เช้าวันใหม่ภพนอนมองใบหน้าหญิงสาวข้างกายที่หลับสนิทด้วยความเผลอไผลตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมักจะคอยกวนใจเขาอยู่เสมอจนเขาเริ่มที่จะสับสนในตัวเองว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ยิ่งได้เห็นภาพที่เธอนั่งหลับซบไหล่ผู้ชายคนอื่นเมื่อวานยิ่งพาลทำให้เขาไม่พอใจ ถึงได้พาเธอมาอยู่ร่วมคอนโดด้วย
สายตาคมกริบจ้องมองร่างบางที่นอนแนบติดกับกายแกร่งอยู่อย่างนั้น จนเจ้าตัวเริ่มขยับทำท่าเหมือนกำลังจะตื่นชายหนุ่มก็รีบหลับตาลงทันที ดวงตากลมโตค่อยๆ กะพริบปรับแสงตื่นขึ้นมาช้าๆ เมื่อหันไปเห็นเจ้านายหนั่มข้างกายนอนหลับอยู่ เธอก็อดที่ยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ความอบอุ่นจากอ้อมแขนและคำพูดปลอบโยนจากชายหนุ่มเมื่อคืนยังคงก้องอยู่ในหูของเธออยู่
มือบางค่อยๆ ยื่นเข้าไปแตะแก้มสากลูบไล้ไปมาอย่างเพลิดเพลินใจ สัมผัสจากมือบางของเธอมันทำให้ชายหนุ่มเคลิบเคลิ้มไปอย่างง่ายดายสุดท้ายทนไม่ไหวจึงลืมตาขึ้นจ้องใบหน้าเนียนพร้อมกับคว้ามือบางเอาไว้ให้หยุดนิ่ง
"ขอโทษค่ะ ที่ทำให้คุณตื่น" มุกรีบหลบสายตาชายหนุ่ม
"ฉันตื่นตั้งนานแล้ว แต่ขี้เกียจลุก"
"คุณแกล้งหลับเหรอคะ"
"ใช่ ทำไม"
"เปล่าค่ะ"
"เช้าๆ แบบนี้ ทำอะไรกันดี" ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามสะโพกกลมกลึง
"คุณหิวหรือยังคะ มุกจะไปทำอะไรให้ทาน"
"ใช่ ฉันกำลังหิวพอดีเลย"
"รอเดี๋ยวนะคะ" ร่างบางทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียง
"ฉันหิวเธอต่างหากล่ะ" มือหนาจับกดไหล่บางให้นอนลงบนเตียงดังเดิม
"คือมุก" หญิงสาวอึกอักพูดอะไรไม่ออก
"อะไรพูดมาสิ"
"เปล่าค่ะ แค่ไม่คิดว่าคุณจะพูดอะไรแบบนี้กับมุก"
"แล้วชอบไหมล่ะ" ใช้มือเกลี่ยแก้มสาวไปมา
"ชอบค่ะ"
"ถ้าเธออยากจะให้ฉันทำดีกับเธอ เธอต้องตามใจฉันทุกอย่างเข้าใจไหม"
"ค่ะ"
"ถ้าฉันจะขอให้เธออยู่ห่างๆ จากผู้ชายที่พยายามเข้าหาเธอได้ไหม"
"ได้สิคะ" ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มถ้าเธอไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ชายหนุ่มบนร่างกำลังแสดงความเป็นเจ้าของเธออยู่ใช่ไหม
"รับปากแล้ว อย่าให้ฉันเห็นก็แล้วกัน" พูดจบก็ก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีปากบางอย่างดูดดื่ม จากนั้นบทพิศวาสอันเร้าร้อนก็เริ่มก่อขึ้นจนจบลงอย่างสุขสมใจพร้อมกันทั้งคู่
ร่างบางยืนทำอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับเธอและชายหนุ่ม ระหว่างที่เธอกำลังทอดไข่ดาวอยู่นั้นชายหนุ่มก็เดินเข้ามามองเธอทำอาหารอย่างคล่องมือ มองไปมองมาทำให้ชายหนุ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมา
"เย็นนี้เธอทำข้าวผัดแหนมให้ฉันทานหน่อยได้ไหม" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"ได้ค่ะ" ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้วยความดีใจที่ชายหนุ่มไม่ลืมเมนูที่เธอเคยทำให้ชายหนุ่มทานที่บริษัทครั้งแรก
"ทำน้ำซุปร้อนๆ ด้วยนะ"
"ค่ะ เสร็จพอดีเลย ทานให้อร่อยนะคะ" พูดพลางยกจานไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปังปิ้งพร้อมซอสและน้ำผลไม้ลงบนโต๊ะ
"เดี๋ยวหลังจากฉันไปส่งเธอที่โรงพยาบาล ฉันจะเข้าบริษัทเลย เธอกลับเองนะ"
"ค่ะ"
"ส่วนเรื่องงานที่บริษัท ถ้ามิคดีขึ้นเธอค่อยกลับไปทำก็ได้นะ หรือจะลาออกเลยก็ได้เพราะดูท่าแล้วเธอคงจะไม่มีสมาธิในการทำงาน อยู่ที่นี้ฉันจะจัดการค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างให้มิคเอง และมีเงินเดือนให้เธอด้วย เธอคิดว่าไง"
"เรื่องค่ารักษาพยาบาลมุกยังมีจ่ายอยู่ค่ะ ส่วนงานที่บริษัทมุกก็คิดจะลาออกเหมือนกัน เพราะมุกคงจะทำไม่ไหวงานจะเสียหายเปล่าๆ "
"ถ้าเธอตัดสินใจแล้ว อย่าลืมโทรแจ้งบุษบาด้วยแล้วกัน"
"ค่ะ"
"บ้านเช่าหลังนั้นก็เลิกเช่าซะ"
"เลิกเช่าหมายความว่ายังไงคะ" มุกขมวดคิ้วเข้าหากัน
"เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ เธออยู่ที่นี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะเช่าบ้านอีก ถ้ามิคดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลได้ ก็พามาอยู่ที่นี้ด้วยเลย เข้าใจหรือยัง"
"ขอบคุณมากนะคะ" มุกมองใบหน้าชายหนุ่มน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ ชายหนุ่มโน้มตัวลงยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสากฟอดหนึ่งด้วยรอยยิ้มกว้าง
"นี่คือรางวัลสำหรับฉันงั้นสิ"
"ค่ะ แต่ตอนเย็นยังมีอีกค่ะ" ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
"หึ ฉันจะคอยดู" ภพยกยิ้มมุมปาก
หลังทานมื้อเช้าเสร็จภพก็แล่นรถไปส่งมุกที่โรงพยาบาลแล้วตรงเข้าไปยังบริษัททันที มุกเข้าไปเยี่ยมมิคในห้องพร้อมกับพูดคุยความรู้สึกที่มีออกมาเผื่อน้องชายที่กำลังหลับไหลจะได้ยินและฟื้นขึ้นมาในเร็ววัน ร่างบางออกจากห้องยืนมองมิคผ่านกระจกใสที่กั้นไว้ระหว่างกันด้วยหัวใจที่เข้มแข็งและมีความหวังขึ้นกว่าเมื่อวาน
"ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลมิคอย่างเต็มความสามารถ" หมอนนท์พูดพลางใช้มือหนาแตะลงบนไหล่บางเป็นกำลังใจ
"ขอบคุณมากนะคะ" หันไปส่งยิ้มให้หมอหนุ่ม
"แล้วได้ทานอะไรมาหรือยัง ไปทานกับผมไหม"
"มุกทานมาแล้วค่ะ"
"เจ้านายมุกมาส่งแต่เช้าเลย ผมคงจะหมดหวังแล้วสิ"
"เอ่อ….คือ มุกไม่รู้จะพูดยังไงดีค่ะ" เธอไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในสถานะอะไรเพราะมันไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักอย่าง
"มันอยู่ที่มุกแล้วล่ะ ว่าจะยอมเปิดใจให้ผมไหม"
"คุณหมออย่ามาเสียเวลากับมุกเลยค่ะ เป็นเพื่อนกันจะดีกว่านะคะ"
"ครับ ผมขอตัวนะ" หมอนนท์เดินคอตกออกไป
ณ บริษัทพีพีเคสตูดิโอ จำกัด ภายในห้องทำงานประธานบริษัทระหว่างที่ภพกำลังนั่งทำงานอยู่ ซินดี้ก็ผลักประตูเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามชายหนุ่ม
"ขอโทษนะคะ ที่เข้ามารบกวน"
"คุณมีอะไร ไม่มีงานเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นไม่มองหน้าหญิงสาว
"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีค่ะ เลยเวลาจับผิดใครบางคน"
"หมายความว่ายังไง" ภพเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวทันที
"ซินดี้เห็นนะคะ ว่าภพพายัยพนักงานบัญชีนั่นเข้าออกคอนโดเป็นว่าเล่น ไม่ชอบไม่ใช่เหรอคะ ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่"
"ผมไม่คิดเลยนะ ว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ทำไปเพื่ออะไร " ภพลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างหัวเสีย
"อย่าโกรธซินดี้เลยนะคะ ที่ซินดี้ทำไปก็เพราะป็นห่วงคุณ"
"หึ คุณจะมาห่วงอะไรผม ผมโตแล้ว อย่าหาข้ออ้างมาพูดให้ตัวเองดูดีเลย ทั้งๆในใจมีแต่ความอิจฉาริษยาคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ยอมหยุดก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผม อย่าหาว่าผมไม่เตือนแม้แต่บริษัทนี้ คุณก็จะไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหยียบอีก จำไว้" ชายหนุ่มหันไปยื่นคำขาดกับหญิงสาว
"พูดแบบนี้แสดงว่าคุณเลือกมันมากกว่าซินดี้แล้วสินะ ทำไม มันมีดีอะไร ทำไมคุณถึงไม่เลือกซินดี้"
"ออกไป ก่อนที่ผมจะให้คนลากตัวคุณออกไป แล้วอย่าคิดไปทำอะไรมุกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมเอาคุณตายแน่"
"ซินดี้ไม่คิดเลยว่าคุณจะใฝ่ต่ำไปชอบผู้หญิงจนๆ กระจอกๆ ไม่มีอะไรแบบนั้นได้ลง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงสวยสมบูรณ์แบบมีให้เลือกมากมาย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ " พูดจบซินดี้ก็เดินออกไปจากห้องแต่โดยดี
ภพมองตามหลังนางแบบสาวด้วยความเหนื่อยใจเขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนรู้เรื่องระหว่างเขากับมุกจนได้ เขาหวังว่านางแบบสาวจะหยุดยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาและไม่ทำอะไรที่มันแย่ๆ ต่อไป
ตกเย็น ณ คอนโดหรูใจกลางเมือง หลังจากที่มุกกลับมาจากเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าที่เธอกับน้องชายเคยอยู่และจ่ายตลาด เธอก็ลงมือทำข้าวผัดแหนมพร้อมน้ำซุปร้อนๆ รอภพอาบน้ำหลังออกกำลังกายเสร็จ
มุกใช้เวลาไม่นานนักเธอก็ทำข้าวผัดแหนมที่แสนอร่อยและน่าทานเสร็จสรรพ เป็นเวลาเดียวกับที่ภพเดินเข้ามาพอดี หญิงสาวหันไปส่งยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมกับตักข้าวผัดลงจาน
"หอมน่าทานจังเลย" ชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนข้างๆ ร่างบาง
"ขอบคุณค่ะ คุณไปนั่งรอที่โต๊ะสิคะ มุกขอตักน้ำซุปก่อน"
"อืม" เดินไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
"ทานให้อร่อยนะคะ มุกทำสุดฝีมือเพื่อคุณโดยเฉพาะเลย" ยกจานข้าวผัดแหนมตามด้วยชามน้ำซุปลงตรงหน้าชายหนุ่ม
"แล้วเธอล่ะ ไม่ทานเหรอ"
"คุณทานไปก่อนเลยค่ะ มุกขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่า"
"ทานพร้อมกันไม่ได้หรือไง" ภพแสดงสีหน้าไม่พอใจ
"ได้ค่ะ" มุกเดินไปตักข้าวผัดใส่จานพร้อมน้ำซุปมานั่งทานพร้อมกับชายหนุ่มตามที่เขาต้องการ
ระหว่างที่ทานกันไปชายหนุ่มก็เอ่ยชมรสชาติข้าวผัดแหนมไม่ขาดปาก ซึ่งมันทำให้เธอยิ้มแก้มปริด้วยความดีใจ จนชายหนุ่มเอ่ยถามถึงหมอนนท์ขึ้นมา
"หมอเจ้าของไข้มิคชื่อว่าอะไรนะ"
"หมอนนท์ค่ะ"
"ดูท่าทางเขาจะชอบเธอ ว่าไหม" ภาพหญิงสาวตรงหน้านั่งหลับซบไหล่หมอหนุ่มยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
"หมอเขาเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ"
"เธอแน่ใจนะ ไม่ใช่ไปหลงรักมันเข้าล่ะ"
"ไม่แน่นอนค่ะ มุกชอบใครแล้วไม่มีวันเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน" มองหน้าชายหนุ่มอย่างสื่อความหมาย
"ให้มันจริงเถอะ" พูดพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง
ภายในห้องนอนกว้างมุกเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หมายจะเดินไปตรงตู้เสื้อผ้าแต่กลับถูกชายหนุ่มเจ้าของห้องเดินมาดักหน้าเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับส่งสายตาคมกริบโลมเลียไปตามเนื้อตัวของเธออย่างเปิดเผย ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยปากถามอะไรตัวเธอก็ถูกอุ้มลอยขึ้นจากพื้นด้วยความรวดเร็วโดยฝีมือของชายหนุ่ม
"จะทำอะไรคะ มุกยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า"
"จะใส่ทำไม ยังไงก็ต้องถอดอยู่ดี" พูดพลางวางเธอลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ
"แต่ตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่เลยนะคะ"
"ไหนเธอบอกว่าจะให้รางวัลฉันไม่ใช่เหรอ"
"ใช่ค่ะ มุกจะทำให้คุณมีความสุขทั้งคืนเลย" พูดพลางยกแขนเรียวคล้องคอชายหนุ่มให้โน้มเข้าหาตัวเธอทันที
จ๊วบ! ริมฝีปากบางประกบจูบริมฝีปากหนาของชายหนุ่มอย่างดูดดื่ม ลิ้นบางซอกซอนเข้าไปในโพลงปากหยอกเย้าเกี่ยวตวัดพันลิ้นหนาไปมาด้วยความชำนาญ ในระหว่างที่ริมฝีปากทั้งสองคนกำลังทำหน้าที่ปลุกเร้าอารมณ์ มือหนาก็จัดการเปลื้องผ้าหญิงสาวจนเปล่าเปลือยเผยให้เห็นหน้าอกเต่งตึงทั้งสองข้าง มือหนาไม่รอช้าทำการบีบเคล้นเต้าอวบไปมาอย่างเมามันจนร่างบางสะดุ้งเป็นพักๆ
ใช้เวลาเล้าโลมไม่นานนักทั้งสองร่างก็หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ส่งเสียงครวญครางแข่งกับเสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วห้องอยู่เป็นระยะอย่างสุขสม ไม่นานทั้งสองคนก็พากันไปสู่ความหฤหรรษ์โดยพร้อมเพรียงกันด้วยความอิ่มเอมในหัวใจ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ภายในห้องไอซียูมุกกับภพยืนมองมิคที่หลับไหลอยู่บนเตียงด้วยความสงสารจับใจ มือบางยื่นไปจับมือน้องชายเอาไว้ทั้งน้ำตา เธอได้แต่ภาวนาอยู่ในใจให้น้องชายฟื้นขึ้นมาเท่านั้น ทันทีหยาดน้ำตาใสบริสุทธิ์หยดลงบนมือของมิคที่หลับไหลมาร่วมหนึ่งอาทิตย์ก็ค่อยๆขยับขึ้น มุกที่สัมผัสและรู้สึกได้ก็ยิ้มหันไปมองหน้าภพทั้งน้ำตา
"มิคขยับมือแล้วค่ะ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"จริงเหรอ" ภพก้มลงมองมือมิคเพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวทันที
"เห็นไหมคะ"
"จริงด้วย ฉันเรียกพยาบาลให้นะ" ภพรีบกดกริ๊งเรียกพยาบาลเข้ามาในทันที
ภพพามุกออกมาจากห้องเพื่อให้หมอและพยาบาลตรวจดูอาการของมิคอย่างละเอียด ไม่นานหมอนนท์ก็เดินออกมาจากห้องตรงเข้ามาทางคนทั้งคู่
"มิคเป็นยังไงบ้างคะ" มุกถามด้วยความร้อนใจ
"ฟื้นขึ้นมาคุยได้เป็นปกติแล้วครับ แต่ยังคงเฝ้าดูอาการต่อไปเรื่อยๆ อีกเดี๋ยวก็ย้ายไปพักในห้องพักฟื้นปกติได้แล้วครับ"
"จริงเหรอคะ มุกดีใจจังเลย" หญิงสาวส่งยิ้มให้หมอหนุ่มด้วยความดีใจจนลืมชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายไป
"เข้าไปคุยกับมิคสักหน่อยไหมครับ ถามหามุกอยู่ตลอดเลย"
"ค่ะ คุณภพไปด้วยกันนะคะ" หันไปเอ่ยชวนชายหนุ่ม
"อืม ก็ไปสิ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ทันทีที่มุกเข้าไปข้างในห้องเห็นสายตาที่น้องชายมองมา เธอก็รีบพุ่งตัวเข้าไปสวมกอดมิคด้วยความดีใจในที่สุดการรอคอยของเธอก็สิ้นสุดลงสักที ภาพสองคนพี่น้องสวมกอดกันร้องไห้ไปด้วยกัน ทำให้ภพกับหมอนนท์ที่ยืนมองอยู่เงียบๆ อดที่จะเวทนาทั้งสองพี่น้องขึ้นมาไม่ได้
"ในที่สุดมิคก็กลับมาหาพี่แล้ว พี่คิดถึงเรามากเลยรู้ไหม" พูดเสียงปนสะอื้น
"ผมก็คิดถึงพี่ครับ อย่าร้องนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว"
"มิคจะต้องอยู่กับพี่ตลอดไปนะ"
"ครับ ผมจะอยู่กับพี่ตลอดไป"
"ไหนพี่ขอมองหน้าให้ชัดๆ หน่อยสิ" มุกผละออกจากมิค มองหน้าพร้อมกับใช้มือบางเกลี่ยแก้มและคราบน้ำตาออกเบาๆ ให้น้องชาย
"พี่อย่าร้องเลยนะ" มิคใช้มือปาดเช็ดน้ำตาให้พี่สาว
"มิคก็อย่าร้องสิ ผอมไปมากเลย ต่อไปนี้ต้องกินเยอะๆ นะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะนอนเป็นเพื่อน"
"ผมรู้แล้ว ว่าผมเป็นอะไร"
"มิคว่าอะไรนะ" มุกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
"ผมเป็นมะเร็งใช่ไหมครับ"
"ไม่ใช่นะ มิคไม่ได้เป็นมะเร็ง" มุกรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
"อย่าโกหกผมเลยครับ บอกผมมาตรงๆ เถอะ"
"พี่เปล่านะ มิคอย่าพูดไปเรื่อยสิ พี่จะโกหกมิคไปทำไม จริงไหม"
"ผมค้นหาข้อมูลในอินเตอร์ที่โรงเรียนมาก่อนแล้วครับ อาการที่ผมเป็นทุกอย่างเป็นคืออาการของคนที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้าย"
"โธ่ มิค พี่ขอโทษ" มองหน้าน้องชายผ่านม่านน้ำตา
"ผมจะอยู่กับมันให้ได้ครับ ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อจะอยู่กับพี่ให้ได้นานที่สุด ผมรักพี่นะ"
"พี่ก็รักมิค รักที่สุดในโลกเลย รู้ไหม" สวมกอดน้องชายด้วยความเจ็บปวดใจ