วันต่อมา
ณ โรงพยาบาลเอกชนใจกลางเมืองหมอนนท์ยืนมองมุกที่กำลังนอนราบอยู่บนเตียงพร้อมกับส่งสายตาให้เธอด้วยความห่วงใย ร่างบางจึงส่งยิ้มให้หมอหนุ่มเป็นการตอบแทน
“ขอบคุณมากนะคะ สำหรับซิมเบอร์ใหม่”
“ครับ มุกแน่ใจจริงๆ แล้วใช่ไหม ว่าจะตัดทุกคนออกจากชีวิตจริงๆ ”
“ค่ะ มุกแน่ใจ ในเมื่อเขาไม่ต้องการมุกกับลูก มุกก็ควรจะทำใจตัดใจจากเขาสักที ส่วนพี่ปรางมุกค่อยติดต่อไปทีหลังก็แล้วกันรอให้อะไรเข้าที่เข้าทางกว่านี้สักหน่อย”
“ครับ ผมก็อยากให้มุกมีความสุขอย่างที่ตั้งใจเร็วๆ เหมือนกัน นอนพักเถอะลูกในท้องจะได้แข็งแรงไวไว”
“ค่ะ หมอก็เหมือนกันมาหามุกแต่เช้าเลย ไม่ต้องทำงานเหรอคะวันนี้ ”
“พอดีวันนี้ผมหยุดน่ะ มีเวลาอยู่กับมุกทั้งวันเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พยาบาลก็มี”
“ผมเต็มใจครับ” ส่งสายตาสื่อความหมายลึกซึ้งไปให้เธอ
มุกเห็นอย่างนั้นก็รีบหลบสายตาหมอหนุ่มด้วยการหลับตาลง เธอรู้ว่าหมอหนุ่มมีความรู้สึกดีๆ กับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันและยังเป็นคนที่หวังดีกับเธอเสมอมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข เธอหวังว่าสักวันหมอหนุ่มจะได้เจอคนที่ดีและเหมาะสมกัน ไม่ใช่คนมีพันธะอย่างเธอ ที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะลืมพ่อของลูกไปจากหัวใจได้สักที
ณ บ้านศิริวัฒนาในช่วงสายของวันภพเดินลงมาจากชั้นบนของบ้านใบหน้าอิดโรยด้วยเมื่อคืนเขาดื่มหนักกลับบ้านดึกดื่น ร่างหนาพาตนเองไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องรับประทานอาหารพร้อมกับก้มหน้ามองโทรศัพท์อย่างชั่งใจ สักครู่ก็ตัดสินใจกดโทรหามุกอีกครั้งแต่กลับโทรไม่ติดเช่นเคย ชายหนุ่มจึงหันไปโทรหาปรางแทน
“ฮัลโหล ปราง” เสียงทุ้มกรอกใส่ปลายสาย
“ว่าไง มีอะไรเหรอ” ปรางตอบกลับ
“มุกติดต่อมาบ้างหรือยัง” ภพถามไม่ค่อยเต็มปาก
“ทำไมเหรอ เกิดคิดถึงเกิดเป็นห่วงเขาขึ้นมาบ้างแล้วหรือไง ตอนเขาอยู่ไม่รู้จักรักษาเอาไว้แล้วเป็นไงล่ะ จงเกลียดจงชังเขานักไม่ใช่หรือไง”
“ตกลงมุกติดต่อมาบ้างหรือยัง” ภพเอ่ยเสียงจริงจัง
“ไม่มีวี่แววเลย สงสัยคงจะเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วแหละ คงอยากจะอยู่คนเดียวสักพักมั้ง ถูกทำร้ายจิตใจมานานแล้วนี่”
“งั้นก็แค่นี้ก่อนนะ ไว้จะโทรหาใหม่” พูดจบภพก็กดวางสายด้วยความกลัดกลุ้มในใจ
“กาแฟค่ะ” ป้าสายวางแก้วกาแฟร้อนลงตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ” ยกขึ้นจิบด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“คุณภพคิดจะตามหาคุณมุกไหมคะ จริงๆ เมื่อวานป้าก็บอกคุณมุกให้รอคุยกับคุณก่อน แต่เธอบอกว่าคุยไปก็เท่านั้น” ป้าสายตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง มันสับสนไปหมด”
“ทำตามหัวใจสิคะ อย่าฝืนใจตัวเองเลยรู้สึกยังไงก็พูดออกไปตรงๆ ป้าคิดว่าคุณมุกคงจะยังไม่ไปไหนไกล รีบตามหาตอนนี้ก็น่าจะทัน รีบๆ นะคะก่อนที่อะไรจะสายเกินไป ป้าขอโทษนะคะที่ต้องพูดออกตรงๆ ”
“ครับ ผมเข้าใจ ผมโทรไปแล้วไม่ติดเลยสักสายเลย สงสัยคงจะเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปอยู่ที่ไหน”
“ลองไปหาที่ ที่คิดว่าคุณมุกจะไปดูสิคะ เผื่อจะเจอ”
“ที่ที่น่าจะไปงั้นเหรอ” ภพคิดตามแม่บ้านสูงวัยบอก
หลังทานมื้อเช้าเสร็จภพก็รีบบึ่งรถออกจากบ้านด้วยความรวดเร็วสูง เมื่อคิดอะไรบางอย่างออก ชายหนุ่มเลือกที่ตรงไปยังบ้านเช่าหลังเล็กที่มุกกับมิคเคยเช่าอยู่ด้วยกันก่อนหน้านั้นมานาน แต่ปรากฏว่ามีคนอื่นมาเช่าอยู่ต่อแล้ว พอเขาบอกลักษณะของมุกไปคนในบ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นเลยสักคน
ภพจึงเดินคอตกกลับไปที่รถแล้วขับแล่นไปยังบริษัททันที พอไปถึงก็มุ่งไปยังแผนกบัญชีพร้อมกับเรียกบุษบากับทิพมาสอบถามหาเบาะเสาะของมุกจากทั้งสองคน แต่กลับไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับมุกเลยสักคน ชายหนุ่มจึงขึ้นไปตั้งหลักยังห้องทำงานชั้นบน
ภพนั่งใช้ความคิดสักครู่เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังแผนกสูตินรีในโรงพยาบาลที่มุกฝากครรภ์เอาไว้แต่คำตอบที่ได้คือมันยังไม่ถึงเวลานัดหมายที่เธอจะมาหาหมอ ภพได้คำตอบอย่างนั้นก็นึกถึงหมอนนท์ขึ้นมาได้ เขาจึงรีบบึ่งรถไปยังโรงพยาบาลทันที
ภพนั่งรอหมอนนท์อยู่ตรงหน้าห้องตรวจหลังจากให้พยาบาลไปแจ้งว่าเขามาขอพบ ไม่นานนักหมอนนท์ก็เดินออกมาจากห้องตรวจหยุดยืนอยู่ตรงหน้าภพด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“มาขอพบผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” หมอหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“คือผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อย” ร่างหนารีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ครับ”
“มุกติดต่อหมอมาบ้างไหม ผมติดต่อเธอไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปอยู่ที่ไหน”
“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ มุกเขาอยู่ที่บ้านคุณไม่ใช่เหรอ”
“มันเป็นความผิดของผมเอง มุกเขาทนไม่ไหวก็เลยออกมาจากบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ผมไม่รู้ว่าจะไปตามหาเธอที่ไหนแล้ว ผมไม่รู้จริงๆ ”
“มุกเขาคงจะเสียใจมากกับการกระทำของคุณสินะ ถึงได้หายไปแบบนี้ ตอนนี้ผมว่ามุกคงจะไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง เอาเป็นว่าถ้ามุกติดต่อมา ผมจะบอกคุณก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากนะหมอ นี่นามบัตรของผม” ภพยื่นนามบัตรของตนเองให้หมอนนท์อย่างมีความหวังแล้วเดินออกไป
ระหว่างทางที่ภพขับรถไปอยู่ๆ ในความคิดแวบหนึ่งก็นึกถึงอนันต์บิดาขึ้นมา ในความเป็นไปได้มุกอาจจะติดต่อไปทางโน้นก็ได้เพราะมีป้าแท้ๆ อยู่ แต่ภพเลือกที่จะไม่ไปถามไถ่ทางนั้นเพราะทิฐิในใจยังคงมีบดบังตาอยู่
หมอนนท์กลับเข้าไปในห้องอีกครั้งยืนมองนามบัตรในมือด้วยความชั่งใจจากนั้นก็โยนมันทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ไยดีด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองแทนหญิงสาวที่นอนพักฟื้นร่างกายพร้อมลูกในท้องในแผนกถัดไป
ภายในห้องพักฟื้นมุกนอนนิ่งอยู่บนเตียงให้พยาบาลเช็ดตัวให้เธออย่างไม่มีขัดขืน สักพักหลังจากที่มุกผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จหมอนนท์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี
“เป็นยังไงบ้าง สบายตัวขึ้นไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
“ค่ะ รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มุกเอ่ยกับหมอหนุ่มและพยาบาลสาวที่กำลังเก็บอุปกรณ์อยู่ข้างๆ เธอ
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” พยาบาลสาวเอ่ยแล้วเดินออกไป
“หลังออกจากโรงพยาบาล มุกแน่ใจนะว่าจะอยู่บ้านเช่าแถวนอกชานเมืองจริงๆ ”
“ค่ะ มุกแน่ใจ หมอหาให้มุกได้แล้วเหรอคะ”
“เปล่า ผมแค่อยากถามให้แน่ใจอีกครั้ง เผื่อมุกจะเปลี่ยนใจมาอยู่กับผม”
“แค่นี้ก็รบกวนหมอมากแล้ว อย่าให้มากไปกว่านี้เลยค่ะ อีกอย่างมุกอยากจะอยู่เงียบๆ ด้วย นอกเมืองนั้นแหละค่ะเหมาะกับมุกแล้ว”
“ครับ ทำตามที่มุกสบายใจเถอะ ขอแค่มุกมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” มุกยิ้มรับพลางจับกุมหน้าท้องน้อยไปด้วย