สมาคมนักผจญภัย
หลังจากล็อกประตูห้อง ผมก็ลงไปยังห้องอาหาร ที่นั่นสมาชิกกลุ่มคุ้มกันคนอื่น ๆ ก็ได้มารวมตัวกันอยู่แล้ว
「โทยะ! นายมาช้านะ! 」
ผมพยักหน้าให้ลูมิน่าและคนอื่น ๆ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ว่างอยู่ บนโต๊ะมีอาหารและเครื่องดื่มได้ถูกสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว และในไม่ช้าเอลก็ถูกแจกจ่ายให้ทุกคน
ลูมิน่าลุกขึ้นยืนและกล่าวอวยพร หลังจากตรวจสอบว่าทุกคนถือแก้วเอลไว้ในมือ
「นี่คือการดื่มฉลองที่เรามาถึงเมืองดัมเบลอร์ได้อย่างปลอดภัย! ไม่ต้องห่วงเรื่องพรุ่งนี้ เพราะเป็นวันว่างหนึ่งวัน ฉะนั้น วันนี้เราดื่มให้เต็มที่! คัมปายยยยยย! 」
「「「「คัมปายยยยยย! 」」」」
ทุกคนชนแก้วกัน และแต่ละคนยกเอลขึ้นดื่มอึกใหญ่
แต่รสชาติมันแย่สุด ๆ …… ด้วยอุณหภูมิของเอลในโลกนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ ผมที่ชินกับเบียร์เย็น ๆ จากโลกเดิมมากกว่ารับไม่ได้ (เปลี้ยวปากอย่าบรรยายเยอะเดี๋ยวหิว)
ดังนั้น ผมจึงแอบเอาแก้วไปไว้ใต้โต๊ะแล้วใช้เวทมนตร์แช่เย็นมันก่อนจะยกดื่ม
อ่าาาา เอลเย็น ๆ มันช่างดื่มง่ายกว่าเดิมจริม ๆ
ลูมิน่าเห็นท่าทางพอใจของผม และรีบยิงคำถามขึ้นมาทันที
「โทยะ นายทำหน้าแบบนั้นทำไม? แอบทำอะไรอยู่ตรงนั้น? 」
คำถามนี้ทำให้ความสนใจของทุกคนบนโต๊ะพุ่งตรงมาที่ผมทันที (ชิบหัยละ)
แก้วของผมยังอยู่ใต้โต๊ะ นั่นยิ่งทำให้ทุกคนสงสัยเข้าไปใหญ่….
「ไม่……มัน…ไม่มีอะไร? 」
ลูมิน่าออกตัวด้วยความเร็วที่สามารถเอาชนะเสือชีตาห์ได้เลยทีเดียว คว้าแก้วจากมือผมตอนที่ผมกำลังยกมันขึ้นมา
「นาย…นี่อะไร…ในแก้วนี้มัน? 」
ลูมิน่าดูประหลาดใจกับแก้วที่เย็นจัด เธอลองดื่มดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
สีหน้าของเธอดูตกใจมากขึ้นเมื่อเอลเย็น ๆ สัมผัสริมฝีปากเธอ
จากนั้น—เธอก็เงียบ ๆ ยื่นแก้วของตัวเองมาหาผม
「—เอ่อ…ก็ได้ (วะ)」
ผมตอบรับคำขอที่กดดันมาอย่างเห็นได้ชัดและทำการแช่เย็นแก้วของเธอ
ลูมิน่าลองดื่มเอลที่เย็นฉ่ำของเธออย่างกระตือรือร้นด้วยความพึงพอใจ แต่ก็ยังสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรสชาติอันสดชื่น และลื่นคอ เมื่อเอลถูกแช่เย็น
「นายทำอะไรลงไป!? 」
คนอื่น ๆ รอบโต๊ะต่างก็ตั้งตารอให้ผมแช่เย็นแก้วของพวกเขาเหมือนกัน ทุกคนมองมาที่ผมด้วยสายตาคาดหวัง จากนั้นก็วางแก้วของพวกเขาตรงหน้าผม
เหมือนกับที่ทำให้แก้วของลูมิน่า ผมก็ทำให้เอลอุ่น ๆ ของพวกเขาเย็นด้วยเช่นกัน
「นี่มันอะไรกัน!? เจ๋งสุด ๆ! 」
「รสชาติดีขึ้นมากเลยตอนที่มันเย็น ๆ แบบนี้ … 」
พวกเราดื่มเอลเย็น ๆ ควบคู่ไปกับอาหารที่เสิร์ฟมา
เอลเย็น ๆ ดื่มง่ายขึ้นมาก และหมดลงอย่างรวดเร็ว
สองชั่วโมงผ่านไป ทุกคนก็พร้อมจะเข้านอน และมิลก้าที่ดูเหมือนจะเมาเล็กน้อยก็เสนอขึ้นมาว่า
「โทยะ! นายต้องมากับพวกเราตลอดเลยนะ! มาแช่เย็นเอลให้ฉันด้วย! 」
ส่วนลูมิน่าที่ร่าเริงเกินเบอร์ เธอเล่นใส่ผมในท่าล็อกคอ ผมอดหัวเราะให้กับความเฮฮาของเธอไม่ได้
ไม่นานทั้งกลุ่มก็แยกย้ายกันไปยังห้องพักของตัวเอง ทุกคนเดินโซซัดโซเซ หลังจากที่ดื่มหนักกันมา ผมหลับไปทันทีที่หัวแตะหมอน นี่คงเป็นผลจากการดื่มหนักแน่ ๆ
แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ผมค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา จากนั้นอาการปวดหัวจากการดื่มหนักก็ปรากฏออกมา นั้นก็คือ อาการเมาค้าง มันทำให้หัวของผมปวดตุบ ๆ อยู่อย่างนั้น ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงช้า ๆ จากนั้นก็ใช้เวทมนตร์สองอย่างเพื่อบรรเทาอาการ: เวทมนตร์ล้างพิษเพื่อรักษาอาการเมาค้าง และเวทมนตร์ทำความสะอาดร่างกายแทนการอาบน้ำ
เวทมนตร์ทำความสะอาดร่างกายเป็นวิธีเดียวในการอาบน้ำที่ผมรู้จักในโลกนี้ มันเป็นเวทมนตร์สามัญประจำบ้านที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้ได้เพียงแค่มีพลังเวทมนตร์ หากบางครั้งมีคนไม่สามารถใช้เวทมนตร์นี้ได้ ก็จะมีใครสักคนที่โรงแรมที่สามารถทำให้ได้โดยเสียค่าบริการ เวทมนตร์สะดวกสบายนี้ทำให้การอาบน้ำเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเฉพาะในหมู่ขุนนางและพ่อค้าเศรษฐีเท่านั้น การผ่อนคลายที่ดีที่สุดในโลกนี้คือการใช้เวลาร่วมกับเพื่อน ๆ
「เวทมนตร์นี้ก็มีประโยชน์ก็จริงนะ แต่มันไม่ใช่การอาบน้ำ…… โอ้ยยข่อยสิอยากเมือบ้าน……」
ผมลงไปทานอาหารเช้าและตัดสินใจเดินสำรวจเมือง เนื่องจากวันนี้เป็นวันว่าง
เพื่อนดื่มของผมจากเมื่อคืนไม่มีใครลงมานั่งทานอาหารเช้าสักคน ผมหัวเราะเบา ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ผมบอกกับเจ้าของโรงแรมว่าจะออกไปข้างนอกหากมีใครมาหาผมก็ฝากบอกด้วยละกัน จากนั้นก็เดินออกจากโรงแรม
เมืองดัมเบลอร์นั้นเล็กกว่าเฟนดี้มาก โดยมีประชากรเพียงสามพันคน มันเป็นจุดผ่านทางการค้าระหว่างเมืองเฟนดี้กับเมืองทางทิศใต้ ผมเดินสำรวจเมืองไปเรื่อย ๆ ชื่นชมสินค้าต่าง ๆ ที่แสดงขายในแผงลอย มีป้ายเหมือนกับตามถนนในเฟนดี้และสัญลักษณ์ของสมาคมนักผจญภัยรูปโล่และดาบปรากฏขึ้น
ผมไม่ได้ตั้งใจจะรับงานใด ๆ ในตอนนี้ แต่ด้วยความสงสัยเกี่ยวกับภารกิจของเมืองนี้ ที่พวกเขาประกาศเอาไว้ จึงทำให้ผมเดินเข้าไปข้างใน
โครงสร้างภายในของสมาคมนี้เหมือนกับสาขาเฟนดี้ เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า
ภายในเต็มไปด้วยนักผจญภัยที่มองหางานช่วงเช้า ๆ ผมเดินดูงานที่ติดประกาศไว้บนบอร์ด
ตามที่คาดไว้ เนื่องจากป่ามีอยู่ใกล้ ๆ งานหลักจึงเน้นการเก็บรวบรวมวัสดุและการคุ้มกัน นักผจญภัยรุ่นเยาว์ที่อยู่ข้างหน้าผมกำลังพิจารณางานกันอยู่ ขณะที่ผมยืนดูพวกเขาอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีการแตะที่แขนจากข้างหลัง
เมื่อหันไป ผมพบเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่ง เขาดูไม่ถึงสิบขวบและมีน้ำตาคลอเบ้า รูปลักษณ์ของเขาบอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างน่าสงสาร เขาสวมเสื้อผ้าเก่าและสกปรก ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยโคลน
ผมก้มตัวลงไป ในระดับสายตาของเขาก่อนจะถามออกไป
「มีอะไรงั้นเหรอ? หลงทางรึเปล่า?」
「พี่ชาย… พี่เป็นหมอใช่ไหม…? พี่สาวของผมไม่สบาย แต่ผมต้องการเงินเพื่อช่วยเธอ แต่ผมไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร…」
ผมลูบหัวเด็กชายที่ขอความช่วยเหลือจากผมพร้อมน้ำตา
「—เข้าใจแล้ว พี่จะช่วยเอง พาไปหาพี่สาวของนายได้ไหม?」 「อะไรนะ? จริงเหรอ!?」
ผมยิ้มให้กับเขาและพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น เด็กชายเช็ดน้ำตาและยิ้มกว้างให้กับผม แต่ทันใดนั้นเขาก็จับแขนผมแล้วหลบเข้ามาหลังผม
「เฮ้ ๆ อย่าไปยุ่งกับเด็กสลัมแบบนี้ล่ะ นี่นาย… ดูไม่คุ้นเลย นายพึ่งมาเมื่องนี้หรือเปล่า?」
เมื่อหันไปก็พบต้นต่อของเสียง ด้วยความกลัวและไม่สบายใจที่ทำให้เด็กชายหลบอยู่หลังผม ผมพบกับกลุ่มนักผจญภัยท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตร แก๊งทรีโอ้ สามหน่อ
——————————————————————————————————-
สารภาพผิดครับ เนื่องจากกลับไปอ่านตอน 20 แล้วตอนนั้นเมาค้างหน่อย ๆ เจอคำผิดเป็นกระบุงแถมแปลได้ไม่ลื่นด้วย ก็อบจาก กูเกิลมา แล้วไม่ได้เกลาคำให้ดี ตอนนี้แก้แล้วครับ
สำหรับใครที่ชื่นชอบคอมเมนต์เป็นกำลังใจหรือสนับสนุนค่า เอลเย็น ๆ เหมือนตอนนี้ให้ด้วยจะดีมากเลยครับ แปลตอนนี้ไปกลื่นน้ำลายไป ทั้งที่พึ่งจะเมาค้างไปแท้ ๆ 5555