณรักย่นจมูกใส่เขา
“หนูหมายถึงความซนต่างหาก” พิรุณรักส่งค้อนให้คนหลงตัวเอง
“เธอไม่ซนเลยใช่ไหม หือ ไหนเล่าสิตอนเด็กเธอเป็นยังไง” พิรุณรักขมวดคิ้วนึกถึงตอนเด็ก
“ตอนเด็กหนูร้องไห้กับพ่อเพราะปีนต้นมะพร้าวไม่ได้ค่ะ ตอนนั้นรู้สึกอยากทำได้เหมือนลิง ลิงทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ เลยลองทำตามมันแต่ก็ทำไม่ได้ หนูเลยนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นมะพร้าวตั้งแต่บ่ายจนค่ำ” พอนึกถึงตอนนั้นเธอก็ขำตัวเอง มันเป็นความคิดของเด็กจริงๆ ที่จริงเธอก็จำได้ไม่หมดหรอกนะ จำได้แค่รางๆ แต่พ่อเล่าให้เธอฟัง และไม่ได้เล่าแค่รอบเดียวเล่าทุกครั้งที่นึกถึง
“อุ้ย ลูกดิ้นค่ะ” พิรุณรักร้องทักเมื่อลูกดิ้นไปมา
“คงขำกับความแสบของแม่”
“เด็กที่ไหนไม่ซนค่ะ” พิรุณรักรู้สึกอบอุ่น เมื่อได้มานั่งคุยกันแบบนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแน่นขึ้นอีกหลายเท่า
“ใช่ เอาล่ะ ไปแต่งตัวจะพาออกไปทานข้าวข้างนอก” พิรุณรักดันตัวขึ้นมองหน้าเขา
“ทานข้าวข้างนอกเหรอคะ”
“อืม”
ตั้งแต่กลับมาอยู่กรุงเทพเธอก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน
“กินที่บ้านก็ได้นะคะ”
“แต่ฉันจองร้านอาหารไว้แล้ว”
“ก็ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ”
แกริคมองตามคนที่เดินขึ้นไปข้างบน และไม่ถึงสิบห้านาทีก็เดินลงมา
“หนูสวยได้แค่นี้แหละค่ะ” พิรุณรักบอกคนที่จ้องเธออยู่ แกริคเดินเข้าไปหาหญิงสาว
“เธออยู่ในชุดไหนก็สวย” พิรุณรักย่นจมูกใส่เขา
“ท้องโตขนาดนี้ยังสวยเหรอคะ”
“สวย เพราะมีลูกของเราอยู่ในนั้น” พิรุณยิ้มอย่างเขินอาย เดินไปยังรถที่มีแซครออยู่ ก่อนจะพากันมุ่งหน้าไปร้านอาหารที่จองไว้
“บรรยากาศดีจังค่ะ” ร้านอาหารที่แกริคจองเป็นชั้นบนสุดของโรงแรมที่ดีที่สุดของประเทศไม่แปลกที่จะได้บรรยากาศที่ดี
“ชอบไหม”
“ชอบค่ะ แต่ไม่เห็นต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้เลย” ที่แบบนี้คงแพงน่าดู
“ลืมแล้วเหรอว่าผัวเธอรวย”
“ค่ะ คนรวย” แกริคหัวเราะเบาๆ เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง เขาเองก็นั่งลงข้างๆ พนักงานนำอาหารมาเสริฟ์
“อยากสั่งอะไรเพิ่มไหม” พิรุณรักมองอาหารที่เต็มโต๊ะไปหมดแล้วส่ายหน้า
“งั้นทานเถอะ ลูกคงหิวแล้ว” แกริคบริการเธออยู่ใกล้ๆ พิรุณรักกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
นักดนตรีเดินออกมาบรรเลงเพลงอยู่ใกล้ๆ ทำให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้นทันที การทานข้าวไปด้วยและฟังเพลงไปด้วยให้ได้ความเพลิดเพลินไปอีกแบบ ทานจนอิ่มทั้งสองคนก็รวบช้อน แกริคยกไวน์ขึ้นจิบเบาๆ และเรียกพนักงานเข้ามา
“ขอนมสำหรับคุณผู้หญิงด้วย”
“ขอบคุณค่ะ” พิรุณรักขอบคุณเขา ที่เขาดูแลเอาใจใส่เธอทุกอย่าง
“เต้นรำไหม” แกริคเอ่ยขึ้นชวน แต่พิรุณรักส่ายหน้า
“ไปเถอะ” แกริคลุกขึ้นและโค้งคำนับเธอ พิรุณรักส่งค้อนให้เขาที่ไม่ยอมฟังเธอเลย
“หนูเต้นไม่เป็นนะคะ กลัวจะเกะกะคุณด้วย”
“ไม่ยากหรอก และไม่เกะกะด้วย เพราะเราจะเต้นรำแบบนี้” แกริคสวมกอดเธอจากข้างหลัง มือโอบอุ้มอยู่ใต้ท้องของเธอ แล้วโยกไปตามจังหวะเพลงเบาๆ ก้มลงจูบกลางหัว
“แบบนี้ก็ได้เหรอคะ” พิรุณรักเงยหน้าขึ้นไปถามเขา
“ได้สิ และแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน” แกริคจับหน้านวลให้ขึ้นมารับจูบจากเขา สอดแทรกลิ้นเข้าไปชิมความหอมหวาน เสียงเพลงไพเราะ บรรยากาศยามค่ำคืนที่แสนโรแมนติกทำให้ทั้งสองคนเคลิบเคลิ้มไปกับมัน ถ่ายทอดความรักให้กันผ่านจูบแสนหวาน
ก่อนจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง พิรุณรักมองเขาตาเยิ้ม อดไม่ได้ที่เขาจะก้มไปลงจูบเธออีกครั้งก่อนจะปล่อย
“ไม่ต้องมองขนาดนั้น พอคลอดลูกแล้วฉันจะจัดให้ตามที่เธอเรียกร้อง ตอนนี้คงต้องทนนะคนสวย” แกริคล้อเลียนเมื่อเห็นสายตาของเธอ
พิรุณรักตีเข้าที่อกแกร่งก้มหน้างด ทำให้เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฉันรักเธอ” แกริคกระซิบบอกชิดปาก
“หนูก็รักคุณค่ะ” ทั้งสองคนยิ้มให้กัน
แกริคนั่งคุกเข่าลง จูบซับหน้าท้องนูน พิรุณรักมองเขาด้วยสายตาหวานซึ่ง
“แด๊ดรักลูกครับ” กล่องสีแดงสดถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ พิรุณรักมองภาพนั้นด้วยสายตาพร่าเบลอ เธอน้ำตาคลอเบ้าตั้งแต่ที่เขาคุกเข่าพูดกับลูกแล้ว
“ลูกและเธอจะอยู่กับฉันตลอดไปได้รึเปล่า”
“ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยค่ะ” พิรุณรักปัดน้ำตาออกปรอยๆ แกริคทำสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำ ทำในสิ่งที่เธอไม่เคยคาดหวัง
“ผู้หญิงทุกคนก็อยากถูกขอแต่งงานทั้งนั้น และฉันอยากให้ทุกเรื่องของเราเป็นที่จดจำ อยากมีอะไรๆ ไปเล่าให้ลูกฟังว่าพ่อขอแม่แต่งงานยังไง”
“แต่ถ้าลูกรู้ว่าพ่อกับแม่พบกันได้ยังไง ลูกคงจะโกรธน่าดู” พิรุณรักพูดไปด้วยและหัวเราะไปด้วย
“แต่ฉันว่าลูกจะสนใจความเร่าร้อนของเราตอนที่อยู่บนเรือมากกว่า”
“คุณก็” พิรุณรักตีไหล่เขาเบาๆ อย่างเขินอาย เม้มปากแน่น แกริคหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความพอใจ
“หนูปลายจะรับสามีคนนี้ไปดูแลตลอดชีวิตไหมครับ” แกริคเข้าโหมดซึ้ง หยิบแหวนออกมาแล้วยื่นไปข้างหน้า พิรุณรักต่อมน้ำตาแตกอีกครั้ง พยักหน้ารัวๆ
“รับค่ะ” เธอยื่นมือให้เขา แกริคค่อยๆ สวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธออย่างบรรจงจนสุดโคลนพร้อมกับจูบหลังมือด้วยความรัก
จึงลุกขึ้นค่อยๆ เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้างามอย่างอ่อนโยน ดึงภรรยาตัวน้อยเข้าอ้อมกอด
“ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตฉันปลายฝน”
THE END