“นายท่าน!” ในเวลานี้มังกรวารีก็เดินเข้ามา
มังกรวารีกล่าวว่า “พลังวิญญาณธาตุวารีของนายท่านมีต้นกำเนิดเดียวกันกับข้า แต่เนื่องจากว่าความสามารถของนายท่านยังไม่แข็งแกร่งนัก อีกทั้งพลังก็ยังไม่พอด้วย! แต่นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ มอบให้เป็นหน้าที่มังกรวารีก็พอแล้ว”
“ให้ตายเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะคิดไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องรบกวนเจ้าแล้ว มังกรวารี!”
น้ำที่มังกรวารีเพิ่มเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยพลังของธาตุวารี นอกจากจะความบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่งแล้ว ยังมีพลังในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งอีกด้วย
มู่เฉียนซีราวกับว่ามีความช่วยเหลือจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น การกลั่นยาที่เหมือนกับกลโกงนี้ จึงได้ประสบความสำเร็จไปอย่างราบรื่น
“สมบูรณ์แบบ!”
“ไม่สิ! นี่มันเพิ่มผลลัพธ์ให้ถึงห้าสิบส่วนจากที่คาดการณ์เอาไว้เลยต่างหาก มันยอดเยี่ยมไปเลย” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างตื่นเต้น
มังกรวารีมองดูรอยยิ้มของมู่เฉียนซี ด้วยดวงตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยนคู่นั้น “สามารถทำให้นายท่านมีความสุขถึงขนาดนี้ได้ ช่างเป็นเกียรติของมังกรวารีจริง ๆ!”
“นายท่าน ควรออกเดินทางได้แล้วขอรับ ส่วนทางให้มอบให้เป็นหน้าที่ของมังกรวารีเอง! เชิญนายท่านไปเตรียมตัวเถิดขอรับ”
“ตกลง!”
เมื่อมอบให้มังกรวารีเป็นคนทำงาน มู่เฉียนซีก็สามารถวางใจได้อย่างเต็มที่แล้ว
ในตอนที่ว่านซือเยี่ยนเร่งเป็นครั้งที่สาม ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวเสียที
ชายหนุ่มที่แต่งตัวอย่างสง่างาม รูปร่างเพรียวบางพร้อมทั้งหน้าตาที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งเดินออกมา และคนผู้นี้ก็คือมังกรวารีนั่นเอง
“นายท่าน ทางนี้ขอรับ!”
มังกรวารีเป็นผู้นำทางให้กับมู่เฉียนซี และว่านซือเยี่ยนก็ได้เห็นหนุ่มน้อยที่งดงามราวภูตสวรรค์คนหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นอายของความเย่อหยิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ทะลุออกมาจากในกระดูกเลยทีเดียว
ว่านซือเยี่ยนตะลึงงันไปเล็กน้อย หากวันนั้นเขาไม่ได้เห็นมู่เฉินซีแปลงโฉมต่อหน้าต่อตาแล้วละก็ เขาไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าหนุ่มน้อยผู้นี้จะเป็นมู่เฉินซี
ความสามารถของมังกรวารีนั้นแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีบุคลิกลักษณะที่สูงส่ง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขา เป็นราวกับพ่อบ้านที่ได้รับการฝึกฝนมากเป็นอย่างดี ช่างไร้ที่ติอย่างไม่อาจหาใดเปรียบได้
ได้ยินมาว่าในตอนที่มู่เฉินซีไม่อยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็เป็นผู้ดูแลหอหมอปีศาจทั้งหมดด้วยตนเอง
แม้ว่าในขณะที่ดูแลจัดการจะไม่ได้ทำอะไรใหม่ ๆ แต่กลับแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าความสามารถในการทำงานของเขานั้นไร้ที่ติเพียงใด
โชคดีที่ความทะเยอทะยานของคนผู้นี้คือการคอยปรนนิบัติมู่เฉินซี และทำให้นางสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและสะดวกสบายราวกับราชินีคนหนึ่งเท่านั้น
แต่หากเขาเข้ามาในวงการค้าแล้วละก็ คาดว่าเขาน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากคนหนึ่งเลยทีเดียว
“อันที่จริงแล้ว แม้แต่ผู้ดูแลสูงสุดในพระราชวังของราชวงศ์ตงหวงยังไม่ปรนนิบัติถึงขนาดนี้เลย เขาไม่กลัวว่าจะโอ๋หญิงผู้นี้มากเกินไปจนนางขี้เกียจและเอาแต่พึ่งพาเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หรือไงกัน” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หากข้าสามารถเป็นที่พึ่งให้นายท่านได้ แค่นั้นมังกรวารีก็พึงพอใจมากแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าเขาพูดเสียงเบามาก แต่ก็ยังไม่สามารถซ่อนจากหูของมังกรวารีได้เลยหรือ?
นี่คือนิสัยของเขาที่เป็นมาตั้งแต่เกิด หากยอมรับใครสักคน แน่นอนว่าอยากจะมอบทุกอย่างที่ดีที่สุดให้กับคนผู้นั้นอยู่แล้ว
พวกเขาเร่งรีบไปตรงไปที่เมืองเยว่ไห่ เนื่องจากว่าการประมูลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว
ถึงจะมีผู้คนไม่น้อยที่เข้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่รออยู่ข้างนอก เพราะอยากที่จะเห็นนายท่านหมอปีศาจสักครั้ง
โครงสร้างรถม้าของว่านซือเยี่ยนนั้นเด่นสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทุกคนต่างก็สามารถมองเห็นแสงสีทองอร่ามแวววาวนั้นได้จากระยะไกล ๆ
“นั่นคือรถม้าของนายน้อยว่านซื่อนี่ นายน้อยว่านซื่อมาแล้ว!”
“ได้ยินมาว่านายน้อยว่านซื่อไปรับท่านหมอปีศาจด้วยตนเอง หรือว่าท่านหมอปีศาจจะอยู่ที่รถม้าคันหลังนั่นอย่างนั้นหรือ”
“จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่! คนที่สามารถทำให้นายน้อยว่านซื่อไปรับด้วยตนเอง นอกจากหมอปีศาจแล้วยังเป็นผู้ใดได้อีก?”
“เฮอะ! ข้าอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าหมอปีศาจที่เป็นราวกับเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางผู้นี้จะเทพสักแค่ไหนกันแน่”
งานประมูลที่สมาคมการค้าเฉินซีจัดขึ้นเพื่อนักปรุงยาเท่านั้นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรกแน่นอนอยู่แล้ว
มีปรมาจารย์นักปรุงยามากมายในแดนซวนเทียนที่ไม่ได้รับโอกาสนี้ แต่ทว่าหมอปีศาจที่ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันกลับได้รับการดูแลเช่นนี้ไปได้ ย่อมต้องทำให้บางคนไม่ค่อยพึงพอใจแน่นอนอยู่แล้ว
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ต้องการพบหมอปีศาจนั้น ต่างก็มีท่าทางที่แตกต่างกันออกไป
รถม้าสีท้องอร่ามหยุดลงตรงหน้าทางเข้าของงานประมูล จากนั้นว่านซือเยี่ยนก็เดินลงมาจากรถม้า
ท่วงทางของเขานั้นดูสูงค่าเกินกว่าที่จะประเมินค่าได้ และหลังจากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ท่านหมอปีศาจ งานประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว เชิญเถิด!”
การแสดงแบบจัดเต็มของว่านซือเยี่ยนนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก เพราะโอกาสที่จะได้เล่นสนุกในสมาคมการค้านั้นมีไม่มากนักนั่นเอง
มือเรียวยาวคู่หนึ่งยื่นออกมา ซึ่งมันก็เป็นมือที่งดงามมาก นี่คือเวลาของหมอปีศาจอย่างนั้นหรือ?
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากรถม้า คิดไม่ถึงว่ารูปร่างหน้าตาที่งดงาม และอารมณ์ของเขานั้นจะบดบังทัศนียภาพของนายน้อยว่านซื่อไปจนหมดสิ้น
กลิ่นอายบนตัวของคนผู้นี้ให้ความรู้สึกราวกับตกตะกอนไปตามกาลเวลานี้ และยิ่งทำให้เขาดูลึกล้ำเกินจะหยั่งถึงอย่างเห็นได้ชัด
“นี่คือหมอปีศาจ!”
“ท่านหมอปีศาจ!”
“……”
ทันทีที่มังกรวารีปรากฏตัวออกมาเพียงเสี้ยวอึดใจ ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาคือหมอปีศาจกันทั้งนั้น
ผลก็คือคนที่พวกเขาคิดว่าเป็นหมอปีศาจกลับเปิดม่านของรถม้าให้กับมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “นายท่าน ถึงแล้วขอรับ!”
นายท่าน! นายท่านหรือ!
นี่พวกเขากำลังได้ยินอะไรอยู่? คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มที่ดูมีทั้งความสูงศักดิ์และทรงอำนาจเช่นนี้จะเรียกคนอื่นว่านายท่าน
คำว่า ‘นายท่าน’ นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการพูดออกมาอย่างสบาย ๆ แต่น้ำเสียงที่อ่อนโยนนั้นกลับเต็มไปด้วยความจริงใจมากเลยทีเดียว
เงาร่างสีเขียวที่ดูสง่างามลงมาจากรถม้า เด็กหนุ่มผู้นั้นดูจะมีอายุน้อยกว่าชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีฟ้ามากนัก
เด็กหนุ่มผู้นี้ มีความงดงามเหนือมนุษย์ ซึ่งดูเหมือนกับภูตสวรรค์อันบริสุทธิ์และไร้พิษภัยที่หลงเข้ามาในโลกมนุษย์อย่างไรอย่างนั้นเลย
แม้ว่าจะดูอายุน้อย แต่เด็กหนุ่มผู้นี้ กลับทำให้ผู้คนไม่อาจมองเขาออกได้
“นายท่าน ทางนี้ขอรับ!” มังกรวารีกล่าวอย่างอ่อนโยน
“อื้ม!”
ตอนนี้พวกเขาต้องรู้อยู่แล้วว่า หมอปีศาจคือผู้ใดกันแน่?
หนุ่มน้อยที่สามารถทำให้ชายหนุ่มผู้นั้นเรียกว่านายท่านได้ ก็คือหมอปีศาจแน่ และเรื่องนี้ทำให้ผู้คนต่างตกใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว
แน่นอนว่า ยังมีคนที่แฝงไปด้วยเจตนาร้ายแอบอยู่อย่างลับ ๆ อีกด้วย
พวกเขามองแผ่นหลังของทั้งสอง ที่นี่คืออาณาเขตของสมาคมการค้าเฉินซี ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ควรที่จะทำให้สมาคมการค้าเฉินซีต้องขุ่นเคืองใจ
แต่ก็สามารถแอบใช้กลอุบายในการลงมือได้เช่นกัน “ลองลงมือโจมตีด้วยจิตวิญญาณกับทั้งสองคนนั้นดู!”
“ขอรับ! นายท่าน!”
มีคนสองคนที่พยายามใช้การโจมตีทางจิตวิญญาณในการโจมตีพวกเขา ดวงตาของมู่เฉียนซีและมังกรวารีฉายแววเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
หากเป็นการโจมตีในรูปแบบอื่น ๆ มังกรวารีต้องสกัดกั้นให้มู่เฉียนซีแน่นอนอยู่แล้ว
แต่หากเป็นการโจมตีด้วยจิตวิญญาณแล้วละก็ แค่เจ้านายของเขาก็เกินพอแล้ว
มังกรวารีจัดการเพียงแค่คนที่โจมตีเขาคนเดียวเท่านั้น และรอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของมู่เฉียนซี
เมื่อหันหน้ามองไปยังทิศทางหนึ่ง ดวงตาสีเขียวอ่อนอันสดใสคู่นั้นในเวลานี้ก็เปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นมาทันที
“เขา! คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองมาทางนี้!”
“พวกเรา…พวกเราถูกค้นพบแล้วหรือ!”
“อ๊ากกก!”
ในตอนที่พวกเขากำลังตื่นตกใจอยู่นั้น คนที่มีจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งที่อยู่ข้างกายทั้งสองกลับกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช
“อ๊ากกกกกก!”
พวกเขากล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “จิตวิญญาณถูกสะท้อนกลับ นอกจากนี้มันยังไม่ใช่การสะท้อนกลับแบบธรรมดาอีกด้วย อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาทั้งสองคนเลย และพวกเขาอาจจะกลายเป็นคนเสียสติไปเลยก็ได้ รีบพาพวกเขาไปรักษาก่อน หากรักษาไม่ได้ก็ช่างมัน”
ในเวลานี้พวกเขาเข้าใจได้แล้วสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือไม่สามารถแตะต้องหมอปีศาจได้ และพลังนั่นก็ลึกเกินจะหยั่งถึง ตามข่าวลือจริง ๆ
พวกเขาต้องสูญเสียคนไปถึงสองคน แต่ก็ทำได้เพียงแค่ขบฟันเอาไว้ โดยไม่กล้าพูดอะไรออกมา
คนพวกนี้อ่อนแอเกินไป นี่มันจะไม่สบประมาทหอหมอปีศาจเกินไปหน่อยหรือ และแววตาของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นยะเยือกออกมา
นางรู้ดีว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ต้องมากกว่านี้แน่นอน และก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้คนเหล่านี้จะใช้กลอุบายอะไรอีก
แต่พวกเขาจะมีลูกไม้อะไรก็มาเถอะ เพราะหมอปีศาจอย่างนางจะรับมือเอง
นางก็อยากจะรู้เช่นกันว่า ชัยชนะคราวนี้จะอยู่ในมือผู้ใดกันแน่ อย่างไรเสียหอหมอปีศาจของนางก็รังแกไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะ!