ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 2147 จับเด็กซนนั่นไว้

ตอนที่ 2147 จับเด็กซนนั่นไว้

ถึงทาง​บน​เขา​จะขรุขระ​ แต่​สำหรับ​ผู้​ที่​ฝึกฝน​พลัง​วิญญาณ​นั้น​กลับ​ไม่ใช่ปัญหา​ที่​ใหญ่​อะไร​เลย​

ตลอดทาง​นั้น​มีทั้ง​ไอ​เย็น​ ไอ​แห่ง​ความตาย​ หรือ​แม้กระทั่ง​ไฟป่าที่​กำลัง​ถูก​เผาไหม้​อยู่​ริม​ทาง​ด้วย​

กิ่งก้าน​ที่​อายุ​นับ​พันปี​มีใบไม้​เขียวชอุ่ม​ ซึ่งมัน​ก็​ทำให้​แสงแดด​ไม่อาจ​สาด​แสงลงมา​ได้​ และ​ที่​แปลก​ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​มัน​มีโลงศพ​สีแดง​เลือด​แขวน​อยู่​เหนือ​หัว​จำนวน​ไม่น้อย​เลย​ทีเดียว​

เสียง​ของ​สายลม​ที่​พัดผ่าน​ ทำให้​รู้สึก​ราวกับ​มีสิ่งของ​บางอย่าง​กำลัง​พุ่ง​ออกมา​อย่างไร​อย่างนั้น​

พวกเขา​รู้สึก​ราวกับว่า​ได้​เข้า​มายัง​โลก​ที่​แปลกประหลาด​มาก​ที่สุด​โลก​หนึ่ง​ แต่ทว่า​ว่าน​ซือเยี่ยน​กลับ​นิ่ง​สงบ​อย่าง​ผิดปกติ​

มู่เฉียน​ซีกล่าวถาม​ว่า​ “ว่าน​ซือเยี่ยน!​ เจ้าเคย​มาที่นี่​อย่างนั้น​หรือ​?”

ว่าน​ซือเยี่ยน​ไม่ยอม​ตอบกลับ​ และ​สั่งให้​คน​ของ​ตนเอง​รีบเร่ง​ตรง​ไปข้างหน้า​ให้​เร็ว​ที่สุด​

อย่างไร​เสีย​ตลอดทาง​มานี้​ทิวทัศน์​ที่​พบเห็น​ได้​มาก​ที่สุด​ ก็​คือ​โลงศพ​ใน​รูปทรง​ต่าง ๆ​ ที่​ถูก​จัดวาง​ใน​หลากหลาย​รูปแบบ​

กลุ่ม​ของ​พวกเขา​เดินหน้า​ไปอย่าง​สงบ​ แต่​สีหน้า​ของ​แต่ละ​คนใน​กลุ่ม​ที่​ขึ้น​เขา​มาหลังจากนั้น​กลับ​ดู​แย่​เป็นอย่างมาก​

“อ๊ากกก!​ นี่​มัน​บ้า​อะไร​กัน​เนี่ย​?”

“ศิษย์​พี่​ มัน​น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​! พวกเรา​กลับกัน​เถอะ​! สถานที่​ที่​อึมครึม​ถึงเพียงนี้​ จะไปมีไม้เทพ​แห่ง​ชีวิต​ได้​อย่างไร​? สำนัก​ภูต​วิญญาณ​นั้น​โกหก​แน่​!”

“ท่าน​อาจารย์​…”

คน​กลุ่ม​หนึ่ง​สั่นสะท้าน​ขึ้น​มาด้วย​ความหวาดกลัว​จน​แทบ​ทนไม่ไหว​อยู่แล้ว​

“สำนัก​ภูต​วิญญาณ​เป็นหนึ่ง​ใน​สิบ​สำนัก​ที่​ลึกลับ​ที่สุด​ของ​ราชวงศ์​ตง​หวง​ ใน​เมื่อ​มาแล้วก็​ควรจะ​ไปเที่ยว​ชมกัน​สักหน่อย​เถอะ​ โอกาส​ที่​พวกเขา​จะปรากฏตัว​ใน​โลก​นี้​มีไม่มาก​นัก​ ซึ่งบางครั้ง​อาจจะ​ไม่เกิดขึ้น​มาอีก​เป็นเวลา​หลาย​สิบ​ปีเลย​ก็ได้​”

“พวกเรา​ไม่ได้​อยาก​มีโอกาส​ใน​การเที่ยว​ชมสถานที่​แห่ง​นี้​เสียหน่อย​” พวกเขา​จะถูก​ทำให้​ตกใจกลัว​จน​จะหมดสติ​อยู่แล้ว​!

สำนัก​ภูต​วิญญาณ​นี้​ไม่ได้​แปลกประหลาด​อย่าง​ธรรมดา​เลย​จริง ๆ​

หลังจากที่​เดินทาง​มาไก้​สักพัก​ มู่เฉียน​ซีและ​ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​เห็น​เข้ากับ​ประตู​ใหญ่​ของ​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​แล้ว​

ทันทีที่​พวกเขา​เหยียบ​ลง​ไปบน​บันได​ ประตู​ใหญ่​นั้น​ก็​เปิด​ออกมา​อย่าง​กะทันหัน​

แอ๊ด​ แอ๊ด​ แอ๊ด​!

บานประตู​หลาย​บาน​ถูก​เปิด​ออกมา​ติดต่อกัน​ ราวกับ​กำลัง​ต้อน​รับแขก​ผู้มีเกียรติ​ก็​มิปาน​

หลังจากที่​ว่าน​ซือเยี่ยน​เดิน​เข้าไป​แล้ว​ ลูกศิษย์​ของ​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​ก็​ปรากฏตัว​ออกมา​

คน​เหล่านี้​คือ​มนุษย์​ เพียงแต่​สีหน้า​ของ​พวกเขา​ไม่ได้​ขาว​อย่าง​ผิดปกติ​ ซึ่งมัน​ก็​ทำให้​มู่เฉียน​ซีนึกถึง​อา​กุ่ย​ขึ้น​มาทันที​

ผิวพรรณ​นั้น​มีความคล้ายคลึง​กับ​อา​กุ่ย​มาก​ แต่ทว่า​อา​กุ่ย​มีหน้าตา​ที่​หล่อเหลา​กว่า​พวกเขา​มากมาย​นัก​

“ท่าน​แขก​ผู้มีเกียรติ​ทุกท่าน​ เชิญทาง​ด้าน​นี้​ขอรับ​!”

ว่าน​ซือเยี่ยน​กล่าวว่า​ “ข้า​ต้องการ​พบ​เจ้าสำนัก​ของ​พวก​เจ้า?”

“ก่อนที่​แขก​ทั้งหมด​จะมารวมตัวกัน​ เจ้าสำนัก​ของ​พวกเรา​จะไม่พบ​แขก​ท่าน​อื่น​ก่อน​ขอรับ​! รอ​หลังจากที่​แขก​ทั้งหมด​มารวมตัวกัน​หมด​แล้ว​ เจ้าสำนัก​ของ​พวกเรา​จะเปิดเผย​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​แขก​ทุกท่าน​สงสัย​เอง​”

ลูกศิษย์​ของ​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​มีไม่มาก​นัก​ เนื่องจากว่า​พวกเขา​ไม่เคย​รับ​ลูกศิษย์​จาก​ภายนอก​เลย​

ซึ่งลูกศิษย์​สำนัก​ใน​ล้วน​เป็น​ทายาท​ของ​ผู้อาวุโส​ใน​สำนัก​ทั้งนั้น​ และ​มัน​ก็​ได้รับ​การสืบทอด​มาจาก​รุ่น​สู่รุ่น​อีกด้วย​

ใน​เมื่อ​อีก​ฝ่าย​ยืนกราน​ใน​เรื่อง​นี้​ ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​ไม่อาจ​ที่จะ​บังคับ​ให้​พา​ไปหา​เจ้าสำนัก​ของ​พวกเขา​ได้​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียงแค่​ยอมแพ้​เท่านั้น​ แต่​ถึงอย่างไร​เสีย​เขา​ก็​ไม่จำเป็น​ที่จะ​ต้อง​รอ​นาน​ขนาด​นั้น​หรอก​

และ​ใน​คืน​นั้น​ มู่เฉียน​ซีก็​ค้นพบ​ว่า​ว่าน​ซือเยี่ยน​ออก​ไปจาก​ห้องนอน​ของ​เขา​แล้ว​

“ใน​สถานที่​ที่​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนี้​ คิดไม่ถึง​ว่า​ว่าน​ซือเยี่ยน​จะยอม​ออก​ไปเดินเล่น​ใน​ยามค่ำคืน​เช่นนี้​ด้วย​ ไปดู​กัน​เถอะ​ว่า​เขา​วางแผน​จะทำ​อะไร​กัน​แน่​?”

ใน​ตอนแรก​ว่าน​ซือเยี่ยน​บอ​กว่า​จะไม่มาสำนัก​ภูต​วิญญาณ​ แต่​ผลสุดท้าย​หลังจากที่​เขา​จากไป​ไม่นาน​ก็​กลับมา​อีกครั้ง​ ซึ่งมัน​ทำให้​นาง​ประหลาดใจ​มาก​มาโดยตลอด​

ภายใน​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​นั้น​อันตราย​มาก​ เพราะ​มัน​มีค่าย​กล​ที่​เป็น​กลไก​ของ​กับดัก​มากมาย​ ซึ่งโชค​ยัง​ดี​ที่​ว่าน​ซือเยี่ยน​ยัง​พอ​มีฝีมือ​ติดตัว​อยู่​บ้าง​ มิเช่นนั้น​เขา​คงจะ​ล้มคว่ำ​ไปตั้ง​นาน​แล้ว​

แต่​ทาง​มู่เฉียน​ซีนั้น​กลับ​ผ่อนคลาย​มาก​ นั่น​เพราะ​นาง​มีมังกร​วารี​คอย​เปิดทาง​ให้​ ฉะนั้น​ไม่ว่า​จะเป็นอันตราย​ใด​ ๆ ก็​ไม่ส่งผลกระทบ​ต่อ​นาง​เลย​

“นาย​ท่าน​ เขา​เจอ​กับ​ปัญหา​แล้ว​ขอรับ​” มังกร​วารี​โน้ม​ศรีษะ​ลงมา​กระซิบ​ข้าง​หู​ของ​มู่เฉียน​ซี

ตอนนี้​ว่าน​ซือเยี่ยน​ประสบ​กับ​ปัญหา​ใหญ่​เลย​ทีเดียว​ และ​ตอนนี้​เขา​ก็​กำลัง​ถูก​ขัง​อยู่​ภายใน​ค่าย​กล​ค่าย​หนึ่ง​

เขา​ในเวลานี้​ไม่สามารถ​ใช้พลัง​จิตวิญญาณ​ได้​ จึงเป็นผล​ให้​ถูก​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​กลุ่ม​หนึ่ง​เข้ามา​พัวพัน​

วิญญาณ​เหล่านั้น​สามารถ​ทำลาย​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​ได้​อย่าง​รุนแรง​ และ​หาก​วิญญาณ​ได้รับบาดเจ็บ​ นั่น​ก็​จะเป็นปัญหา​ใหญ่​มาก​เลย​ทีเดียว​

ใน​ตอนที่​มู่เฉียน​ซีเตรียม​จะออกโรง​ช่วยเหลือ​ ทันใดนั้น​ก็​มีน้ำเสียง​ที่​คุ้นเคย​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ “ทำลาย​!”

จากนั้น​ค่าย​กล​ที่​ขัง​ว่าน​ซือเยี่ยน​เอาไว้​ก็​สูญสลาย​ไป และ​ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​จัดการ​วิญญาณ​เหล่านั้น​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

หลังจากนั้น​เขา​ก็​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ “ใน​เมื่อ​ถูก​ข้า​หา​จน​เจอ​แล้ว​ เจ้ายัง​ไม่รีบ​ออกมา​อีก​หรือ​?”

ถึงบริเวณ​โดยรอบ​จะดูเหมือนว่า​จะไม่มีคนอื่น​อยู่เลย​ แต่​มู่เฉียน​ซีกลับ​มั่น​ใจมากว่า​ เขา​จะต้อง​อยู่​ที่นี่​อย่าง​แน่นอน​!

“จะออกมา​ไหม​?”

ร่าง​สีขาว​ร่าง​หนึ่ง​ล่องลอย​ออกมา​ จากนั้น​ก็​ก้ม​ศรีษะ​ลง​พลาง​กล่าวว่า​ “พี่​เยี่ยน!”​

“เจ้าลืม​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ก่อนหน้านี้​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? ยัง​จะกล้า​มาที่นี่​อีก​หรือ​อย่างไร​?”

“ภาพ​ค่าย​กล​ที่​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​สะสมเอาไว้​สอง​สามรูป​นั้น​เป็น​สิ่งที่​ข้า​อยาก​ได้มา​ตลอด​ ตอนนี้​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​ปรากฏตัว​ออกมา​แล้ว​ ข้า​ก็​เลย​แอบ​ลอบ​เข้ามา​ที่นี่​ ฉะนั้น​ไม่มีทาง​ถูก​ค้นพบ​ได้​แน่นอน​ หลังจากที่​ข้า​หา​เจอ​แล้ว​ข้า​จะจากไป​ทันที​ และ​ข้า​จะเชื่อฟัง​ด้วย​!”

ว่าน​ซือเยี่ยน​ดึง​อา​กุ่ย​เอาไว้​พลาง​กล่าวว่า​ “ไม่ได้​! พรุ่ง​ข้า​จะให้​คน​ส่งเจ้าออก​ไป”

“พี่​เยี่ยน​ ท่าน​พี่​เยี่ยน​…ท่าน​ยืดหยุ่น​ให้​ข้า​หน่อย​ไม่ได้​เลย​หรือ​?”

“ไม่ได้​!”

มู่เฉียน​ซีเดิน​ออกมา​แล้ว​กล่าวว่า​ “อา​กุ่ย​ เจ้ามาที่นี่​ได้​อย่างไร​?”

“เสี่ยว​ซี เจ้าก็​มาด้วย​หรือ​ เจ้าช่วย​ข้า​โน้มน้าว​พี่​เยี่ยน​หน่อย​ได้​หรือไม่​! ข้า​สู้พี่​เยี่ยน​ไม่ได้​เลย​ แต่​เจ้าจะต้องสู้​เขา​ได้​แน่นอน​” อา​กุ่ย​กล่าว​อย่าง​น่าสงสาร​เป็น​ที่สุด​

ผล​ก็​คือ​ยัง​ไม่ทัน​ที่​มู่เฉียน​ซีจะทัน​ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​จ้องมอง​มาที่​มู่เฉียน​ซีพลาง​กล่าวว่า​ “เจ้าหุบปาก​ไปเลย​!”

“คุณชาย​ ท่าน​ไม่หยาบคาย​เกินไป​หน่อย​หรือ​!?” มังกร​วารี​กล่าว​อย่าง​เย็นชา​

“กำลัง​มีคน​มา เอาไว้​ค่อย​คุย​กัน​ใหม่​เถอะ​!” เมื่อ​มู่เฉียน​ซีสัมผัส​ได้​ว่า​มีคน​กำลัง​มา นาง​จึงได้​กล่าวเตือน​

ว่าน​ซือเยี่ยน​ลาก​อา​กุ่ย​ออก​ไปโดย​ไม่กล่าว​อะไร​สัก​คำ​เดียว​ ส่วน​มู่เฉียน​ซีและ​มังกร​วารี​ก็​จากไป​อย่าง​รวดเร็ว​

“ค่าย​กล​ถูก​คน​ทำลาย​ไปแล้ว​ ภูต​วิญญาณ​ของ​ข้า​ก็​ถูก​ฆ่าไปแล้ว​เช่นกัน​ ดูเหมือนว่า​ความสามารถ​ของ​แขก​ที่มา​ใน​วันนี้​จะไม่ได้​อ่อนแอ​เท่าไร​นัก​!” ลูกศิษย์​ของ​สำนัก​ภูต​วิญญาณ​เหล่านั้น​เดิน​เข้ามา​พลาง​กระซิบกระซาบ​กัน​ไปด้วย​

ว่าน​ซือเยี่ยน​นั่ง​อยู่​เบื้องหน้า​ของ​อา​กุ่ย​ และ​ตอนนี้​อา​กุ่ย​ก็​ดู​เหมือนกับ​ผักกาด​ขาว​น้อย​ที่​กำลัง​ถูก​ผู้ยิ่งใหญ่​กระทําการทารุณ​อย่าง​โหดร้าย​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น​

“ทุกสิ่ง​ที่​ข้า​พูด​นั้น​คือ​ความจริง​ มัน​ต้อง​จริง​อย่าง​แน่นอน​ พี่​เยี่ยน​จะต้อง​เชื่อ​ข้า​! นอกจากนี้​ยังมี​ไม้เทพ​แห่ง​ชีวิต​นั่น​อีก​ สิ่งของ​ชิ้น​นั้น​ต้อง​มีประโยชน์​มาก​แน่​ บางที​มัน​อาจจะ​มีประโยชน์​ต่อ​ท่าน​พ่อบุญธรรม​มาก​ก็​เป็นได้​ ข้า​เพียงแค่​มาลองดู​เท่านั้นเอง​ อย่างไร​เสีย​ข้า​ก็​คุ้นเคย​กับ​ที่นี่​มาก​อยู่​แล้วด้วย​”

“เจ้าไม่กลัว​แล้ว​หรือ​ นี่​อาจจะ​เป็น​กับดัก​ก็ได้​นะ​?”

“ข้า​ไม่กลัว​หรอก​ ข้า​เก่ง​ขึ้น​มาก​แล้ว​ พวกเขา​ไม่มีทาง​จับ​ข้า​ได้​แน่​” อา​กุ่ย​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​อย่าง​มั่นใจ​

“ไม่รู้​จริง ๆ​ ว่า​วิญญาณ​อย่าง​เจ้าไปเอา​ความมั่นใจ​มาจาก​ที่ใด​กัน​?” ว่าน​ซือเยี่ยน​กล่าว​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​

“ไม่ว่า​อย่างไร​ข้า​ก็​ไม่ไป…ข้า​ไม่ไป พี่​เยี่ยน​ไม่มีผู้ใด​คุ้นเคย​กับ​ที่นี่​ไปมากกว่า​ข้า​อีกแล้ว​ บางที​ข้า​อาจจะ​สามารถ​ช่วย​ท่าน​กับ​เสี่ยว​ซีได้​ก็​เป็นได้​! คราว​ที่แล้ว​เสี่ยว​ซีก็​มอบ​ภาพ​ค่าย​กล​ที่​ล้ำค่า​ให้​กับ​ข้า​ และ​ข้า​ก็​ยัง​ไม่ได้​ตอบแทน​นาง​เลย​!”

ว่าน​ซือเยี่ยน​กล่าวว่า​ “มู่เฉิน​ซี เจ้าโน้มน้าว​ให้​เขา​ออก​ไปหน่อย​สิ”

ว่าน​ซือเยี่ยน​เป็นกังวล​ว่า​จะเกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​อา​กุ่ย​จริง ๆ​ และ​นี่​ก็​ทำ​เพื่อ​ประ​โย​นช์​ของ​เขา​เอง​ ถึงแม้ว่า​นาง​จะไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​อะไรก็ตาม​

มู่เฉียน​ซีกล่าวว่า​ “อา​กุ่ย​ ทำไม​เจ้าไม่กลับ​ไปก่อน​ล่ะ​! ที่นี่​ไม่เห็นจะ​น่าสนุก​ตรงไหน​เลย​ อีก​อย่าง​ที่นี่​มีเพียงแค่​ข้า​กับ​ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​สามารถ​จัดการ​ได้​แล้ว​ล่ะ​”

“ฮือ​ออ​ออ​! เสี่ยว​ซีก็​ถูก​พี่​เยี่ยน​ซื้อ​ไปแล้ว​หรือ​ ตอนนี้​ข้า​กลายเป็น​คน​หัวเดียวกระเทียมลีบ​ที่​น่าสงสาร​ไปแล้ว​! ข้า​ไป แค่​ข้า​ไปก็​พอแล้ว​ใช่หรือไม่​?”

ทันทีที่​อา​กุ่ย​รับปาก​ มัน​ก็​ทำให้​ว่าน​ซือเยี่ยน​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ในทันที​ แต่​ผลสุดท้าย​อา​กุ่ย​กลับ​หันมา​แล้ว​กล่าว​กับ​ว่าน​ซือเยี่ยน​ว่า​ “แต่​คน​ของ​พี่​เยี่ยน​มองไม่เห็น​ข้า​ หากว่า​ข้า​หนี​ไปละ​ก็​ พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​หา​ข้า​เจอ​แน่นอน​!”

นอกจากนี้​เจ้าหมอ​นี่​ยัง​ทำท่า​แลบลิ้นปลิ้นตา​อย่าง​ซุกซน​กับ​ว่าน​ซือเยี่ยน​อีกด้วย​ แต่​หน้า​ของ​ว่าน​ซือเยี่ยน​นั้น​โกรธ​มาก​จน​ดำ​กว่า​ก้น​หม้อ​ไปแล้ว​

เหตุใด​ตอนแรก​ถึงได้​ตัดสินใจ​ร่วมมือ​กับ​เจ้าเด็ก​ซน​นี่​กัน​นะ​ หาก​เขา​ลงมือ​คนเดียว​ก็​คง​ไม่ต้อง​มากังวลใจ​กับ​เจ้าหมอ​นี่​แล้ว​

หาก​อา​กุ่ย​ไม่มีทางเลือก​ขึ้น​มา แม้แต่​พ่อค้า​หน้าเลือด​อย่าง​ว่าน​ซือเยี่ยน​ก็​ทำ​อะไร​เขา​ไม่ได้​ นอกจากนี้​คน​ของ​พวกเขา​เหล่านั้น​ต่าง​ก็​ไม่สามารถ​เฝ้าอา​กุ่ย​เอาไว้​ได้​อีกด้วย​

ว่าน​ซือเยี่ยน​กล่าวว่า​ “อา​กุ่ย​ เจ้าจะอยู่​ที่นี่​ก็ได้​ แต่​เจ้าจะต้อง​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​ข้า​ เจ้าห้าม​ทำ​สิ่งใด​โดย​ไม่ได้รับอนุญาต​เป็นอันขาด​ และ​อย่า​ให้​คนอื่น​รู้​ว่า​เจ้าอยู่​ที่นี่​ด้วย​”

.

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 10
Status: Completed

นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ

ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัส

จนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย!

โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า

ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ!

Options

not work with dark mode
Reset