ทันทีที่ผู้กล้าตัวจริงถูกอัญเชิญ ผมก็ถูกลืมไปโดยปริยาย
ขุนนางและอัศวินต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขามาถึง พวกเขาต่างโห่ร้อง จับมือ และตบไหล่กันด้วยความดีใจที่ได้พบกับความหวังใหม่
เจ้าหญิงที่แก้มมีสีชมพูท่ามกลางความตื่นเต้นทั้งหมดนี้ ได้ยื่นมือไปจับมือของชายหนุ่ม ที่ถูกเรียกว่าผู้กล้า และพูดเสียงอันอ่อนหวานว่า 「ท่านผู้กล้า……」
การเฉลิมฉลองดำเนินต่อไปสักครู่ จากนั้นเสียงทั้งหมดก็ค่อยๆ เงียบลง
เจ้าหญิงที่ลืมเรื่องผมไปแล้วได้ กระแอมไอเล็กน้อย พร้อมกับยืดตัวตรง ก่อนที่จะพูดกับผู้กล้า 「ข้าจะพาท่านไปพบพระบิดาของข้า หรือก็คือองค์ราชา ท่านผู้กล้าโปรดตามข้ามาด้วยค่ะ ข้าจะเป็นคนพาท่านชมรอบ ๆ เอง」
เจ้าหญิงเดินออกจากห้องโถงพร้อมกับผู้กล้า ขุนนางต่าง ๆ ก็เดินตามไป ขุนนางในชุดเกราะหรูหราเหล่านั้นก็เดินตามไปเช่นกัน และอัศวินที่เหลือก็เริ่มจัดการทำความสะอาดห้องโถง
หืม? แล้วกูล่ะเฮ้ย? จะทำยังไงดี? ผมตะโกนเรียกอัศวินที่ยังคงอยู่ในห้องโถงอย่างตกใจ 「ขอโทษครับ ผมต้องทำยังไงต่องั้นเหรอ?」
อัศวินดูเหมือนจะมีสีหน้ากังวลและเดินไปหาเมดสาวคนหนึ่ง 「ช่วยพาคนคนนี้ไปที่ห้องรับรองที เราจะพากลับมาที่นี่ในพรุ่งนี้ แล้วก็—」
อัศวินกระซิบอะไรบางอย่างที่หูเมดสาว และเธอก็พยักหน้าเงียบ ๆ แล้วให้ผมตามเธอไป
เมดสาวพาผมเดินไปตามทางเดินจากห้องโถงพิธีไปยังห้องหนึ่งในพระราชวัง ทางเดินนี้ตกแต่งด้วยการแกะสลักและภาพวาดที่ค่อนข้างจะซับซ้อน
ผมเดินตามเมดสาวไป พร้อมกับมองไปรอบ ๆ สิ่งก่อสร้างที่ผมเคยเห็นแค่ในภาพถ่ายที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
「ท่านสามารถใช้ห้องนี้ไปก่อนนะคะ ห้องน้ำอยู่หลังประตูที่อยู่ด้านหลังนี้ ข้าจะนำอาหารมาให้ท่านนะคะ」
ห้องที่ผมถูกพามาไม่น่าเชื่อว่าจะเรียบง่ายเกินกว่าทางเดินหรูหราที่เราเพิ่งผ่านมา ตัวห้องมีขนาดประมาณปูด้วยเสื่อทาทามิ 8 ผืน มีเตียง โต๊ะ และเก้าอี้ ตู้เล็ก ๆ และประตูหนึ่งบานที่อยู่ด้านหลัง ที่แปลกคือห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง
ห้องนี้ไม่ใช่ห้องรับรองแขกแน่ ๆ ให้ตายสิ
「นี่คือห้องรับรองแขก? จริงเหรอ?」 ผมมองหน้าเมดสาวเพื่อยืนยันสิ่งที่ผมถาม ผมหมายถึงห้องนี้มันต่างจากที่ผมคาดไว้มาก เมดสาวทำแค่เพียงพยักหน้าอย่างเรียบ ๆ
ผมเดินเข้าไปในห้อง และทันใดนั้น พนักงานสาวก็ปิดประตูใส่ทันทีที่ผมเข้ามา
คลิก!!. หืม? นั่นเสียงประตูล็อคงั้นเหรอ? ผมลองผลักประตูให้เปิด แต่มันไม่ขยับเลย ผมตรวจสอบหาปุ่มล็อคที่ด้ามประตู แต่ห้องนี้เป็นห้องที่ล็อคได้จากด้านนอกเท่านั้น 「เวรเอ๊ย! คุณหลอกดาว!」
ผมยอมแพ้กับประตูที่ไม่ว่าจะพยามพยายามผลักดันเท่าไรก็ไม่เปิด ก่อนจะตัดสินใจนอนลงบนเตียง 「สิ่งที่เราไม่เข้าใจคือ ทำไมเราถึงถูกอัญเชิญมาได้ล่ะเนี่ย แล้วทำไมมาอยู่ในร่างนี้ได้…」
ไม่มีคำตอบใด ๆ ที่เข้ามาในหัว ผมจึงปล่อยความคิดนั้นไป แล้วเดินไปที่ประตูห้องน้ำ ในห้องน้ำมีโถส้วมและอ่างล้างมือ… แถมยังมีกระจกอีกด้วย มันไม่ใช่กระจกสมัยใหม่เหมือนที่บ้านของผม แต่เป็นกระจกที่ทำจากโลหะที่ถูกขัดจนมันเงา ผมมองไปที่ภาพสะท้อนในกระจก ใบหน้าที่ดูคุ้นเคย มันคือรูปลักษณ์ของอวตารนักบวชที่ผมใช้ในเกม “Pandemic World” หน้าตาก็ดูพอใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ไม่เท่ากับผู้กล้าคนที่ถูกอัญเชิญมาเมื่อกี้
「เอาหล่ะ…」
******************************
ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่วันเดียว แต่การได้กลับมารู้สึกหนุ่มอีกครั้งก็ดีไม่ใช่น้อย พรุ่งนี้ผมวางแผนที่จะกลับไปยังบริษัทเดิมที่ผมทำงานอยู่
ผมนอนลงบนเตียง พร้อมกับคิดข้อแก้ตัวที่พอจะใช้ได้ในวันพรุ่งนี้สำหรับการหายตัวไปจากงานอย่างกะทันหัน
เวลาผ่านไปโดยไม่มีเสียงเคาะประตูแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายผมตัดสินใจดื่มน้ำจากห้องน้ำเพื่อบรรเทาความหิว แล้วพยายามข่มตานอน
เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงปลดล็อกประตู ประตูเปิดออก และเมดสาวคนเดิมที่พาผมมาห้องนี้เมื่อวานเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่ดูเหมือนจะมีอาหารเช้า
「ขอโทษค่ะ!」
ถึงแม้ผมยังงัวเงีย แต่ก็โกรธเธอไม่ลง ขณะที่เธอเข็นรถเข็นมาวางไว้ข้างโต๊ะ 「 นี่อาหารเช้าของท่าน ข้าจะวางไว้ตรงนี้นะคะ」 จากนั้นประตูก็ถูกปิดอีกครั้งหลังจากเธอออกไป
「อยากออกจากห้องนี้จะแย่ แต่ก่อนอื่นต้องกินอะไรก่อนล่ะ หิวจนจะตายอยู่แล้ว…」 ผมรีบลุกออกจากเตียงและยกฝาครอบถาดอาหารบนรถเข็นออก
「นี่ล้อเล่นใช่ไหม…」 ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกิน เพราะตอนนี้ผมหิวจนไม่มีทางเลือกอื่น
สิ่งที่อยู่บนถาดคือขนมปังกับซุปผักเย็น ๆ ที่ดูยังไงก็เป็นของเหลือชัด ๆ
แต่ก็อย่างที่เขาว่ากัน ความหิวคือเครื่องปรุงที่ดีที่สุด ใช่ไหมล่ะ?
แม้ว่าขนมปังจะแข็งเกินไป และซุปจะมีแค่เศษผักเย็น ๆ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ มันก็เหมือนเป็นอาหารสุดหรูสำหรับผม อาหารทั้งหมดลงไปอยู่ในท้องผมในพริบตา
「ยังหิวอยู่เลย……」
ขณะที่ผมกำลังดื่มน้ำเพิ่มเพื่อชดเชยความหิว ประตูห้องก็เปิดออก ชายชราในชุดคลุมยาวและอัศวินสองสามคนเดินเข้ามา
「เราจะเริ่มพิธีส่งตัวกลับเดี๋ยวนี้ เจ้าหญิงกำลังติดภารกิจอยู่กับท่านผู้กล้า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องมาทำหน้าที่แทน แม้ข้าจะไม่สามารถเทียบกับพระองค์ได้ แต่ในฐานะจอมเวทหลวง พลังเวทมนตร์ของข้าก็น่าจะเพียงพอสำหรับพิธีนี้」
อืม… ก็สมเหตุสมผลดี เจ้าหญิงคงจะยุ่งอยู่กับผู้กล้า การส่งตัวกลับจึงให้จอมเวทหลวงจัดการแทน ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการจัดการแบบนี้ ผมสวมชุดคลุมที่ตัวเองใส่มาตั้งแต่ถูกอัญเชิญมาที่นี่
อัศวินเดินตามอยู่ข้าง ๆ ผมขณะที่เราตามชายชราในชุดคลุมไป ผมเดาว่านี่เป็นการกันไม่ให้ผมหลบหนี แต่ผมก็แค่อยากกลับไปยังโลกของผม ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ต้องการ ผมเพียงแค่ต้องตามชายชราคนนี้ไป
ไม่นานเราก็มาถึงห้องที่ใช้ประกอบพิธีอัญเชิญเมื่อวานนี้
「ยืนอยู่กลางวงเวทมนตร์ ข้าจะใช้คาถาส่งตัวกลับเพื่อให้เจ้ากลับไปยังโลกของเจ้า」
ผมยืนอยู่กลางวงเวทมนตร์ตามที่ถูกบอก จอมเวทหลวงเริ่มร่ายคาถา คำร่ายดำเนินต่อเนื่องไปอีกหลายนาที และแสงที่เปล่งออกมาจากวงเวทใต้เท้าผมเริ่มขยายไปทั่วห้องโถง
「――โอ้ ผู้หลงทางที่ได้ก้าวเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ จงกลับไปยังโลกของเจ้า 」
ในขณะที่ผมได้ยินคำพูดเหล่านั้น วงเวทมนตร์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวสว่างไสว จนทำให้ผมต้องหลับตาลงเพราะแสบตา