บทที่152 คนเลวแห่งตระกูลโจว
ใช่แล้ว ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จอยู่ในสังคมที่ไหน จะไม่มีเบื้องหลังมีผู้ชายหลายคนกันล่ะ
เพียงแต่พอได้ยินคำพูดนี้ ในใจเฉินเกอก็ผิดหวังอยู่นิดๆ อย่างน่าประหลาดใจเท่านั้นเอง
เขาอยากช่วยถังหว่าน นอกจากเพราะเธอสวย ยังเพราะเฉินเกอชอบเหมิงเหมิงเด็กน้อยคนนี้มากจริงๆ
อาจจะเป็นเพราะเหมิงเหมิงคือชีวิตที่ตนเองช่วยเหลือไว้มั้ง ทำให้เฉินเกอสนิทใจเป็นธรรมชาติ
แต่ดูแล้วตนเองคงคิดง่ายเกินไป
ถังหว่านอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตนเองก็ได้
สำหรับสาเหตุที่ผิดหวัง นั่นคือเฉินคือคิดว่าถังหว่านเป็นผู้หญิงแบบนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นเหมิงเหมิงจะพูดว่าลุงมากขนาดนี้มาหาเธอได้อย่างไรกัน
เอ้อ แต่ว่านี่คือชีวิตส่วนตัวของคนอื่นเขา เกี่ยวอะไรกับตัวเองด้วย
หลังจากซื้อของเสร็จ เฉินเกอก็พาเหมิงเหมิงกลับมาเขตที่พักอาศัย
ทันใดนั้นในเวลานี้ไม่รู้ว่าเหมิงเหมิงมองเห็นอะไรเข้า ตอนแรกยังพูดคุยสนุกสนาน แต่แวบเดียวก็จับแขนของเฉินเกอเอาไว้อย่างประหม่า ตกใจจนหน้าซีด
และดวงตากำลังจ้องรถเบนซ์สีดำที่จอดอยู่ใต้ตึกที่พักสักครู่ตรงๆ
“เป็นอะไรไปเหมิงเหมิง?”
เฉินเกอถามด้วยความสงสัย
“คุณอาเฉินเกอ คนเลวนั้นมาอีกแล้ว เขาตีแม่ แถมยังตีเหมิงเหมิงด้วย นี่คือรถของเขา”
เหมิงเหมิงพูดอย่างประหม่า แวบหนึ่งหลบอยู่ที่ด้านหลังเฉินเกอไป
“หือ?”
เฉินเกอตะลึงเล็กน้อย
ในรถไม่มีคน หมายความว่าคนคนนี้ขึ้นไปแล้วน่ะสิ
เพิ่งกินข้างบ้านคนอื่น เฉินเกอจึงไม่อาจจะนิ่งดูดายไปอย่างไม่ทำอะไรเลย
ไปเหมิงเหมิง พวกเรารีบขึ้นไปกัน”
เฉินเกอรีบอุ้มเหมิงเหมิงขึ้นมา พุ่งขึ้นไปด้านบนทันที
หลังจากขึ้นมาด้านบน ประตูห้องไม่ได้ล็อก
และด้านในมีเสียงเอะอะลอยออกมา
“นังนี่ ทำไมที่บ้านถึงมีชามกับตะเกียบสามชุด บอกมานะ ยังมีผู้ชายคนอื่นมาหาเธอที่นี่อีกใช่ไหม?”
เป็นเสียงหยาบคายของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง
“สวี่ต้าหยวน คุณเป็นบ้ารึไง ที่บ้านฉันจะเป็นยังไง คุณเกี่ยวอะไรด้วย”
ถังหว่านตอบโต้กลับ
“หึๆ ดูแล้วมีผู้ชายคนอื่นอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย ถังหว่าน ครึ่งเดือนก่อนพวกเราตกลงกันไว้แล้วไง ขอเพียงฉันช่วยเธอกดธุรกิจนั้นลงมาได้ และให้เงินทุนไปหมุนกับเธอก้อนหนึ่ง ทำให้เธอผ่านด่านยากครั้งนี้ไปได้ เธอรับปากว่าจะคอยตามฉัน ฉันก็จัดการทำเพื่อเธอทั้งหมดแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคิดว่ากิจการของเธอจะสามารถกั้นคุณชายเฉินแห่งถนนการค้านั้นที่พุ่งเข้ามาได้เหรอ คงโดนกลืนไปตั้งนานแล้ว”
“ตอนนี้ทำธุระเสร็จ นึกไม่ถึงเธอยังกล้าไปคบคิดกับผู้ชายอื่น ดี วันนี้ฉันจะทวงผลประโยชน์คืนมาก่อน หึๆ อยาก*เธอ ไม่ได้แค่วันสองวัน ฉันอึดอัดแทบแย่”
จากนั้นก็มีเสียงจานถูกดึงลงที่พื้นแตกกระจาย
“ไสหัวไป ออกไปนะ คนชั่ว สารเลว”
ถังหว่านร้องไห้ตะโกน
ตอนที่เฉินเกอผลักประตูเปิด เจอเข้ากับฉากนี้พอดี
“หยุดนะ”
เฉินเกอตะโกนไปทีหนึ่ง จากนั้นยกแจกันจากด้านข้างมาใบหนึ่ง พุ่งเข้าไปทันที ก่อนที่มันจะแตกกระจายไปที่ศีรษะของผู้ชายที่ทับอยู่บนตัวถังหว่าน
แจกันฟาดลงไป
“เชี่ย แกเป็นใครกัน?”
ศีรษะของสวี่ต้าหยวนแตกแล้ว
สวี่ต้าหยวนจับศีรษะไว้ยกกางเกงขึ้น ด่าทออย่างโกรธเคือง
“แม่คะ แม่ไม่เป็นอะไรนะ”
เหมิงเหมิงรีบไปพยุงถังหว่านขึ้นมา
เสื้อผ้าทั้งท่อนบน โดนสวี่ต้าหยวนฉีกขาดออกจากกันแล้ว ส่วนที่ใหญ่ขาวราวหิมะเผยความขาวเนียน
ส่วนเฉินเกอก็ยกเก้าอี้ขึ้นอีก จ้องสวี่ต้าหยวนตาไม่กะพริบ
เรื่องราวส่วนใหญ่ เฉินเกอรู้มาพอสมควรแล้ว
เพราะการลงทุนเรื่องนั้น บริษัทของถังหว่านใกล้จะจบเห่แล้ว
ต่อมาก็โดนสวี่ต้าหยวนคนนี้ตีซ้ำเติม
ใช้เงื่อนไขเช่นนี้ มาแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือของสวี่ต้าหยวน
พูดให้ชัดเจน ยังเป็นเพราะตนเองทำเรื่องอะไรไม่พิจารณาให้ดี ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่แย่ขึ้นมา
เฉินเกอมองเห็นถังหว่านถูกรังแก ในใจนึกตำหนิตนเองอยู่บ้าง แวบเดียวก็เลือดร้อนโผล่ขึ้นมาแล้ว
“เชี่ย ฉันรู้แล้ว ถังหว่านมันเป็นเด็กเลี้ยงของเธอสินะ? ได้ แกกล้ามากนะ ถึงได้กล้ามาตีฉันสวี่ต้าหยวนคนนี้ได้ ไอ้หนุ่ม แกรอฉันไว้ก่อน ฉันเล่นงานแกแน่”
สวี่ต้าหยวนเลือดไหลเต็มหน้า ยังด่าทออย่างร้องเอะอะ
เฉินเกอไม่กลัวเขา ยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าไป
ตั้งแต่เล็กจนโตอยู่ในบ้านเก่า อะไรเฉินเกอก็เคยลำบากมาทั้งนั้น เมื่อก่อนเขาไม่มีเงินอ่อนแอใจฝ่อ แต่ทว่ายังมีเรี่ยวแรงพละกำลัง
พอเอาจริงขึ้นมา สวี่ต้าหยวนอ้วนใหญ่คนนี้ก็ยังไม่กล้าทะเลาะด้วย
ถูกทุบจนร้องโหยหวนไม่หยุด สุดท้ายหนีออกไปอย่างกระเซอะกระเซิง
“คุณไม่เป็นอะไรนะ? พี่ถังหว่าน“
เฉินเกอโยนเก้าอี้ทิ้ง ถามอย่างห่วงใย
ถังหว่านเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าตอบ “ฉันไม่เป็นไร คนสารเลวคนนี้มาได้ไม่นานหลังจากที่พวกนายออกไป โชคดีเฉินเกอที่นายกลับมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันคงโดนเขา……”
“ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เฉินเกอสรุปว่านายช่วยพวกเราสองแม่ลูกไว้อีกครั้งแล้ว ฉันให้นายมาแบกรับเรื่องนี้ไว้ไม่ได้ นายรีบออกไปเถอะ สวี่ต้าหยวนคนนี้แรงอาฆาตมากเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลของพวกเขาตระกูลสวี่อยู่ที่จินหลิงมีมหาศาล ถือโอกาสที่เมื่อกี้เขายังจำลักษณะของนายไม่ได้เท่าไร นายรีบหนีไปเถอะ”
ถังหว่านทำหน้าตื่นตระหนก
ไม่มีใครเข้าใจสวี่ต้าหยวนดีเท่าเธออีกแล้ว เคยได้ยินคนพูดมาว่าสวี่ต้าหยวนสนใจหญิงสาวพนักงานคนหนึ่งที่ผับเข้า อยากให้พนักงานหญิงมาอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ว่าแฟนของผู้หญิงคนนั้นก็ทำงานที่ผับเหมือนกัน เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอม
แฟนหล่อนจึงออกไปขัดขวาง
ผลสุดท้ายสวี่ต้าหยวนสั่งลูกน้อง หลังจากตีผู้ชายคนนั้นอย่างโหดร้ายยกหนึ่ง กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวทั้งหมดหักไปแล้ว
จากนั้นก็เอาผู้หญิงคนนั้นมาขืนใจ ก่อนจะให้พวกลูกน้องเข้ามาวนปู้ยี่ปู้ยำ กันต่อ
สรุปสวี่ต้าหยวนคนนี้ก็คือสัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีความเป็นคนสักนิด
พึ่งพิงตระกูลสวี่ที่ยิ่งใหญ่ไว้ เที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่ก่อกรรมทำเข็ญ
และตอนนี้เพื่อช่วยตนเองไว้ เฉินเกอตีเขาไป เขาย่อมไม่ยอมฉินเกออย่างเด็ดขาด ถ้าไม่หนี ถึงอยากหนีก็หนีไม่รอดแล้ว
“ผมไม่กลัวเขา จะว่าไปถ้าผมหนีไป พวกคุณจะทำยังไง? สวี่ต้าหยวนต้องไม่ปล่อยพวกคุณสองคนแม่ลูกแน่”
เฉินเกอไม่กลัวเขาจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เขาหนีไปแบบนี้ นั้นเขาเฉินเกอก็อย่าเป็นคนอีกเลย กระโดดลงไปด้านล่างจากข้างบนได้ทันที
“ถ้าไม่อย่างนั้นนายพาเหมิงเหมิงไปด้วยแล้วกัน ฉันจะอยู่ที่นี่ต่อ ฉันเชื่อว่าสามารถสงบไฟโกรธของสวี่ต้าหยวนได้”
ถังหว่านกัดริมฝีปากพูด
คำพูดนี้หมายความว่าอะไร ทุกคนก็รู้กันดี
“ผมว่าเอาแบบนี้เถอะ พวกเราหลบกันไปก่อนดีกว่า คุณกับเหมิงเหมิงตามผมไป ผมมีที่ไป คุณวางใจได้ เรื่องสวี่ต้าหยวนนี้ จะต้องสามารถแก้ไขได้แน่”
เฉินเกอไม่สะดวกจะอธิบายสถานะของตนเอง เพียงแค่ให้สายตาที่แน่วแน่กับถังหว่านไป
ประเด็นคือตอนนี้มือถือของเขาตกแตกแล้ว และไม่มีทางติดต่อพวกหลี่เจิ้นกั๋วได้
ดังนั้นจึงทำได้เพียงหลบไปก่อน จากนั้นพอตนเองเปลี่ยนมือถือใหม่เสร็จ เชื่อว่าแก้ไขขึ้นมาน่าจะไม่วุ่นวายเกินไป
จะพูดอย่างไรถังหว่านก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เจอเรื่องแบบนี้แล้วก็ไม่ความคิดเห็นทั้งนั้น และบวกกับท่าทางน่าเชื่อถือของเฉินเกอ จึงได้แต่พยักหน้า
หลังจากเก็บข้าวของง่ายๆ ทั้งสามคนก็ลงมาข้างล่างแล้ว
ถังหว่านไม่กล้าขับรถของตนเองไป เพียงแต่ยื่นมือโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง
เพิ่งนั่งเข้าไป
ในเวลานี้ รถหรูคันหนึ่งพุ่งเข้ามาบนถนนของจินหลิงทันที ด้านหลังยังมีรถตู้อีกสามสี่คันตามมา
เผด็จการอย่างมาก
พุ่งเข้าไปเขตที่พักอาศัยโดยตรง ปิดทางเข้าออกของเขตที่พักไว้
จากนั้นสวี่ต้าหยวนที่ทำแผลง่ายๆ เอาไว้ก็ถูกคนประคองลงมาจากบนรถคันหนึ่ง ไม่รู้กำลังร้องตะโกนอะไร คนกลุ่มหนึ่งก็พุ่งไปด้านบนตึก
ถังหว่านมองฉากนี้จนสีหน้าซีดเซียว แม้แต่เฉินเกอยังหวาดกลัวอยู่บ้าง
ถ้าตนเองช้าไปอีกก้าวเดียว คาดว่าคงโดนทุบตายแน่
แม่ง ไม่ง่ายที่จะไม่เป็นคนจนแล้ว ถ้าโดนคนทุบตายแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่พวกหลี่เจิ้นกั๋วไม่รู้เรื่อง ตนเองไม่รู้สึกกลัวได้เหรอ
“คนขับรีบขับไปหน่อย ไปแถวสลัมใกล้โรงเรียนปฐมเพื่อเด็กยากไร้ที่สร้างใหม่ย่านชานเมือง”
เวลานี้เฉินเกอรีบพูดประโยคหนึ่ง
คนขับรถเหยียบคันเร่งลงไปก็ออกไปแล้ว
เนื่องจากคนขับรถคนนี้อาจถูกเหตุการณ์ณ์ใหญ่ในตอนนี้ทำให้ตกใจเช่นกัน ตอนนี้จึงอยากขับให้ไวหน่อย ทว่าเป็นเพราะขับเร็วเกินไป
พอมองจากกระจกรถออกไปข้างนอก ก็ดึงดูดความสนใจของสวี่ต้าหยวนเข้าให้
เขายืนอยู่ด้านล่างตึก กำลังหันหน้ามองทางรถแท็กซี่ที่ขับออกไปด้วยความลังเล…