「ใกล้จะพ้นป่าแล้ว! ชาร์! อดทนไว้นะ 」
เด็กสาวสองคนในวัยเพิ่งกำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ กำลังวิ่งหนีบางอย่างอยู่ในป่าอันมืดมิด
เด็กสาวคนหนึ่งสวมเกราะเบาสีเงินขาวที่เต็มไปด้วยคราบโคลน มือข้างหนึ่งถือดาบ ส่วนอีกมือหนึ่งกำลังดึงมือของเด็กสาวอีกคนหนึ่งเอาไว้
แน่นอนว่าชุดที่เธอสวมนั้นคือชุดของอัศวิน ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยโคลน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลย
ทั้งสองเหนื่อยจนแทบหมดแรง หน้าอกของพวกเธอสูดอากาศเข้าออกอย่างรวดเร็วพอ ๆ กับจังหวะการวิ่ง และป่าที่ทอดยาวในสายตาของพวกเธอก็ดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด
「อัล…… ขอพักหน่อย…… ฉันไม่ไหวแล้ว…… 」
เด็กสาวอีกคนที่ชื่อ ชาร์ สวมชุดกระโปรงขาดวิ่นซึ่งชายกระโปรงด้านล่างถูกฉีกออกเพื่อให้วิ่งได้สะดวกขึ้น
เสียงหอบหายใจอย่างหนักเป็นเครื่องยืนยันถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ เด็กสาวที่ชื่ออัลเป็นผู้นำทาง ทำได้แค่เพียงจับมือของเธอแน่นขณะพาเธอวิ่งฝ่าป่าออกไป
「โอเค…… 」
ทั้งสองนั่งลงพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง อัลที่ใส่ชุดเกราะของอัศวิน ยังคงจ้องมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง พร้อมกับจับดาบแน่นในมือ
(ถ้าพวกเราสามารถไปถึงตัวเมืองได้…… ถ้าพบกับท่านนาตาลีได้ล่ะก็……)
อัลพยายามควบคุมลมหายใจขณะที่ความคิดนั้นผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
พวกเธอเคยผ่านการต่อสู้ที่สูญเสียสัมภาระทั้งหมดไป เหลือเพียง ถุงเวทมนตร์ของอัลเท่านั้น
เธอหยิบถุงน้ำออกมาจาก ถุงเวทมนตร์ และส่งให้ชาร์ ชาร์ดื่มน้ำดับกระหายก่อนจะส่งคืนให้ อัลดื่มน้ำบ้างแล้วเก็บถุงน้ำกลับลงไปใน ถุงเวทมนตร์ อีกครั้ง
(ฉันไม่คิดเลยว่าท่านพ่อ…… จะพ่ายแพ้……)
อัลมองดูสิ้นหวัง ขณะที่ความหงุดหงิดในใจเธอค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
การบุกโจมตีจาก อาณาจักรเจเนอเรต เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าใด ๆ
อาณาจักรเจเนอเรตเปิดฉากสงครามกับ จักรวรรดิลูเน็ตต์อีกครั้ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศมีการปะทะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่เคยเกิดสงครามเต็มรูปแบบเช่นครั้งนี้มาก่อน
ความแตกต่างระหว่างสองประเทศทำให้พวกเขาไม่อาจเจรจาสันติภาพได้
อาณาจักรเจเนอเรตเป็นประเทศที่เชื่อในความเป็นเลิศของมนุษย์และกดขี่เผ่าพันธุ์อื่นทั้งหมดให้เป็นทาส
ในขณะที่จักรวรรดิลูเน็ตต์เป็นประเทศที่ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของมนุษย์ เผ่าสัตว์ เอลฟ์ป่า และคนแคระ ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันเพื่อความรุ่งเรืองของประเทศ และทุกคนที่มีความสามารถจะได้รับการยอมรับโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ
เอลฟ์ป่าผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ได้รับการยอมรับเป็นจอมเวทหลวง เผ่าสัตว์เป็นอัศวิน คนแคระเป็นช่างฝีมือ และผู้ที่มีความสามารถทั่วไปก็เป็นข้าราชการ
แต่ละเผ่าพันธุ์ใช้จุดเด่นของตนเพื่อช่วยให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง
เมื่อได้รับคำเตือนถึงการรุกรานที่ใกล้เข้ามา เหล่าทหาร รวมถึงอัศวินและจอมเวท ถูกเรียกตัวทันทีเพื่อปกป้องประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลังจากไม่กี่วัน ทหารก็ถูกตีจนพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เมืองที่พวกเขาปกป้องถูกกองทัพของอาณาจักรเจเนอเรตยึดครอง
เมืองหลวงของจักรวรรดิลูเน็ตต์อยู่ห่างจากพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศเพียงประมาณยี่สิบวัน
ด้วยข่าวความพ่ายแพ้ที่ส่งมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ในที่สุดจักรพรรดิก็ตัดสินใจ
「—การ์เร็ต…… ข้าอยากให้……. 」
「ฝ่าบาท ข้าจะออกไปจัดการเพื่อท่านเอง 」
ผู้ที่ตอบคำสั่งของจักรพรรดิในชุดเกราะสีเงินขาวอันหรูหราคืออัศวินที่ยืนอยู่เคียงข้าง
การ์เร็ต วอน เมียร์ดาล หัวหน้ากองอัศวินราชองครักษ์ผู้มีหน้าที่ปกป้องจักรพรรดิ
การ์เร็ตเป็นที่รู้จักในฐานะอัศวินผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิลูเน็ตต์และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
เหล่าอัศวินและกำลังรบชั้นแนวหน้าถูกส่งออกไปทำสงคราม นำโดยการ์เร็ต
ถนนในเมืองหลวงเต็มไปด้วยประชาชนที่มาร่วมส่งเหล่าวีรบุรุษของพวกเขาออกไปรบ
พวกเขาเชื่อมั่นว่าเมื่อการ์เร็ต อัศวินผู้ไม่เคยแพ้ ออกไปทำศึก ชัยชนะย่อมเป็นของจักรวรรดิลูเน็ตต์
—อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันต่อมา มีการประกาศว่าการ์เร็ตพ่ายแพ้ให้กับบุคคลที่ถูกเรียกว่า “ผู้กล้า”
จักรพรรดิได้รับข่าวนี้อย่างลับ ๆ และตัดสินใจส่ง เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และ อัลเทรีย บุตรสาวของการ์เร็ตได้ไปลี้ภัยที่อาณาจักรซาลันเดียร์ โดยมีอัศวินบางส่วนคุ้มกัน
ในเวลาเดียวกัน พระองค์อนุมัติจดหมายร้องขอความช่วยเหลือไปยังอาณาจักรซาลันเดียร์ และให้ทูตออกเดินทางไปพร้อมกัน
「ข้าจะสู้เคียงข้างท่านพ่อ เพื่อปกป้องประเทศนี้! 」
ชาร์ล็อตต์พูดขึ้นด้วยความเด็ดเดี่ยว แต่การ์เร็ตกลับถอนหายใจเสียงดัง เขาหันไปให้คำสั่งกับอัศวินผู้ติดตาม
「อัลเทรีย ข้าขอมอบหมายเจ้าดูแลชาร์ล็อตต์อย่างเต็มที่ และพาเธอไปหาท่านนาตาลีให้ได้ 」
「ข้าจะพาเธอไปตามที่ท่านสั่ง 」
「ข้าไม่คาดคิดว่ามันจะกลายเป็นเช่นนี้ ข้าขอโทษจริง ๆ …… 」
อัลเทรียมองจักรพรรดิผู้ก้มศีรษะขอโทษเธอด้วยความร้อนรน แล้วบอกให้เขาเงยหน้าขึ้น
「ฝ่าบาท บิดาของข้าก็เพียงแต่ทำหน้าที่ของเขา…… แต่มันช่างน่าหงุดหงิดเหลือเกิน…… 」
แม้อัลเทรียจะมีใบหน้าที่เศร้าหมองจนเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอก็ยอบกายคำนับก่อนจะรีบเดินตามอัศวินสองคนที่จับตัวชาร์ล็อตต์ ซึ่งตกตะลึงและยังไม่ทันตั้งตัว
「—ได้โปรดดูแลชาร์ล็อตต์ด้วย…….. 」
รถม้าที่นำชาร์ล็อตต์และอัลมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรซาลันเดียร์ ถูกกองทหารของอาณาจักรเจเนอเรตตามไล่หลังมาติด ๆ
เหล่าอัศวินที่คุ้มกันรถม้ารับหน้าที่เป็นโล่เพื่อถ่วงเวลาการไล่ล่าของศัตรู เปิดทางให้เจ้าหญิงสามารถหลบหนีได้สำเร็จ
เมื่อพวกเธอจำเป็นต้องทิ้งรถม้าและหลบหนีเข้าไปในป่า มีเพียงอัลเทรียที่เป็นอัศวินคุ้มกันคนเดียวที่ยังเหลือรอด
「ข้าวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว อัล…… 」
「ฝ่าบาท! ไม่สิ, ชาร์! ห้ามพูดแบบนั้น 」
「แต่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านนาตาลีอยู่ที่ไหนในซาลันเดียร์…… 」
「เธอห้ามยอมแพ้นะ นึกถึงเหล่าทหารที่สู้เพื่อประเทศนี้ อัศวินที่ยอมเป็นโล่เพื่อช่วยเธอหลบหนี…… เพื่อทุกคน ชาร์ พวกเราจะต้องรอดและไปพบท่านนาตาลีให้ได้ 」
「—เธอพูดถูก เพื่อทุกคน อัล เราต้องไปหาท่านาตาลีให้ได้…… 」
「ใช่! ฉันจะพาเธอไปพบท่านนาตาลีให้ได้ 」
ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วพยักหน้า ก่อนจะก้าวเข้าสู่ป่าที่เต็มไปด้วยความหนาทึบอีกครั้ง
————————————————————
ปีใหม่ นี้ว่างมากครับ นายน้ำพริกเลยลองอ่าน แล้วก็แปลล่วงหน้าไปจนจบเล่ม 2 ไปแล้ว 555 พอแปลจบเลยตกกะใจ เพราะว่า เนื่อเรื่องเริ่มไม่เหมือนในมังงะ เลย ออกจะดิบเถื่อนว่า แต่ก็ยังพอเข้าเค้าในมังหงะอยู่บ้าง แต่พอขึ้นเล่มสามเท่านั้นแหละ เหมือนอ่านคนละเรื่องเลย ตอนนี้นายน้ำพริกก็เลยพยาม แปลเล่ม 3 ต่อไป จู่ ๆ ก็เลยเวลาไป ตี 3 พรุ่งนี้ไปทำงานแล้ว ก็เลยยังค้างคา เดี๋ยวว่าจะไปลากต่อให้จบ ส่วนสำหลับนักอ่านทุนท่าน รอไปเถอะวันละ 2 ตอนอะดีแล้ว 555555 เพราะนายน้ำพริกต้องเติมพลังงานด้วยลาเต้ฉะนั้นถ้าเลเต้ไม่ถึงก็เอาไปวันละ 2 ตอนนั้นแหละ 55555