“บัดซบเอ๊ย! เจ้าหมอนั่นต้องเป็นคนทำแน่ ๆ ฝ่ามันออกไปเร็ว!”
สภาพแวดล้อมของที่นี่ยิ่งมืดครึ้มลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นร่องรอยของแสงสว่างเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นทุกคนจึงต้องเข้าร่วมในการต่อสู้อย่างเต็มกำลัง!
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
ลำแสงสีฟ้าอ่อนสว่างวาบขึ้น จากนั้นก็กวาดบริเวณโดยรอบจนราบเป็นหน้ากลอง
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ในสถานการณ์ขั้นวิกฤติ มู่เฉียนซีจึงทำได้เพียงแค่ระเบิดพลังวิญญาณของธาตุทั้งสามออกมาเท่านั้น
คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เป็นคนที่ว่านซือเยี่ยนเชื่อใจ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางเปิดเผยเรื่องที่นางเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุอยู่แล้ว
ตูมมม โครมมม!
ในขณะที่กำลังหยุดชะงักเพราะทางตันอยู่นั้น ก็มีเสียงร้องเสียงหนึ่งดังออกมา
“อ๊ากกกก!”
สีหน้าของว่านซือเยี่ยนเปลี่ยนไปอย่างมากทันที “เป็นอากุ่ย!”
“ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายของอากุ่ยไม่ได้แล้ว!” สีหน้าของมู่เฉียนซีฉายแววเคร่งขรึมออกมา
“เก้าอัคคีพิฆาต!”
และรอบตัวของว่านซือเยี่ยนก็ระเบิดพลังสีทองอร่ามสว่างไสวออกมา จนกวาดเถาวัลย์ที่อยู่โดยรอบหายไปจนสิ้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มังกรวารี!”
ทันใดนั้น พลังธาตุวารีทั้งหมดก็ส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งป่าที่มืดมิดแห่งนี้
และเพียงชั่วพริบตาเดียว ศัตรูทั้งหมดก็หายสาบสูญไปจนสิ้นซากด้วยความรวดเร็วของมังกรวารี
แต่เมื่อมองไปบริเวณโดยรอบแล้ว กลับไม่พบร่างของอากุ่ยแต่อย่างใด “ให้ตายเถอะ!”
“ตาแก่คนนั้นจะต้องเป็นคนทำแน่ ๆ!”
ตึงง!
และว่านซือเยี่ยนก็ต่อยหินก้อนหนึ่งจนแตกภายในหมัดเดียว
เขาน่าจะบีบบังคับและเผด็จการกับอากุ่ยตั้งแต่แรก เมื่อปล่อยให้อากุ่ยกลับไปอย่างเชื่อฟัง เรื่องแบบนี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
มังกรวารีกระซิบว่า “นายท่าน นี่คือสิ่งที่คุณชายไม่ทันสังเกต!”
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เขากลัวว่าเจ้านายจะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงไม่มีความคิดที่จะไปสนใจคนอื่นเลยแม้แต่น้อย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนของเจ้านายจะถูกจับตัวไปแล้วจริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อากุ่ยไปที่สำนักภูตวิญญาณ! ไปตามหากุ่ยเต้าเหริน หวังว่าตอนนี้อากุ่ยจะยังไม่เป็นอะไร”
“ไปกันเถอะ!”
ว่านซือเยี่ยนในเวลานี้ร้อนรนเจียนจะคลั่งอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของพ่อค้าหน้าเลือดอย่างนายน้อยว่านซื่อผู้นี้
ภายใต้ภาพลักษณ์ละโมบโลภมาก เขากลับเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อคนสำคัญของเขาเช่นกัน
กุ่ยเต้าเหรินผู้นั้นคิดว่าหากพวกเขาไม่มีอากุ่ยอยู่ด้วย ก็คงจะไม่สามารถทำลายค่ายกลได้ ฉะนั้นเขาจึงสร้างค่ายกลขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่าเพื่อที่จะขังพวกเขาเอาไว้จนตาย แต่ผลสุดท้ายกลับถูกมังกรวารีทำลายได้ด้วยการโบกมือเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “มู่เฉินซี ความจริงแล้วอากุ่ยเกิดที่นี่”
กุ่ยเต้าเหรินผู้นั้นก็รู้จักอากุ่ยมาก่อนเช่นกัน นอกจากนี้รูปร่างของอากุ่ยก็คล้ายคลึงกับคนที่นี่มากอีกด้วย
ว่านซือเยี่ยนกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก จึงได้เล่าเรื่องที่เกี่ยวกับอากุ่ยให้กับมู่เฉียนซีได้ฟัง
“เขาชื่นชอบเจ้ามาก หากเจ้าจะรู้เรื่องนี้เขาก็ไม่สนใจอะไรหรอก”
อากุ่ยเกิดที่นี่ และแม่แท้ ๆ ของเขาก็คือลูกสาวของกุ่ยเต้าเหรินนั่นเอง
ทันทีที่เขาเกิดมาก็ได้ถูกสำนักภูตวิญญาณกำหนดให้เป็นตัวเลือกของคนที่จะสำเร็จเป็นราชาวิญญาณ และกุ่ยเต้าเหรินก็ต้องการที่จะสร้างราชาวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา เพื่อที่จะทำให้สำนักภูตวิญญาณของพวกเขามีพลังที่แข็งแกร่งมากที่สุดอีกด้วย
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้สร้างครึ่งผีครึ่งคนอย่างอากุ่ยออกมา และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่พ่อแท้ ๆ ของอากุ่ยได้รู้จักกับพ่อบุญธรรมของพวกเรา
เมื่อเขาได้รับความไว้วางใจ พวกเขาก็มาที่นี่และช่วยคนออกไป
คราวนั้นว่านซือเยี่ยนเป็นคนติตดามพ่อบุญธรรมมาด้วย เขาได้เห็นเด็กอายุเพียงแค่ห้าขวบคนหนึ่งที่ล่องลอยไปทั่วทุกทิศทางราวกับภูตผีก็มิปาน นอกจากนี้เขายังไม่รู้สึกเลยว่าตนเองนั้นคือมนุษย์คนหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นของเขากลับสดใสเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่มีแผนการร้ายใด ๆ อยู่เลยด้วย
เขาไม่รู้ว่าอากุ่ยนั้นทนต่อความยากลำบากมามากมายเพียงใด เพราะเขาไม่เคยพูดถึงมันมาก่อน แต่การคิดถึงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ๆ เช่นกัน
คนธรรมดาคนหนึ่งถูกเปลี่ยนให้กลายมาเป็นคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง อีกทั้งยังไม่สามารถเห็นแสงตะวันได้อีกด้วย
“เป้าหมายในคราวนี้ของกุ่ยเต้าเหรินจะต้องเป็นอากุ่ยแน่ เขาต้องการให้ราชาวิญญาณประสบความสำเร็จ เช่นนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะต้องจับอากุ่ยไปและทำให้อากุ่ยกลายเป็นราชาวิญญาณให้ได้ หลังจากที่อากุ่ยได้กลายเป็นราชาวิญญาณแล้วก็จะถูกเขาควบคุมอย่างสมบูรณ์ และต้องสูญเสียสติทั้งหมดไป ฉะนั้นเราไม่อาจปล่อยให้เขาทำสำเร็จได้เป็นอันขาด!”
“มังกรวารี พวกเราไปที่นั่นกันก่อนเถอะ!”
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าตาแก่นั่นจะมีความเร็วมากแค่ไหน แต่แน่นอนว่าจะมามัวโอ้เอ้อยู่เช่นนี้ไม่ได้แล้ว
“ขอรับ นายท่าน!”
มังกรวารีได้กลายร่างเปลี่ยนเป็นเทพมังกรสีฟ้า จากนั้นก็ให้มู่เฉียนซีขึ้นไปขี่บนร่างของเขา และพุ่งตรงไปยังสำนักภูตวิญญาณทันที
องครักษ์ที่อยู่ข้างกายว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “นะ…นั่นคือเผ่ามังกรอย่างนั้นหรือ? ท่านผู้นั้นคือเผ่ามังกร ที่อยู่เหนือสัตว์เทพอย่างนั้นหรือ?”
ว่านซือเยี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน สำหรับเรื่องของเผ่ามังกรนั้นเขาก็พอมีความรู้อยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยคล้ายเท่าไรนัก เขาเป็นมังกรของเผ่ามังกรวารีอย่างนั้นหรือ?
ตูมมมม!
ทันทีที่มังกรวารีมาถึงสำนักภูตวิญญาณ เขาก็รับคำสั่งจากมู่เฉียนซี จากนั้นพลังวิญญาณธาตุวารีก็ได้ระเบิดออกมา และพุ่งตรงเข้าไปทำลายสำนักภูตวิญญาณทันที
ตูมมม โครมมม!
ลูกศิษย์ของสำนักภูตวิญญาณรีบวิ่งหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่กระจายออกไป จนปกคลุมไปทั่วทุกตารางนิ้วของสำนักภูตวิญญาณ เพื่อเสาะหากลิ่นอายของอากุ่ย
“ให้ตายเถอะ! อากุ่ยไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะ?”
มังกรวารีกล่าวว่า “นายท่าน มีบางสิ่งที่ตั้งใจจะซ่อนกลิ่นอายเขาเอาไว้ หากท่านจัดการกลิ่นอายอื่น ๆ ที่ปนเปอยู่ออกไปได้ ข้าจะลองหาเขาดูอีกครั้ง”
ครืนนนน!
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าก็มีสายฝนแห่งการชำระล้างโปรยปรายลงมา ในขณะที่สายฝนกำลังชำระล้างบริเวณโดยรอบ กลิ่นอายที่ผสมปนเปกันอยู่ก็หายไปอย่างหมดจด
มังกรวารีกล่าวว่า “นายท่าน อยู่ทางนั้น!”
ด้านหลังของสำนักภูตวิญญาณมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งในเวลานี้กลิ่นอายนั้นก็แผ่กระจายออกมาจากภายในถ้ำแห่งนี้
มู่เฉียนซีและมังกรวารีบุกทะลวงเข้าไป ซึ่งมันก็เต็มไปด้วยค่ายกลมากมายอยู่ภายในที่แห่งนี้
“นี่คือค่ายกลยมโลก และพลังของมันก็ยังแข็งแกร่งไม่เท่าไรนัก!”
“ยังมีค่ายกลยมโลกนั่นอยู่อีกหรือ!?”
“นั่น…”
อากุ่ยเม้มริมฝีปากแน่น เขารู้สึกว่าค่ายกลของคนผู้นี้แย่มากเกินไป และยังคิดว่าท่านมังกรวารีแข็งแกร่งกว่าอีกด้วย!
อากุ่ยมีความนึกคิดที่เรียบง่าย เขาชอบที่จะเล่นด้วยการแสร้งทำเป็นผีเพื่อทำให้คนหวาดกลัว และชอบค่ายกลอย่างสุดหัวใจ นอกจากนี้ยังนับถือผู้ที่เก่งเรื่องค่ายกลอีกด้วย
“ตาเฒ่าอย่างเจ้าทำไม่ได้หรอก!”
กุ่ยเต้าเหรินกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าหุบปากไปซะ! หุบปากไปเลย! ใครบอกว่าข้าทำไม่ได้กัน! ข้าศึกษาค่ายกลมานานหลายพันปีแล้ว ยังต้องให้เด็กน้อยอย่างเจ้ามาคอยพูดจาไปเรื่อยอย่างนี้ด้วยหรืออย่างไร?”
อากุ่ยกล่าวว่า “ตาเฒ่า นี่เจ้ากำลังพาลโกรธอย่างนั้นหรือ?”
อย่างไรเสียกุ่ยเต้าเหรินก็ถูกทำให้โกรธมากอยู่ดี “เดี๋ยวเจ้าก็จะต้องกลายเป็นราชาวิญญาณเพื่อมาเป็นลูกน้องของข้าแล้ว! ทางที่ดีเจ้าเชื่อฟังข้าจะดีกว่า หลังจากนี้ข้าจะได้ปฏิบัติต่อเจ้าดีขึ้นอีกหน่อย มิเช่นนั้นแล้วละก็…”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
หลังจากนั้นก็มีลมกระโชกแรงพัดโหมเข้ามา ซึ่งมันก็เต็มไปด้วยจิตสังหารอันเปี่ยมล้น!
กุ่ยเต้าเหรินกัดตนเองจนเลือดไหล จากนั้นก็หยดเลือดสด ๆ ลงบนศรีษะของอากุ่ย
เขาพุ่งทะยานออกไปพลางกล่าวว่า “บัดซบเอ๊ย! พวกเจ้าเข้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
“เป็นพวกเจ้า เป็นพวกเจ้านี่เอง!”
“เจ้าทำให้นายท่านโกรธ ข้าอภัยให้ไม่ได้!” และมังกรวารีก็ลงมืออย่างกะทันหัน จากนั้นพลังธาตุวารีอันน่าสะพรึงกลัวก็ตรึงตาเฒ่าผู้นั้นเอาไว้
แกรก!
ทันใดนั้นกระดูกแก่ ๆ ของเขาก็หักไปหลายท่อนเลยทีเดียว!
“อ๊ากกก!” กุ่ยเต้าเหรินกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
และในเวลานี้เขาก็ร้องตะโกนออกมาว่า “นายท่าน ช่วยข้าด้วย! นายท่าน! ข้ายังไม่อยากตาย!”
กิ่งก้านสีดำพุ่งทะยานออกมาจากภายในถ้ำนั้น และหลังจากนั้นมันก็พุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีทันที “นายท่าน ระวัง!”
มังกรวารีรีบทะยานเข้าไปทันที จากนั้นก็หยุดการโจมตีของกิ่งก้านนั้นด้วยการกดมันเอาไว้
ตึง ตึง ตึง!
ถึงจะใช้พลังของมังกรวารีบดขยี้พวกมัน แต่จำนวนของกิ่งก้านที่พุ่งออกมากลับมากขึ้นไปอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าสิ่งนั้นอยู่ข้างใน!”
“มันคือต้นไม้ต้นนั้น แม้ว่าตอนนี้จะมีเพียงพลังแห่งความตาย และไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่แล้ว แต่จะต้องเป็นมันอย่างแน่นอน!”
ปัง ปัง ปัง!
เพราะเจ้าสิ่งนั้นอยู่ข้างใน จึงทำให้มังกรวารีที่อยู่ข้างนอกจัดการมันได้ไม่ง่ายนัก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “รอให้ว่านซือเยี่ยนมาก่อน ให้เขามาคอยปกป้องอากุ่ยไว้ แล้วค่อยเข้าไปดูข้างในกัน!”
“ขอรับ! นายท่าน!”
ว่านซือเยี่ยนไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลานี้มังกรวารีก็กำลังต่อสู้กับต้นไม้ประหลาดไปด้วย และจัดการกับกุ่ยเต้าเหรินไปด้วย!
“จับมันเอาไว้!” ว่านซือเยี่ยนออกคำสั่ง เพื่อให้คนของพวกเขาเข้าไปจัดการกับกุ่ยเต้าเหรินทันที!