นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 21 ภารกิจคุ้มกัน

ตอนที่ 21 ภารกิจคุ้มกัน

        Escort Mission

       พวกเรามุ่งหน้าไปตามเส้นทางฝั่งตะวันตกมุ่งสู่เมืองดัมเบลอร์ โดยแวะพักเป็นระยะ ๆ ตลอดทาง

 

       ผมนั่งอยู่บนหลังของโคคุโย ส่วนลูมิน่านำทางอยู่ด้านหน้าขบวน เธอขี่ม้าด้วยท่าทางสง่างาม ทุกครั้งที่ม้ากระโดดหรือสะเทือน หน้าอกของเธอก็กระเพื่อมตามจังหวะอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ…(โอ้ยหัวใจจะวาย) ใครมันจะไปสนม้ากันล่ะตอนนี้ อย่ามาว่าแต่ผมเลย ผมมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โสดสนิทคนหนึ่งเท่านั้นเอง

 

       ดูเหมือนว่าลูมิน่าจะสังเกตว่าผมมองเธออยู่ เธอก็เลยเริ่มบทสนทนาขึ้น

 

       「นายมีม้าสงครามออบซิเดียนที่สุดยอดไปเลยนะ ถึงแม้ว่านายจะเป็นนักบวชก็เถอะ แต่การขี่นี่มันก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของนายในฐานะนักผจญภัยได้ไม่น้อย ฉันเองก็อยากได้บ้างเหมือนกัน สักวันหนึ่งล่ะนะ」

       「ผมโชคดีได้มันมาโดยบังเอิญนะครับ…แหะ ๆ」

 

       ผมตอบเธอไปอย่างคลุมเครือ เรื่องจริงที่ว่าโคคุโยเป็นไอเทมจากคลังมิติ ของผมนั้นคงพูดไม่ได้เด็จขาด

 

       ระหว่างการเดินทาง ผมเปิดใช้เวท ค้นหา  คอยตรวจสอบบริเวณโดยรอบตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เราจึงมาถึงจุดตั้งแคมป์ในวันแรกอย่างปลอดภัย

 

       พ่อค้ากับคนรับใช้ของเขานำเต็นท์ออกจากรถม้าและกางเต็นท์ขึ้น พวกเขาเตรียมเต็นท์ขนาดเล็กไว้ให้พวกเราเหล่าคนคุ้มกัน กันสองหลัง ผมมีเต็นท์ในคลังมิติอยู่แล้ว แต่เมื่อพ่อค้าเตรียมไว้ให้ ผมก็ตอบรับน้ำใจของเขาจะดีกว่า

 

       เนื่องจากเราอยู่ค่อนข้างใกล้กับป่า และมีโอกาสที่มอนสเตอร์จะออกมาในตอนกลางคืน เราจำเป็นต้องมีการจัดเวรยามเฝ้าในตอนกลางคืน ลูมิน่าจึงอธิบายลำดับการผลัดเวรยาม

 

       「ตอนกลางคืนจะมีการเฝ้ายามทั้งหมดสามผลัด ผลัดแรกคือไดกับมิลก้า ผลัดต่อมาคือฉันกับโทยะ และผลัดสุดท้ายคือคิทกับอากินะ」

 

       เธอจัดคู่แต่ผลัดล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับหน้าที่ของแต่ละคน แผนของลูมิน่าคือ อันดับแรกเนื่องจากผมเป็นนักบวช แม้ว่าจะอยู่แรงค์ C แต่ถ้ามีมอนสเตอร์โผล่มา ผมต้องการคนที่สามารถปกป้องผมได้ (ถามจริง?)

 

       ถึงผมจะใช้เวทโจมตีได้ค่อนข้างเก่ง แถมยังใช้ดาบสองมือได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ผมก็เข้าใจความตั้งใจของเธอ ดังนั้นจึงไม่คิดจะเถียงอะไร

 

       ทุกคนดูพอใจกับการจัดการนี้ และพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าการอยู่ผลัดที่สองจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่การได้ทำงานร่วมกับนักผจญภัยแรงค์ B ก็ถือว่าคุ้มค่า

 

       คนคุ้มกันส่วนใหญ่ต้องเตรียมอาหารเอง อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ก็สามารถซื้อเสบียงจากพ่อค้าได้ ผมเตรียมอาหารสำหรับภารกิจนี้ไว้ในคลังมิติแล้ว จึงไม่ต้องกังวลอะไร ผมหยิบขนมปังที่ซื้อมาจากในเมือง จากนั้นหยิบหม้อซุปและกระทะออกมา

 

       น้ำซุปยังร้อนฉุย ๆ  เพราะคลังมิติจะหยุดเวลาไว้สำหรับสิ่งของทั้งหมดที่เก็บไว้ ผมตักซุปใส่ชาม และลองชิมน้ำซุปที่ได้จากเนื้อและผักที่ปรุงมาอย่างลงตัว

 

       「อื้มมม ….อาโหร่ยยยยยย……」

 

       ผมพยักหน้าให้กับรสชาติอันยอดเยี่ยม ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

 

       「ดูเหมือนว่าอาหารของนายจะน่ากินมากเลยนะ……」

 

       เมื่อผมหันไปมอง ลูมิน่าก็ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับขนมปังและเนื้อแห้งในมือ คนคุ้มกันคนอื่น ๆ อีกสี่คนก็มองมาทางผมเช่นกัน พวกเขากำลังถือเนื้อแห้งอยู่ในมือ แต่สายตาทั้งหมดจับจ้องมาที่หม้อและกะทะของผม

 

       「—จะเอาหน่อยไหม…..?」

 

       ลูมิน่ายิ้มกว้างเมื่อได้ยินข้อเสนอของผม เธอพยักหน้ารัว ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ผม

       คนอีกสี่คนในกลุ่มก็เข้ามาล้อมรอบผมด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

       ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบชามจากคลังมิติออกมาแจกจ่ายให้ทุกคน

       ลูมิน่าหรี่ตามองเมื่อเห็นผมทำแบบนั้น

 

       「—มีคลังมิติสินะ? ไม่แปลกใจเลยที่นายจะอยู่แรงค์ C ทั้งที่เป็นนักบวชถ้านายอยู่แรงค์ C ในอายุเท่านี้ อีกไม่นานนายก็อาจจะได้เข้าร่วมกลุ่มนักผจญภัยระดับสูงเลยก็ได้ 」

       「ความจุของมันไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกครับ…แต่ก็สะดวกดีที่มีไว้ 」

 

       ผมตักซุปจากหม้อใส่ชามและยื่นให้ทุกคน แต่ละคนรับชามพร้อมรอยยิ้มและขอบคุณ ยกเว้นไดที่ดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด อย่างกับว่าผมจะวางยาพิษเขายังไงยังงั้น พอผมยื่นให้ซ้ำ เขาก็พูดลอดฟันออกมาด้วยความไม่พอใจว่า 「เอาก็ได้!」 ก่อนจะยอมรับชามไป (เรื่องมากเดี๋ยวได้กินอย่างอื่นแทน)

 

       「อร่อยมาก! 」

       「น้ำซุปนี่ดีจริง ๆ เลย 」

 

       พวกเขาซดซุปแล้วแสดงความคิดเห็นกันไป ผมนั่งฟังพร้อมกับกินซุปและขนมปังของตัวเองจนหมด

       หลังจากกินเสร็จ ผมใช้เวทน้ำล้างชามให้สะอาดก่อนจะเก็บลงในคลังมิติ

 

       「เราจะผลัดเวรเฝ้ายามตามลำดับที่บอกไปแล้วนะ อย่าลืมคอยเติมฟืนในกองไฟด้วยล่ะ 」

 

       พวกเราพยักหน้าให้ลูมิน่า จากนั้นแต่ละคนก็เข้าเต็นท์แยกตามเพศเพื่อพักผ่อน ยกเว้นไดกับมิลก้าที่ต้องเฝ้าเวรยามผลัดแรก

       ผมเข้าเต็นท์ หยิบผ้าปูพื้นออกมาจากคลังมิติอย่างเงียบ ๆ แล้วล้มตัวลงนอนทันที

 

       「……เฮ้ ตื่นได้แล้ว ถึงตานายแล้ว 」

 

       เสียงแหบ ๆ ของไดปลุกผมจากความฝัน ดูเหมือนจะถึงเวลาสลับเวรแล้ว ผมลุกขึ้นจากเต็นท์ ขยี้ตาอย่างง่วงงุนก่อนจะออกไปข้างนอก

       ลูมิน่าตื่นแล้วและนั่งอยู่ข้างกองไฟ ผมจึงเดินไปสมทบกับเธอ

 

       「ปกติแล้วมันควรจะหลับยากหน่อยนะ สำหรับภารกิจคุ้มกันครั้งแรก… 」

 

       ผมคิดในใจว่าเธอพูดถูก เหตุผลเดียวที่ผมหลับสบายก็เพราะผ้าที่เอามาปูไว้นั่นแหละ

 

       พวกเราคุยกันเรื่อย ๆ เพื่อไล่ความง่วง ในขณะเดียวกันผมก็เปิดใช้เวท ค้นหา ตลอดเวลา แต่ไม่มีสัญญาณของมอนสเตอร์เลย

       พวกเราคอยเติมฟืนลงในกองไฟเป็นระยะ ๆ

 

       「ถึงเวลาแล้วสินะ…」

 

       เวลาผ่านไปไวมาก ผมมองนาฬิกาทรายตามที่ลูมิน่าบอกก่อนจะลุกขึ้นไปปลุกคนในเต็นท์ ผมปลุกคิทเพราะผมเข้าไปในเต็นท์ผู้หญิงไม่ได้ จากนั้นก็กลับเข้าเต็นท์ตัวเองเพื่อนอนต่อ

 

       เช้าวันใหม่มาถึงโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติเกิดขึ้น

 

       เรายังคงเดินทางต่อ และตั้งแคมป์อีกครั้งในคืนวันที่สอง

       ช่วงบ่ายของวันที่สาม ในที่สุดเมืองดัมเบลอร์ก็ปรากฏให้เห็นไกล ๆ เมืองนี้เหมือนกับเมืองเฟนดี้ มีกำแพงหินสูงประมาณสามเมตรล้อมรอบ ลูมิน่าอธิบายว่า กำแพงของเมืองถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันมอนสเตอร์ที่มักออกมาจากป่าใกล้เคียง

 

       「อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว! อย่าเพิ่งท้อกันล่ะ 」

 

       พวกเราพยักหน้าเห็นด้วย

 

       แปลกจัง…จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววของมอนสเตอร์เลยสักตัว…

 

       พวกเราเดินทางถึงตัวเมืองในอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เห็นเมืองอยู่ไกล ๆ

       เมื่อมาถึงประตูเมือง พวกเราแสดงบัตรสมาคมนักผจญภัยตามธรรมเนียมเพื่อเข้าเมือง หลังจากส่งพ่อค้าไปยังหอการค้าและถูกปล่อยตัวเป็นอิสระจากหน้าที่ เราก็เดินทางไปยังโรงแรมที่ได้รับการระบุเอาไว้

       ผมกับลูมิน่าแยกตัวออกมาเพื่อนำโคคุโย และม้าของเธอไปยังคอกสัตว์ก่อนจะเช็คอินเข้าโรงแรม

       ค่าเข้าพักก็เป็นส่วนหนึ่งของรางวัลจากภารกิจคุ้มกัน ซึ่งครอบคลุมค่าห้องพักเพียงหนึ่งห้องต่อหนึ่งกลุ่ม ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน ผมจึงเลือกที่จะเช่าห้องส่วนตัวของตัวเอง

 

       หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นออก ผมสูดหายใจลึก ๆ ด้วยความเหนื่อยเล็กน้อยก่อนจะเช็คของในคลังมิติ

 

       「…ก็ดีใจอยู่หรอกที่พวกเขาให้เต็นท์มาด้วย แต่คงเอาสิ่งนี้ออกมาไม่ได้จริง ๆ สินะ? 」

 

       ในคลังมิติมีไอคอนที่ระบุว่า 『บ้าน』 ติดอยู่ หากผมเอาสิ่งนี้ออกมา ผมมั่นใจว่าจะต้องมีคนสงสัยเรื่องความจุของคลังมิติแน่ ๆ หลังจากตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นจริง ๆ ผมก็ออกจากห้องและมุ่งหน้าไปยังห้องอาหาร

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset