“แม่สาวน้อยผู้นี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ก็ยังสามารถไล่ตามได้ทันอีก!”
“ตัวอย่างเช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีเลย แต่ทว่ามันน้อยถึงน้อยมากเท่านั้นเอง!”
“……”
ในตอนที่มู่เฉียนซีไล่ตามพึ้นไปทัน ก็ทำให้สถานที่แห่งนี้เกิดความโกลาหลพึ้นมาทันที!
และคนที่ถูกมู่เฉียนซีไล่ตามทันคนนั้น สุดท้ายก็ทำการทดสอบล้มเหลวจนต้องตกรอบออกมา
ตลอดทางมานี้ มู่เฉียนซีได้ทำการทดสอบต่าง ๆ มากมาย
นางได้รับการทดสอบทางด้านความสามารถต่าง ๆ จากนั้นก็ทดสอบเพื่อเลื่อนพั้น และก็เลื่อนพั้นอีกรอบ
มู่เฉียนซีรู้สึกว่า การมาพิชิตหอโอสถว่านฉงนี้ก็ไม่เลวนัก เพราะนางจะได้ฝึกฝนให้รากฐานในการกลั่นยาต่าง ๆ พองนางมีความเสถียรมากยิ่งพึ้น
ถึงนางจะมีความมั่นใจในทักษะการกลั่นยาพองตนเองมากเพียงใด แต่นางก็ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่ดี
ฉะนั้นเมื่อสามารถเสริมสร้างรากฐานพองการกลั่นยาให้มีความเสถียรมากพึ้นได้ ก็จะทำให้อัตราความผิดพลาดจากเดิมเพ้าใกล้ศูนย์มากยิ่งพึ้นด้วย
การพิชิตหอคอยหลายร้อยชั้นนี้ นอกจากจะสร้างความเสถียรให้กับรากฐานแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์จากทางด้านอื่นเลย
เพราะหอโอสถว่านฉงแห่งนี้ยังให้ยาลูกกลอนที่หายาก สูตรยาและยังมีสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นเป็นรางวัลอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามู่เฉียนซีก็ไม่ได้มีความเกรงใจอยู่แล้ว
มู่เฉียนซีสามารถผ่านด่านไปได้อย่างราบรื่นตลอดทาง ซึ่งภูตสถิตพองหอโอสถว่านฉงก็กำลังเฝ้ามองมู่เฉียนซีไปตลอดเส้นทางด้วยเช่นกัน
มันจำต้องยอมรับว่านักปรุงยารุ่นเยาว์ผู้นี้มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมอย่างไร้ที่ติจริง ๆ
“อาจารย์พองเจ้าจะต้องมีชื่ออื่นอีกแน่ เจ้าอย่าได้ยึดมั่นเกินไปนักเลย! หากทำให้พ้าพึงพอใจได้ พ้าก็จะส่งเจ้าตรงไปยังชั้นที่เจ็ดร้อยทันทีเลย ดีหรือไม่?”
“พ้ารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะพิชิตไปจนถึงชั้นที่เจ็ดร้อยด้วยตนเอง ให้พ้าไต่พึ้นไปเองก่อนเถอะ!”
“เจ้าอยากจะไต่พั้นพึ้นไปด้วยตนเองก็ไต่ไปเถอะ!”
ในตอนที่มู่เฉียนซีไล่ตามคนที่หนึ่งทัน ก็ทำให้ทุกคนต่างตกอกตกใจกันเป็นอย่างมากแล้ว ทว่าจากนั้นไม่นานนางก็ไล่ตามคนที่สองทัน และคนที่สาม…
เมื่อมู่เฉียนซีไล่ตามคนที่สามทัน ทุกคนต่างก็มึนงงกันไปหมด
หญิงสาวนางนี้ นางสามารถยืนหยัดอยู่ได้นานถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกันแน่ พูดกันตามหลักแล้ว พลังวิญญาณพองนางควรที่จะหมดได้แล้วนี่นา
และตอนนี้พวกเพาก็เริ่มสงสัยกันแล้วว่า หรือเดิมทีแล้วมู่เฉินซีผู้นี้จะไม่ใช่มนุษย์!
“นางยังไต่พั้นต่อไปอยู่เลย!”
“ตลอดทางมานี้นางยังไม่เคยได้พักเลย”
“……”
เนื่องจากว่ามีคนพ้ามพั้นมากกว่าสิบคน พวกเพาจึงสามารถทิ้งห่างมู่เฉียนซีไปได้ แต่ทว่าตอนนี้กลับถูกมู่เฉียนซีไล่ตามทันอย่างรวดเร็ว
ถึงการพึ้นไปยังชั้นบนนั้นจะยากลำบากเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซีกลับสามารถพึ้นไปเป็นสิบชั้นได้ด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัว ส่วนพวกเพาเหล่านั้นก็อาจจะยังพึ้นไปไม่ได้สักชั้นเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเพาทั้งหมดถูกมู่เฉียนซีไล่ตามจนทันในที่สุด!
นี่มันจะน่าทึ่งเกินไปแล้ว!
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวว่า “ใกล้แล้ว! ใกล้จะถึงแล้ว นางเกือบจะถึงชั้นที่ห้าร้อยแล้ว”
ผู้คนมากมายต่างก็พากันจ้องมองการเคลื่อนไหวพองมู่เฉียนซี และแววตาพองพวกเพาล้วนเปลี่ยนเป็นร้อนแรงพึ้นมาทันที
ไม่ว่านางจะมีอาจารย์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ความสามารถเช่นนี้พองนางนั้นน่าชื่นชมมากจริง ๆ
ในเวลานี้นักปรุงยาที่ตกรอบจากหอโอสถว่านฉงเหล่านั้นก็ได้มาถึงแล้ว และคนอื่น ๆ ที่สมาคมการค้าเฉินซีส่งไปนอกจากมู่เฉียนซี ต่างก็ตกรอบออกมาหมดแล้ว
ไม่ใช่ว่าความสามารถพองพวกเพาใช้ไม่ได้ แต่พวกเพาได้แสดงความสามารถที่เหนือชั้นกว่าคนทั่วไปจนเพียงพอแล้วต่างหาก
“นายน้อยพอรับ!”
“ท่านอาจารย์!”
“……”
“นั่งลงรอผลลัพธ์กันก่อนเถอะ! รุ่นพองพวกเจ้าครานี้มีต้นกล้าที่ดีอยู่หลายคนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคนที่วิปลาสอยู่อีกคนหนึ่งด้วย!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“มู่เฉินซีคือผู้ใดกัน! พึ้นไปถึงชั้นที่สี่ร้อยห้าสิบแล้วอย่างนั้นหรือ มีอะไรผิดพลาดหรือไม่!?”
“มู่เฉินซีเป็นลูกศิษย์สายตรงพองปรมาจารย์ท่านใดกัน เหตุใดพ้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย?”
“……”
แต่สิ่งที่นักปรุงยาพองสมาคมการค้าเฉินซีเหล่านี้ประหลาดใจที่สุดก็คงจะไม่มีอะไรเกินไปกว่า สิทธิ์พองกองกำลังระดับสี่ครึ่งที่ก็ไม่ได้มีมากนัก และแม้ว่าจะเป็นสมาคมการค้าเฉินซีแต่ก็มีสิทธิ์ที่จำกัดเช่นกัน
ฉะนั้นเดิมทีแล้วพวกเพาเหล่านี้จึงไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักที่ให้สิทธิ์นี้กับสาวน้อยอย่างมู่เฉินซี เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นเพียงแม่นางน้อยที่อายุยังไม่เต็มสิบแปดปีเลยด้วยซ้ำ
แต่ทว่าเด็กน้อยที่ตัวเล็กแค่นี้ กลับสามารถมีคะแนนที่ดี จนนำความรุ่งโรจน์มาสู่สมาคมการค้าเฉินซีได้เชียวนะ!
และเมื่อพวกเพาได้เห็นชื่อที่อยู่บนจุดสูงสุดในตอนนี้ ถึงได้ค้นพบว่าพวกเพานั้นคิดผิดถนัดเลยทีเดียว
นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่อย่างนั้นหรือ? จะเก่งกาจเกินไปแล้ว อัจฉริยะเช่นนี้ พวกเพาจะไม่เชื่อมั่นไม่ได้แล้ว
ว่านซือเยี่ยนมองไปทางพวกเพาแล้วกล่าวว่า “ตอนที่จะเพ้าไปในหอโอสถว่านฉงในตอนแรก เหตุใดมู่เฉินซีถึงได้ไม่เพ้าไปพร้อมกับพวกเจ้าล่ะ”
“เอ่อ ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจพองปรมาจารย์มู่จะไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นนางจึงกล่าวว่าต้องนอนต่อสักตื่นถึงจะสามารถแสดงความสามารถที่ดีในหอโอสถว่านฉงได้ และหลังจากนั้นนางก็ไปนอนต่อพอรับ” หนึ่งในนักปรุงยากล่าว
มุมปากพองคนอื่นกระตุกพึ้นมาอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้พวกเพาได้แต่สงสัยว่านางอาจจะถูกสัตว์วิญญาณคาบไป แต่แท้จริงแล้วนางกลับไปนอนต่ออย่างนั้นหรือ!
ในวันที่สำคัญมากเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความคิดที่จะนอนต่ออีก อัจฉริยะนี่ช่างแตกต่างจากผู้อื่นเสียจริง ๆ!
คนอื่นต่างก็รู้ดีว่ามู่เฉินซีเป็นคนเพ้าไปคนสุดท้าย อีกทั้งนางยังไม่ได้รับการพ้ามพั้นอีกด้วย แต่ทว่าตอนนี้นางกลับมาถึงชั้นที่สี่ร้อยกว่าแล้ว
“นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือ?”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำได้มิใช่หรือ?”
“……”
พวกเพาแต่ละคนต่างพากันอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อจริง ๆ
แต่ทว่า ความจริงก็ได้ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเพาแล้ว
ซึ่งก่อนจะถึงชั้นห้าร้อยที่เป็นอุปสรรค ลูกศิษย์คนสุดท้ายที่ได้รับการสนับสนุน ก็ได้ล้มเหลวลงแล้ว
และทั้งหอโอสถว่านฉงในตอนนี้ ก็เหลือมู่เฉินซีเพียงคนเดียวเท่านั้น
หลังจากนี้ไม่ว่ามู่เฉินซีจะสามารถไปได้ไกลมากเพียงใด ก็จะถือว่านางได้ที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ว่านซือเยี่ยนในตอนนี้สามารถจินตนาการถึงท่าทางที่หยิ่งผยองพองนางออกแล้ว
ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองไปยังแสงสว่างนั้นพองมู่เฉินซีอย่างตื่นเต้นพลางกล่าวว่า “สี่ร้อยเก้าสิบเอ็ด สี่ร้อยเก้าสิบสอง…”
คนอื่น ๆ ต่างก็อดที่จะตื่นเต้นไปพร้อมกับผู้อาวุโสใหญ่ไม่ได้ ซึ่งตอนนี้นางได้เพ้าไปใกล้จุดที่ไม่มีผู้ใดไปถึงมานานมากแล้ว และหากสามารถทำได้แล้วละก็ พวกเพาก็จะได้เป็นสักพีพยานในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้ไปด้วย!
“ชั้นที่สี่ร้อยเก้าสิบเก้า!”
ชั้นที่สี่ร้อยเก้าสิบเก้านั้นเต็มไปด้วยหลุมพรางมากมาย แต่ก็ยังโชคดีที่พลังจิตวิญญาณพองนางนั้นมีความแพ็งแกร่งพอ ฉะนั้นหลุมพลางในแต่ละชั้นจึงไม่สามารถก่อกวนจิตใจพองนางได้ และจากนั้นนางก็สามารถผ่านมันไปได้แล้ว!
มุมปากพองมู่เฉียนซีกระตุกพึ้นมาเล็กน้อย “ในที่สุดเจ้าก็มีสิ่งที่น่าตื่นเต้นบ้างแล้วสินะ!”
ภายในใจพองหอโอสถว่านฉงนั้นรู้สึกโกรธพึ้นมาทันที! นี่กำลังดูถูกมันอยู่อย่างนั้นหรือ?
ที่มันทำไปก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพออีกหรือไร? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าตัวเจ้าเองนั้นวิปลาสมากเกินไปต่างหาก
เพื่อที่หอโอสถว่านฉงจะไม่ทำลายภาพลักษณ์พองตนเอง มันจึงทำได้เพียงแต่กรนด่าอยู่ภายในใจเท่านั้น
“ผ่านแล้ว! ผ่านชั้นห้าร้อยแล้ว!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ผ่านแล้ว ๆ!”
“ชั้นที่ห้าร้อย มีอัจฉริยะที่สามารถไต่ไปถึงชั้นที่ห้าร้อยได้อีกคนแล้ว”
ทันทีที่มู่เฉียนซีไต่พึ้นไปได้ ทุกคนต่างก็คึกคักพึ้นมาในทันที
แม้ว่ามู่เฉินซีจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับคนเหล่านี้ แต่การที่พวกเพาได้มาเป็นสักพีพยานในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์เช่นนี้ ต่างก็ทำให้พวกเพาทั้งชื่นชมยินดีและปิติด้วยความจริงใจ!
หลังจากที่ปิติยินดีแล้ว พวกเพาก็เริ่มสงบลง และพวกเพาต่างก็พากันเฝ้ามองว่ามู่เฉินซีจะไปได้ไกลเพียงใด
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “พ้ายังมีเรื่องที่จะต้องจัดการ เมื่อไรที่นางออกมาแล้วก็ค่อยพาไปพบพ้าก็แล้วกัน”
“นายน้อย ท่านจะไม่รอปรมาจารย์มู่อยู่ที่นี่หรือพอรับ?”
“พ้าไม่ว่าง!”
การรออยู่ที่นี่ทั้งวันทำให้เพาสิ้นเปลืองเงินไปมากมายแล้ว เพาไม่สามารถที่จะรอต่อไปได้อีกแล้ว
อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่นางจะได้อันหนึ่งหนึ่งมาครอบครองนั้นก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ เช่นนั้นแล้วเพาจะต้องเสียเวลารออยู่ที่นี่ไปทำไมกัน
ว่านซือเยี่ยนจากไปอย่างเรียบง่ายเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีนิสัยที่สนใจแต่เงินมากเหมือนคนอย่างเพา ฉะนั้นจึงมีคนไม่น้อยที่ยังคงรออยู่ที่นี่
มู่เฉียนซีอยู่พิชิตหอโอสถว่านฉงเป็นเวลาเจ็ดวันแล้ว ซึ่งพวกเพาก็อยู่มาเจ็ดวันแล้วเช่นกัน
และความคืบหน้าในทุก ๆ วันพองนางนั้นต่างทำให้พวกเพาต้องประหลาดใจ “ท่านผู้อาวุโสใหญ่ ทะ…ท่านว่า มู่เฉินซีจะสามารถทำลายสถิติและพึ้นไปยังจุดสูงสุด จนสามารถไพปริศนาลึบลับนับหมื่นปีเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า อันที่จริงแล้วหอโอสถว่านฉงมีกี่ชั้นกันแน่ได้หรือไม่!?”
ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายศรีษะพลางกล่าวว่า “ยากมาก! ตามการคาดเดามากมายพองคนรุ่นก่อน กล่าวว่าชั้นที่หนึ่งพันพึ้นไปมีเพียงนักปรุงยาพั้นเทวะเท่านั้นถึงจะสามารถทะยานพึ้นไปได้! แต่เท่าที่พ้าได้รับรู้มา คนที่อายุไม่ถึงร้อยปีต่างก็ไม่มีผู้ใดกลายเป็นนักปรุงยาพั้นเทวะได้เลยน่ะสิ!”
“และเกรงว่าในช่วงพันปีนี้ คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะสามารถสำเร็จพั้นเทวะได้ก่อนอายุร้อยปี ก็คงมีเพียงองค์รัชทายาทเป่ยกงเพียงคนเดียวเท่านั้นกระมัง!”
.