ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 58 คนๆนี้ท่าจะบ้า

บทที่ 58 คนๆนี้ท่าจะบ้า

บทที่ 58 คนๆนี้ท่าจะบ้า

“นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน?”

คนเข้ามามุมกันมากกว่าเดิม แล้วก็มีคนถามด้วยความสงสัยว่า

“ยังไม่แน่ชัด แต่ดูจากที่เห็น ดูเหมือนว่าสาวสวยคนนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคนรวยคนนี้ จากนั้น สาวสวยก็หักหลังเขา แอบเลี้ยงเด็กไว้กินอยู่เงียบๆ ทั้งสองจึงเริ่มทะเลาะขึ้นมา!”

“ใช่แล้ว เด็กคนนั้นดูเหมือนตอนนี้จะอยู่ข้างในรถ นี่มันจับได้คาหนังคาเขา!จะน่าสนุกเกินไปแล้ว!”

“ ถ้าเกิดเด็กคนนั้นเป็นฉันก็คงจะดี ผู้หญิงคนนี้สวยสักขนาดนี้ ต่อให้ถูกดูดจนแห้งฉันก็ยินดี อ้าวๆๆ!”

มีผู้ชายอยู่ไม่น้อยที่แสดงใบหน้าที่อิจฉาออกมา

เฉินเกอที่อยู่ข้างในรถ ทำได้แค่เอาหัวทุบกระจก

“สวี่ตง เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

เวลานี้ ก็ได้ยินเสียงของคนสองคนเดินออกมาจากฝูงชน

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง พวกเขาเดินเข้ามาอยู่ข้างๆสวี่ตง

“พี่หยาง พี่เวยเวยเองเหรอ กำลังจัดการเรื่องของพี่ฉันอยู่!”

สวี่ตงตอบกลับไป

จากนั้นก็เล่าสถานการณ์คร่าวๆให้ฟัง

คนเรามักจะมีหลงใหลเรื่องหน้าตา ยิ่งมีเรื่อง โดยเฉพาะอย่างตอนนี้ที่มีคนมุมดูกันเต็ม มีคนบ้างพวกชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ อยากจะเสนอหน้าอะไรแบบนั้น!

“เชี่ย!ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่เป็นไร พวกเราอยู่ข้างแก มีเรื่องก็ต้องจัดการด้วยการ ให้คนที่อยู่ข้างในรถออกมาคุยกันหน่อยดิ!”

ใบหน้าของหวังหยางเต็มไปด้วยความดูถูก

“ใช่ๆๆ เรียกคนที่อยู่ในรถออกมาคุยกันหน่อยซิ!”

หลินเจียวรีบพูดด้วยความโกรธ

“ไม่ได้ มีสิทธิ์อะไร พวกแกถอยออกมาเดี๋ยวนี้!”

เจิ้งยวี่มองด้วยสายตาที่โกรธแค้น รีบหันหน้าเดินออกไป ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของคุณชายเฉิน เธอไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องนี้ได้!

แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งถูกสวี่ชาวเข้าใจผิด

เขาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ตีโพยตีพาย

“เจิ้งยวี่ เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น วันนี้เธอต้องอธิบายเรื่องนี้กับฉัน!”

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ สวี่ตงและหวังหยางได้เดินเข้าไปแล้ว คิดจะเปิดประตูทางฝั่งข้างๆคนขับ

แต่ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือ

เฉินเกอพอเห็นว่าในเมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว ตัวเองจึงเปิดประตูลงจากรถไป

เขาคิดว่า ถ้าเกิดยังไม่ลงไปอีก ยิ่งเข้าใจผิดได้ง่ายๆ!

“เฉินเกอ!!!”

“เชี่ย!”

“แม่งเอ้ย!”

“อะไรกัน?”

สวี่ตงหลินเจียว หวังหยางเจียงเวยเวย หลังจากที่เห็นเฉินเกอ ต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

“ทำไมถึงเป็นแก?” หลินเจียวพูดออกมาด้วยความตกใจ

พูดตรงๆ หลินเจียวในตอนนี้ ลึกๆในใจเริ่มมีความรู้สึกชื่นชอบในตัวของเฉินเกอ

แต่น่าเสียดาย เจ้าบ้าเฉินเกอ ไม่ยอมมองตัวเองแม้แต่น้อย

พูดถึง การที่เธอไปอยู่กับสวี่ตง มีความเกี่ยวข้องกับเฉินเกออยู่ไม่น้อย

แกไม่ชอบฉันหลินเจียวใช่ไหม งั้นก็ดี ฉันก็จะไปคบกับเพื่อนร่วมห้องของแก ดูว่าแกจะหึงไหม!

ไม่ว่าจะยังไงในสายตาจองหลินเจียว เฉินเกอมีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะเป็นคนลึกลับที่เขาลือกันอย่างคุณชายเฉิน!

เพื่อเขา ตัวเองได้ทำพวกเรื่องเตรียมตัว จะต้องคุ้นค่าแน่นอน!

จากนั้น ช่องว่างนี้มันจะใหญ่เกินไปแล้ว

“เชี่ย ฉันก็ว่าทำไมจู่ๆแกถึงมีเงินขึ้นมา ที่แท้ แกก็กลายเป็นแมงดาให้คนอื่นเลี้ยงนี้เอง!ยังกล้าเอาเงินมาแสร้งทำเป็นรวยในห้องอีก!

สวี่ตงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย

ปรากฏว่าเป็นเฉินเกอ กลับทำให้เขารู้สึกดีอย่างแปลกประหลาด

“เจิ้งยวี่แค่มาส่งฉันที่โรงเรียนเท่านั้น ฮ่าๆ พวกแกคิดมากไปแล้ว!”

เฉินเกอยิ้มแห้งๆออกมา

ถึงแม้จะอึดอัด แต่เฉินเกอก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร

“คิดมากเชี้ยไร แกอย่าหาข้อแก้ตัวหน่อยเลย แกก็คือแมงดาที่พี่สะใภ้เจิ้งยวี่ของฉันเลี้ยงเอาไว้ แม้แต่เงินที่แกใช้จ่าย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเงินของพี่ฉัน!”

สวี่ตงเปิดปากด่าออกมา

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? เสี่ยวตง พวกแกรู้จักคนๆนี้ด้วยเหรอ?”

สวี่ชาวมองไปทางเฉินเกอ แน่นอนว่ามองด้วยสายตาที่เป็นศัตรู

“ฮ่าๆ ไม่เพียงแค่รู้จัก เจ้าหมอนี้อยู่ห้องเดียวกับผม เป็นคนจนๆคนนึง จากนั้นจู่ๆก็มีเงินขึ้นมา หลอกพวกเราว่าถูกลอตเตอรี่ นึกไม่ถึงว่า ที่แท้เขาถูกคนอื่นเลี้ยงเอาไว้!”

“จริงสิจริงสิ ฉันเคยได้ยินว่า เฉินเกอได้ออกไปซื้อเสื้อผ้าที่ร้านไฮโซข้างๆประตูโรงเรียน ตอนนั้นเขาไม่มีเงินจ่าย และมีผู้หญิงคนนึงที่อายุพอๆกับพวกฉันปรากฏตัวออกมา จ่ายเงินแทนเขา เสื้อผ้าชุดนี้ เฉินเกอก็เป็นคนให้ฉัน!ผู้หญิงวัยรุ่นคนนั้นมีเงินเป็นจำนวนมาก เป็นถึงหัวหน้าของทั้งห้างสรรพสินค้า คงจะเป็นคนที่เลี้ยงแกเฉินเกออีกคนสินะ?”

เจียงเวยเวยพูดออกมา

ความเป็นจริง ไม่กี่วันก่อนตอนที่เฉินเกอให้เสื้อผ้ากับเจียงเวยเวย สิ่งที่เจียงเวยเวยทำก็คือเอาเสื้อไปที่ร้านค้า ดูว่าเฉินเกอได้หลอกเขารึเปล่า

แต่ในตอนที่รู้ว่าเสื้อผ้าชุดนี้มีมูล่าราวๆเจ็ดถึงแปดหมื่น เจียงเวยเวยก็อึ้งจนตัวแข็งทื่อไปเลยทีเดียว

แต่ อาจจะเป็นเพราะว่าพนักงานคนนั้นตกใจที่เฉินเกอเอาซื้อผ้าที่คุณหนูซื้อให้ไปให้กับคนอื่น

จึงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟังอย่างละเอียด

เจียงเวยเวยเพิ่งจะรู้ตัวว่า เฉินเกอไม่ได้มีเงิน

ใช่แล้ว เธอรู้สึกแปลกใจมาโดยตลอด เฉินเกอไปเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน

ตอนนี้เหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว เฉินเกอเป็นอย่างที่คนในอินเตอร์เน็ตเขาพูดกัน ถูกคนอื่นเลี้ยงเอาไว้

แถมยังไม่ได้ถูกเลี้ยงโดยผู้หญิงแค่คนเดียว

ตอนนี้มีรถเบนซ์มาส่งเขา ครั้งที่แล้วก็เป็นรถเฟอร์รารี่!

เรื่องพวกนี้ ดูเหมือนจะกระจ่างแล้ว!

“เฮิง เฉินเกอ เห็นว่าแกเป็นคนซื่อๆ นึกไม่ถึงว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ มู่หานกลับเอาคนหน้าตาบ้านๆอย่างแกเป็นเพื่อนอีก?”

หวังหยางยิ้มด้วยความเย็นชา

ฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงออกมา

“ว๊ายๆๆโฮสต์คลับเองเหรอ!”

“คนๆนี้มีหน้าตาบ้านๆ ไม่ได้หล่อเหลาอะไร ทำไมผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ถึงชอบคนแบบนี้?”

“เฮิง พวกแกคงจะไม่รู้เรื่องนี้สักแล้ว มีผู้หญิงบางคน ชอบสไตล์แบบนี้!”

ฝูงชนเริ่มส่งเสียงนินทากัน

สวี่ชาวโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แถมยังคิดจะลงมืออีกด้วย

“เพี้ย!”

จากนั้น เจิ้งยวี่ก็ยกมือขึ้นมาตบเข้าไปที่ใบหน้าของสวี่ชาวเข้าอย่างจัง

“เรื่องของฉันแกไม่ต้องเข้ามายุ่ง แกไสหัวออกไปให้พ้น!”

เจิ้งยวี่รีบร้อนจนแทบจะเป็นบ้าแล้ว

ถึงแม้สวี่ชาวจะเป็นคนที่น่ารำคาญ แต่เจิ้งยวี่ก็ไม่ได้เกลียดอะไรมาก ถ้าเกิดวันนี้เขาลงมือทำร้ายคุณชายเฉิน เขาก็คงตายโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายยังไง!

“เจิ้งยวี่ เธอตบฉันงั้นเหรอ เพื่อแมงดาคนนี้ เธอถึงกะตบฉันเลยงั้นเหรอ!”

สวี่ชาวอับอายเป็นอย่างมาก กำหมัดด้วยความโกรธแค้น หันหน้าเดินจากไป

จากนั้นก็ส่งสัญญาณเตือนผ่านทางสายตาให้กับเฉินเกอ

เขาเห็นว่าคนอื่นเริ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้ว ยิ่งไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อ

จังหวะนั้นเอง มือถือของเฉินเกอก็ดังขึ้นมา

หยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือหลินยียี

วันนี้มันเป็นวันอะไรกันแน่!

เฉินเกอหัวเราะอย่างขมขื่นขึ้นในใจ

“ฮัลโหล!”

“คุณชายเฉิน ฉันอยากจะบอกคุณว่า สิ้นเดือนนี้จะมีงานเลี้ยง จะจัดขึ้นที่เรือสำราญเซิ่งเทียน กำหนดสถานที่ไว้แล้ว ถึงเวลานั้นคุณต้องมาให้ได้นะ พวกเสี่ยวเฟยพอได้ยินว่าคุณจะมา ต่างก็ดีใจกันยกใหญ่!”

หลินยียีพูดด้วยเสียงที่อ่อนนุ่ม

“โอ้ บนเรือสำราญเซิ่งเทียน?ได้สิ!”

“งั้นคุณชายเฉิน วันนั้นจะให้ฉันไปรับคุณไหม?”

“รับฉัน? ไม่ต้อง ฉันมีรถเป็นของตัวเอง สิ้นเดือนนี้ก็มีใบขับขี่แล้ว ถึงเวลานั้นเธอก็นัดจุดหมายมา ฉันจะเป็นคนขับรถไปเอง!”

“ได้!”

พูดจบ ทางด้านของเฉินเกอก็กดวางสายไป

กลับเห็นว่า สวี่ตงหลินเจียวเจียงเวยเวยหวังหยาง กำลังจ้องมองตัวเองด้วยความตกใจ

“เรือสำราญเซิ่งเทียน? งานเลี้ยงเรือสำราญเซิ่งเทียนที่จะจัดในสิ้นเดือนนี้แกจะไปงั้นเหรอ?” หวังหยางพูดด้วยความตกใจ

“แกจะขับรถไปด้วยตัวเอง? เฉินเกอแกมีรถงั้นเหรอ?”

เจียงเวยเวยก็ตกใจเช่นกัน

“งานเลี้ยงเรือสำราญเซิ่งเทียน เจ้าแมงดาคนนี้อาจจะเป็นคนโง่ก็ได้ ได้ยินมาว่าครั้งนี้คนรวยอันดับต้นๆของจินหลิง รวมไปถึงคนรวยอันดับต้นๆจากทางใต้คุณชายบ้านสวีก็จะมางานในครั้งนี้ด้วย บนโลกโซเชียลตอนนี้ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ เจ้าแมงดาคนนี้ยังคิดจะแสร้งทำอีก?”

“ฮ่าๆ คงจะแค่อยากจะได้หน้าล่ะมั้ง ดูท่าทางของเขาสิ!”

ทุกคนหัวเราะเยาะราวกับเห็นคนบ้ายังไงยังงั้น

เฉินเกอพอได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของแต่ละคน อยากจะหันกลับไปอัดหน้าซะจริงๆ

มันง่ายมาก ตัวเองแค่เดินไปถึงสวน แล้วก็ขับรถเรเวนตันนั้นออกมา จากนั้นก็ขับวนรอบๆโรงเรียนสักรอบ แต่นี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเฉินเกอ

ฮ่าๆ พวกแกอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ!

เฉินเกอพูดขอบคุณกับเจิ้งยวี่คำนึง จากนั้นก็หันหน้าเดินออกไป

“ให้ตายสิ เป็นแค่แมงดาคนนึงที่ถูกเขาเลี้ยงอย่างกล้าวางมาดอีก!แกได้เจอดีแน่!” สวี่ตงมองแผ่นหลังของเฉินเกอ พูดด้วยความโกรธแค้น

เฉินเกอเดินมาจนถึงสนามฝึกขับรถ

“เฉินเกอ!”

จากนั้นจู่ๆก็มีเสียงเรียกของซูมู่หานดังมาจากข้างหลัง

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset