วันต่อมา
มุกตื่นแต่เช้าเข้าครัวทำข้าวผัดแหนมพร้อมน้ำซุปกลมกล่อมร้อนๆ พอเสร็จก็ออกไปใส่บาตรพระตรงหน้าบ้านกรวดน้ำให้น้องชายของตัวเอง แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเป็นจังหวะเดียวกับภพกับซินดี้เดินลงจากข้างบนพอดี
“เช้านี้มีอะไรทานบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
“ข้าวผัดแหนมกับน้ำซุปร้อนๆ ของโปรดคุณค่ะ” ร่างบางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเศร้าหมอง
“____” ร่างหนาได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักนิ่งไป
“ฉันไม่ทานหรอก อาหารพื้นๆ แบบนั้น” ซินดี้กอดอกมองมุกอย่างดูถูกดูแคลน
“คุณซินดี้อยากทานอะไรคะ เดี๋ยวมุกไปทำให้ค่ะ”
“breakfast ขอสลัดด้วยนะ”
“ได้ค่ะ” มุกรับคำแล้วรีบเดินเข้าไปในครัวทันที
มุกหายเข้าไปในครัวไม่นานก็ออกมาพร้อมกับจานอาหารเช้าที่มีไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ขนมปัง ต่างๆ ตามที่เจ้าตัวต้องการและตามมาด้วยสลัดผักอีกหนึ่งจานวางลงตรงหน้าหญิงสาวที่นั่งรออยู่ ส่วนข้างๆ ภพกำลังนั่งทานข้าวผัดแหนมพร้อมน้ำซุปร้อนๆ ไปเงียบๆ ทันทีที่มุกหันไปมองทางชายหนุ่มเธอก็สบสายตาเข้ากับดวงตาคมกริบจังๆ เพราะเขาจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว
“วันนี้คุณมีงานที่ไหนไหม” ภพหันไปทางซินดี้ทันที
“ไม่มีค่ะ วันนี้กะว่าจะออกไปช้อปปิ้งสักหน่อย”
“เจอกันตอนเย็นอีกทีนะ”
“ค่ะ ที่รัก” ซินดี้ตั้งใจพูดตอกย้ำความรู้สึกของมุก
มุกกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งเมื่อถูกมองเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศนั่งทานข้าวผัดแหนมฝีมือของตนเองตามด้วยนมบำรุงครรภ์อีกหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ตรงไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อทายาที่เท้าตัวเองอันเกิดจากถูกข้าวต้มกระเด็นลวกใส่เมื่อวันก่อน
“ยังไม่หายอีกเหรอ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยถามขึ้นพลางมองรอยแดงบนเท้าบางทั้งสองขา
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” มุกเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มพ่อของลูก
“วันนี้ซินดี้เขาอยู่บ้าน ถ้าเขาอยากจะได้อะไรก็ตามใจเขาหน่อยก็แล้วกัน” พูดด้วยความเฉยเมย
“ค่ะ”
“ภพคะ จะไปทำงานแล้วเหรอคะ”นางแบบสาวเดินเข้าไปคล้องแขนภพเอาไว้แนบแน่น
“อืม”
“ไปค่ะ เดี๋ยวซินดี้ไปส่งที่รถ” ซินดี้เดินควงแขนชายหนุ่มออกไปทันที
มุกยืนมองซินดี้หอมแก้มภพซ้ายทีขวาทีก่อนที่ชายหนุ่มจะขึ้นรถไปด้วยความปวดใจน้ำตาคลอเบ้า ภาพตรงหน้ามันบ่งบอกทุกอย่างแล้วว่าชายหนุ่มไม่ต้องการให้เธออยู่ในชีวิตของเขาอีกต่อไปแม้กระทั้งลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาถึงได้ทำร้ายจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ยอมหยุดสักทีอย่างนี้
เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงบ่ายของวันหลังจากที่ซินดี้ออกไปจากบ้านหลายชั่วโมงเธอก็กลับเข้ามาพร้อมกับถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมเต็มสองมือ หิ้วเข้ามานั่งลงข้างๆ มุกในห้องนั่งเล่นที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์และทานผลไม้อยู่เงียบๆ เพียงลำพัง
“ร้อนจัง ไปเอาน้ำมาให้หน่อยสิ” นางแบบสาวเอ่ยขึ้น
มุกได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นตรงเข้าไปในครัวนำน้ำดื่มใส่แก้วออกมาวางลงตรงหน้านางแบบสาวตามที่เธอต้องการแล้วนั่งลง พลางมองซินดี้นำเสื้อผ้าแบรน์เนมออกมาอวดทีละตัว
“เธอว่าชุดนอนตัวนี้สวยไหม” ซินดี้หยิบชุดนอนสายเดี่ยวสีแดงสดออกมาจากถุง
“สวยค่ะ” มุกยิ้มตอบสั้นๆ
“ถ้าฉันใส่ภพเขาจะต้องชอบมากแน่ๆ เลย เธอว่าไหม คงจะไม่ได้นอนทั้งคืน”ซินดี้ยิ้มหัวเราะชอบใจ
“____” มุกเลือกที่จะเงียบไม่อยากออกความเห็นอะไร
“เสื้อผ้าพวกนี้ เธอคงจะไม่มีปัญญาซื้อมาใส่สินะ เพราะดูจากเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่คงจะเป็นเสื้อผ้าตลาดนัดราคาถูกๆ ไม่น่าล่ะภพเขาถึงไม่คิดที่จะพาเธอออกหน้าออกตาคงจะกลัวขายหน้าคนอื่น”
“ฉันขอตัวนะคะ” ร่างบางรีบลุกขึ้นหมายจะเดินออกไปเพราะทนฟังคำพูดดูถูกจากซินดี้ไม่ไหว
“จะรีบไปไหนล่ะ ทนฟังความจริงไม่ได้สินะ”
“คุณต้องการอะไรกันแน่”
“ก็ต้องการให้เธอออกไปจากบ้านนี้เร็วๆ ไงล่ะ เธอนี่มันหน้าด้านจังเลยนะ ผู้ชายเขาแสดงออกว่ารังเกียจขนาดนี้แล้ว ยังจะหน้าด้านอยู่ต่ออีก น่าสมเพชจริงๆ ”
“คุณมันก็หน้าด้านไม่ต่างจากฉันหรอก รู้อยู่ว่าคุณภพเขามีลูกกับฉันก็ยังจะหน้าด้านเข้าอยู่ในบ้านอีก ไร้ยางอาย!” มุกเอ่ยด้วยความเหลืออดเหลือทน
“นี่แก! กล้าด่าฉันเหรอ!” ซินดี้โมโหเลือดขึ้นหน้า
“ฉันก็คนนะ มีหัวใจเหมือนกัน จะได้ทนโดนคุณด่าอยู่ฝ่ายเดียว หน้าฉันไม่ได้หนาเท่าคุณหรอก!” มุกสวนกลับทันควัน
เพี๊ยะ! ซินดี้ฟาดฝ่าลงบนแก้มมุกจนเธอหน้าหันไปอีกทางด้วยความโกรธเคืองที่โดนอีกฝ่ายต่อว่ากลับ
“ว้าย! ตายแล้ว คุณซินดี้ทำไม่ทำแบบนี้คะ”ป้าสายเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี ซินดี้ยิ้มเย้ยหยันอีกฝ่ายด้วยความสะใจ
“แต่คุณก็เห็นว่าคุณมุกกกำลังท้องอยู่ ไม่เห็นถึงขั้นจะต้องทำร้ายร่างกายกันเลยนะคะ” ป้าสายเอ่ยพลางประคองมุกเอาไว้
“มุกไม่เป็นไรค่ะ ป้า” ร่างบางเอ่ยเสียงราบเรียบทั้งที่แก้มข้างขวามีรอยแดงจากฝ่ามือซินดี้ฝังอยู่
“จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องภพเขาก็ตามสบายเลยนะ ถึงยังไงภพเขาก็ไม่มีวันสนใจเธอหรอก” ซินดี้กอดอกอย่างผู้ชนะ
“ไปนั่งเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้” ป้าสายพาร่างบางไปนั่งลงบนโซฟา
“เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปซักให้ฉันด้วยนะ ทำให้มันเรียบร้อยล่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้ภพเขามาจัดการเธอเอง” ซินดี้หยิบถุงเสื้อผ้าทั้งหมดมาวางกองลงตรงหน้ามุกแล้วเดินออกไป
มุกนั่งเหม่อลอยปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้มโดยไร้เสียงสะอื้น ระหว่างนั้นป้าสายก็เอาน้ำแข็งประคบแก้มให้เธอไปด้วย ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเหลือเกินไม่มีความหมายหรือประโยชน์ต่อใครเลยนอกจากลูกที่อยู่ในท้องเท่านั้น
“พอเถอะค่ะป้า มุกเอาผ้าไปซักก่อนดีกว่า” พูดพลางก้มลงหยิบถุงเสื้อผ้าซินดี้ขึ้นมา
“ให้ป้าทำดีกว่าค่ะ คุณมุกนั่งพักเถอะ”
“ขอบคุณป้ามากนะคะ แต่มันเป็นหน้าที่มุก ไม่ทำไม่ได้หรอกค่ะ”
“ตอนเย็นถ้าคุณถพกลับมา ป้าจะบอกคุณภพทุกอย่างว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณมุกจะปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
“บอกไปก็เท่านั้น ป้าก็เห็นว่าเขาไม่เคยสนใจไยดีมุกเลย ต่อให้มุกตายไปเขาก็ไม่สนใจหรอกค่ะ เขาเกลียดมุกมากป้าก็เห็น”
“โธ่ คุณมุกอย่าพูดเรื่องตายสิคะ”
“ถ้ามุกไม่อยู่แล้ว ป้าก็ดูแลคุณภพเขาดีๆ ก็แล้วกันค่ะ” พูดจบร่างบางก็หิ้วถุงเสื้อผ้าเดินออกไป
ตกเย็นหลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จภพก็แยกตัวไปนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง ป้าสายจึงถือโอกาสเข้าไปหาชายหนุ่มและขอคุยด้วย โดยมีมุกแอบยืนฟังอยู่ตรงประตูห่างๆ
“ป้ามีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“คือเมื่อตอนกลางวันคุณมุกถูกคุณซินดี้ตบหน้าค่ะ”
“อืม งั้นเหรอ ไปทำอะไรให้ซินดี้เขาโกรธสิท่า” ภพยังคงวางเฉยแต่ข้างในร้อนรนเป็นไฟ
“ป้ากลัวค่ะ ป้ากลัวว่าสิ่งที่คุณกับคุณซินดี้กำลังทำมันจะกระทบจิตใจของคุณมุกและส่งผลทำให้เด็กในท้องเป็นอันตรายได้ ป้าขอร้องอย่าทำร้ายจิตใจคุณมุกเธอเลยนะคะ สงสารเธอบ้างเถอะ”
“เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนอะไรเลย ป้าจะเดือดร้อนแทนทำไม ถ้าเขาทนไม่ไหวเดี๋ยวเขาก็ไปเองแหละ”
“ป้าเข้าใจค่ะว่าคุณภพเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา แต่ป้าไม่คิดเลยว่าคุณจะใจร้ายกับลูกของตัวเองขนาดนี้ ไม่รักแม่ก็ขอแค่รักลูกสักหน่อยก็ยังดี ป้าขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดความรู้สึกออกมาตรงๆ ป้าเห็นคุณมุกเธอร้องไห้ทุกวันป้าอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ”
“_____” ร่างหนาเลือกที่จะนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาทั้งนั้น
“เห็นหรือยังล่ะ ว่าเธอมันไร้ค่าแค่ไหนในสายตาของภพ แม้แต่ลูกในท้องที่เป็นสายเลือดของเขาแท้ๆ เขายังไม่สนใจเลย” ซินดี้เอ่ยขึ้นทางด้านหลังร่างบางที่ยืนน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเสียใจเมื่อได้ยินทุกคำพูดออกมาจากปากพ่อของลูก
“คุณมุกมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” ป้าสายเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเจอมุกเข้าพอดี
“ก็มายืนแอบฟังไงล่ะ จะอะไรอีก” ซินดี้เอ่ยแทรกขึ้น
“โธ่! คุณมุก”
“มุกไม่เป็นอะไรคะ” พูดพลางปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ไยดี
“มายืนอออะไรกันตรงนี้” ร่างหนาตรงทางประตูหันไปมองมุกแวบหนึ่ง
“เปล่าค่ะ” มุกเอ่ยจบก็เดินขึ้นห้องไปทันทีโดยมีป้าสายเดินตามไปติดๆ
คล้อยหลังมุกกับป้าสายเดินออกไปภพก็หันไปมองหน้าซินดี้ด้วยความไม่พอใจ เอ่ยเรียกให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นทันที ซึ่งเธอก็เดินตามเข้าไปแต่โดยดี
“เมื่อตอนกลางวันคุณตบหน้ามุกทำไม!” ภพเอ่ยถามเสียงดุดัน
“ทำไมต้องถามเหตุผลด้วยคะ คุณเป็นคนบอกเองว่าให้ทำยังไงก็ได้ให้มันทนไม่ไหว”
“ใช่ แต่ผมไม่เคยบอกนะ ว่าให้ใช้ความรุนแรงยิ่งกับคนท้องมันไม่สมควร”
“ก็มันยั่วโมโหซินดี้ก่อน อย่าบอกนะคะว่าคุณเป็นห่วงมัน”
“เพราะอะไร!” ภพขบกรามแน่นด้วยความโมโห
“ทำไมต้องโกรธด้วยคะ ซินดี้ก็แค่พูดจาดูถูกยั่วโมโห ยัยนั้นก็เลยสวนกลับมา ซินดี้ก็เลยสั่งสอนสักหน่อยก็เท่านั้นเอง พอใจหรือยังคะ”
“อย่าทำแบบนี้อีกก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นผมจะลากคอคุณออกไปเอง!”
“หึ เท่าที่ซินดี้ดู อีกไม่กี่วันยัยนั้นก็คงจะเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปเร็วๆ นี้ แน่ๆ”
“ทำไม”
“จะมีใครทนอยู่กับความทุกข์ความทรมานจากคนที่ตัวเองรักมอบให้อยู่ตลอดเวลาล่ะคะ มันเจ็บปวดมากจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เลยด้วยซ้ำ ยิ่งรักมากก็ยิ่งเจ็บมาก” พูดจบซินดี้ก็เดินออกไป
ภพทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาดวงตาแดงก่ำน้ำตาคลอเบ้าสับสนกับความรู้สึกข้างในที่กำลังตีกันรวนไปหมด ภาพมุกกับมารดาที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไหลเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเต็มหัวด้วยความเจ็บปวดใจ
“แม่ครับ ผมทำถูกแล้วใช่ไหม” ภพก้มหน้าลงกุมขมับของตนเองเอาไว้
ภายในห้องนอนกว้างมุกนอนใช้มือบางลูบหน้าท้องของตนเองไปมาเบาๆ ทั้งน้ำตา ทุกคำพูดทุกกระทำจากพ่อของลูกที่ไม่เคยมีความห่วงใยให้เธอเลยมันตอกย้ำให้เธอมีสติมากขึ้นถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม ถึงตอนนี้เธอควรจะตื่นนึกถึงลูกในท้องเพียงคนเดียวก็พอ
“พ่อไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนะลูก หนูยังมีแม่ที่รักหนูที่สุดในโลกอยู่ทั้งคน แม่รอหนูออกมาวิ่งซนให้แม่ปวดหัวอยู่นะ รู้ไหม” ร่างบางยิ้มทั้งน้ำตา