ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 30 ไฟริษยาเผาไหม้

บทที่ 30 ไฟริษยาเผาไหม้

บทที่ 30 ไฟริษยาเผาไหม้

เฉินเกอ ได้ยินหญิงสาวคนหนึ่งเรียกเขา

เมื่อหันกลับไปดูแล้ว ไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือเจียงเวยเวย ประธานคณะ

เห็นได้ชัดว่า ภาพที่เฉินเกอลงจากFerrari เจียงเวยเวยได้เห็นเข้าพอดี

ในขณะนี้ เธอกำลังมองไปที่ เฉินเกอด้วยความเหลือเชื่อ

แววตานั้น ตกตะลึงมากยิ่งนัก

“มีเรื่องอะไรเหรอ?”

เฉินเกอก็ไม่คาดคิดว่า แม้ว่าจะให้ไป๋เสี่ยวเฟย ปล่อยตัวเองลง ให้ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยมากแล้ว แต่ก็ยังโดนคนรู้จักเห็นเข้าจนได้

แต่ เฉินเกอก็ยังคงแกล้งโง่

อย่างที่คาดไว้……

“นายๆๆ…… ทำไมมีFerrariคันหนึ่งมาส่งนาย?”

เจียงเวยเวยถามโดยตรง

หลายครั้งนี้ที่ได้เจอกับเฉินเกอ เขาทำให้เจียงเวยเวยรู้สึกกระทบและพลิกผันนั้น ยิ่งใหญ่มากเกินไปจริงๆ

อันดับแรกคือ เมื่อคืนที่อยู่ในห้องครัวเจียหยวน เฉินเกอถูกลอตเตอรี่ ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนนี้เจียงเวยเวยไม่ได้ว่างเลย ไปถามเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเฉินเกอ ตกลงเรื่องนี้คืออะไรกันแน่?

คำตอบที่ได้รับคือ เฉินเกอถูกลอตเตอรี่ ถูกรางวัลใหญ่สองแสน

แต่ว่า เพื่อนๆหลายคนกำลังเดาว่า เฉินเกอเพียงถูกแค่สองแสน และอื่นๆที่เกี่ยวกับเฉินเกอเป็นต้น

นี่ทำให้เจียงเวยเวยรู้สึกเจ็บใจอย่างอดไม่ไหว

เฉินเกอนายกระจอกคนนี้ ทำไมถึงมีดวงโชคดีมากขนาดนี้ พระเจ้าตาบอดแล้วหรือ?

อารมณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติที่สุดแล้ว

คุณรังแกคนคนหนึ่งบ่อยๆ อยู่ๆก็กลายเป็นดีขึ้นมา ใครก็รู้สึกเจ็บใจ

จ้าวยีฟาน

เจียงเวยเวยคิดที่จะหา เฉินเกอเพื่อถามให้รู้เรื่องอยู่ตลอด

เขาถูกเท่าไหร่กันแน่

แต่ไม่คาดคิดว่า วันนี้ตัวเองเพิ่งออกจากประตูมหาวิทยาลัย ก็ได้เจอกับเขาพอดี และเขายังลงจากรถFerrariด้วย

“อ้อ! รถของเพื่อนคนหนึ่งของฉัน ส่งฉันกลับพอดี!”

เฉินเกอพูดอย่างเรียบเฉย

“เหอะๆ รถของเพื่อนนาย? เพื่อนนายเป็นใคร? เฉินเกอนายเนี่ยนะ สามารถรู้จักเพื่อนมีเงินด้วยเหรอ? ตีฉันให้ตายฉันก็ไม่เชื่ออ่ะ !”

เจียงเวยเวยพูดด้วยความไม่พอใจ

“จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอ เกี่ยวอะไรกับฉัน! และอีกอย่าง ฉันจะรู้จักกับเพื่อนมีเงินหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอหรือเปล่า?”

เฉินเกอหมดคำพูดแล้ว

ผู้หญิงคนนี้ไม่มีเหตุผลจริงๆ

และเฉินเกอยังค้นพบว่า ในช่วงเวลานี้ ที่ตัวเองมีเงินแล้ว นิสัยของตัวเอง ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้ เฉินเกอไม่มีความกล้าพอที่จะคุยกับเจียงเวยเวยเช่นนี้หรอก

เจียงเวยเวยก็รู้สึกโกรธจัด กับน้ำเสียงของเฉินเกอจริงๆ

“นาย! ดีนักเฉินเกอนายมันไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นจริงๆ ฉันกลัวว่านายจะถูกพวกแชร์ลูกโซ่โกงเอา นายรู้ไหม พวกแชร์ลูกโซ่โกงคนคนหนึ่ง อันดับแรกก็คือวาดฝันให้กับคนคนนั้น แล้วใช้ทุกวิธีทำดีกับนาย ทำให้นายหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น จากนั้น ชีวิตของนายก็พังทลายทั้งหมดแล้ว!”

“นอกจากนี้ ในฐานะประธานของคณะเรา ฉันไม่มีสิทธิ์การสอบถามเลยหรือ? ถ้าหากนายเข้าไปในกลุ่มแชร์ลูกโซ่จริงๆ จะทำให้คณะของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงมากแค่ไหน ต้องรู้ว่า นายมันยากจนมองโลกไม่ไกล อยู่ข้างนอก ไม่รู้อะไรเลย!”

ฟังคำเหน็บแนมที่สวยดูดีของเจียงเวยเวย

เฉินเกอยิ้มเยาะส่ายหัว “สิ่งที่ฉันสามารถบอกเธอได้ ก็ได้บอกเธอหมดแล้ว นี่เป็นแค่เพื่อนของฉันจริงๆ!”

“ได้ เรื่องนั้นยังไม่พูดถึงชั่วคราว ฉันถามนาย ลอตเตอรี่ที่นายถูกรางวัลเมื่อคืน คืออะไรกัน? ได้ยินคนพูดว่า เมื่อคืนนายใช้จ่ายถึงแสนห้ากว่าแล้ว? นายถูกรางวัลแค่สองแสนไม่ใช่เหรอ นายถึงกับใช้จ่ายไปแสนห้าในครั้งเดียว……”

เจียงเวยเวยถาม

“สองแสน? ใครบอกว่าฉันถูกสองแสน? นั่นคือที่พวกเขาเดาทั้งหมด ฉันแค่เบิกเงินสดสองแสนเท่านั้น ก็ถูกรางวัลสองแสงเหรอ?”

เฉินเกอท่าทางดูมั่นใจยิ่งนัก

และท่าทางนี้ถูกเจียงเวยเวยเห็นเข้า ในใจก็เริ่มเจ็บแสบยากจะอดทน

ตามที่คาดไว้ ตัวเองเดาถูกแล้ว ใช้จ่ายแสนห้าในครั้งเดียว ลอตเตอรี่ที่ เฉินเกอถูกไม่เพียงแค่สองแสนแน่นอน

“แล้วคือเท่าไหร่?”

“ฉันไม่สะดวกที่จะพูด แต่มันก็ไม่ได้เยอะมาก! ได้ยากมากจริงๆ! พอแล้ว ท่านประธานคณะเจียงเวยเวยถ้าไม่มีเรื่องอย่างอื่น ฉันก็จะกลับไปแล้ว!”

เฉินเกอท่าทางไม่แยแสอะไรเลย

ทำให้เจียงเวยเวยโกรธจนจะระเบิด

“เชอะ! อวดอะไรนักหนา เงินที่นายถูกลอตเตอรี่ ก็เพียงแค่นายโชคดีเท่านั้น นายจะเปรียบเทียบกับพวกหวังหยาง ลูกหลานไฮโซที่แท้จริงได้อย่างไร!”

เจียงเวยเวยดูท่าทีของเฉินเกอที่มีต่อตัวเองในปัจจุบัน โกรธจนกระทืบเท้า

หวังหยางเป็นลูกหลานไฮโซ แต่ไม่มีความสามารถที่แท้จริง แต่ในสายตาของเจียงเวยเวยแล้ว นี่ดีกว่าเฉินเกอ

ที่ถูกลอตเตอรี่เยอะมาก

“ติ๊กๆ……”

ในเวลานี้ Audi A6 คันหนึ่ง ได้หยุดอยู่ตรงหน้าเจียงเวยเวย

กระจกรถเลื่อนลง หวังหยางก็โผล่หัวที่หวีจนมันวาวออกมา

“เวยเวย ดูสีหน้าของเธอไม่ดีเลย เธอไม่สบายเหรอ? หรือว่า เธอไม่เต็มใจไปซ่อมบำรุง Audiกับฉัน?”

หวังหยางพูดเบาๆ

“ไม่ใช่นะ หวังหยางฉันแค่รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเท่านั้น เฮ้ย สรุปคือตอนนี้ฉันรู้สึกสับสนวุ่นวายเล็กน้อย และยังรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ ฉันๆๆ…… ทำไมฉันถึงรู้สึกอึดอัดใจนะ?

เจียงเวยเวยก็ไม่สามารถบอกความรู้สึกภายในได้ในตอนนี้ได้

เมื่อเห็นเจียงเวยเวยอารมณ์หดหู่ หวังหยางก็รู้ว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว รีบปลอบโยนทันที

“เวยเวย ขึ้นรถก่อนดีกว่า บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีฉันอาจจะช่วยเธอได้……”

เจียงเวยเวยพยักหน้า

โดยเฉพาะตอนนี้ มีคนออกมาเล่นที่ประตูมหาวิทยาลัยมากขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นรถ Audi ในที่สาธารณะ ก็ได้มีหน้ามีตายิ่งนัก

หลังจากที่เธอนั่งเข้าไปแล้ว รถก็หยุดที่ประตูหน้ามหาวิทยาลัย ไม่มีทีท่าว่าจากขับออกไป

และเจียงเวยเวยก็ได้บอกเรื่องของเฉินเกอ

“ฮ่า!”

หวังหยางหัวเราะเยาะสักพัก “เวยเวยฉันยังนึกว่าเป็นเรื่องอะไร ที่แท้เธอยังกลุ้มใจกับเรื่องนี้อยู่เหรอ? ถูกลอตเตอรี่แล้วจะทำไม ข่าวที่ฉันได้รับ ตอนนี้เขาเฉินเกอ ก็กลายเป็นไอ้ยากจน ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว! ฮ่าๆ เดิมทีวันนี้ฉันก็อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังพอดี!”

เมื่อคืนถูกห้องรับรองสุดหรูของเฉินเกอฉีกหน้า ซึ่งทำให้หวังหยางเสียหน้าจริงๆ เขาก็คาใจอยู่เสมอกับเรื่องที่ เฉินเกอถูกลอตเตอรี่

ดังนั้น เลยหาคนไปสืบตั้งนานแล้ว

“อะไรนะ เฉินเกอกลายเป็นไอ้ยากจน ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ได้ยินเลขาในสภานักศึกษาของฉัน ที่อยู่ห้องเขา ได้บอกว่าเฉินเกอไม่เพียงถูกรางวัลสองแสนเท่านั้น การใช้จ่ายในเมื่อคืนเฉินเกอก็ใช้ถึงแสนห้าแล้วนะ!”

เจียงเวยเวยถามด้วยความประหลาดใจ

“เหอะๆ ถูกรางวัลสองแสนจริงๆ สำหรับการใช้จ่ายแสนห้า เพราะไอ้หมอนี่ ท้าชนความรวยกับลู่หยางคู่แข่งหัวใจของเขา ทั้งสองคนหารค่าใช้จ่ายด้วยกัน แข่งกันว่าใครสามารถใช้เงินได้มากกว่า สรุป เฉินเกอใช้เงินแสนห้าหมดเลย อย่างโง่เขลา แน่นอนว่า เมื่อคืนนี้ ลู่หยางก็ขายหน้าเช่นกัน พูดได้ว่า แพ้ทั้งคู่จริงๆ!”

“อ๊าก! ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันก็ว่าแล้ว เรื่องอย่างถูกรางวัลหลายล้าน ตกไม่ถึง ตัวเฉินเกอแน่นอน แต่……”

เจียงเวยเวยพูดอีกว่า “แต่ว่า หวังหยางคุณรู้ไหม เมื่อกี้ เฉินเกอได้ลงจากรถFerrariคันหนึ่ง! รถFerrariคันนั้น เป็นรุ่นลิมิเต็ดระดับโลก อย่างน้อยห้าหกล้านนะ! ฉันถามเขา เขาก็บอกว่า คนขับเป็นเพื่อนของเขา!”

“โอ้ มีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ? เธอเห็นชัดแล้วใช่ไหม คือFerrari รุ่นลิมิเต็ดระดับโลก?”

“เห็นอย่างชัดเจนมากเลย!”

“โธ่เว้ย ไม่ใช่มั้ง เฉินเกอสามารถรู้จักกับเพื่อนที่ขับFerrariด้วยเหรอ?”

หวังหยางก็พูดพึมพำกับตัวเอง

ทั้งสองกลุ้มใจด้วยกัน

เพราะด้วยเหตุนี้แล้ว มนุษยสัมพันธ์ของเฉินเกอยิ่งใหญ่กว่าพวกเขาทั้งสองคนรวมกันอีก

เป็นแบบนี้ได้ยังไง?

ไม่ได้ ไม่ได้แน่นอน!

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset