สถานที่แห่งนี้ไม่มีอันตรายชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงเตรียมที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของนางก่อน
อันที่จริงแล้ววิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้เป็นเพียงแค่การเดิมพันของนางเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะประสบผลสำเร็จ!
และตอนนี้พญามดแห่งความตายก็คงจะทรมานอยู่เช่นกัน!
มู่เฉียนซีกินยาน้ำ และขจัดพลังแห่งความตายที่กระจายอยู่ออกไปจากบาดแผลจนหมดจด จากนั้นก็พันแผลเอาไว้ แล้วจากไป!
พญามดแห่งความตายตัวนั้นแข็งแกร่งมาก หากว่ามันสามารถคลายผนึกออกได้จริง ๆ แล้วละก็ นั่นก็ถือว่าเป็นหายนะสำหรับแดนซวนเทียนเลยทีเดียว
“ต้องรีบออกไป และไปหาปรมาจารย์ค่ายกลสักสองสามคนมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผนึกนี้เสียหน่อย เพื่อเลี่ยงที่จะไม่ให้มันหนีออกมาได้จริง ๆ!”
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไปจากเทือกเขาแห่งความตาย แต่ทว่านางยังไม่ทันจะออกไปจากเทือกเขาแห่งความตาย ทั่วทั้งเทือกเขาแห่งความตายก็เริ่มถล่มและพื้นดินก็พังทลายลงมาเสียก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่การป้องกันต้องห้ามรอบบริเวณต่างก็ถูกทำลายไปด้วย
มู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่าตนเองถูกจับจ้อง และรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็คือพญามดแห่งความตายนั่นเอง
คิดไม่ถึงว่ามันจะทำลายผนึกได้แล้ว แย่แน่!
มันมาแล้ว
สีหน้าของมู่เฉียนซีมืดครึ้มลงทันที มีเงาสีดำเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมากลางอากาศ และก็ร่อนลงมาอยู่ตรงหน้าของนางอย่างกะทันหัน
ในเวลานี้สีหน้าของมันน่าเกลียดเป็นอย่างมาก และแววตาของมันก็จับจ้องไปที่มู่เฉียนซีราวกับต้องการจะฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ เสียให้ได้
มันกัดฟันกล่าวว่า “ให้ตายเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมา!”
มู่เฉียนซีกล่าวพลางหัวเราะชอบใจว่า “ก็ข้ารู้สึกปวดใจที่เจ้าถูกผนึกมานานตั้งขนาดนั้น คงจะไม่เคยถูกคนทำให้กระชุ่มกระชวยเลยสินะ?”
พญามดเดือดดาลมากขึ้นไปอีก “ที่เจ้าพูดก็ถูก หากไม่ใช่เพราะเจ้าทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ข้าก็คงทนที่จะฆ่าลูกน้องทั้งหมดของตนเองไม่ได้เป็นแน่! แต่ทว่าตอนนี้พวกมันทั้งหมดได้ตายไปแล้ว และข้าก็ได้ดูดกลืนพลังของพวกมันจนสามารถทำลายผนึกออกมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้”
ที่แท้มันก็คลายผนึกออกมาเช่นนี้นี่เอง!
ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น พญามดแห่งความตายก็เริ่มคุ้มคลั่ง และได้ทำลายล้างเหล่ามดทั้งหมดของมันจนสิ้นซาก
“และตอนนี้ ข้าก็จะมาทำลายเจ้าเช่นกัน!”
แขนของพญามดแห่งความตายได้เปลี่ยนกลายเป็นดาบขนาดใหญ่ และพุ่งตรงเข้าใส่มู่เฉียนซี!
ตูมมม โครมมม!
ซึ่งการโจมตีนี้ทำให้มีหลุมลึกปรากฏขึ้นมาบนพื้น เมื่อมันกางปีกคู่นั้นออก ก็บินขึ้นไปกลางอากาศเพื่อจู่โจมมู่เฉียนซีอีกครั้ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าเพิ่งจะทำลายผนึกออกมา ความแข็งแกร่งของเจ้ายังสู้แม้แต่มดราชาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แถมความเร็วยังเชื่องช้าราวกับหอยทาก คิดว่าจะฆ่าข้าได้หรือ!”
“เจ้าหุบปากไปเลย!”
ลำแสงสีดำระเบิดออกมา และมันก็แทบรอที่จะยิงร่างของมู่เฉียนซีให้พรุนไม่ไหวอยู่แล้ว
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ถือกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ และต่อสู้กับมันอย่างเอาเป็นเอาตาย!
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ในตอนนี้พลังของเจ้าหมอนี่ยังไม่ฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์ หากนางสามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ก่อนที่จะแข็งแกร่งขึ้น นางก็อาจจะยังพอมีโอกาสที่จะหนีไปได้
แต่พญามดแห่งความตายตัวนี้ต้องการที่จะกัดกินนางจนตาย แต่หากกัดกินนางไม่ตายแล้วละก็ เช่นนั้นมันก็จะกัดกินนางจนกว่ามันจะหายดี
คราวนี้นางได้ล่วงเกินมันอย่างรุนแรงเกินไป และไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่มีทางที่จะปล่อยนางไปแน่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าจะบอกให้นะพญามดแห่งความตาย ข้าทำให้เจ้าต้องทนกับความอัปยศอดสูเช่นนั้น เจ้าฆ่าแค่ข้าแล้วไม่รู้สึกว่ามันเป็นการชดใช้ที่น้อยไปหน่อยอย่างนั้นหรือ? หากเป็นข้า คงจะไปทำลายล้างเผ่าคำสาปให้สิ้นซากอย่างแน่นอน!”
“แน่นอนว่าข้าจะต้องทำลายล้างเผ่าคำสาปทั้งหมดอยู่แล้ว! ด้วยความแค้นนี้อย่างไรก็ไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้อยู่ดี”
“ในเมื่อเจ้าอยากจะทำลายล้างเผ่าคำสาป เช่นนั้นข้าก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว แล้วเหตุใดถึงต้องสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับข้าตอนนี้ด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้ แต่หากเจ้าไปเจอยอดฝีมือคนอื่นก่อนที่จะฟื้นตัว ตอนนั้นเจ้าได้จบเห่จริง ๆ แน่”
“เฮอะ ๆ ๆ! เจ้ามนุษย์เอ๋ย คงระดมสมองคิดอย่างหนักเพื่อหาทางรอดเลยสินะ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปน่ะ? ข้าจะฆ่าเจ้าตอนนี้ ส่วนเผ่าคำสาป วันที่จะโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็อยู่อีกไม่ไกลอยู่แล้ว”
พญามดแห่งความตายนี้ก็ไม่ได้โง่เช่นกัน แน่นอนว่ามันต้องไม่ถูกนางหลอกจนยอมปล่อยนางไปอยู่แล้ว
ที่ถูกนางวางแผนร้ายก่อนหน้านี้ได้ เป็นเพราะมันไม่คาดคิดว่าในมือของนางจะมีสิ่งที่แปลกประหลาดมากมายขนาดนี้ต่างหาก
ดูเหมือนว่า คงทำได้แค่ต่อสู้เท่านั้น!
จากนั้นสีหน้าของมู่เฉียนซีก็มืดมนลง และเริ่มหมุนเวียนพลังวิญญาณธาตุวารีทันที “มังกรวารีจงบังเกิด!”
มังกรวารีเทพศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งตัดผ่านไปในความว่างเปล่า จากนั้นก็พุ่งเข้าหามดยักษ์ที่บินอยู่กลางอากาศ
ถึงมันดูเหมือนจะเป็นทักษะวิญญาญ แต่พญามดแห่งความตายกลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่แท้จริงของมังกร
ตูมมม!
ปัง!
และแขนข้างหนึ่งของพญามดแห่งความตายก็ถูกมังกรวารีพุ่งเข้าโจมตีจนชาไปหมด
“พลังธาตุวารี พลังธาตุอัคคี และพลังธาตุวายุ ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่า ที่จริงแล้วเจ้าใช่คนของเผ่าคำสาปหรือไม่?”
มันเคยคบค้าสมาคมกับคนของเผ่าคำสาปมาก่อน ฉะนั้นจึงมีความรู้เกี่ยวกับพวกเขาอยู่บ้าง
และภายในเผ่าของพวกเขาก็มุ่งแต่ฝึกฝนพลังคำสาปเท่านั้น ฉะนั้นจะไปสามารถสร้างสิ่งที่ประหลาดมากมายอย่างนี้ได้เช่นไร?
ในเวลานี้มู่เฉียนซีรู้สึกแย่มาก อีกทั้งความสามารถของพญามดแห่งความตายก็เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ถึงนางจะแบกความตายไปกับมัน ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเลยอยู่ดี
นอกจากนี้นางยังสัมผัสได้แล้วว่า นางมีสัญญาณที่กำลังจะต้องบรรลุแล้ว
ตูมมม!
มู่เฉียนซีปะทะฝีมือกับพญามดแห่งความตายไปอย่างอกสั่นขวัญแขวน
พลังในการป้องกันจากเปลือกแข็งของพญามดแห่งความตายนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่านางเสียอีก ซึ่งตอนนี้นางมีเพียงแค่ความเร็วที่ได้เปรียบมากกว่าเท่านั้น
ปัง ปัง ปัง!
พญามดแห่งความตายคลี่ยิ้มออกมา ความสามารถของมันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แพร่ขยายออกมาจากพญามดแห่งความตายได้อย่างชัดเจน
ปัง!
ร่างของมู่เฉียนซีลอยกระเด็นออกไปกลางอากาศ และในเวลานี้มู่เฉียนซีก็สามารถบรรลุได้สำเร็จแล้วเช่นกัน
เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้ว!
พลังวิญญาณธาตุวายุพยุงอยู่ใต้ร่างของมู่เฉียนซี จากนั้นนางก็ร่อนลงพื้นอย่างราบรื่น
“เจ้าก็แข็งแกร่งขึ้นมาอีกหน่อยแล้วอย่างนั้นหรือ? แต่ความเร็วของเจ้าก็ยังช้ากว่าข้าอยู่ดี เลื่อนขั้นขึ้นมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านี้ แทบไม่ควรค่าให้กล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ! ”
มู่เฉียนซีถือดาบกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเอาไว้ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นเจ้าลองดูหน่อยก็แล้วกัน”
มู่เฉียนซีที่กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดได้ปะทะฝีมือกับพญามดแห่งความตายหลายสิบรอบ เมื่อความสามารถแข็งแกร่งขึ้นแล้ว จึงทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดมากยิ่งขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” หลังจากนั้น ก็มีเสียงหัวเราะเสียงหนึ่งดังออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลานี้พญามดแห่งความตายได้ใช้ความสามารถที่แข็งแกร่งปราบมู่เฉียนซีลงได้อย่างสมบูรณ์ และมู่เฉียนซีที่ถูกปราบลงได้นั้นก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงทั่วไปยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของพญามดแห่งความตายได้เลยด้วยซ้ำ
“ข้าปล่อยให้เจ้าดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์มากเกินไปแล้ว เจ้ามนุษย์เอ๋ย ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว”
พญามดแห่งความตายลงมืออย่างรวดเร็วและเฉียบขาด กรงเล็บอันแหลมคมที่ราวกับจะฉีกมิติออกจากกัน ได้พุ่งเข้าไปหมายจะคว้ามู่เฉียนซี
และมนุษย์ที่อ่อนแอผู้นี้จะต้องตายอย่างแน่นอน!
แต่ในตอนที่มันกำลังจะสัมผัสถึงตัวของมู่เฉียนซีนั้น กรงเล็บของมันก็เข้าไปติดอยู่ในพลังวิญญาณธาตุวารี และหลังจากนั้นมันก็แข็งตัวทันที
มีมือเรียวยาวข้างหนึ่งจับอยู่เหนือกรงเล็บข้างนั้นของมัน และเบื้องหน้าก็มีชายในชุดคลุมสีฟ้าคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
ความหล่อเหลาที่เหนือมนุษย์ ทำให้เขาดูโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับให้อารมณ์เหมือนไม่อยากเป็นจุดสนใจ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกสงบเป็นอย่างมากอีกด้วย
ทันทีที่มือของเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาก็ได้ดึงกรงเล็บของพญามดแห่งความตายออกไปจากตัวของมันโดยตรง และจากนั้นก็โยนทิ้งไปทันที
ดวงตาสีฟ้าที่เย็นยะเยือกคู่นั้นจ้องมองไปที่พญามดแห่งความตาย ราวกับว่ามันได้ทำเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ลงไปเสียแล้ว
“เจ้าคือใคร? อันที่จริงแล้วเจ้าคือผู้ใดกันแน่?” น้ำเสียงของพญามดแห่งความตายเต็มไปได้ความสั่นสะท้าน
ตอนนี้มันยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และมันก็รู้สึกว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายผู้แข็งแกร่งคนนี้แน่นอน
มังกรวารีเพิกเฉยต่อพญามดแห่งความตายไปอย่างสิ้นเชิง จากนั้นก็หันหน้าไปมองมู่เฉียนซี และคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่งพลางกล่าวว่า “เพราะมังกรวารีตื่นช้าเกินไป จึงทำให้นายท่านต้องหวาดกลัว นายท่านโปรดอภัยข้าด้วยขอรับ”
พญามดแห่งความตายผงะไปครู่หนึ่ง ชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ กลับคุกเข่าอยู่ตรงหน้ามนุษย์หญิงคนนั้นอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเนี่ยนะ?
เขาทำราวกับว่าถวายความภักดีทั้งหมดที่มี และยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น
.
.
![เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]](https://i2.wp.com/www.xn--q3cmiag1gmn.com/wp-content/uploads/2022/08/bmn54u2yvhx9x9it.jpeg?resize=60,85 "เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]")
