ห้องส่วนตัวระดับสูงที่ดีที่สุดของโรงประมูลถูกเก็บไว้ให้หมอปีศาจ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นงานประมูลที่จัดมาเพื่อหมอปีศาจโดยเฉพาะ ฉะนั้นจึงมีเพียงหมอปีศาจเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์นั่งตรงนี้ได้
ว่านซือเยี่ยนนำทางให้กับมู่เฉียนซี และพาเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัวระดับสูงที่หรูหราที่สุด ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่มากเท่าไรแล้ว
มู่เฉียนซีได้นำเอายาลูกกลอนและยาน้ำที่ต้องการนำไปประมูลคราวนี้ ออกมาวางไว้
นางเอ่ยปากกล่าวว่า “ทั้งหมดมีแค่นี้ ส่วนชื่อและผลของยาลูกกลอนกับยาน้ำได้เขียนเอาไว้หมดแล้ว ในเรื่องของราคาประมูลเริ่มต้น เอาตามที่ผู้ดำเนินการเห็นสมควรได้เลย อย่างไรเสียแม้ว่าจะไม่มีราคาต่ำสุด แต่ราคาจบการซื้อขายต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน”
สำหรับยาของตนเองนั้น มู่เฉียนซีมีความมั่นใจแน่นอนอยู่แล้ว
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา!”
ในตอนที่ว่านซือเยี่ยนกำลังนำยาเหล่านี้ไป ผู้ดูแลของโรงประมูลกลับพุ่งทะยานมาอย่างร้อนรน แล้วกล่าวว่า “นายน้อยขอรับ เกิดปัญหาบางอย่างขึ้นแล้วขอรับ”
“เกิดปัญหาอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าข้ามอบหมายงานให้ไปแล้วหรือ? งานประมูลในวันนี้ ไม่อนุญาตให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรทั้งสิ้น นี่พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร?” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยความโกรธเคือง
“คือว่า! เกิดเรื่องขึ้นกับผู้นำการประมูลขอรับ นางได้รับบาดเจ็บจนหมดสติไป ข้าเลยไม่รู้ว่าจะหาผู้นำประมูลท่านไหนมาทำหน้าที่แทนดีขอรับ”
งานประมูลที่สำคัญมากขนาดนี้ หากไม่มีผู้ดำเนินการประมูลมือหนึ่งเป็นผู้นำการประมูล ก็ไม่รู้ว่าผู้อื่นจะคิดกันอย่างไร?
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ สีหน้าของว่านซือเยี่ยนมืดมนลงทันที
เนื่องจากว่านี่เป็นงานประมูลที่ไม่เคยถูกจัดขึ้นมาก่อน เช่นนั้นแน่นอนว่าจะต้องทำให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดอยู่แล้ว
หากมีปัญหาเกิดขึ้นในเวลานี้ คงจะทำให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะสมาคมการค้าเฉินซีของพวกเขา และหัวเราะเยาะหอหมอปีศาจมิใช่หรือ?
จะส่งผู้ใดขึ้นไป นี่แหละคือปัญหา!
ในเวลานี้ น้ำเสียงที่อ่อนโยนเสียหนึ่งก็ดังขึ้นมา “ในเมื่อนี่เป็นงานประมูลที่จัดขึ้นเพื่อนายท่านโดยเฉพาะ ฉะนั้นจึงรู้สึกว่าให้มังกรวารีเป็นผู้นำในงานประมูลคราวนี้ เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
“นายท่าน ท่านคิดว่าอย่างไร?” มังกรวารีกล่าวพลางมองไปทางมู่เฉียนซี
ความน่าเชื่อถือของมังกรวารีนั้น แน่นอนว่ามู่เฉียนซีต้องรู้ดีอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่เคยเป็นผู้ดูแลประมูลมาก่อนเลยก็ตาม แต่นางก็เชื่อว่ามังกรวารีจะทำได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแน่นอน
“ให้มังกรวารีเป็นผู้ดูแลการประมูล มันจะไม่ทำให้เจ้าน้อยใจเกินไปอย่างนั้นหรือ” ถึงคนอื่นไม่รู้ตัวตนของมังกรวารี แต่นางในฐานะที่เป็นเจ้านายจะไม่รู้ได้อย่างไรกันล่ะ?
มังกรวารีคือแหวนมังกรเทพวารี เป็นแหวนมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ และบนโลกใบนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเทียบเคียงความแข็งแกร่งกับเขาได้
“เดิมทีมังกรวารีคิดว่าไม่ว่านายท่านจะทำสิ่งใด ก็ไม่มีทางทำให้มังกรวารีรู้สึกน้อยใจได้ และงานประมูลในครั้งนี้มีความสำคัญต่อนายท่านเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อผู้นำการประมูลมือหนึ่งไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ดำเนินการได้ มังกรวารีอย่างข้าจึงรู้สึกว่าการมาเป็นผู้ดำเนินการแทนนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว นอกจากนี้มังกรวารีไม่น้อยใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับคิดว่าคนอื่นน่าจะต้องอิจฉาข้ามากกว่า!” มังกรวารีกล่าวตอบ
ให้มือใหม่คนหนึ่งมาเป็นผู้นำการประมูล ผู้ดูแลหวังว่าท่านหมอปีศาจจะไม่ก่อปัญหา เพราะหากมาทำให้เละไม่เป็นท่าคงจะไม่ดีแน่
ว่านซือเยี่ยนกำลังรอคำตอบจากมู่เฉียนซี เขากล่าวว่า “ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ท่านตัดสินใจได้หรือยัง? ท่านหมอปีศาจ”
“เช่นนั้นก็ไห้มังกรวารีไปเถอะ! งานที่มังกรวารีทำ ทำให้ข้าสามารถมั่นใจอย่างเต็มที่ได้” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะรีบไปเตรียมตัวทันที!”
แน่นอนว่ามังกรวารีก็ต้องไปเตรียมตัวด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่า “หลังจากนี้มังกรวารีไม่สามารถคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายนายท่านได้แล้ว”
“ข้าไม่เป็นไรหรอก แค่คอยดูการดำเนินงานประมูลไปด้วยกินอาหารไปด้วยก็ได้แล้ว และยังสามารถฝึกฝนไปพลาง ๆ ได้อีก”
“เช่นนั้นมังกรวารีขอตัวก่อนขอรับ”
งานประมูลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว โคมไฟทรงกลมที่ลอยบนเวทีการประมูลได้ถูกเปิดขึ้น จากนั้นก็มีใบหน้าของคนที่ไม่คุ้นเคยคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนเวที
“เฮ้! ผู้ดำเนินการประมูลคราวนี้ไม่ใช่ผู้นำประมูลมือหนึ่งของสมาคมการค้าเฉินซีหรือ หลินซวนไปทำอะไรอยู่? เหตุใดถึงต้องเปลี่ยนคนด้วย”
ชายหนุ่มที่อยู่บนเวทีงานประมูลผู้นั้น สมบูรณ์แบบดุจเทพเซียนก็มิปาน นอกจากนี้ยังหล่อเหลาจนทำให้ผู้คนเกือบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
ตอนที่มังกรวารีอยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซีเขามักจะเก็บความเปล่งประกายไว้ไม่น้อยเลย แต่ตอนนี้เขาเป็นถึงผู้นำการประมูลซึ่งจะต้องเป็นหน้าเป็นตาให้นายท่านด้วย แน่นอนว่าเขาย่อมต้องเปิดเผยพลังออกมาอย่างเต็มที่
พวกเขาแต่ละคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจ “ข้ารู้ว่าเขาคือผู้ใด? ขะ…เขาคือผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายของหมอปีศาจคนนั้น”
“ขนาดผู้ติดตามยังมีความสง่างามเช่นนี้ เช่นนั้นตัวของท่านหมอปีศาจคงต้องยอดเยี่ยมมากเลยสินะ!”
“……”
เมื่อได้ยินคนเหล่านั้นพวกเกินจริงเกี่ยวกับมังกรวารีของนาง ภายในใจของมู่เฉียนซีก็รู้สึกดีเป็นอย่างมาก
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก
“เข้ามา!”
ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็มีแสงสีทองอร่ามสว่างวาบขึ้นมา และมู่เฉียนซีก็รุู้ได้ทันทีว่าใครที่กำลังเข้ามา
“ว่านซือเยี่ยน งานเจ้าเสร็จแล้วหรือ!”
“ใช่สิ! เสร็จหมดแล้ว” ว่านซือเยี่ยนเดินเข้ามา และนั่งลงตรงฝั่งตรงข้าม
“ต้องบอกเลยว่า ท่านมังกรวารีเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำประมูลมาก!”
“ข้ารู้ว่ามังกรวารีของข้านั้นมีความสามารถรอบตัว ไม่ว่าอะไรก็สามารถทำได้ทุกอย่าง!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ช่างทำให้รู้สึกอิจฉาจริง ๆ” หากว่าข้างกายของเขามีผู้ช่วยเช่นนี้ คาดว่าน่าจะทิ้งห่างพวกเขาสองสามคนนั้นไปได้ไกลแล้วแน่นอน หลังจากนั้นเขาก็จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
“ตอนนี้ ข้าขอประกาศว่าการประมูลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!” น้ำเสียงของมังกรวารีนั้นไพเราะมาก และในตอนที่ยาลูกกลอนขวดแรกถูกหยิบออกมา เขาก็ได้แนะนำผลของยาลูกกลอนนี้
การแนะนำนั้นไม่ได้แข็งทื่อเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังกระตุ้นให้ผู้คนสนใจอีกด้วย และหลังจากนั้นก็เป็นการแข่งประมูลอันบ้าคลั่ง
ต้องรู้ว่าหมอปีศาจนั้นเป็นคนลึกลับมาโดยตลอด แม้ว่างานประมูลคราวนี้จะเป็นงานประมูลที่จัดขึ้นเพื่อเขาเป็นพิเศษ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะถูกจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้อยู่แล้ว
เดิมทีพวกเขาก็มีความกระตือรือร้นต่อหมอปีศาจมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว และมังกรวารีก็ได้ปลุกเร้าอารมณ์ของพวกเขาในเวลาที่เหมาะสม จึงทำให้ราคาของมันพุ่งสูงมากขึ้นไปอีก
ในเวลานี้เพิ่งประมูลไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น แต่จำนวนเงินของการประมูลนั้นมหาศาลจนน่าสะพรึงกลัวเลยทีเดียว
แม้แต่ว่านซือเยี่ยนเอง ก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อยเช่นกัน
“สมกับที่เป็นนักปรุงยาที่หาเงินได้เร็วที่สุด ความเร็วในการทำเงินของเจ้าเช่นนี้ ช่างทำให้คนรู้สึกอิจฉาตาร้อนมากจริง ๆ!”
“หรือมิเช่นนั้น หากเจ้าตอบสนองความต้องการของข้า ข้าก็จะแบ่งให้เจ้ามากขึ้นหน่อย ของเพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น เจ้าไม่หวั่นไหวบ้างหรือ?” และมู่เฉียนซีก็ได้โยนเหยื่อที่ทำให้คนยากจะปฏิเสธออกมา
“มู่เฉินซี ข้ายอมรับว่าข้าหวั่นไหว เพียงแต่ข้าสงสัยมากว่า เหตุใดเจ้าที่เสียเวลาไปมากมายขนาดนี้แล้ว แต่ชิงหลงก็ยังไม่ยอมรับเจ้าเสียที และสุดท้ายก็ต้องหันเป้าหมายมาเป็นข้าแทน”
มันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยจริง ๆ แต่ว่านซือเยี่ยนก็เลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้ออย่างชาญฉลาด
เขาถูกยั่วยวนด้วยเงินทอง แต่ชิงหลงทำอย่างไรก็ไม่ยอมแพ้ หากเขาแพ้ให้มัน คาดว่าจะต้องถูกชิงหลงดูหมิ่นเป็นแน่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าหมอนั่นเป็นพวกหวาดระแวง คิดว่าตัวข้าแสร้งทำเป็นปรปักษ์ต่อราชวงศ์ตงหวง แต่ภายในใจกลับอยู่ฝ่ายเดียวกับราชวงศ์ตงหวง จินตนาการของเจ้าหมอนี่เหลือล้ำมากเกินไปจริง ๆ”
เหตุผลที่ให้ตายอย่างไรชิงหลงก็ไม่ยอมผ่อนคลาย คาดว่าน่าจะมีอยู่สองประการ
ประการที่หนึ่ง นั่นเป็นเพราะหน้าตาของนางมีความคล้ายคลึงกับมู่หลินหลางมาก ซึ่งนี่ก็ทำให้เขาสงสัยเป็นอย่างมาก
ประการที่สอง แน่นอนว่าการเปลี่ยนเขาเป็นเด็กทารกนั้นทำให้เขาเจ็บปวดมากเกินไป
ส่วนที่เหลือนั้น นางก็คิดถึงเหตุผลอื่นไม่ออกอีกแล้ว
ว่านซือเยี่ยนเป็นคนที่ฉลาดทันคนคนหนึ่ง เขาจึงกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้าไม่ได้บอกความจริง”
“หากว่าเจ้าอยากรู้ความจริงก็ไปถามชิงหลงเอาก็ได้! หากเขายอมที่จะบอกเจ้า ข้าก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น”
แน่นอนว่านางไม่มีทางบอกกับว่านซือเยี่ยนไปตามตรงว่านางคล้ายกับมู่หลินหลางมากเพียงใด เพราะกลัวว่าจะไม่มีทางทำให้ว่านซือเยี่ยนร่วมมือกับนางอย่างลึกซึ้งไปมากกว่านี้ได้ และเกรงว่าจะมีคนที่ไม่สามารถจัดการได้เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง ฉะนั้นนางจึงไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้ตนเอง
ในตอนนี้ว่านซือเยี่ยนกำลังถูกโจมตีด้วยเงินทองจนผ่อนคลายลงแล้ว ฉะนั้นนางจะต้องพยายามมากขึ้นอีก!
แม้ว่าชิงหลงจะปฏิเสธนางอย่างเด็ดเดี่ยว แต่กลับไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้กับคนอื่น และปิดเป็นความลับให้นาง
.