มู่เฉียนซีกล่าวกับมังกรวารีด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่ามันสุดยอดมากถึงมากที่สุดเลยล่ะ”
“มังกรวารีขอบคุณคำชื่มของนายท่านขอรับ” มังกรวารีกล่าวด้วยความเคารพ
ถึงงานประมูลในคราวนี้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่คลื่นลมนั้นยังไม่พัดผ่านไป
มีคนที่อิจฉาตาร้อนมากมายต้องการที่จะก่อเรื่องร้าย หากพวกเขาไม่ได้ลองความลึกล้ำของหมอปีศาจ คงจะไม่ยอมลามืออย่างแน่นอน
แต่ทว่า ที่นี่คืออาณาเขตของสมาคมการค้าเฉินซี พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรหุนหันพลันแล่น
สุดท้ายแล้วแม้ว่าจะอิจฉามากเพียงใด หรืออยากจะคิดบัญชีกับหมอปีศาจมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่กล้ารีบเร่งจนทำให้สมาคมการค้าเฉินซีขุ่นเคืองใจ และสร้างปัญหาให้ตนเองได้
ผู้ดูแลของสมาคมการค้าเฉินซีกล่าวว่า “ท่านหมอปีศาจ นายน้อยมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการ ท่านจะช่วยรอสักครู่ได้หรือไม่ เพราะนายน้อยต้องการจะคุ้มครองท่านกลับไปที่หอหมอปีศาจด้วยตนเองขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก วันนี้ข้าไม่ต้องการให้เขาไปส่งหรอก”
แม้ว่าว่านซือเยี่ยนจะไปส่ง แต่คนที่ต้องการจะลงมือน่าจะไม่พลาดโอกาสนี้แน่นอนอยู่แล้ว
อย่างไรเสียว่านซือเยี่ยนก็เป็นเพียงแค่นายน้อยของสมาคมการค้าเฉินซี และไม่ใช่เจ้านายใหญ่เสียหน่อย!
ในเมื่อเขามีเรื่องที่ต้องทำ เช่นนั้นนางก็จะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองดีกว่า
“นี่…ท่านหมอปีศาจ มันจะอันตรายเกินไปนะขอรับ”
มุมปากของมู่เฉียนซีคลี่ยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา จากนั้นก็เดินผ่านไปพลางกล่าวว่า “เจ้ารู้สึกว่า หมอปีศาจอย่างข้าจะหวาดกลัวพวกคนชั่วเหล่านั้นหรือ?”
ถึงใบหน้านี้จะดูอ่อนเยาว์เป็นอย่างมาก แต่กลับทำให้ผู้ดูแลของสมาคมการค้าเฉินซีที่เจอกับบุคคลที่ยิ่งใหญ่มาแล้วทุกประเภท รู้สึกถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งมากได้
“บอกข้ามาสิ! ว่าในบริเวณใกล้เคียงกับสมาคมการค้าเฉินซีของพวกเจ้านี้ กองกำลังที่เปิดร้านอาหารและตั้งตัวเปนศัตรูกับสมาคมการค้าเฉินซีของพวกเจ้าอยู่ที่ใด? หมอปีศาจอย่างข้าคิดว่าจะไปดูแลพวกเขาเสียหน่อย!”
“เอ่อ!” ผู้ดูแลผงะไปครู่หนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดท่านหมอปีศาจถึงได้เปลี่ยนหัวข้อเรื่องอย่างกะทันหัน และถามคำถามเช่นนี้ขึ้นมา
เขากล่าวตอบว่า “ที่ฝั่งตรงข้ามนี้มีร้านอาหารหวงฮ่าวอยู่ร้านหนึ่ง เป็นร้านที่เปิดโดยราชวงศ์ เนื่องจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังมีความแข่งแกร่งเพียงพอ จึงมักจะขัดขวางสมาคมการค้าของพวกเราทั้งอย่างเปิดเผยและในที่ลับ แต่ทว่าเจ้านายของพวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายน้อยของพวกเราอยู่ดีขอรับ”
“มังกรวารี พวกเราไปเถอะ! ไปกินอาหารที่ร้านตรงข้ามกัน!” มู่เฉียนซีโบกมือกล่าว
“ขอรับ นายท่าน!”
มู่เฉียนซีเดินไปอย่างรวดเร็ว จนผู้ดูแลไม่ทันที่จะตอบสนองกลับมาเลยด้วยซ้ำ
ท่านหมอปีศาจเดินอย่างวางมาดออกไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องให้เขาเตรียมผู้คุ้มสักหน่อยสิ!
หากนายน้อยรู้ว่าเขาทำงานเช่นนี้แล้วละก็ คาดว่าเขาคงไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้แน่
ที่ด้านนอกมีสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจับจ้องไปที่โรงประมูลเฉินซีอยู่ และในตอนที่หนุ่มน้อยที่เหมือนกับภูตสวรรค์ก็มิปานเดินออกมาอย่างเยือกเย็นั้น พวกเขาก็อดที่จะกลั้นหายใจไม่ได้
บุคคลที่สำคัญเช่นนี้ สมาคมการค้าเฉินซีจะต้องส่งคนมาคอยคุ้มกันอย่างแน่นอน
แต่พวกเขากลับคนพบว่าที่รอบตัวของเขานั้นไม่มีองครักษ์อะไรอยู่เลย จะมีก็เพียงแต่ชายหนุ่มในชุดคลุมสีฟ้าที่คอยติดตามอยู่คนเดียวเท่านั้น
คนผู้นี้ คนส่วนใหญ่ต่างก็เคยเห็นมาหมดแล้ว ซึ่งนั่นก็คือผู้ดำเนินการประมูลในวันนี้คนนั้นนั่นเอง และคาดว่าน่าจะเป็นคนที่หมอปีศาจเชื่อใจมากที่สุดด้วย
และพวกเขาก็มีเพียงสองคนเท่านั้น!
หมอปีศาจจะมีความกล้ามากเกินไปแล้ว วันนี้ขนาดแค่ยาของเขายังถูกผู้คนแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งเช่นนั้น ฉะนั้นคุณค่าของตัวเขา จะต้องมีค่ามากกว่ายาลูกกลอนนี้อยู่แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าเดินออกมาอย่างไม่กลัวอันตรายเช่นนี้ หรือว่าจะมีแผนร้ายอะไรกันแน่? ไม่อย่างนั้นหมอปีศาจผู้นี้จะมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเลยอย่างนั้นหรือ?
พวกเขาเลือกที่จะหลบซ่อนอยู่ในที่มืด และไม่กล้าที่จะลงมือใด ๆ ทั้งสิ้น ทำได้เพียงเฝ้าดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ผลปรากฏว่าหมอปีศาจไม่ได้กลับไปที่หอหมอปีศาจ แต่ไปยังร้านอาหารหวงฮ่าว
ซึ่งนี่ก็ทำให้ผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านอาหารหวงฮ่าวต่างหวาดผวา นี่พวกเขาค้นพบแล้วอย่างนั้นหรือ?
และเมื่อเดินมาจนถึงทางเข้า เจ้าของร้านก็มาต้อนรับทันที
เขาคลี่ยิ้มกว้างพลางกล่าวว่า “นายท่านเชิญด้านในขอรับ ท่านมาเพื่อทานอาหารใช่หรือไม่?”
มังกรวารีกล่าวตอบว่า “ใช่!”
เจ้าของร้านผู้นี้ก็เป็นคนฉลาดเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์ไปเข้าร่วมงานประมูล แต่เขาก็ได้เฝ้าดูหนุ่มน้อยผู้นี้เข้าไปในโรงประมูลเฉินซีท่ามกลางความสนใจของทุกคนจากที่ไกล ๆ
และนี่ก็คือท่านหมอปีศาจที่เป็นบุคคลสำคัญในการงานประมูลคราวนี้นั่นเอง
ฉะนั้นเจ้าของร้านจึงได้เตรียมห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดให้กับเขา ส่วนหน้าที่ในการปรนนิบัติ และสั่งอาหารเป็นของมังกรวารี
แม้ว่ามังกรวารีจะตื่นมาได้ไม่นานนัก แต่เขาก็รู้ถึงความชื่นชอบของมู่เฉียนซีเป็นอย่างดี
เขาได้สั่งอาหารที่เหมาะสมกับมู่เฉียนซีที่สุด มันไม่มากและไม่น้อยเกินไป ซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสมพอดิบพอดีเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขารออาหารอยู่ภายในห้องส่วนตัว ส่วนพวกคนชั่วร้ายที่อยู่ข้างนอกเหล่านั้นต่างก็รู้สึกงงเป็นไก่ตาแตกไปตาม ๆ กัน
หรือว่าเป็นเพราะการซ่อนตัวที่สมบูรณ์แบบมากของพวกเขา ทำให้หมอปีศาจไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา ดังนั้นจึงได้มีอารมณ์ไปกินอาหารเช่นนี้
หากพวกเขาเป็นหมอปีศาจแล้วละก็ คงจะหาสถานที่ปลอดภัยในการซ่อนตัว และหายสาบสูญไป จนทำให้พวกเขาหาไม่เจอไปนานแล้ว
หลังจากที่เสี่ยวเอ้อยกอาหารมา ท่านหมอปีศาจก็รับประทานอาหารอย่างสง่างาม
นี่จะเริ่มลงมือเมื่อไรกันแน่นะ?
มีผู้คนไม่น้อยลังเลที่จะดำเนินการต่อ แต่หลังจากที่ปรึกษาหารือและโต้เถียงกันอย่างดุเดือดหลายครั้ง ก็ยังคงไม่มีผู้ใดกล้าลงมืออยู่ดี
“ท่านผู้นำตระกูล เราจำเป็นที่จะต้องทดสอบหมอปีศาจผู้นี้ เพื่อดูว่าเขามีความสามารถมากเพียงใด? หรือเป็นสมาคมการค้าเฉินซีตั้งใจจะช่วยให้เขาแสร้งเป็นคนลึกลับกันแน่”
“ใช่แล้ว! พวกเราจะต้องเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของหมอปีศาจผู้นี้ให้ได้!”
“……”
และในสถานที่ที่ไม่ไกลนัก คนเหล่านี้ก็กำลังพูดคุยเกี่ยวกับศัตรูคนเดียวกันอยู่เช่นกัน
แต่ทว่าคนเหล่านี้คือคนของตระกูลเป่ยอวิ๋น ที่เป็นนักปรุงยาอันดับหนึ่งของดินแดนทางตอนเหนือนั่นเอง
ในตอนที่หอหมอปีศาจเปิดกิจการพวกเขาได้ล้มเหลวในการลอบโจมตีไปแล้ว และมันก็ทำให้พวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักอีกด้วย แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้จักยอมแพ้ในขณะที่อยู่บนสภาวะอันยากลำบากอยู่ดี
นอกจากนี้ความยุ่งยากหลังจากนั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหอหมอปีศาจมากเท่าไรนัก และในคราวนี้พวกเขาก็ได้รู้ถึงความยอดเยี่ยมของยาเหล่านั้นของหมอปีศาจแล้ว
พวกเขารู้ดีว่า หากหอหมอปีศาจได้รับอนุญาตให้พัฒนาจนเติบโตมาอย่างแข็งแกร่งเช่นนี้ต่อไปแล้วละก็ ทั่วทั้งราชวงศ์ตงหวงแห่งนี้ก็จะไม่มีพื้นที่ให้กับตระกูลเป่ยอวิ๋นของพวกเขาอีกแล้วเป็นแน่
ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นพยายามข่มอารมณ์เอาไว้อย่างที่สุดแล้ว แต่เพราะความขัดแย้งที่มีกับหมอปีศาจเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป และพุ่งทะยานออกไปอย่างโดดเด่นทันที
“ไปกันเถอะ!” ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกล่าว
และในตอนที่ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกำลังบุกเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่นั้น ก็เป็นตอนที่มู่เฉียนซีเพิ่งจะรับประทานอาหารเสร็จพอดี
เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้บุกเข้ามาอย่างไม่มีมารยาทใด ๆ เลย นางจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “ทุกท่านมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าคือผู้นำตระกูลของตระกูลเป่ยอวิ๋น เคยได้ยินชื่อเสียงของหมอปีศาจมานานแล้ว และในงานประมูลก็ยังไม่ทันที่จะได้เห็นหมอปีศาจ ฉะนั้นตอนนี้จึงได้มาหาท่านหมอปีศาจโดยเฉพาะอย่างไรเล่า!” ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เสแสร้ง
“ในเมื่อได้เจอกันแล้ว ทีนี้เจ้าก็ไปได้แล้วล่ะ!” มู่เฉียนซีโบกมือไล่คนเหล่านั้นราวกับไล่แมลงวันก็มิปาน
ร่องรอยของความโกรธเกรี้ยวฉายชัดขึ้นมาบนใบหน้าของผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋น จากนั้นเขาจึงกล่าวว่า “ทุกคนในโลกนี้ต่างกล่าวว่าฝีมือของท่านหมอปีศาจนั้นเหนือชั้นนัก อีกทั้งยังลึกล้ำเกินจะหยั่งถึง ตัวข้าเองก็ได้แต่สงสัย ฉะนั้นจึงอยากจะขอประลองความสามารถกับท่านหมอปีศาจสักหน่อย ท่านหมอปีศาจโปรดให้คำชี้แนะด้วย”
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นมาบนมุมปากของมู่เฉียนซี “ข้าว่านะผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋น เจ้านี่ช่างไร้ยางอายจริง ๆ! เจ้าบอกจะให้ข้าชี้แนะ แล้วหมอปีศาจอย่างข้าก็ต้องไว้หน้าเจ้าด้วยอย่างนั้นหรือ? เจ้าถือว่าตนเองเป็นผู้ใดกัน?”
“หมอปีศาจ เจ้านี่จะเย่อหยิ่งเกินไปแล้วนะ” ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกล่าวด้วยความโกรธเคือง และได้สั่งให้คนลงมือโจมตีก่อนทันที
แต่ทว่าในเวลานี้ ร่างเงาสีฟ้ากลับสว่างวาบขึ้น และพวกเขาทั้งหมดก็ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปนอกห้องส่วนตัวทันทีเช่นกัน
มังกรวารีค่อย ๆ เดินออกไป จากนั้นก็สร้างปราการป้องกันไว้ในห้องส่วนตัวของมู่เฉียนซี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าพวกคนชั่วช้าเหล่านี้เข้าไปรบกวนเวลาดื่มน้ำชาของนายท่านได้
“เป็นเพียงแค่มดปลวกเท่านั้น ยังคิดที่จะมาต่อสู้กับนายท่านของข้าอีกหรือ!” มังกรวารีที่เป็นเหมือนกับเทพเจ้าก็มิปาน จ้องมองไปที่พวกเขา ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองนั้นต่ำต้อยราวกับต้องไปอยู่ใต้ดินอย่างไรอย่างนั้นเลย
และความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้คนที่หยิ่งผยองอย่างพวกเขาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
“เป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ติดตามอยู่ข้างกายหมอปีศาจเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะกล้าอวดดีเช่นนี้ รนหาที่ตายนัก!”
.
.