ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 69 ไม่เจอไม่แยกย้าย

บทที่ 69 ไม่เจอไม่แยกย้าย

บทที่ 69ไม่เจอไม่แยกย้าย

“คุณก็มากินข้าวที่ภัตตาคารเฟิ่งหวง หรอ ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลยครับคุณชายเฉิน พอดีเลย อย่างนั้นผมจะไปดื่มกับคุณสักแก้ว!”

แค๊กแค๊ก

จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงการดื่มแสดงความเคารพ ก็ควรจะเป็นเฉินเดอที่เป็นคนไปหา ยังไงซะหวางเหว่ยหมินก็นับว่าเป็นผู้อาวุโสกว่าตัวเอง

ทว่า ในเมื่อหวางเหว่ยหมินพูดแบบนี้แล้ว อย่างนั้นก็มาดื่มไวน์กันสักแล้วก็แล้วกัน

ตัวเองก็จะได้ลบล้างสถานการณ์เลวร้ายนี้ลงด้วย จึงได้บอกหมายเลขห้องให้กลับหวางเหว่ยหมินไป

อย่างมากในอนาคตก็ ลงทุนให้มากขึ้นอีกหน่อย

ทางฝั่งของเฉินเกอด้านนี้ได้วางสายไป

และจ้าวกังพวกเขายังคงจ้องมาที่เฉินเกออย่างดูถูก

“คิดไม่ถึงเลยว่าคนแบบนี้จะมีเพื่อนในภัตตาคารเฟิ่งหวงเหมือนกัน!”

“ใช่แล้ว ยังเสแสร้งแกล้งทำอยู่ได้!”

กลุ่มผู้หญิงหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา

ตอนนี้สถานะของเฉินเกอในใจของพวกเธอกำลังลดต่ำลงสุดๆ ใช่แล้ว เมื่อก่อนไม่ว่าเฉินเกอจะเป็นทายาทเศรษฐีก็ดี หรือว่าจะถูกล็อตเตอรี่ก็ช่าง

คุณก็เป็นคนที่ร่ำรวยจริงๆ

อยู่กับคุณสามารถได้รับสิ่งดีๆ มากมาย

แต่ตอนนี้ล่ะ เฉินเกอคุณมันก็แค่แมงดาที่ถูกคนอื่นชุบเลี้ยงเท่านั้น ในตอนที่รักคุณชอบคุณก็จะมีเงิน แต่เมื่อเขาเล่นจนเบื่อแล้ว เฉินเกอคุณนับว่าเป็นอะไร?

คุณจะยังเป็นอะไร?!

ดังนั้น ทัศนคติของทุกคนจึงสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ

และตอนนี้เอง

ประตูห้องอาหารก็ได้ถูกเปิดออก

ก็มองเห็นคนกลุ่มใหญ่ อย่างน้อยก็น่าจะ 20-30 คน คนวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุในชุดสูทและรองเท้าหนัง

ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกประตูพร้อมแก้วไวน์

ในขณะนี้ ทำให้จ้าวกังรู้สึกตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

แม้กระทั่งจ้าวยีฟานพวกเธอเองก็สีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมา

นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?

“จ้าว……ผู้อำนวยการจ้าว?”

“นี่นี่นี่……ผู้อำนวยการหวาง?”

“ประธานม่า ประธานหลี่ ทำไมถึงเป็นพวกคุณ?”

จ้าวกังพูดน้ำเสียงสั่นคลอนเล็กน้อย

บุคคลที่อยู่ตรงหน้ายี่สิบกว่าคนนี้ คนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนดังในมหาวิทยาลัยจินหลิง

แม้กระทั่งหวางเหว่ยหมินจากสำนักงานบริหารธุรกิจการค้า**ก็ยังอยู่ด้วย

สำหรับคนใหญ่คนโตอย่างผู้อำนวยการจ้าวตรงหน้าของจ้าวกัง ขณะนี้ทำได้แค่ยืนอยู่ท้ายฝูงชนถือแก้วไวน์ และหัวเราะ

พวกเขามาที่นี่เพื่อดื่มเคารพฉันหรอ?

จ้าวกังรู้สึกเหมือนเป็นภาพที่กำลังฝันไป

“เชิญนั่งค่ะ เชิญนั่งก่อน!”

ภรรยาของจ้าวกังตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น

“สุภาพบุรุษท่านนี้คุณไม่ต้องเกรงใจ พวกเรามาเพื่อดื่มเคารพเท่านั้น เมื่อดื่มเสร็จแล้วพวกเราก็จะไป!”

หวางเหว่ยหมินโค้งให้กับจ้าวกังเล็กน้อยแสดงถึงความเคารพ

แน่นอนว่าความเคารพนี้ไม่ได้เกิดจากจ้าวกัง แต่เป็นเพราะเฉินเกอ

“คุณชายเฉิน พวกเรามาเพื่อดื่มเคารพให้กับคุณ!”

หวางเหว่ยหมินถือแก้วไวน์ ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของคนกลุ่มหนึ่ง ตรงไปหาเฉินเกอพร้อมกับกลุ่มคนพวกนั้น

และดื่มไวน์ในแก้วจนหมด

“คุณชายเฉิน พวกเราเองก็ขอดื่มให้คุณ!”

ทางด้านหลังของหวางเหว่ยหมิน มีประธานที่มีส่วนรวมมือในโครงการนี้ มีสมาชิกของสำนักงานบริหารธุรกิจการค้า ยกแก้วขึ้นพร้อมกัน และดื่มจนหมดแก้ว

ตอนนี้เฉินเกอเองก็มีความรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

เดิมทีคิดว่ามีเพียงแค่หวางเหว่ยหมินคนเดียวที่มา จากนั้นยังคิดว่าอยากจะขอให้เขาช่วยจัดการเรื่องของจ้าวยีฟานให้ด้วย

แต่เฉินเกอคิดไม่ถึงเลยว่า จะมีคนมาที่นี่มากมายขนาดนี้

เฉินเกอไม่กล้าเสียมารยาท

จึงดื่มกลับไปแก้วหนึ่ง

และภาพทั้งหมดนี้

จ้าวกังตกตะลึงไปเลย

จ้าวยีฟานเองก็ร่างกายแข็งทื่อไปหมดเหมือนกัน

หลินเจียวก็อ้าปากค้างจนสามารถใส่ไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง

ใช่ พวกเธอคิดว่าเฉินเกอเป็นแค่แมงดาเท่านั้น

แต่ว่าตอนนี้ล่ะ หวางเหว่ยหมินอันผู้อำนวยการของสำนักงานบริหารธุรกิจการค้าแห่งจินหลิง ก็ยังมาดื่มเคารพให้

และยิ่งไปกว่านั้นยังเรียกอย่างเต็มปากเต็มคำว่าคุณชายเฉิน

นี่หมายความว่าอะไร?

เฉินเกอไม่ใช่แมงดาอย่างที่คิดง่ายๆ แบบนั้นแล้ว ต้องรู้ว่าหวางเหว่ยหมินก็นับว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ของจินหลิง!

“คุณชายเฉินหลังจากงานเลี้ยงของคุณจบลงแล้ว ก็ขอเชิญให้คุณขึ้นไปด้านบนด้วยนะครับ ยังคงเป็นเรื่องเดิมที่ผมได้บอกไว้!”

หวางเหว่ยหมินจับมือกับเฉินเกออย่างสนิทสนม

เพียงแค่ชายหนุ่มคนนี้โบกมือ ไม่รู้ว่ามีกี่บริษัทที่จะเพิ่มขึ้นในจินหลิงภายในชั่วข้ามคืน

เศรษฐกิจของจินหลิง ไม่รู้ว่าจะปีนขึ้นไปได้กี่ระดับ

เพียงเพราะเฉินเกอเซ็นชื่อไม่กี่ชื่อเท่านั้น

ก็เป็นคุณชายที่กว้างขวางแบบนี้แล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่ถือยศใดๆ เลย ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างสุภาพ

ช่างหายากจริงๆ!

หลังจากพูดจบแล้ว หวางเหว่ยหมินก็พาทุกคนจากไป

ภายในห้องอาหาร บรรยากาศตายสงบ ไม่มีใครพูด ทุกคนมองไปที่เฉินเกอด้วยความงุนงง

เดิมทีคิดว่าผู้อำนวยการจ้าวจะเก่งมากแล้ว เพราะหยิ่งผยองมากเช่นกัน

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า คนที่น่าทึ่งจริงๆ คือชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองคนนี้!

ภรรยาของจ้าวกังคิดในใจ

“เฉินเกอ พวกเขาเรียกคุณว่าอะไรนะ? เรียกคุณว่าคุณชายเฉิน?”

หลินเจียวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

จ้าวยีฟานเองก็มองไปที่เฉินเกอด้วยสีหน้าอาบเหงื่อ

“ก็แค่คำเรียกแทนชื่อเท่านั้น!”

เฉินเกอยิ้มจาง ๆ

เขาไม่ได้อยากเสแสร้งจริงๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็กะทันหันจน เฉินเกอเองก็อึดอัด

“หรือว่าเฉินเกอ จะเป็นคุณชายเฉินของบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปคนนั้นจริงๆ ?”

“คุณชายเฉิน? คุณชายเฉินคนที่เป็นเป็นเจ้าของถนนการค้าจินหลิงทั้งหมด? ดูเหมือนจะมีแค่แบบนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้คุณหวางเหว่ยหมินเคารพนับถือขนาดนี้?”

“เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไงกัน เฉินเกอเขาจะมีเงินมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?”

ทุกคนกำลังคาดเดากันอยู่ หลินเจียวกลับรู้สึกเหลือเชื่อ

ถ้ามันเป็นความจริง เธอสามารถไปตายได้แล้วจริงๆ!

“ขอบคุณสำหรับการดูแลของคุณอาจ้าวและคุณน้าจ้าวมากๆนะครับ เรื่องนี้ เมื่อพูดไปมันก็เกิดจากงานวันเกิดแฟนสาวของเพื่อนผม ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมจัดการเถอะ ต้องขออนุญาตด้วย ผมขอตัวขึ้นไปชั้นบนก่อนนะครับ!”

หากเฉินเกอยังอยู่ต่อไปอีก เกรงว่าจะถูกจ้องไม่วางตาแน่ รู้สึกไม่สบายใจเลย

ดังนั้นจึงถือโอกาสเดินออกไปเลย

สำหรับที่พวกเธอบอกว่าตัวเองเป็นคุณชายเฉินของถนนการค้าจินหลิงนั้น เฉินเกอไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

หลังจากที่ออกไปแล้ว ก็โทรไปหาหลี่เจิ้นกั๋วทันที หวังว่าเขาจะสามารถออกหน้าเป็นผู้สร้างสันติได้ เรื่องนี้ก็ปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้ล่ะ

หลี่เจิ้นกั๋วจะทำตามที่เห็นสมควรเอง

“ยีฟาน เธอไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม? เธอบอกเองว่าเขาเป็นแมงดา?”

ในใจของจ้าวกังกล่าวอย่างเสียใจ

ถ้ารู้ตั้งแต่แรก เขาก็คงจะไม่พูดคำเยาะเย้ยมากขนาดนั้น

พวกเธอไม่รู้หรอกว่า เมื่อกี้นี้ตอนที่หวางเหว่ยหมินหันมาโค้งให้จ้าวกัง จ้าวกังแทบจะตื่นเต้นจนฉี่แตกแล้ว!

“เป็นไปไม่ได้ ด้านในนี้จะต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ เฉินเกอจะเป็นคุณชายเฉินของถนนการค้าจินหลิงได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ตระกุลสวี่ เขาจะจัดการมันได้ด้วยคำพูดเดียวได้ยังไง?”

จ้าวยีฟานกลับพึมพำอยู่อย่างนั้น

เห็นได้ชัดเลยว่าผลกระทบของข้อเท็จจริงเรื่องนี้รุนแรงมากเกินไปแล้ว

และในตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของจ้าวกังดังขึ้นแล้ว

เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ จู่ๆ เขาก็แปลกใจขึ้นมาทันที

“ผมเองผมเอง สวัสดีครับ ครับๆๆ! อ๋า? คุณพูดว่าอะไรนะครับ? ดีมากเลยครับ ของคุณครับ ขอบคุณมากๆ ครับ!”

หลังจากพูดจบแล้ว จ้าวกังก็วางสายโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น

ทุกคนมองไปที่เขา

จ้าวกังพูดขึ้น: “ยีฟาน คราวนี้พวกเราเจอผู้สูงศักดิ์แล้วจริงๆ จริงๆนะ เฉินเกอ ไม่สิ คุณชายเฉิน เขาก็คือผู้สูงศักดิ์ของพวกเรา! เมื่อกี้นี้ผู้อาวุโสจากหอการค้าโทรมา บอกว่าเรื่องนี้มีคนใหญ่คนโตออกหน้ายืนยัน และได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว!”

เมื่อจ้าวยีฟานฟังจบ ก็นั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง

ทุกอย่างเป็นเพราะเฉินเกอทั้งหมด เขามีอำนาจมากจริงๆ!

แต่ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เฉินเกอเป็นใครกัน?

ความสงสัยในใจของทุกคนยังคงมีอยู่

แต่กลับบอกว่าเฉินเกอไปที่ห้องอาหารแล้ว เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งจะโทรไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว ช่วยคนที่อยู่ในหอพักเดียวกับสวีเสีย จ้าวยีฟาน และครอบครัวของหลินเจียว สำหรับสวี่ชาวกับสวี่ตงจะเป็นยังไงนั้น เฉินเกอไม่สนใจ และก็ไม่อยากยุ่งด้วย พวกเขาเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองล่ะ?

เฉินเกอไม่ได้คิดเรื่องนี้ หลังจากเข้าไปในห้องอาหารแล้ว ก็ดื่มไวน์กับหวางเหว่ยหมินพวกเขาเลย

สำหรับเรื่องสำคัญที่หวางเหว่ยหมินพูดถึงนั้นก็คือ หวังว่าหลังจากที่โครงการบันเทิงได้เปิดตัวแล้ว ในวันนั้นเฉินเกอจะสามารถไปร่วมงานได้

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา อยู่แล้ว เฉินเกอจึงตอบตกลงไปแล้ว

เมื่อกลับไปถึงที่โรงเรียนแล้ว ก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว

นอนอยู่บนเตียง กลับพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ

“ติ๊งติ๊ง!”

มีการแจ้งเตือนหลายครั้งจาก WeChat หลายรายการ

“เฉินเกอ เฉินเกอ นอนหรือยัง? เจอกันที่โรงอาหารตะวันตกของโรงเรียนพรุ่งนี้เช้านะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย! ไม่ต้องตอบแล้ว!”

เมื่อมองดู เป็นข้อความจากซูมู่หาน

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset