ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 59 ความผิดในวัยเด็กที่ตามมาหลอกหลอน

บทที่ 59 ความผิดในวัยเด็กที่ตามมาหลอกหลอน

บทที่ 59 ความผิดในวัยเด็กที่ตามมาหลอกหลอน

เฉินเกอหันกลับไปมอง เป็นซูมู่หาน

“เธอก็มาฝึกขับรถเหรอ?”

เฉินเกอยิ้ม

“อืมๆ พรุ่งนี้ฉันต้องไปสอนวิชาที่สอง จริงสิ พรุ่งนี้แกสอนวิชาที่สามใช่ไหม?”เพราะครั้งที่แล้วซูมู่หานมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น ยังไม่ทันสอบวิชาที่สองก็วิ่งออกมาซะก่อน

แน่นอนว่าก็ต้องสอบใหม่

เฉินเกอพยักหน้า

“งั้นดีเลย พรุ่งนี้ไว้พวกเราไปด้วยกัน หวังว่าพวกเราจะสอบผ่านทั้งคู่!”

“ไม่มีปัญหา!ไปกันเถอะ ไปสนามฝึกซ้อมด้วยกัน!”

พออยู่ต่อหน้าซูมู่หาน เฉินเกอก็รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง

ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่มีสีหน้าอึดอัดและตื่นเต้น

ถ้าบอกว่าต้องเจอกับงานใหญ่ คนใหญ่คนโตจะต้องมีประโยชน์แน่

ประสบการณ์ของแต่ละคนจะต้องมีประโยชน์มากแน่

หลังจากฝึกขับรถมาได้ครึ่งวัน พอถึงวันที่สอง ทั้งสองต่างก็เข้าไปสอบในห้องสอบของตัวเอง

เฉินเกอสอบได้อย่างราบรื่น เรื่องทักษะครั้งเดียวผ่าน ข้อเขียนเองก็ผ่านในครั้งเดียว

แค่สองวันก็จะได้ใบขับขี่แล้ว

ได้นัดกับซูมู่หานไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองจะมาเจอกันอีกทีที่หน้าทางเข้าของสนามสอบ จากนั้นก็ไปกินข้าวเที่ยวด้วยกัน

เฉินเกอต้องสอบสองวิชา แน่นอนจึงช้ากว่าซูมู่หาน

ตอนที่เฉินเกอออกมา แน่นอนก็เห็นซูมู่หานรออยู่ข้างนอกแล้ว

เพียงแต่ว่า คนที่ยืนด้วยกันกับซูมู่หาน ยังมีชายหญิงวัยรุ่นหนึ่งคู่ กำลังพูดคุยกับซูมู่หาน

เฉินเกอเดินเข้าไปหาช้าๆ ทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้สังเกตเห็นเฉินเกอแม้แต่น้อย

“มู่หาน พูดถึงเราสองคนนอกจากจะได้เจอกันในวันร่วมญาติแล้ว ปกติพวกเราไม่ค่อยจะได้เจอหน้ากันเลยเน้อ ทำไม เธอถึงมาที่นี่ตัวเดียว?”

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้จะกำลังยิ้มอยู่ แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่มีอะไรแอบแฝง คำพูด ยังแฝงน้ำเสียงที่ถากถางอยู่ด้วย

“ใช่แล้วซูหยิ่งปกติพวกเราก็ไม่ค่อยจะติดต่อกันจริงๆ แต่ฉันนับถือเธอจริงๆ ทำไม นี่เธอเปลี่ยนแฟนใหม่อีกแล้วเหรอ?”

ซูมู่หานพูดคุยกับเธอ น้ำเสียงเองก็มีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

ราวกับว่าทั้งสองเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติก่อน พอเจอหน้ากัน ต่างก็มองด้วยความโกรธแค้น!

ทั้งสองโจมตีกันทางสายตา!

และประโยคนี้ ก็ทำให้หนุ่มหล่อที่อยู่ข้างๆซูหยิ่งเริ่มมีสีหน้าที่รู้สึกร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย

“มู่หาน ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เกิดก่อนเธอหลายเดือน ถ้านับจะความอาวุธโส เธอควรจะเรียกฉันว่าพี่ เวลาเธอพูด ทำไมถึงไม่มีความเคารพกันเลย?”

ซูหยิ่งพยายามสงบสติอารมณ์

ถูกแล้ว ทั้งสองต่างก็เป็นคนของบ้านซู พ่อของซูหยิ่งก็คือลุงแท้ๆของซูมู่หาน

บวกกับซูฉี ทั้งสามต่างก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

เพียงแต่ว่า วัยเดียวกันก็มีข้อดีของมัน แน่นอนว่าก็ต้องมีข้อเสียของวัยเดียวกันอยู่ด้วย

ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะว่าซูหยิ่งและซูมู่หานเรียนห้องเดียวกันมาโดยตลอด

เพราะงั้น หญิงสาวทั้งสาวจึงมักจะแข่งขันกันอยู่เสมอ

แข่งกันตั้งแต่ยังเล็ก

ซูมู่หานไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน หรือแม้แต่การมีมนุษย์สัมพันธ์ มักจะอยู่เหนือซูหยิ่งอยู่ตลอด

ปกติเวลานัดรวมญาติกัน

พวกผู้ใหญ่มักจะพูดประโยคนี้ว่า เสี่ยวหยิ่ง เธอเองก็หักเรียนรู้เหมือนกับน้องสาวเธอบ้างนะ!

นี่แทบจะเป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอนซูหยิ่งในวัยเด็ก

เพราะงั้น ซูหยิ่งกับซูมู่หานจึงเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็ก แถมยังชอบแข่งขันกัน

ตอนนี้ถึงแม้จะโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ว่า สิ่งที่ถูกเอามาเปรียบเทียบในวัยเด็กยังคงเหลืออยู่

ดังนั้นเวลาพูด จึงเปลี่ยนไปเช่นกัน!

“ฮ่าๆ ฉันรู้ดี มู่หานตั้งแต่เด็กเธอก็มักจะทำตัวสูงส่ง แถมยังมีรสนิยมที่สูง แต่แล้วยังไง จนถึงตอนนี้ ยังหาแฟนไม่ได้แม้แต่คนเดียว เธอจะรู้ไหมว่าเวลาถูกผู้ชายเอาใจ มันเป็นความรู้สึกยังไง?”

ซูหยิ่งกอดแขนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แม้แต่มาสอบใบขับขี่ ยังต้องมาด้วยตัวคนเดียว ไม่เหมือนกับเจี่ยนหนานของฉันเลย ห่างจากฉันไม่ได้แม้แต่น้อย ต้องมาอยู่ข้างๆเสมอ!”

หลี่เจี่ยนหนานยิ้มเฮ้เฮ้ แล้วก็โอบเอวของซูหยิ่งเบาๆ

ช่วยแฟนของตัวเองต่อกรกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไม่ว่าถ้าเกิดซูหยิ่งอารมณ์ดี อาจจะยอมมอบร่างกายให้กับตัวเองก็ได้!

ส่วนซูมู่หานที่ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกรับไม่ค่อยได้

หลายปีมานี้ เธอโสดมาด้วยตลอด ใครใช้ให้เวลามีคนมาจีบเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ

แต่นึกไม่ถึงว่า วันนี้มาสอบใบขับขี่ กลับต้องมาเจอกับลูกพี่ลูกน้องซูหยิ่งของตัวเองที่มาสอบเหมือนกัน

แถมซูหยิ่งยังพาแฟนหนุ่มของตัวเองมาโอ้อวดต่อหน้าตัวเองอีก

ทั้งสองแข่งขันมาตั้งแต่เด็กจนเคยชิน อย่าให้ต้องมาเจอหน้ากัน ถ้าเกิดเจอหน้ากัน ทั้งสองจะต้องเกิดความอิจฉาต่ออีกฝ่าย

ซูมู่หานโกรธเป็นอย่างมาก

แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

“มู่หาน!”

เฉินเกอที่ยืนดูอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อกี้ พอได้ยินว่าซูมู่หานโดนดูถูก เขาจึงยืนออกมา

“อ่า!เฉินเกอ!”

จากนั้นพอได้เห็นเฉินเกอ ซูมู่หานก็เกิดตกใจขึ้นมา

ในเวลาแบบนี้ เฉินเกอไม่ควรจะออกมา งั้นก็แปลว่าเขาได้เห็นตอนที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างชัดเจนแล้วใช่ไหม!

“โอ้ว มู่หาน คนๆนี้ใครกันเหรอ?”

ซูหยิ่งตรวจสอบเฉินเกออย่างละเอียด หลังจากที่เห็นว่าเสื้อผ้าที่เขาสวมเป็นเสื้อผ้าธรรมดา จู่ๆก็ยิ้มดีใจออกมา

เพื่อนของตัวเองล้วนเป็นคนที่มีฐานะ ส่วนเพื่อนของซูมู่หาน กลับเป็นคนแบบนี้

แถมผู้ชายคนนี้ยังเรียกซูมู่หานว่าอะไรนะ?

มู่หาน?

งั้นก็แปลว่า ทั้งสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่?

“นี่เป็นเพื่อนของฉันเฉินเกอ ทำไมเหรอ?”

ซูมู่หานแนะนำตัวอย่างเปิดเผยให้กับซูมู่หาน

“เสี่ยวหยิ่งฉันนึกว่าเขาจะเป็นน้องเขยของเธอสักอีก!” หลี่เจี่ยนหนานที่ยืนอยู่ข้างๆได้โชว์นาฬิกาที่อยู่ตรงแขนออกมา

เป็นเรือนที่เต็มไปด้วยสีทอง เตรียมตัวจะให้เฉินเกอดูว่าใครเหนือกว่ากันแน่

แต่พอได้ยินว่าเป็นเพื่อนงั้นก็ช่างเถอะ

“มันจะเป็นไปได้ยังไงเจี่ยนหนาน ไม่มีทางที่มู่หานจะหาแฟนได้หรอก เธอทำตัวเย็นชาสักขนาดนี้ถูกไหม! แถมคุณยังดูเพื่อนของมู่หานคนนี้สิ ใส่เสื้อผ้าอะไรกันนะ ไม่มีทางเป็นแฟนของมู่หานได้หรอก!”

ซูหยิ่งพูดไปหัวเราะไป

เธอพูดจาเหน็บแนมซูมู่หานโดยตรง ไม่ได้คิดถึงหัวอกของเฉินเกอที่ยืนอยู่ข้างๆแม้แต่น้อย

ชัดเจนมากว่าในสายตาของเธอ เฉินเกอก็ได้กลายเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ

“ฮ่าๆๆ……”จากนั้น หลังจากได้ยินคำพูดเยาะเย้ย ซูมู่หานนอกจากไม่โกรธแล้วยังดีใจอีก

“เธอผิดแล้วซูหยิ่งเฉินเกอไม่เพียงแค่เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉัน และยังเป็นแฟนของฉันอีกด้วย!”

พูดจบ ซูมู่หานก็เดินเข้าไปหาเฉินเกอเบาๆ แล้วก็โอบแขนของเขาเอาไว้

ร่างกายเริ่มสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่ม ทำให้เฉินเกอสั่นไปทั้งตัว

ตอนนี้ตัวเองได้กลายเป็นแฟนของซูมู่หานแล้วงั้นเหรอ?

นี่เป็นเรื่องที่ตัวเองคิดมาโดยตลอด แต่นึกไม่ถึงว่า กลับเป็นในสถานการณ์แบบนี้

ทำให้ใจของเฉินเกอเต็มไปด้วยความสับสน

และคนตรงหน้าอย่างซูหยิ่งกับหลี่เจี่ยนหนานกลับเข้าใกล้ยิ่งกว่าเดิม

“ฮ่าๆ ซูมู่หาน เธอจงใจจะมาแข่งกับฉันใช่ไหม ต่อให้เธอตั้งใจจะหาผู้ชายมาแข่งกับฉัน โดยเฉพาะมาแข่งกับฉันในเรื่องของวันเกิดคุณย่า ก็ควรจะหาคนที่มันเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ แต่เธอกลับหาคนแบบนี้เนี่ยนะ?”

“จริงสิ ดูเหมือนฉันจะยังไม่ได้แนะนำเจี่ยนหนานให้เธอรู้จักใช่ไหม เขาเป็นถึงคุณชายของบริษัทตระกูลหลี่ เธอรู้ไหมว่าเจี่ยนหนานขับรถอะไรมา? เฟอร์รารี แค่เรื่องพวกนี้ ซูมู่หาน เธอก็พ่ายแพ้ให้กับฉันแล้ว!”

ซูหยิ่งอดกลั้นจนหน้าแดงไปหมด

เอาสิ แกซูมู่หานจนสุดท้ายก็ไม่ยอมแพ้ต่อหน้าฉันใช่ไหม งั้นก็มาแข่งกันสิ!ใครกลัวใครกันแน่!

แน่นอนว่าซูมู่หานเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า “ฮ่าๆ แล้วจะยังไง แฟนของฉันเฉินเกอก็เป็นลูกคนรวยเหมือนกัน เพียงแค่ว่าเขาชอบถ่อมตน ไม่เหมือนกับแฟนของใครบางคน ที่เอาแต่อวดรวย!”

ซูมู่หานกอดแขนของเฉินเกอไว้แน่น เธอทุ่มสุดตัวแล้วจริงๆ

“ฮ่าๆๆ อะไรนะ? เฉินเกอคนนี้เป็นลูกคนรวยเหมือนกันงั้นเหรอ? แถมยังเป็นคนรวยที่ถ่อมตนอีก? ซูมู่หาน ฉันแพ้แล้ว ฉันแพ้แล้วจริงๆ นัดแค่ความไม่ยอมแพ้นี้ ฉันก็เทียบกับเธอไม่ได้แล้ว!”

ซูหยิ่งหัวเราะใหญ่

ส่วนภายในใจของเฉินเกอในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยความสงสัย

เมื่อกี้เขาตกใจมาโดยตลอด ที่แท้การที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบในวัยเด็กมันร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอ

แม้แต่ผู้หญิงที่ใจดีอย่างซูมู่หานก็ไม่แตกต่างจะคนอื่นๆ

บอกว่าตัวเองเป็นแฟนของเธอ เธอก็แค่เอามาแข่งกับซูหยิ่งเท่านั้นเอง

แต่สิ่งที่ทำให้เฉินเกอนึกไม่ถึงก็คือ ประโยคสุดท้ายของซูมู่หาน!

“มู่หาน รึว่าเธอรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว?”

เฉินเกอหนักใจมาโดยตลอดว่าจะบอกฐานะที่แท้จริงของตัวเองกับเพื่อนพวกนี้ยังไงดี

แต่ตอนนี้ พอซูมู่หานพูดออกมา ก็ทำให้ความหนักใจที่อยู่ในอกของเฉินเกอเบาลงไม่น้อย

ซูมู่หานมึนงง “รู้เรื่องอะไรเหรอ?”

เฉินเกอ “เรื่องที่ฉันคือลูกคนรวย!”

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset