มังกรวารีกล่าวว่า “นายท่าน มังกรวารีสามารถไปช่วยได้หรือไม่!?”
“มังกรวารี เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว ทางด้านของข้าไม่มีอันตรายอะไร เจ้าวางใจเถิด!”
ร่างสีฟ้าอ่อนสว่างวาบขึ้น และมังกรวารีก็ไปปรากฏตัวอยู่ในตำแหน่งเดียวกับอากุ่ย จากนั้นบนอากาศก็มีหยดน้ำปรากฏขึ้นมาหลายหยด
อย่างไรเสียต้นไม้ต้นนี้ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะต้องทำให้เขาใช้เลือดของตนเองอยู่ดี
“ไป!”
เมื่อหยดน้ำถูกกำหนดตำแหน่งแล้ว มันก็ตรงเข้าไปเสริมค่ายกลของอากุ่ยทันที
ทันใดนั้น มันก็มีการระเบิดพลังออกมาอย่างกะทันหัน
เมื่อหน้าดินเริ่มมีการคลายตัว รากทั้งหมดของต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษก็พลิกออกมา
และรากจำนวนมากมายของมัน ก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดแล้ว
แต่ในเวลานี้สิ่งที่อากุ่ยประหลาดใจมากยิ่งกว่าก็คือคนข้างหลังนี้ จากนั้นเขาก็มองไปทางมังกรวารีอย่างชื่นชมพลางกล่าวว่า “นายท่าน นายท่านช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทักษะค่ายกลของท่านช่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก!”
“ท่านโบกมือเพียงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถจัดการเรื่องที่ต่อให้ข้าพยายามอย่างเต็มที่ก็ทำไม่ได้จนสำเร็จ ท่านคือปรมาจารย์ค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าเคยเห็นมาเลย”
มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ล้วนมีความเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเมื่อมังกรวารีอยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซี กลับค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวมากเลยทีเดียว
หากเขาบอกว่าทำได้ เช่นนั้นเขาก็สามารถบรรลุถึงขั้นสุดยอดได้แน่นอนอยู่แล้ว
ทันทีมังกรวารีโบกมือ รากที่สำคัญที่สุดของมันก็ได้ถูกมังกรวารีพันธนาการเอาไว้ได้แล้ว
มังกรวารีกล่าวว่า “นายท่าน หากทำลายมัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถจัดการต้นไม้ต้นนี้ได้แล้ว!”
“ตกลง!”
ร่างสีม่วงสว่างวาบขึ้น มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณและตัดลงไปที่รากไม้ของต้นไม้ต้นนั้นทันที นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เพลิงนภาพิฆาต!”
เปลวเพลิงของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่ต้นไม้เก่าแก่ต้นนั้นจะสามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นพลังเพียงเสี้ยวหนึ่งของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่มู่เฉียนซีจะสามารถใช้ได้ก็ตาม!
พรึ่บ!
รากหลักเหล่านั้นถูกเปลวเพลิงห่อหุ้มเอาไว้ หลังจากนั้นต้นไม้ทั้งต้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง และสถานที่แห่งนี้ก็เปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงในทันที
“อ๊ากกกก! ข้าจะถูกไฟคลอกตายอยู่แล้ว!”
“ช่วยข้าด้วย!”
คนเหล่านั้นพุ่งทะยานออกมาจากกลางทะเลเพลิง ซึ่งคนเหล่านั้นก็คือคนที่ถูกวางแผนร้ายนั่นเอง
เมื่อต้นไม้ต้นนี้ถูกทำลายลง พวกเขาจึงได้รับการปลดปล่อย
ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีเลยแม้แต่น้อย เดิมทีพวกเขาก็ถือว่ามีอายุมากแล้ว และแน่นอนว่าการบำเพ็ญนั้นทำให้พวกเขาไม่แก่เร็วเกินไปนัก
แต่ผลสุดท้ายกลับถูกต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษดูดกลืนพลังชีวิตไป ซึ่งมันก็เหมือนกับแตงกวาที่ถูกดูดน้ำออกไปหมดอย่างไรอย่างนั้นเลย
นอกจากนี้หญิงสาวบางคน ก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของตนเองเลยด้วยซ้ำ
“ฮื้อออออ!”
“มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร พวกเราถูกหลอกอย่างนั้นหรือ?”
“สำนักภูตวิญญาณบัดซบนั่น คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าหลอกพวกเรา ช่างน่าแค้นใจนัก!”
หลังจากที่เปลวเพลิงมอดลงแล้ว ไม้เทพแห่งชีวิตที่อยู่ตรงกลายนั้นกลับไม่ได้ถูกทำลายลงไป และด้านบนนั้นก็ยังมีใบไม้สีเขียวห้อยอยู่อีกด้วย
แม้ว่าจะเคยมีประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวมาแล้ว แต่เวลานี้คนเหล่านั้นกลับจ้องไปที่ใบไม้ใบเดียวนั้นอย่างโลภมากอยู่ดี
“แม้ว่าพวกเราจะถูกกุ่ยเต้าเหรินนั้นหลอกลวง แต่พลังชีวิตนี้ก็เป็นของจริง บางทีมันอาจจะสามารถฟื้นฟูพวกเราได้ก็เป็นได้!”
“ใช่แล้ว!”
“……”
พวกเขาจ้องมองไปที่ต้นไม้ต้นเล็ก ๆ นั่นด้วยแววตาที่เปล่งประกาย มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน! หากพวกเจ้าอยากตายแล้วละก็ เช่นนั้นก็สามารถกระโจนใส่มันได้”
“ข้าว่าเจ้าอยากจะเก็บมันไว้คนเดียวมากกว่า!”
“เอาชนะต้นไม้ต้นนี้ได้แล้วเก่งนักหรือ? ตอนนั้นพวกเราก็แค่ถูกวางแผนร้าย มิเช่นนั้นพวกเราก็สามารถจัดการได้เหมือนกันนั่นแหละ!”
“พวกเราจะเอาไปก่อน ตอนนี้พวกเจ้าก็ไม่ได้เป็นอะไร หากต้องการพวกเราจะให้ส่วนที่เหลือกับพวกเจ้า หลังจากที่รอพวกเราแบ่งกันเสร็จแล้ว”
เนื่องจากพลังชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ทำให้พวกเขามีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
และเพื่อประโยชน์ของตนเอง แม้แต่คนที่ช่วยเหลือพวกเขาเหล่านี้ พวกเขาก็ไม่เพียงแต่จะไม่สำนึกบุญคุณ แต่ยังคิดที่จะช่วยตนเองก่อนอีกด้วย
“ไม่ได้!”
แม้แต่มู่เฉียนซีก็ยังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ ไม้นั้นย่อมต้องกลัวไฟ แต่ทว่าเจ้าไม้เทพแห่งชีวิตปลอมนี่ แม้จะอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำเช่นนั้นกลับยังไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย
นี่มันต้องไม่ปกติอย่างแน่นอน และนั่นก็ไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดาอีกด้วย แต่มันคือเปลวเพลิงของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เชียวนะ
ความจริงแล้วมู่เฉียนซีไม่ได้ต้องการช่วยชีวิตคนเหล่านี้ เพียงแค่ไม่อยากให้พวกเขาไปช่วยเหลือเจ้าของสิ่งนี้เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เจ้าคนเนรคุณเหล่านั้นกลับไม่พอใจ และคิดว่ามู่เฉียนซีต้องการจะแย่งของกับพวกเขาด้วย
“พวกนางมีคนเพียงแค่น้อยนิด ดังนั้นพวกเราไม่ต้องไปกลัวนางหรอก!”
“พวกเราจะไปเด็ดใบไม้ ส่วนพวกเจ้าก็ขวางพวกนางเอาไว้ก่อน”
เนื่องจากพวกเขาตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ผ่านหายนะมาด้วยกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่รู้จักกัน แต่เพื่อประโยชน์ที่มีร่วมกันแล้ว พวกเขาจึงได้ร่วมมือกัน
สีหน้าของว่านซือเยี่ยนเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าพวกรนหาที่ตายกลุ่มนี้นี่!”
“จะเย่อหยิ่งไปทำไมกัน? เจ้าก็เป็นเพียงแค่คนที่หาเงินได้มากเท่านั้นแหละ ในด้านความสามารถ เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก!” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวอย่างเย็นชา
ตูมมม โครมมม!
ไม่ง่ายเลยกว่าจะจัดการต้นไม้ประหลาดนั่นได้ แล้วตอนนี้ยังต้องมาเกิดเรื่องขัดแย้งเช่นนี้อีก
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาแล้ว!”
“ไม่ได้ จำเป็นต้องทำลายต้นไม้ต้นนี้ไปซะ!”
“ช่างมันเถอะน่า!”
มู่เฉียนซีต้องการที่จะทำลายฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตของพวกเขา ฉะนั้นถึงตายพวกเขาก็ไม่ยอมแน่นอนอยู่แล้ว และคนเหล่านี้ก็พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อขวางพวกเขาเอาไว้
ปัง ปัง ปัง!
ในระหว่างการตะลุมบอน ก็มีคนพุ่งทะยานเข้าไป และหยิบใบไม้นั้นมาได้ แต่คิดไม่ถึงว่าใบไม้เหล่านั้นจะเริ่มปลิวออกไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้าเอามาได้แล้ว ทำได้แล้ว เป็นพลังชีวิตนี่แข็งแกร่งเหลือเกิน!”
“ต้นไม้เทพนี้มันจำพวกเราได้ มันจึงได้เอาใบของมันมอบให้พวกเรา ถึงพวกเจ้าจะขัดขวางก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”
“ใครก็อย่าคิดมาขวางการฟื้นฟูพลังชีวิตของข้าได้เลย!”
หลังจากที่ได้รับใบไม้ของต้นไม้ประหลาดนั้นแล้ว พวกเขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และมู่เฉียนซีก็ได้เห็นว่าคนที่แก่งอมแล้วเหล่านั้นฟื้นฟูอายุกลับมาได้แล้ว นอกจากนี้ในร่างกายของพวกเขาก็มีพลังชีวิตแล้วด้วย
แต่ทว่า นี่เป็นแค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น!
ด้วยความพยายามเพียงพริบตาเดียว พลังชีวิตของพวกเขาก็ถูกดูดไปจนแห้งเหือด และพวกเขาก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
พวกเขาไม่สามารถเอารอยยิ้มบนหน้านั้นกลับมาได้อีกแล้ว สุดท้ายพลังชีวิตของพวกเขาก็ไหลออกไปอย่างต่อเนื่อง จนไม่อาจควบคุมได้!
“อ๊ากกก! ช่วยข้าด้วย!”
“ช่วยข้าด้วย! นี่ก็คือต้นไม้ปีศาจเช่นกัน มันไม่ใช่ต้นไม้เทพ!”
“ช่วยข้า…ช่วยข้าด้วย!”
เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ และมู่เฉียนซีก็เตรียมที่จะลงมือทำลายมัน แต่ในขณะที่เปลวเพลิงกำลังจะปะทะเข้ากับต้นไม้ต้นนั้น กลับคิดไม่ถึงเลยว่าต้นไม้ต้นนั้นจะหายไปจากเบื้องหน้านั้นแล้ว
“มันหายไปแล้ว! มันหนีไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ใต้ดินอย่างนั้นหรือ?”
“หามัน!”
ต้นไม้ต้นนั้นจะต้องไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน แต่ทว่าพวกเขากลับหามันไม่เจอเลย
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “เจ้าต้นไม้ต้นนี้มีความเกี่ยวข้องกับกุ่ยเต้าเหริน หากพวกเราไปจับเขามา น่าจะได้รู้ว่าของสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่?”
“อื้ม!”
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว แต่หลังจากที่พวกเขาออกมาจากข้างใน กลับค้นพบว่าเส้นทางตอนที่พวกเขามากับตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และที่นี่ก็มีลมหนาวที่พัดมาอย่างรุนแรงมากเลยด้วย
อากุ่ยกล่าวว่า “ที่นี่มีค่ายกล พี่เยี่ยน เสี่ยวซี มอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ!”
“แต่ก่อนหน้านี้เจ้าได้รับบาดเจ็บนี่”
“บาดเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น ข้ากินยาที่เสี่ยวซีมอบให้ข้าแล้วด้วย! แค่ค่ายกลเหล่านี้ ข้าไม่อาจมอบให้เป็นหน้าที่นายท่านได้หรอก เพราะดูจะไม่เป็นธรรมต่อนายท่านมากเกินไปจริง ๆ” อากุ่ยกล่าว
ดังนั้นหลังจากนี้เรื่องเกี่ยวกับค่ายกล อากุ่ยจึงรับหน้าที่ในการจัดการมันทั้งหมด
ถึงสามารถทำลายค่ายกลได้ แต่ทว่าในตอนที่พวกเขาเดินเข้าไปในป่าทึบที่ชั่วร้ายแห่งนี้ ต้นไม้ที่อยู่ที่นี่กลับถูกใครบางคนกำลังควบคุมเอาไว้หมดแล้ว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
กิ่งก้าน เถาวัลย์ และรากของต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วน พุ่งโจมตีพวกเขาราวกับปีศาจเริงระบำก็มิปาน นอกจากนี้ยังมีใครบางคนกำลังควบคุมวิญญาณเพื่อแอบโจมตีพวกเขาอยู่อีกด้วย!
.
.