นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 39 ความหวัง

ตอนที่ 39 ความหวัง

        ความหวังใหม่

 

       นาตาลีเริ่มอธิบายข้อเสนอสุดโต่งของเธอ

 

       「ก็ดูสิ บ้านหลังนี้กว้างขวางมากเลยใช่ไหมล่ะ? อีกอย่าง มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราสามคนจะยัดกันอยู่ในบ้านของฉันได้ แล้วก็……」

 

       นาตาลีมองหน้าชาร์ ส่วนชาร์ก็พยักหน้าเงียบๆ

 

       「ชาร์เป็นเอ่อ…… ขุนนางไงล่ะ แล้วก็อัลเป็นอัศวินที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องเธอ มันคงไม่ยากที่จะเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้ นอกจากนี้เฟอร์ริสดูเหมือนจะไม่ขัดข้องที่จะให้พวกเธอมาอยู่ด้วย」

 

       นั่นก็จริง เฟอร์ริสพยักหน้าให้ชาร์ก่อนหน้านี้ นั่นเป็นสัญญาณว่าเธอไม่รังเกียจที่พวกเธอจะอยู่ในคฤหาสน์

       แต่……

 

       「ท่านโทยะ ถ้าเป็นไปได้ กรุณาให้พวกเราอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้สักพักได้ไหมคะ? ฉันสัญญาว่าจะช่วยทำงานบ้านเป็นการตอบแทน」

 

       คำขอร้องของชาร์ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนั้นยากที่จะปฏิเสธ

       และแน่นอนว่าความเป็นผู้ชายญี่ปุ่นที่ใจอ่อนต่อสาวน้อยในตัวผมก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อเห็นสาวน้อยน่ารักกำลังขอร้อง (คุก ๆ ๆ ๆ แค่ไอเฉย ๆ)

 

       「—อ่า ตกลง ถ้าพวกเธอจะอยู่ที่นี่จริง ๆ  ทั้งคู่ช่วยไปลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยด้วยนะ มันจะช่วยให้การเข้าออกเมืองสะดวกขึ้น」

       「ค่ะ!」

       「เข้าใจแล้วค่ะ」

 

       ทั้งสองพยักหน้าโดยไม่ลังเล

 

       「ผมมีงานต้องทำอยู่พอดี คงได้เวลาแล้วที่จะไปเอา…… ‘ไอ้เจ้านั้น’ออกมา」

 

       …… การสนทนาอันจริงจังจบลงตรงนี้

       ผมถอนหายใจแล้วหยิบพุดดิ้งอัลมอนด์ออกมาจาก คลังมิติ

       แน่นอนว่าผมไม่ได้เอาออกมาแค่ถ้วยเดียว ผมหยิบออกมาสามถ้วยและวางไว้ตรงหน้าของพวกเธอแต่ละคน

 

       「คราวนี้จะต่างจากคราวที่แล้วนะ วันนี้จะได้แค่คนละหนึ่งถ้วยเท่านั้น」

 

       ผมเตือนนาตาลีไว้ล่วงหน้า เพราะถ้าไม่ทำ เธอคงร้องขอเพิ่มแน่ๆ

 

       「นี่มันคืออะไรกัน……?」

 

       ชาร์กับอัลก้มมองสิ่งที่ถูกนำมาเสิร์ฟอย่างกะทันหัน ในขณะที่ตาของนาตาลีเป็นประกายขณะถือจานพุดดิ้งไว้ในมือด้วยความคาดหวัง

 

       「ของหวาน ลองชิมดูสิ ผมเสิร์ฟให้นาตาลีคนเดียวไม่ได้หรอก」

 

       ทั้งสองหยิบช้อนที่ผมเตรียมไว้ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะตักครีมสดของพุดดิ้งขึ้นมาชิมอย่างลังเล

 

       ทันใดนั้น สีหน้าของทั้งสองต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความพึงพอใจ

 

       「หวาน…… ฉันไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย แม้แต่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ……」

       「มันอร่อยมาก…… ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะเคยกินอะไรหวานอร่อยแบบนี้มาก่อน」

 

       นาตาลีพยักหน้าให้กับสองสาวที่ตกตะลึงกับรสชาติอันยอดเยี่ยมของขนมหวานนี้

 

       「เธอพูดถูก ความหวานนี้ทำให้ฉันเสียบ้านไปเลย」

       「เฮ้ อย่าบิดเบือนความจริงสิ!」

 

       ก็จริง ผมชนะพนันและได้คฤหาสน์นี้มาเป็นรางวัล แต่มันมีภาษีที่แพงกว่าค่าเช่าเสียอีก ซึ่งเป็นส่วนที่บัดซบที่สุดของเรื่องทั้งหมด

       ผมบ่นในใจ แม้แต่ชาที่ผมจิบอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เฮ้อ

 

       ขนมหวานที่ตกแต่งอย่างประณีตถูกกินจนหมดในที่สุด และดวงตาหกคู่ก็มองจานเปล่าก่อนจะหันมาจ้องผมด้วยสายตาอ้อนวอน

 

       「ไม่มีเพิ่ม! ถ้ากินมากไป…… พวกเธอจะอ้วน เข้าใจไหม?」

 

       คำพูดนี้ช่วยดับความโลภของชาร์และอัลลงได้

       ทั้งสองวางช้อนลงบนจานด้วยสีหน้าผิดหวัง

       นาตาลีเองก็ยอมแพ้และลุกขึ้นจากเก้าอี้

 

       「โทยะ ฝากดูแลสองคนนี้ด้วย ฉันจะไปเตรียมตัวทำสิ่งที่ต้องทำ จะกลับบ้านสักพักก่อน」

 

       เธอวางหนังสือเวทมนตร์ที่เคยสัญญาไว้ให้ผมลงบนโต๊ะ และกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของชาร์ก่อนจะเดินออกจากคฤหาสน์ไป

 

       เมื่อไม่มีนาตาลีอยู่ ผมก็เรียกหาเฟอร์ริส

       ทันทีที่ผมเรียก เฟอร์ริสก็ปรากฏตัว

 

       「ผมจะอยู่ที่บ้านต่ออีกสักพักนะ เฟอร์ริส พวกเธอสองคนนี้ก็จะอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย เธอไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?」

       「……ค่ะ……」

 

       ผมยืนยันกับเฟอร์ริสที่พยักหน้าตอบ แล้วหันไปมองทั้งสองคนซึ่งดูจะตะลึง

 

       「วิญญาณประจำบ้านพูดได้……」

       「ใช่ แต่ว่าทำได้ยังไงกัน……?」

 

       เช่นเดียวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นาตาลีเองก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน แต่ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน เพราะนี่ก็เป็นสิ่งใหม่สำหรับผมเหมือนกัน

       พวกเธอสองคนมารุมถามผม แต่ผมเองก็มีคำถามในใจเหมือนกันนะ

       เมื่อผมตอบอะไรไม่ได้ ทั้งคู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

 

       「ฉันเข้าใจว่าท่านโทยะมีความลับอยู่บ้าง จะดีกว่าถ้าคุณไม่พูดเรื่องนี้กับใครคนอื่น ถ้ามีข่าวลือว่ามีวิญญาณบ้านที่พูดได้อยู่ที่นี่……」

       「ต้องมีขุนนางบางคนพยายามยึดบ้านหลังนี้จากคุณแน่ๆ」

       「ใช่ นั่นแหละ……」

 

       คำพูดของพวกเธอทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ ใครจะไปคิดว่าผมจะผูกพันกับคฤหาสน์นี้ขนาดนี้

 

       หลังจากการพูดคุย ผมพาพวกเธอไปยังห้องพักชั้นบน ผมอธิบายว่าห้องที่อยู่ริมสุดทางเดินฝั่งขวาเป็นห้องของผม และพวกเธอสามารถเลือกใช้ห้องอื่นได้ตามใจชอบ

       ทุกห้องในบ้านสะอาดเรียบร้อย ต้องขอบคุณการมีอยู่ของเฟอร์ริส

       สุดท้าย ชาร์เลือกใช้ห้องใหญ่สุดที่อยู่ปลายทางเดินฝั่งตรงข้ามกับห้องของผม ส่วนอัลเลือกใช้ห้องที่อยู่ติดกับห้องของชาร์

       แม้แต่ห้องของอัลเองก็ใหญ่กว่าห้องอพาร์ตเมนต์ของผมในญี่ปุ่น ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงความแตกต่างนี้

 

       จากนั้น เราออกสำรวจคฤหาสน์ด้วยกัน

       พวกเธอประทับใจกับห้องอาบน้ำซึ่งสามารถใช้ได้ทุกเวลา

 

       เมื่อเสร็จสิ้นการสำรวจ ผมบอกพวกเธอว่าผมจะไปที่กิลด์นักผจญภัย

       เราตัดสินใจเลื่อนการลงทะเบียนของพวกเธอออกไปเป็นวันพรุ่งนี้ เพราะพวกเธอยังเหนื่อยจากการเดินทางมาตลอดจนถึงเมืองนี้

       ผมบอกว่าพวกเธอสามารถใช้ห้องอาบน้ำได้ตามสบาย แล้วก็ออกจากคฤหาสน์

 

       เมื่อไปถึงกิลด์นักผจญภัย ผมเรียกหามิเลียที่อยู่ตรงโต๊ะประชาสัมพันธ์

 

       「อ๊ะ โทยะซัง ยินดีต้อนรับกลับ คุณเสร็จสิ้นภารกิจสำรวจแล้วหรือยังคะ? รายงานเป็นยังไงบ้าง?」

       「เกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมมีเรื่องต้องคุยกับรองหัวหน้ากิลด์ครับ」

 

       เมื่อได้ยินน้ำเสียงจริงจังของผม เธอกล่าวว่า 「รอสักครู่นะคะ」 แล้วเข้าไปในห้องด้านหลัง

       ไม่กี่นาทีต่อมา เธอกลับมาพร้อมกับเอลฟ์แลนด์

 

       「ไปที่ห้องประชุมส่วนตัวกันเถอะ」

 

       ผมกับมิเลียถูกพาไปยังห้องหนึ่งที่สามารถใช้ประชุมได้ประมาณหกคน แล้วพวกเราก็นั่งลง

 

       「เป็นยังไงบ้างทางป่าเหนือ……?」

       「ผมพบหมู่บ้านออร์คที่มี ออร์คคิง」

 

       เอลฟ์แลนด์ลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยิน

 

       「ว่าไงนะ!? มีออร์คคิงอยู่ที่นั่น!? ข้าจะไปรวบรวมนักผจญภัยเดี๋ยวนี้เลย!」

       「ไม่ต้อง ผมจัดการออร์คคิงไปแล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่เป็นปัญหา สิ่งที่สำคัญกว่าคือ—」

 

       ผมหยิบบัตรนักผจญภัยสองใบออกมาวางบนโต๊ะ

 

       「นี่คือบัตรของนักผจญภัยที่ถูกจับตัวไป แต่น่าเสียดายที่ไปไม่ทัน…… ผมได้นำร่างของพวกเขากลับมาด้วย」

       「ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือและการสละเวลาของเจ้านะ」

 

       เอลฟ์แลนด์ถอนหายใจและนั่งลงอีกครั้ง เขาหยิบบัตรขึ้นมาตรวจสอบชื่อก่อนจะส่งต่อให้มิเลีย

 

       「แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ลองดูนี่สิ」

 

       ผมหยิบชุดเกราะออกมาวางบนโต๊ะ

 

       「ผมปะทะกับทหารจาก…… ราชอาณาจักรเจเนอเรต」

 

       「อะไรนะ!?」

       「เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?」

 

       ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีตกใจอย่างมากจนเกือบจะทำโต๊ะพลิก

————————————————————-
เย้ สวัสดีทุกโคนนนนน นายน้ำพริกเองงงงงง  ตอนนี้ก็แปลมาได้ถึง ตอนที่ 40 แล้ว เย้  ปรบมือสิครับรอไร  อันที่จริงตอนนี้กำลังแปล เล่มที่ 4 อยู่ เนื่องจากมีสำนวนที่ผิดไปจากเดิมค่อนข้างมาก เลยแปลได้ค่อนข้างยาก ไม่แน่ใจว่าแนวการเขียนของนั้กเขียนเปลียนไปหรือเปล่า เอาเป็นว่าจะแปลให้อ่านเรื่อย ๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหานิยายในตอนเล่ม 2 นี้จะเริ่มแตกต่างจากมังงะไปเรื่อย ๆ นำครับตอนท้าย ๆ แทบจะแหกจากมังงะไปเลย  สำหรับใครที่ต้องการสนับสนุน ค่ากาแฟ หรืออยากให้ลงตอนเพิ่มมากว่าวันละ 2 ตอน ก็สามารถสนับสนุนได้ที่ QR โค้ดด้านล่างได้เลยนะครับ
 

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset