บทที่ 165 คุณชายเฉินโกรธจัด
หลินยียีที่กำลังล้มตัวลงนอนสะดุ้งโหยง
เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นพินิจ หลังจากนั้น เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอลุกออกจากเตียง วิ่งไปทางโรงอาหารด้วยชุดนอน
เธอตื่นเต้นเพราะคนที่เธอเฝ้าคิดถึงนั้น มาที่โรงเรียนของตน
สิ่งที่น่าตกใจ ให้ตาย คุณชายเฉินถูกไลฟ์สดกระทืบ
การก่อตั้งชมรมภายในมหาวิทยาลัยนั้นเป็นอิสระ
นี่เป็นชมรมขนาดใหญ่ คุณชายมหาเศรษฐีท่านหนึ่งโทรศัพท์ขอทางมหาลัยโดยเฉพาะ เขาจัดการทุกอย่างเองโดยเฉพาะหลังได้สถานที่
นักเรียนภายในชมรมเยอะพอสมควร ราว300กว่าชีวิต
ขณะนี้ ชายคนหนึ่งยกเท้ามหาประลัยขึ้น
“ดี! สุดยอด!”
ผู้เล่นคนหนึ่งยกเท้าขึ้นประทับอกถีบชายอีกคนจนถอยหลังไปหลายก้าว ทันใดนั้นเสียงร้องเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
“น้ำ!”
คุณชายปริศนาหมุนคอพร้อมขยับเดินออกมา พร้อมชายคนหนึ่งเปิดฝาขวดน้ำยื่นให้กับเขา เพียงดื่มไปไม่กี่อึก เขาโยนขวดน้ำไปอีกทาง
“ว้าว สุดยอดเลยเท่ระเบิด!”
หญิงสาวหลายคนถือโทรศัพท์ไว้ในมือโผเข้าอ้อมกอดเขา พร้อมส่งยิ้มโปรยเสน่ห์
“เท่บ้าอะไร เมื่อกี้พวกเธอจ้องโทรศัพท์ตาเขม็ง คิดว่าฉันไม่เห็นหรือไง ดูอะไรกัน? ฉันต่อยมวยอยู่นี่ไม่สนใจหรือไง?”
คุณชายดังกล่าวเอ่ยขึ้น
“ฮ่าฮ่า ก็ดูเหลียวหงจัดการคนอื่นไง มาดูเร็ว เหลียวหงกำลังสั่งสอนไอ้กระจอกอยู่เลย!”
หญิงสาวยื่นไลฟ์สดส่งให้ชายหนุ่ม
“บ้าเอ้ย เฉิน…..”
คุณชายสั่นเทาไปทั้งตัว พร้อมผลักหญิงสาวออก
“คุณชายไป๋ เป็นอะไร?”
บรรดาสาวสวยไม่พอใจนัก
“เร็วเข้า ไปเรียกคนมา แล้วไปที่ร้านซูราถี!”
คุณชายคนนี้ คือไป๋เสี่ยวเฟยไม่ผิดเพี้ยน
บรรดาลูกน้องเมื่อได้รับคำสั่ง ต่างรวมตัวมุ่งหน้าไปยังซูราถีอย่างเร่งด่วน
รวมทั้งที่เล่นสนุกกับไป๋เสี่ยวเฟยอย่างคุณชายเจ๋อและเป็นเวลาแรกที่ได้รับข่าว ให้กลับไปที่ซูราถี
หวังหลิงได้ตบบ้องหูเฉินเกอไปแล้วสามที
“เหอะ กล้าดียังไงมาหาเรื่องพี่เหลียวหง ฉันจะเอาแกให้ตาย!”
หวังหลิงสะใจอย่างที่สุด ขณะที่ง้างมือเตรียมประทับฝ่ามือรอบที่สี่ พลันได้ยินเสียงตะโกน :
“ว้าว คุณชายไป๋มาแล้ว! แถมพาคนมาเยอะซะด้วย!”
เหล่าบรรดาผู้คนที่แออัดอยู่หน้าประตูต่างหลีกทางทันที
ราว200กว่าคนมุ่งตรงมาทางนี้
“อ้าว! พี่เฟยมาด้วยหรือ ฮ่าฮ่า ให้เกียรติฉันจังเลย รู้ว่าฉันจัดการธุระส่วนตัว มาเชียร์ฉันด้วย!”
เมื่อเห็นไป๋เสี่ยวเฟย เหลียวหงลุกขึ้นทันที
เป็นการแสดงความเคารพ แม้เธอไม่ใช่คนของไป๋เสี่ยวเฟย แต่ว่านะ ยังไงซะไป๋เสี่ยวเฟยมีอำนาจมากโขในเจียงหนาน
ปกติแล้วความสัมพันธ์ทั้งคู่ถือว่าใช้ได้
อีกอย่าง เมื่อไป๋เสี่ยวเฟยฝ่าเข้ามา ขณะที่เหลียวหงคิดจะทักทายนั้น ได้ยินเสี่ยวเฟยตะโกนลั่น
“บ้าเอ้ย จัดการให้ล่วง คนที่ยืนอยู่ทำให้มันล่วงซะ”
คนกลุ่มหนึ่งลงมือทันทีที่ได้ยินคำสั่ง เหล่าคนที่จับกุมเฉินเกอเอาไว้ ถูกกระทืบล้มลงจนดูไม่ได้
กระทั่งโต๊ะเก้าอี้ภายในร้าน ยังพลอยโดนลูกหลงจนไม่เหลือชิ้นดี
ส่วนชายหญิงที่ยืนข้างเหลียวหง ไม่ทันได้มีโอกาสเอ่ยใดๆ พวกเขาถูกกระทืบจนน่วม
เหลียวหงยืนอึ้งด้วยความงุนงง
“ให้ตายสิ ไป๋เสี่ยวเฟยนายบ้าไปแล้วหรือ ฉันคือเหลียวหง นายกระทืบคนของฉันทำไม?”
เหลียวหงถลึงตาโต
“เพี๊ยะ!”
ไป๋เสี่ยวเฟยฟาดเหลียวหงไปเต็มแรง
“นังแพศนา ฉันเล่นงานเธอแล้วยังไง!”
จบคำ ไป๋เสี่ยวเฟยเดินไปหยุดอยู่หน้าเฉินเกอ :
“เฉิน…..คุณเฉิน ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ไป๋เสี่ยวเฟยตัวเย็นเฉียบ
เฉินเกอลูบไล้ใบหน้าที่ถูกฟาดไปสามที ไฟโกรธพร้อมปะทุทุกเมื่อ
หากวันนี้ไป๋เสี่ยวเฟยไม่ปรากฏตัว คนพวกนี้จะทรมานตนอย่างไร!
ยังดีที่มาทันท่วงที
“คุณเฉินเกอ นังผู้หญิงคนนี้ตบคุณ จะจัดการอย่างไร?”
ทางด้านโจวเจ๋อเขาจับหวังหลิงที่ตระหนกตกใจมาตรงหน้าเฉินเกอ
ที่ตกใจช็อคจนตัวแข็ง
คิดดูแล้วหัน โจวเจ๋อมีชื่อเสียงมากในโรงเรียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณชายไป๋ไป๋เสี่ยวเฟย
ตอนนี้ เขานำคนเยอะขนาดนี้มาช่วยเฉินเกอ
พวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไรกันแน่?
และตอนนี้พวกเขาเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
“จะถามอะไรอีก ลากมันออกไปจัดการซะ!”
ไป๋เสี่ยวเฟยเอ่ยอย่างโมโห
โจวเจ๋อลากหวังหลิงไปอีกทาง เรียกลูกน้องกระทืบเธอจนดูไม่ได้
“ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไป๋เสี่ยวเฟย นายเพื่อไอ้กระจอกสองคนนี้ เปิดศึกกับฉันใช่ไหม?”
เหลียวหงไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเร็วเช่นนี้
นายไป๋เสี่ยวเฟยกล้าทำเช่นนี้กับเธอ
“ฮ่าฮ่า ฉันทำแบบนี้กับเธอแล้วยังไง? เธอก็แค่ไก่ตัวนึงของไห่ชาน!”
ไป๋เสี่ยวเฟยเอ่ยด้วยความเย็นชา
“บ้าเอ้ย แกกล้าดูถูกฉัน!”
เพี๊ยะ
เหลียวหงอับอายทั้งโกรธแค้น หวังมุ่งไปทำร้ายไป๋เสี่ยวเฟย แต่กลับถูกไป๋เสี่ยวเฟยฟาดเข้าให้
เลือดไหลกลบปาก
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ วันนี้ไป๋เสี่ยวเฟยกินยาลืมเขย่าขวดหรือยังไงกัน?
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ของเหลียวหงพลันดังขึ้น
ตัวเลขที่โชเป็นเบอร์โทรศัพท์ของนายใหญ่
นัยต์ตาเหลียวหงทอประกาย รีบกดรับสายโดยทันที
“นาย มาช่วยฉันเร็วเข้า หากช้าไปกว่านี้ นายน้อยของพวกคุณจะไม่ได้พบฉันอีก”
เหลียวหงเอ่ยพร้อมน้ำตาไหลริน
“อืม พี่เหลียว มีคนโทรบอกฉันแล้ว เธอเอาโทรศัพท์ให้คุณชายไป๋เร็วเข้า”
นายใหญ่เอ่ยด้วยความเย็นชา
ให้บ้าอะไร!
เหลียวหงเปิดลำโพงต่อหน้าทุกคน
“สวัสดีครับคุณชายไป๋ มีเรื่องอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่าครับ? ท่านรู้ดี เหลียวหงเป็นผู้หญิงของใคร!”
นายใหญ่เอ่ย
“ฉันไม่สนใจมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับสวี่เว้ย จะบอกอะไรให้ ต่อให้เป็นผู้หญิงของสวี่ไห่ชาน วันนี้ฉันก็ปล่อยมันไว้ไม่ได้!”
ตลกสิ้นดี สำหรับพวกไป๋เสี่ยวเฟยที่รู้ว่าพี่สาวของเฉินเกอเฉินเสี่ยวเก่งกาจขนาดไหน อะไรสำคัญกว่า จะแยกแยะไม่ออกได้อย่างไร?
พูดตามตรง หากวันนี้บอสใหญ่เฉินเสี่ยวอยู่ละก็ คงไม่ใช่แค่กระทืบแน่!
“ได้ ท่าทางพวกบริษัทจินหลิง ไม่ใส่ใจบริษัทไห่ชานเลยสักนิด? คุณชายไป๋ พวกคุณเก่งกาจจริงๆ แต่คุณกลับไปถามคุณพ่อคุณได้เลย ก็แค่ก่อตั้งเพียงสิบกว่าปี ส่วนอำนาจของไห่ชาน ก่อตั้งมาแค่ไหนกัน?”
“ทำร้ายผู้หญิงของคุณชายสวี่ เท่ากับว่าตบหน้าคุณชายสวี่!”
นายใหญ่เอ่ย
“ฮ่าฮ่า ไป๋เสี่ยวเฟย ฉันจะบอกอะไรให้ แฟนหนุ่มของฉันคือสวี่เว้ยเขาจะกลับประเทศในเร็วๆนี้ หากเขารู้ว่าฉันถูกทำร้าย บริษัทจินหลิงของคุณจะเก่งกาจ แต่ก็ต้องให้เกียรติตระกูลแฟนของฉัน พ่อของแกก็แค่อยู่ใต้ล่างหลี่เจิ้นกั๋ว
ต่อให้หลี่เจิ้นกั๋วช่วยแก แต่ก็ต้องนึกถึงผลได้ผลเสียอยู่แล้ว?”
“ฮ่าฮ่า!”
ในเวลานี้เหลียวหงรู้สึกเป็นต่อขึ้นมา
มาถึงตรงนี้ ไป๋เสี่ยวเฟยตัดสินใจเองไม่ได้
จึงมองไปทางเฉินเกอ
หากเฉินเกอบอกจัดการ ต้องไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล
แต่เฉินเกอกลับไม่พูดอะไรสักคำ ไม่รู้ว่าเอาไม้ช็อตมาจากไหน
เขามุ่งตรงเข้าไป ช็อตเข้าที่ตัวเหลียวหง
เปี๊ยะ!
เสียงดังขึ้น เหลียวหงสั่นสะเทือนไปทั่วร่าง ล้มตัวลงชักดิ้นชักงอกับพื้น
บางเรื่อง สมควรอดทนจริงๆ ถอยหนึ่งก้าว ทว่า เมื่อได้ยินหญิงสาวคนนี้ใช้ไห่ชานข่มขู่ตน เฉินเกอจึงทนไม่ได้อีกต่อไป
ศัตรูอยู่ใกล้ตัวเสียจริง
คราวก่อน ตนเกือบถูกสวี่ต้าหยวนทำร้ายจนเกือบพิการ พูดตามตรง เขายังไม่หายแค้นใจดี
วันนี้ กลับถูกเหลียวหงเหยียดหยาม
ความแค้นนี้ หากยังทนอยู่ได้ เฉินเกอยอมตายเสียดีกว่า!
ยังไงซะ เริ่มจากสวี่ต้าหยวน ความแค้นนี้ถือว่าได้ชำระแล้ว…..
หลังจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น อาหารคงรับประทานต่อไม่ได้แน่นอน เขาจึงพาพวก ซูเฉียงเวยจากไป
ส่วนเหล่าผู้ชม ต่างรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ให้ตาย เขาคนนั้นชื่อเฉินเกอใช่ไหม เขาดูกระจอกขนาดนั้น ทำไมเก่งกาจเหลือเกิน ไป๋เสี่ยวเฟยยังนอบน้อมต่อเขา”
“นั่นสิ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน? แถมนายโจวเจ๋อนั่นอีก ตระกูลเขาก็รวยออก ดูทีท่าพวกเขาสู้เพื่อไอ้กระจอกเฉินเกอสิ!”
“พวกแกโง่ใช่ไหม? ยังจะไอ้กระจอกอีก ยังไม่เข้าใจหรือไง? เขานามสกุลอะไร?”
“เฉินเกอต้องนามสกุลเฉินอยู่แล้ว? บ้าจริง หรือว่า…..?”