“อะไรนะ?” มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง
มังกรวารีกล่าวตอบว่า “แต่นายท่านโปรดวางใจ ร่างหลักของมันไม่น่าจะอยู่ในแดนซวนเทียน มิเช่นนั้นแดนซวนเทียนคงจะไม่สงบสุขไปนานแล้ว”
ตูมมม!
ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมาจากด้านนอก
และมีใครบางคนกำลังส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ฮ่า ฮ่า ฮ่า! อาศัยเพียงแค่พวกคนสารเลวอย่างพวกเจ้า ยังจะกล้ามาสู้กับข้าอีกอย่างนั้นหรือ! ราชาวิญญาณของข้า จงฉีกพวกมันออกเป็นชิ้น ๆ ซะ”
สีหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนไปในทันที พลางกล่าวว่า “แย่ล่ะ! เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”
ในตอนที่มู่เฉียนซีและมังกรวารีกำลังต่อสู้กับต้นไม้ปีศาจแห่งความตายอยู่นั้น ด้านนอกกลับมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น
คิดไม่ถึงเลยว่ากุ่ยเต้าเหรินจะใช้สายเลือดของเขาเพื่อดึงดูด และบีบบังคับให้อากุ่ยกลายร่างเป็นราชาวิญญาณ
เนื่องจากว่าในตัวของอากุ่ยนั้น มีสายเลือดของเขาไหวเวียนอยู่ด้วยส่วนหนึ่งนั่นเอง
วิชาต้องห้ามเช่นนี้ไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปได้อีกแล้ว เพราะมิเช่นนั้นมันจะส่งผลเสียต่อร่างกายของอากุ่ยอย่างร้ายแรง
“บัดซบเอ๊ย!”
ดวงตาของว่านซือเยี่ยนในเวลานี้เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ และเขาก็หมดปัญญาจะสู้อีกต่อไป เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการโจมตีของอากุ่ยเช่นนี้
พวกเขาทำได้เพียงแค่หลบหลีก เพราะไม่กล้าที่จะโจมตี นอกจากนี้อากุ่ยก็แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย
ร่างสีม่วงมาปรากฏอยู่ด้านหลังของกุ่ยเต้าเหรินราวกับสายฟ้าแลบอย่างไรอย่างนั้น ฉึก! และเข็มยาเล่มหนึ่งแทงเข้าไปในหลังคอของเขา ส่วนอีกเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่บนต้นคอของเขา
“หากเจ้าไม่อยากตายทั้งเป็นแล้วละก็ ทางที่ดีอย่าขยับจะดีกว่า”
ตัวของกุ่ยเต้าเหรินแข็งทื่อขึ้นมาทันที เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า “จะ…พวกเจ้า เหตุใดพวกเจ้าถึงมีชีวิตรอดออกมาได้?”
ในตอนที่พวกเขาก้าวเท้าเข้าไปในอาณาเขตของนายท่านผู้นั้น เขาก็แน่ใจแล้วว่า ทั้งสองคนนี้ไม่มีทางรอดชีวิตออกมาได้อย่างแน่นอน
อีกทั้งเจ้าหนูว่านซือเยี่ยนนั่นก็บีบคั้นเขา ดังนั้นเขาจึงได้เลือกที่จะใช้วิธีเช่นนั้น
นี่ทำให้เขาสามารถมีราชาวิญญาณได้ แต่ทว่าด้วยความเร่งรีบเกินไป จึงทำให้ราชาวิญญาณนี้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
เขารอคอยวันเช่นนี้มาเนิ่นนานมากแล้ว มันน่าเสียดายมากเกินไปหน่อยจริง ๆ หากต้องมาถูกทำลายไปเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าไม่รู้สึกว่าข้างในนั้นเงียบเป็นพิเศษอย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่รู้สึกข้างในนี้ไม่มีพลังแห่งความตายใด ๆ อยู่อีกแล้ว และเหลือเพียงพลังแห่งชีวิตบ้างหรืออย่างไร? เศษไม้นั่น มันได้ถูกข้ากับมังกรวารีจัดการไปแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงตาเจ้าแล้วล่ะ”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้” บนใบหน้าของกุ่ยเต้าเหรินแสดงถึงความเหลือเชื่อออกมา
ท่านเทพมรณะจะถูกมนุษย์จัดการได้อย่างไร เขาไม่เชื่อหรอก!
แต่ทว่าพวกเขาก็ออกมาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งภายในนั้นก็ยังไม่มีความผันผวนของพลังเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ก็ทำให้ร่างของกุ่ยเต้าเหรินสั่นเทาขึ้นมาทันที
กุ่ยเต้าเหรินรู้ดีว่าคนที่อยู่ข้างหลังของเด็กสาวผู้นี้ทรงพลังมากเป็นพิเศษ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะทรงพลังมากถึงจุดนี้ได้ ขนาดท่านเทพมรณะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย
“จะ…เจ้าฆ่าข้าไม่ได้…ทำไม่ได้หรอก หากเจ้าฆ่าข้า ราชาวิญญาณของข้าก็จะตายไปพร้อมกับข้าด้วย! พวกเจ้าทนได้อย่างนั้นหรือ?”
กุ่ยเต้าเหรินหวาดกลัวมาก แต่เขาก็ถือว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์คนหนึ่งเช่นกัน และรู้ดีว่าตนเองนั้นมีไพ่ตายที่มีประโยชน์มากอยู่ในมือ
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าบอกให้อากุ่ยหยุดต่อสู้ก่อน เร็วเข้า!”
เห็นอยู่ว่าอากุ่ยกำลังจะทำร้ายว่านซือเยี่ยนได้อยู่แล้ว แต่ว่านซือเยี่ยนที่หมดปัญญาสู้จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไรกัน
“ได้! ข้าจะทำให้เขาหยุดเดี๋ยวนี้ ทำให้เขาหยุด…”
อากุ่ยที่ถูกเจ้าหมอนี่ควบคุม ก็หยุดลงทันทีและไม่ต่อสู้อีกต่อไป
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทำให้อากุ่ยกลับมาเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า!”
“เปลี่ยนกลับไม่ได้แล้ว ไม่สามารถกลับมาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้า ก็ไม่อาจเปลี่ยนกลับมาได้อีกแล้ว พวกเจ้าทิ้งเจ้าเด็กน้อยนั่นไว้ที่นี่ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าออกไปจากสำนักภูตวิญญาณอย่างปลอดภัยเอง ตกลงตามนี้ดีหรือไม่?” กุ่ยเต้าเหรินกล่าว
“ไม่ดี ปี้ฟางคือน้องชายของข้า ฉะนั้นข้าจะต้องเอาเขากลับไปให้ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นมนุษย์หรือเป็นภูตผีวิญญาณก็ตาม ถึงอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายของข้า!”
มือของว่านซือเยี่ยนวางลงไปบนบ่าของอากุ่ย แต่ทว่าอากุ่ยกลับไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าหนูว่านซื่อ เจ้าจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว! เดิมทีอากุ่ยก็เป็นคนของสำนักภูตวิญญาณของข้าอยู่แล้ว เป็นพ่อบุญธรรมที่อายุสั้นของเจ้าต่างหากที่มาแย่งอากุ่ยของข้าไป ตอนนี้เขาก็แค่กลับมาอยู่ในสถานที่ของตนเองเท่านั้น” กุ่ยเต้าเหรินกล่าว
“เจ้านี่พูดไร้สาระเหมือนสุนัขผายลมจริง ๆ ข้าโตมากับเขาตั้งแต่เล็กแต่น้อย หรือไม่รู้ว่าเขาเป็นคนประเภทไหนอย่างนั้นหรือ? เขาต้องไม่ใช่คนของที่นี่แน่นอนอยู่แล้ว”
กุ่ยเต้าเหรินผู้นี้จัดการได้ยากมาก แม้ว่านซือเยี่ยนแทบรอที่จะสับเขาเป็นชิ้น ๆ ไม่ไหว แต่กลับไม่สามารถฆ่าเขาได้อยู่ดี
เมื่อเขาได้เห็นทางท่าที่ไร้สติของอากุ่ยก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก “ข้าบอกแล้วว่าไม่ให้เจ้ามา เจ้าก็เอาแต่ดื้อดึง ดูตอนนี้สิ แม้แต่เล่นเจ้ายังเล่นไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องศึกษาค่ายกลอะไรนั่นของเจ้าเลย”
“ทางที่ดีพวกเจ้ายอมรับข้อตกลงของข้าจะดีกว่า มิเช่นนั้นหากทำให้ข้าโกรธ ข้าก็จะลากเจ้าเด็กนี่ไปตายด้วยกันเสียเลย ข้าจะดูว่าเมื่อถึงตอนนั้นพวกเจ้าจะทำเช่นไร?” ว่านซือเยี่ยนเริ่มกังงวลเกี่ยวกับอากุ่ยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตาแก่นี่รู้ว่าเบี้ยที่อยู่ในมือของตนเองนั้นมีประโยชน์มากเพียงใด ฉะนั้นจึงเริ่มทำตัวหยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ตึงง!
มู่เฉียนซีที่โกรธจัด จึงได้เตะกุ่ยเต้าเหรินอัดเข้าไปที่กำแพงอย่างแรง จนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่บนกำแพงนั้นเลยทีเดียว
แกรก!
ฟันหน้าของเขาล่วงลงมาบนพื้นทันที
“จะ…คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าตีข้า…”
“อ๊ากกกกกก!”
ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีผีร้ายนับร้อยนับพันตัวกำลังปีนป่ายไปทั่วร่างกายของเขา พวกมันกำลังฉีกทึ้งจิตวิญญาณของเขา ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป
ทั่วทั้งร่างของกุ่ยเต้าเหรินมีเหงื่อเย็นไหลท่วมไปหมด เพียงแค่ครู่หนึ่งก็รู้สึกเหมือนกับว่าถูกจับลากออกมาจากน้ำอย่างไรอย่างนั้น
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “เขาไม่ได้ตายไปแล้วหรอกนะ!”
“พิษของข้าทำให้เขาตายไม่ได้ ถึงเขาจะฆ่าตัวตายก็อย่าคิดว่าจะตายได้ง่าย ๆ เลย! ดูท่าทางที่อวดดีของเขาแล้ว คงคิดจริง ๆ ว่าพวกเราไม่กล้าทำอะไรเขาอย่างนั้นสินะ? คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
“ยาถอนพิษ! ยาถอนพิษ เอายาถอนพิษมาให้ข้า!” กุ่ยเต้าเหรินคำรามลั่น
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ต้องการยาถอนพิษหรือ ไม่มีหรอก! ทำให้อากุ่ยพื้นตัวกลับมาเสีย หรืออย่างน้อยก็ฟื้นคืนสติก็ได้?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เช่นนั้นเจ้าก็ขอร้องข้าซะสิ! คุกเข่าขอร้องข้า”
มู่เฉียนซีเตะเขาเพิ่มอีกหลายครั้ง หลังจากนั้นก็เพิ่มยาพิษชนิดอื่นให้เขาอีก “ดูเหมือนว่ากระดูกแก่ ๆ ของเจ้าจะหักง่ายไปหน่อยนะ! แต่ไม่เป็นไร พวกเรามาต่อกันเถอะ ที่ข้ามียาอยู่มากมายเลยล่ะ”
“อ๊ากกกก!” เสียงกรีดร้องของกุ่ยเต้าเหรินน่าเวทนามากขึ้นเรื่อย ๆ จนในเวลานี้เขาก็ได้สูญเสียสติสติสัมปชัญญะไปแล้วอย่างสิ้นเชิง จากนั้นก็ลงมือควบคุมอากุ่ยอีกครั้ง
อากุ่ยพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี แต่ผลปรากฏว่ากลับถูกมังกรวารีขวางเอาไว้ได้ และมังกรวารีก็ได้แช่แข็งเขาเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เจ้านายของเขาปลอดภัย
“รีบปล่อยอากุ่ยเดี๋ยวนี้” ว่านซือเยี่ยนกล่าว
มู่เฉียนซีหยุดวางยาพิษเขา จากนั้นกุ่ยเต้าเหรินก็กล่าวว่า “พวกเจ้ามีฝีมือเล็กน้อยแค่นี้เองอย่างนั้นหรือ? ก็ไม่เห็นจะเท่าไรเลยนี่? พวกเจ้ากล้าทำให้ข้าต้องทุกข์ทรมาน ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นมีชีวิตที่ดีเช่นกัน”
“ขอร้องข้าสิ ขอเพียงแค่พวกเจ้าคุกเข่าข้อร้องข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้าผีตนนั้นให้ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้เขาระเบิดตัวเองตายไปเสีย”
ร่างกายของอากุ่ยแผ่กระจายพลังออกมา และแม้ว่าจะถูกแช่แข็งอยู่ก็ไม่อาจขวางการระเบิดตนเองได้อยู่ดี และนี่ก็ทำให้สีหน้าของมู่เฉียนซีและว่านซือเยี่ยนมืดมนลง
มังกรวารีเดินออกมาจากข้างหลังของมู่เฉียนซี พลางกล่าวว่า “นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ทำให้นายท่านต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่สบายใจเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะมังกรวารีดีไม่พอเองขอรับ”
เขาเดินไปตรงหน้าอากุ่ยที่กำลังถูกแช่แข็งเอาไว้ จากนั้นเหลือบมองไปยังกุ่ยเต้าเหรินอย่างเย็นยะเยือกพลางกล่าวว่า “วิชาวิญญาณขั้นต่ำเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังจะกล้ามาพูดจาไร้สาระอย่างมั่นใจต่อหน้านายท่านของข้าเช่นนี้ ช่างน่าขันเสียจริง”
มือเรียวยาวลากผ่านไปตามชั้นน้ำแข็ง เวลานี้มังกรวารีกำลังวาดค่ายกลอยู่ กุ่ยเต้าเหรินมีชีวิตมานานถึงเพียงนี้แล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นค่ายกลที่ลึกลับเช่นนี้มาก่อนเลย
“ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีใด ก็อย่าคิดว่าจะสามารถทำให้ราชาวิญญาณของข้าหลุดจากการควบคุมของข้าไปได้เลย ไม่มีทางเสียหรอก!”
หลังจากนั้นก็มีลำแสงสีฟ้าอ่อนระเบิดออกมาจากอักขระค่ายกลนั้น แกรก! ทันใดนั้น ชั้นของน้ำแข็งก็ปรากฏรอยร้าวออกมา