นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ 0.2 บทนำ 2

ตอนที่ 0.2 บทนำ 2

        ทันทีที่ผู้กล้าตัวจริงถูกอัญเชิญ ผมก็ถูกลืมไปโดยปริยาย

 

       ขุนนางและอัศวินต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขามาถึง พวกเขาต่างโห่ร้อง จับมือ และตบไหล่กันด้วยความดีใจที่ได้พบกับความหวังใหม่

 

       เจ้าหญิงที่แก้มมีสีชมพูท่ามกลางความตื่นเต้นทั้งหมดนี้ ได้ยื่นมือไปจับมือของชายหนุ่ม ที่ถูกเรียกว่าผู้กล้า และพูดเสียงอันอ่อนหวานว่า 「ท่านผู้กล้า……」

 

       การเฉลิมฉลองดำเนินต่อไปสักครู่ จากนั้นเสียงทั้งหมดก็ค่อยๆ เงียบลง

 

       เจ้าหญิงที่ลืมเรื่องผมไปแล้วได้ กระแอมไอเล็กน้อย พร้อมกับยืดตัวตรง ก่อนที่จะพูดกับผู้กล้า 「ข้าจะพาท่านไปพบพระบิดาของข้า หรือก็คือองค์ราชา ท่านผู้กล้าโปรดตามข้ามาด้วยค่ะ ข้าจะเป็นคนพาท่านชมรอบ ๆ เอง」

 

       เจ้าหญิงเดินออกจากห้องโถงพร้อมกับผู้กล้า ขุนนางต่าง ๆ ก็เดินตามไป ขุนนางในชุดเกราะหรูหราเหล่านั้นก็เดินตามไปเช่นกัน และอัศวินที่เหลือก็เริ่มจัดการทำความสะอาดห้องโถง

 

       หืม? แล้วกูล่ะเฮ้ย? จะทำยังไงดี? ผมตะโกนเรียกอัศวินที่ยังคงอยู่ในห้องโถงอย่างตกใจ 「ขอโทษครับ ผมต้องทำยังไงต่องั้นเหรอ?」

 

       อัศวินดูเหมือนจะมีสีหน้ากังวลและเดินไปหาเมดสาวคนหนึ่ง 「ช่วยพาคนคนนี้ไปที่ห้องรับรองที เราจะพากลับมาที่นี่ในพรุ่งนี้ แล้วก็—」

 

       อัศวินกระซิบอะไรบางอย่างที่หูเมดสาว และเธอก็พยักหน้าเงียบ ๆ แล้วให้ผมตามเธอไป

 

       เมดสาวพาผมเดินไปตามทางเดินจากห้องโถงพิธีไปยังห้องหนึ่งในพระราชวัง ทางเดินนี้ตกแต่งด้วยการแกะสลักและภาพวาดที่ค่อนข้างจะซับซ้อน

 

       ผมเดินตามเมดสาวไป พร้อมกับมองไปรอบ ๆ สิ่งก่อสร้างที่ผมเคยเห็นแค่ในภาพถ่ายที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต

 

       「ท่านสามารถใช้ห้องนี้ไปก่อนนะคะ ห้องน้ำอยู่หลังประตูที่อยู่ด้านหลังนี้ ข้าจะนำอาหารมาให้ท่านนะคะ」

 

       ห้องที่ผมถูกพามาไม่น่าเชื่อว่าจะเรียบง่ายเกินกว่าทางเดินหรูหราที่เราเพิ่งผ่านมา ตัวห้องมีขนาดประมาณปูด้วยเสื่อทาทามิ 8 ผืน มีเตียง โต๊ะ และเก้าอี้ ตู้เล็ก ๆ และประตูหนึ่งบานที่อยู่ด้านหลัง ที่แปลกคือห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง

 

       ห้องนี้ไม่ใช่ห้องรับรองแขกแน่ ๆ ให้ตายสิ

 

       「นี่คือห้องรับรองแขก? จริงเหรอ?」 ผมมองหน้าเมดสาวเพื่อยืนยันสิ่งที่ผมถาม ผมหมายถึงห้องนี้มันต่างจากที่ผมคาดไว้มาก เมดสาวทำแค่เพียงพยักหน้าอย่างเรียบ ๆ

 

       ผมเดินเข้าไปในห้อง และทันใดนั้น พนักงานสาวก็ปิดประตูใส่ทันทีที่ผมเข้ามา

 

       คลิก!!. หืม? นั่นเสียงประตูล็อคงั้นเหรอ? ผมลองผลักประตูให้เปิด แต่มันไม่ขยับเลย ผมตรวจสอบหาปุ่มล็อคที่ด้ามประตู แต่ห้องนี้เป็นห้องที่ล็อคได้จากด้านนอกเท่านั้น 「เวรเอ๊ย! คุณหลอกดาว!」

 

       ผมยอมแพ้กับประตูที่ไม่ว่าจะพยามพยายามผลักดันเท่าไรก็ไม่เปิด ก่อนจะตัดสินใจนอนลงบนเตียง 「สิ่งที่เราไม่เข้าใจคือ ทำไมเราถึงถูกอัญเชิญมาได้ล่ะเนี่ย แล้วทำไมมาอยู่ในร่างนี้ได้…」

 

       ไม่มีคำตอบใด ๆ ที่เข้ามาในหัว ผมจึงปล่อยความคิดนั้นไป แล้วเดินไปที่ประตูห้องน้ำ ในห้องน้ำมีโถส้วมและอ่างล้างมือ… แถมยังมีกระจกอีกด้วย มันไม่ใช่กระจกสมัยใหม่เหมือนที่บ้านของผม แต่เป็นกระจกที่ทำจากโลหะที่ถูกขัดจนมันเงา ผมมองไปที่ภาพสะท้อนในกระจก ใบหน้าที่ดูคุ้นเคย มันคือรูปลักษณ์ของอวตารนักบวชที่ผมใช้ในเกม “Pandemic World” หน้าตาก็ดูพอใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ไม่เท่ากับผู้กล้าคนที่ถูกอัญเชิญมาเมื่อกี้  

       「เอาหล่ะ…」

 

       ******************************

       ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่วันเดียว แต่การได้กลับมารู้สึกหนุ่มอีกครั้งก็ดีไม่ใช่น้อย พรุ่งนี้ผมวางแผนที่จะกลับไปยังบริษัทเดิมที่ผมทำงานอยู่

 

       ผมนอนลงบนเตียง พร้อมกับคิดข้อแก้ตัวที่พอจะใช้ได้ในวันพรุ่งนี้สำหรับการหายตัวไปจากงานอย่างกะทันหัน

 

       เวลาผ่านไปโดยไม่มีเสียงเคาะประตูแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายผมตัดสินใจดื่มน้ำจากห้องน้ำเพื่อบรรเทาความหิว แล้วพยายามข่มตานอน

 

       เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงปลดล็อกประตู ประตูเปิดออก และเมดสาวคนเดิมที่พาผมมาห้องนี้เมื่อวานเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่ดูเหมือนจะมีอาหารเช้า

 

       「ขอโทษค่ะ!」

 

       ถึงแม้ผมยังงัวเงีย แต่ก็โกรธเธอไม่ลง ขณะที่เธอเข็นรถเข็นมาวางไว้ข้างโต๊ะ 「 นี่อาหารเช้าของท่าน ข้าจะวางไว้ตรงนี้นะคะ」 จากนั้นประตูก็ถูกปิดอีกครั้งหลังจากเธอออกไป

 

       「อยากออกจากห้องนี้จะแย่ แต่ก่อนอื่นต้องกินอะไรก่อนล่ะ หิวจนจะตายอยู่แล้ว…」 ผมรีบลุกออกจากเตียงและยกฝาครอบถาดอาหารบนรถเข็นออก

 

       「นี่ล้อเล่นใช่ไหม…」 ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกิน เพราะตอนนี้ผมหิวจนไม่มีทางเลือกอื่น

 

       สิ่งที่อยู่บนถาดคือขนมปังกับซุปผักเย็น ๆ ที่ดูยังไงก็เป็นของเหลือชัด ๆ

 

       แต่ก็อย่างที่เขาว่ากัน ความหิวคือเครื่องปรุงที่ดีที่สุด ใช่ไหมล่ะ?

 

       แม้ว่าขนมปังจะแข็งเกินไป และซุปจะมีแค่เศษผักเย็น ๆ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ มันก็เหมือนเป็นอาหารสุดหรูสำหรับผม อาหารทั้งหมดลงไปอยู่ในท้องผมในพริบตา

 

       「ยังหิวอยู่เลย……」

 

       ขณะที่ผมกำลังดื่มน้ำเพิ่มเพื่อชดเชยความหิว ประตูห้องก็เปิดออก ชายชราในชุดคลุมยาวและอัศวินสองสามคนเดินเข้ามา

 

       「เราจะเริ่มพิธีส่งตัวกลับเดี๋ยวนี้ เจ้าหญิงกำลังติดภารกิจอยู่กับท่านผู้กล้า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องมาทำหน้าที่แทน แม้ข้าจะไม่สามารถเทียบกับพระองค์ได้ แต่ในฐานะจอมเวทหลวง พลังเวทมนตร์ของข้าก็น่าจะเพียงพอสำหรับพิธีนี้」

 

       อืม… ก็สมเหตุสมผลดี เจ้าหญิงคงจะยุ่งอยู่กับผู้กล้า การส่งตัวกลับจึงให้จอมเวทหลวงจัดการแทน ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการจัดการแบบนี้ ผมสวมชุดคลุมที่ตัวเองใส่มาตั้งแต่ถูกอัญเชิญมาที่นี่

 

       อัศวินเดินตามอยู่ข้าง ๆ ผมขณะที่เราตามชายชราในชุดคลุมไป ผมเดาว่านี่เป็นการกันไม่ให้ผมหลบหนี แต่ผมก็แค่อยากกลับไปยังโลกของผม ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ต้องการ ผมเพียงแค่ต้องตามชายชราคนนี้ไป

 

       ไม่นานเราก็มาถึงห้องที่ใช้ประกอบพิธีอัญเชิญเมื่อวานนี้

 

       「ยืนอยู่กลางวงเวทมนตร์ ข้าจะใช้คาถาส่งตัวกลับเพื่อให้เจ้ากลับไปยังโลกของเจ้า」

 

       ผมยืนอยู่กลางวงเวทมนตร์ตามที่ถูกบอก จอมเวทหลวงเริ่มร่ายคาถา คำร่ายดำเนินต่อเนื่องไปอีกหลายนาที และแสงที่เปล่งออกมาจากวงเวทใต้เท้าผมเริ่มขยายไปทั่วห้องโถง

 

       「――โอ้ ผู้หลงทางที่ได้ก้าวเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ จงกลับไปยังโลกของเจ้า 」

 

       ในขณะที่ผมได้ยินคำพูดเหล่านั้น วงเวทมนตร์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวสว่างไสว จนทำให้ผมต้องหลับตาลงเพราะแสบตา

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้

Score 10
Status: Completed
คิซารางิ โทยะ (อายุ 35 ปี) กำลังเล่นเกม MMO ตามปกติหลังเลิกงาน แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในร่างตัวละครจากเกมของเขา ทว่าตัวละครที่โทยะถูกอัญเชิญไปกลับเป็นตัวละครสายอาชีพนักบวช ที่เขาสร้างไว้เพื่อใช้เก็บไอเทมเท่านั้น เจ้าหญิงผู้ทำพิธีอัญเชิญถึงกับผิดหวัง และเริ่มพิธีอัญเชิญครั้งใหม่ คราวนี้เธอได้ชายหนุ่มผู้กล้าพร้อมฉายาผู้กล้า มาแทน โทยะที่ไม่เป็นที่ต้องการจึงถูก เตรียมตัวส่งกลับไปยังโลกเดิมของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปโผล่ยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแทน "อย่าบอกนะว่าคาถาส่งกลับบ้านไม่พาฉันกลับไปโลกเดิมจริง ๆ ..." อย่างไรก็ตาม โทยะค้นพบว่าเขายังคงเข้าถึงไอเทมทั้งหมดในคลังเก็บของได้ และใช้พวกมันในการดำรงชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ด้วยความสามารถแบบโกงจากไอเทมเหล่านั้น โทยะพยายามเปลี่ยนอาชีพของเขาให้กลายเป็นตัวละครหลักของเขาในเกม นั่นคือ เบอร์เซิร์กเกอร์ แต่ในตอนนี้เขายังคงติดอยู่กับอาชีพ นักปราชญ์ ไปก่อน ถูกอัญเชิญมาในฐานะอาชีพสายเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด โทยะ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์ เริ่มต้นการผจญภัยในต่างโลก!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset