“อือ ขยับเถอะค่ะ” พิรุณรักบีบมือใหญ่แน่นเม้มปากเข้าหากัน ความอึดอัดปนความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง เอวสอบค่อยๆ ขยับเข้าออกเบาๆ สองร่างครางออกมาพร้อมกันเสียงเบาหวิว
“ตื่นเต้นเหรอ” เสียงแหบพร่ากระซิบถาม กดท่อนลำเข้าออกเนิบช้าแต่เสียวทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
“อือ” พิรุณรักหลับตาแอ่นบั้นท้ายเข้าหาท่อนลำของเขาโดยไม่รู้ตัว
“อ๊า” แกริคครางเสียว นวดคลึงหน้าอกอวบ
“ถ้าแรงไปบอกนะ” เมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้นมันทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่กลัวว่าจะเป็นอัตราย จึงอยากให้เธอเอ่ยเตือน
หน้าท้องแกร่งแนบไปกับแผ่นหลังเนียนเสียดสีกันทุกจังหวะการขยับ เสียงครางทุ่มพร้อมกับเสียงคางหวิวๆ ดังขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า
“อือ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” พิรุณรักหันหน้าไปหาเขาแกริคก็จับเธอจูบเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิดเพื่อส่งทั้งคู่ไปสวรรค์ จังหวะสุดท้ายเอวสอบนวดคลึงหนักหน่วง ขยี้ติ่งเล็กของเธอแรงๆ เสียงครางทุ่มกับเสียงกรีดร้องดังขึ้นในลำคอ
“อ๊า” แกริคกอดพิรุณรักแน่นจากด้านหลังซบลงทีที่ไหล่มนหายใจหอบ
ก๊อกๆ ๆ
“ปลายลูก กับข้าวเสร็จแล้วออกมากินข้าวได้แล้วลูก” พิรุณรักหน้าตื่นเมื่อได้ยินเสียงแม่ กลืนน้ำลายลงคอ ขยับตัวลุกขึ้นแต่โดนคนตัวโตกอดไว้ซะก่อน
“ครับแม่” แกริคเป็นฝ่ายตะโกนบอกแทน พิรุณรักส่งค้อนให้คนตัวโต เธอกับเขาเหมือนเด็กที่แอบมาทำความผิด และเป็นเขาที่ทำให้เธอเสียคน
“ปล่อยหนูได้แล้วค่ะ”
“นอนก่อนไหม”
“ไม่เอา แม่อุตส่าห์ทำกับข้าวให้ออกไปทานกันนะคะ” แกริคพยักหน้า ดึงตัวออกจากร่างบาง น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมา
“เข้าห้องน้ำก่อนไหม”
“ค่ะ” พิรุณรักลุกขึ้น แกริคก็หยิบชุดคลุมมาคลุมให้เธอ เดินไปส่งเธอในห้องน้ำกลัวว่าเธอจะเข่าอ่อนแล้วล้ม
“เรียกนะ”
ส่วนตัวเขาก็เดินกลับมารอที่เตียงพร้อมกับพันผ้าเช็ดตัว มาถึงวันแรกก็อดใจไม่ไหวซะแล้ว
วันต่อมาบิดาและพี่ชายของแกริคก็เดินทางมาที่บ้านของพิรุณรัก บ้านดูแคบไปทันทีที่มีฝรั่งห้าคนอยู่ข้างใน การพูดคุยลงกันเป็นไปอย่างราบรื่น โดยลงความเห็นว่างานแต่งงานจัดถูกจัดขึ้นหลังจากที่พิรุณรักคลอดลูกแล้ว โดยจะจัดที่บ้านของฝ่ายหญิงเป็นงานเล็กๆ และจะจัดในบ้านเกิดของฝ่ายชายอย่างยิ่งใหญ่
ซึ่งตอนแรกพิรุณรักอยากจะคัดค้าน แต่ก็พูดไม่ได้เพราะพ่อสามีของเธอพูดทุกอย่างหมดแล้ว
หลังจากนั้นเจสันและเกรสันก็เดินทางกลับ
“หนูอยู่ที่นี่กับพ่อแม่ก็ได้นะคะ” สองร่างกอดกันชมจันทร์อยู่หน้าต่างห้องนอน พระจันทร์บ้านสวนเห็นเด่นชัดมากกว่ากรุงเทพเป็นไหนๆ แถมบรรยาศดี ร่มรื่นเย็นสบาย
“ไม่อยากอยู่กับฉัน” แกริคก้มถามคนที่อยู่ในอ้อมกอด
“เปล่าค่ะ แต่ตั้งแต่หนูไปอยู่ด้วยคุณก็ไม่ได้ทำงานเลย” เป็นอย่างที่พิรุณรักพูด ตั้งแต่ที่เธอไปอยู่กับเขา แกริคชอบโดดงานบ่อยๆ
“ห่วงเรื่องงานแต่ไม่ห่วงฉัน” มือใหญ่ลูบอยู่ที่หน้าท้องนูนแผ่วเบา
“ห่วงสิคะ แต่หนูแค่คิดว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดแล้ว หนูอยู่ที่นี่ก็ได้” ใบหน้าคมซุกลงที่ซอกคอหอมกรุ่น
“เธออยู่ฉันก็จะอยู่ รอจนกว่าลูกเราจะคลอด” พิรุณรักหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อหู
“ได้เหรอคะ งานคุณล่ะ”
“อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ อีกอย่างมีเกรสันทั้งคน”
“แต่หนูกลัวคุณจะอยู่ไม่ได้” สภาพแวดล้อมที่บ้านของเธอไม่เหมือนบ้านเขา เธอกลัวว่าเขาจะลำบาก
“ฉันอยู่ได้ทุกที่ที่มีเธอกับลูก” พิรุณรักหันไปกอดร่างใหญ่อย่างขอบคุณ เธอไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะมีผู้ชายที่ทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้นอกจากพ่อ แต่แกริคก็ทำ
การมาอยู่ที่นี่ของแกริคกลายเป็นข่าวลือสำหรับที่นี่ รวมถึงการท้องของพิรุณรักด้วย ชาวบ้านต่างพูดกันไปต่างๆ นานา บางคนก็แสดงความยินดีบางคนก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ครอบครัวของพิรุณรักก็ไม่ได้สนใจ เราห้ามคำพูดของคนอื่นไม่ได้
ดีที่ทุกคนปิดเรื่องนี้ไม่ให้แกริครู้ ไม่งั้นคงกลายเป็นเรื่องใหญ่
การทำงานของแกริคไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ เกรสันยอมให้แกริคอยู่ที่เมืองไทยได้ก็จริง แต่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพ ทำให้พิรุณรักต้องมาอยู่กับเขาที่กรุงเทพด้วย
โดยแกริคได้จัดการซื้อบ้านเป็นของตัวเองโดยให้ดนุหาทำเลให้ แล้วก็ได้บ้านหลังใหญ่อยู่ใกล้บ้านของดนุ
คุณหญิงดารุณีเห่อมาก ทันทีที่รู้ว่ามีหลาน มาเยี่ยมพิรุณรักเช้าเย็น แกริคก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนคอยดูแลหญิงสาว คุณหญิงดารุณีได้แบ่งคนรับใช่ที่บ้านมาคอยดูแลพิรุณรักอีกแรง
ความจริงพิรุณรักอยากให้ผู้เป็นแม่มาอยู่ด้วยแต่ด้วยงานที่บ้านสวนมีเยอะถ้าจะปล่อยให้สามีทำคนเดียวคงไม่ไหว เลยลงความเห็นว่าเดือนสุดท้ายก่อนที่พิรุณรักจะคลอดท่านถึงจะมาอยู่เป็นเพื่อน
แกริคเดินเข้ามาในบ้านหลังจากเลิกงาน
“กลับมาแล้วเหรอคะ” พิรุณรักลุกขึ้นเดินไปหาพ่อของลูกทันที
“ครับ” แกริคกอดรวบร่างอวบเข้ามากอด
“เดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้ค่ะ” พิรุณรักเดินเข้าไปในห้องครัว ถ้าจะเรียกเด็กรับใช้ก็ได้แต่เธออยากทำเองมากกว่า
“ขอบคุณ ตัวเล็กเป็นไงบ้างดื้อกับแม่ไหม” แกริคก้มลงไปถามลูกหลังจากดื่มน้ำเสร็จ สิ่งมีชีวิตในท้องนูนๆ ก็มีปฏิกิริยาตอบรับทันที โดยเตะท้องคนเป็นแม่จนนูนขึ้นมา
“อุ้ย”
“สงสัยจะซนน่าดู”
“ตอนเด็กๆ คุณซนไหมคะ” พิรุณรักถามเขา แกริคเงยหน้าขึ้นดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอก
“ซนนะ ฉันเป็นเด็กผู้ชายที่อยากรู้อยากลอง สิ่งไหนที่แด๊ดห้ามก็ทำเกือบหมด”
“แล้วมาคิดได้ตอนไหนคะ”
“ไม่รู้สิ มันเป็นไปเอง เริ่มเบื่อมั้งและอยากทำอะไรจริงจัง หันมาทำงานช่วยเกรสันเพราะทนมันบ่นไม่ไหว” แกริคหัวเราะเบาๆ คิดถึงตอนที่เกรสันบ่นเรื่องที่เขาไม่ช่วยงาน