บทที่ 157 หานเฟยไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็น
ตอนนี้มีคนจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สวี่ต้าหยวนเองก็ยิ่งงวยงงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
เขาพาคนไปปิดล้อมคุณชายเฉินผลคือจินหลิงเกือบครึ่ง ไม่ว่าจะมาจากวงการทหาร ZF และวงการธุรกิจล้วนมากันหมด
ต่อให้ลูกพี่ลูกน้องของเขา สวี่ไห่ชานมาที่นี่ ก็ไม่ได้มีหน้าตาใหญ่โตได้ขนาดนี้แน่!
เฉินเกอถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ดังนั้นจึงทนอยู่ไหวอีกต่อไป
หากยังอยู่นานกว่านี้ ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยอย่างไม่ต้องสงสัย
บวกกับขับรถที่ถูกตีจนสลบก็ไม่มีใครดูแล เฉินเกอกล่าวทักทายชายร่างใหญ่เหล่านี้ จากนั้นสั่งให้หลี่เฟยหงที่เพิ่งจะรีบร้อนตามมาให้ทำอะไรบางอย่าง
ก่อนอื่นคือขึ้นรถ เลี่ยงฝูงชน และพาคนขับไปโรงพยาบาล
สำหรับเรื่องหลังจากนี้ เชื่อว่า หลี่เจิ้นกั๋วจะจัดการได้ดี
“ว๊าว คนมาเยอะมากจริงๆ! ”
ในเวลานี้ ติงห้าวกับ พวกลี่ชือหานใช้ความพยายามไปอย่างมากจนเบียดเข้ามาได้
จากนั้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็ตกใจอย่างยิ่ง
รวมทั้งเฉินหลินและลี่ชือหานเองก็ต่างอ้าปากค้างเล็กน้อย
“นั่นหลี่เจิ้นกั๋ว ลุงหลี่ไม่ใช่เหรอ?”
ติงห้าวเหลือบไปเห็น หลี่เจิ้นกั๋วที่กำลังยืนออกคำสั่งอยู่ตรงกลาง
จากนั้นจึงพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“หา? หัวหน้าใหญ่อย่างหลี่เจิ้นกั๋วนายก็รู้จักหรือ?”
เฉินหลินและลี่ชือหานยิ่งประหลาดใจกับติงห้าว
“อืมอืม ใช่ ยังจำครั้งสุดท้ายที่พวกเราไปปิกนิกบนเขาหยุนเหมิงได้ไหม อันที่จริงบ่ายวันนั้น จินหลิงคุณชายเฉินก็พาลุงหลี่ไปที่หมู่บ้านของพวกเราเพื่อตรวจสอบ อีกทั้งยังเซ็นสัญญาไปหลายฉบับด้วย! ”
“ฮี่ฮี่ พ่อของฉันเป็นพนักงานบัญชีของหมู่บ้าน ครั้งนี้เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำบัญชีในโครงการพัฒนาหมู่บ้านบนเขาหยุนเหมิงแน่นอนว่าย่อมมีการติดต่อกับลุงหลี่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันบอกไม่ใช่หรือว่าไปวิลล่าสปามา? แต่พวกนายไม่เชื่อ หึหึ พ่อของฉันพาฉันไปจริงๆ! พ่อของฉันยังให้ฉันดื่มกับลุงหลี่อีกด้วย!”
โครงการนี้เป็นโครงการพัฒนาโครงการแรกของเฉินเกอ ซึ่งแน่นอนว่าหลี่เจิ้นกั๋วย่อมต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกรับเข้ามาทีละคนๆ
“หึ ฉันไม่เชื่อ ต่อให้ตีให้ตายก็ไม่เชื่อว่านายสามารถไปวิลล่าสปาได้! ”
สองสาวเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างน่าอิจฉา
“เหอเหอ ยังคิดว่าฉันโม้ใช่ไหม?”
ติงห้าวเลิกคิ้ว
“เด็กอย่างนายพอได้แล้ว หรือว่าโม้ขึ้นมาแล้วหยุดไม่ลงหรือไง?”
“ยิ่งไปกว่านั้น คนประเภทนี้ชอบแกล้งทำเป็นอ่อนน้อม เมื่อใดก็ตามที่มีสถานการณ์ใหญ่เกิดขึ้น ก็มักจะอยู่ด้านข้างแล้วทำตัวเหมือนกับว่าตนเองรู้ไปเสียหมดทุกเรื่อง อีกทั้งยังทำเหมือนกับรู้จักคนนู้นคนนี้ เสแสร้งไปทำไมกัน?”
“นั่นสิ หากแน่จริงก็ขึ้นไปทักทายสิ เสแสร้งยิ่งกว่าอะไรดี!”
ไม่ทันให้พวกของเฉินหลินได้ตั้งคำถาม
ผู้สังเกตการณ์สองสามคนในด้านหนึ่งก็กล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม
“อย่างนั้นพวกเธอก็รอดูเถอะ!”
ติงห้าวไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเอามือล้วงกระเป๋า จากนั้นจึงเดินขึ้นไปท่ามกลางสายตาแปลกใจของทุกคน
“สวัสดีลุงหลี่ ไม่คาดคิดว่าจะได้พบคุณที่นี่! ”
ติงห้าวถามด้วยท่าทางเกร็งๆ อยู่บ้าง
หลี่เจิ้นกั๋วนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นจึงมอง ติงห้าวอย่างประเมิน “คุณคือ?”
“พ่อของผมคือติงเสี้ยงเฉียนชื่อเล่น ติงคุนเป็นพนักงานบัญชีของหมู่บ้านเขาหยุนเหมิง เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพิ่งพบคุณไป!”
ติงห้าวรู้สึกประหม่าเพราะกลัวว่า หลี่เจิ้นกั๋วจะลืมเขา
“ฉันจำได้แล้ว นายก็คือ เสี่ยวติงหากไม่มีเรื่องอะไร อย่ามัวมายืนดูอยู่เลย รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วหน่อย!”
เมื่อหลี่เจิ้นกั๋วได้ยินหมู่บ้านหยุนเมิ่ง ก็ให้ความสำคัญขึ้นมา อีกทั้งยังจับมือกับติงห้าว
และให้ ติงห้าวรีบออกไปจากที่นี่
“โอ้พระเจ้า ชือหานพวกเธอรีบดู หลี่เจิ้นกั๋วรู้จัก ติงห้าวจริงๆ! ”
เฉินหลินรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้
ถ้าเธอตะโกนได้ ตอนนี้เธออยากจะตะโกนออกมาจริงๆ
“อืม อืม! ”
ในขณะที่ลี่ชือหานกำลังตกใจ เธอก็มองไปที่ ติงห้าวด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ในเวลานี้ ติงห้าวนั้นหล่อเหลาอย่างหาที่เปรียบมิได้ ลี่ชือหานรู้สึกว่าผู้ชายยอดเยี่ยมที่ตนเคยเห็นมาก่อนนั้น ล้วนไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป!
ในเวลานี้ ติงห้าวกำลังได้รับความพึงพอใจจากสายตาของผู้คนที่มองเขาด้วยความหวาดกลัว
“เอาล่ะ เมื่อครู่ลุงหลี่บอกกับฉันว่า พวกเราอย่าได้มัวแต่อยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวอาจจะยังมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ฉันว่าพวกเรารีบแยกย้ายก่อนเถอะ!”
ติงห้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืมอืม พี่ห้าว ฟังพี่! ”
ฝูงชนพยักหน้าอย่างรีบร้อนแล้วจากไป สำหรับเรื่องที่เพิ่งจะถูกเฉินเกอตอกหน้าอย่างน่าอายเมื่อครู่ ล้วนสูญสลายหายไปนานแล้ว
เมื่อเทียบกับ ติงห้าวแล้ว เฉินเกอก็ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป หึหึ!
เมื่อพูดถึงเฉินเกอ
ขณะนี้เขาได้ส่งตัวคนขับรถผู้กล้าหาญผู้นั้นไปที่โรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย
สำหรับคำสั่งที่สั่งไปยังหลี่เฟยหง นั่นก็คือให้ หลี่เฟยหงดูแลครอบครัวของพี่ชายของคนขับรถและส่งเงินจำนวนหนึ่งไป
เพื่อแสดงความขอบคุณ
สำหรับครอบครัวของ ซูเฉียงเวยเฉินเกอต้องการรอให้หลี่เจิ้นกั๋วแก้ไขปัญหาให้หมดเสียก่อนถึงค่อยกลับไปอีกครั้ง
ในขณะที่เฉินเกอกำลังกังวลว่าตอนนี้จะไปที่ไหน
จู่ๆ เขาก็เห็นใครบางคนในกลุ่มชั้นเรียน @ สมาชิกทุกคน
เป็นหัวหน้าเมิ่งไฉ่หรู
“เวลาบ่ายสามโมง นักเรียนทั้งชั้นโปรดมารวมตัวกันที่บล็อก B ตึกนักศึกษาสตาร์ทอัพของมหาวิทยาลัย ทุกคนต้องไปที่นั่น! ”
เฉินเกอนิ่งไป ไปตึกสตาร์ทอัพทำไมกัน?”
ในขณะที่กำลังสงสัย หยางฮุยก็โทรมาพอดี
“เหล่าเฉิน นายอยู่ไหน เห็นข่าวของชั้นเรียนหรือไม่ฦ”
“เห็นแล้ว! อ้อใช่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เฉินเกอถาม
“ให้ตายเถอะ มันไม่ใช่เพราะหานเฟยเอ๋อหรือไง ตอนนี้การถ่ายทอดสดของเมืองได้รับการอัปเกรดเป็นแอพสตูดิโอเชาฟ๋านถ่ายทอดสดพิเศษไปแล้ว ตอนนี้หานเฟยเอ๋อยังคงรักษาระดับผู้ประกาศข่าวอันดับหนึ่งเอาไว้ได้ภายใต้การสนับสนุนของแอพสตูดิโอเชาฟ๋านคนเขาตั้งสตูดิโอของตัวเองและจะทำการเปิดเฉลิมฉลองในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นวันนี้ตอนบ่ายถึงให้พวกเราไปดูว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือบ้าง!”
“เห้อ พวกเรายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรหลังเรียนจบ แต่ดูหานเฟยเอ๋อสิ ตอนนี้มีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว! ”
หยางฮุยถอนหายใจ
เฉินเกอจะพูดอะไร นอกจากทำได้แค่ยิ้ม
หานเฟยเอ๋อสามารถพูดได้ว่าตั้งตนได้ด้วยตัวเอง มองจากตอนนี้ นับว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมชั้น ว่ากันว่าตอนนี้เขามีรายได้กว่า 100000 หยวนต่อเดือน
แน่นอนว่าย่อมเป็นอันดับหนึ่ง
สำหรับพวกหยางฮุยนั้น เฉินเกอย่อมจะไม่มีวันลืม ต่อไปยังมีโอกาสในอนาคต
ตอนนี้มีปัญหาอยู่มากมาย เฉินเกอไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วม
แต่เนื่องจากเป็นทั้งชั้นเรียนล้วนไปร่วมงาน ดังนั้นหากตนเองไม่ไปก็คงไม่ดีนัก
“ตกลง พวกเราไปเจอกันที่ตึกสตาร์ทอัพ”
หลังจากเฉินเกอพูดจบ เขาก็โยนรถให้บอดี้การ์ด ส่วนตนเองขึ้นแท็กซี่ไป
เมื่อไปถึงสถานที่ เขาก็ช้าไปครึ่งชั่วโมง
“เหล่าเฉิน ทำไมถึงพึ่งจะมา? แต่ก็นับว่ายังไม่สายเท่าไหร่ ฮี่ฮี่”
หยางฮุยตบไหล่เฉินเกอ
“มีเรื่องนิดหน่อย เลยมาสาย อ้อใช่ พวกนายอยู่ข้างนอกกันหมด ไม่ใช่นัดบ่ายสามหรือไง ให้ตาย ทำไมประตูยังไม่เปิด หานเฟยเอ๋อล่ะ? ”
เฉินเกอมองไปที่ประตูของตึก ประตูของสตูดิโอห้องทำงานยังคงถูกล็อกเอาไว้
เขาเอ่ยถาม
“เห้อ ตอนนี้คนเขาเป็นถึงผู้ประกาศข่าวใหญ่ กำลังโด่งดัง นักศึกษาอย่างพวกเรา รอก็รอไป หานเฟยเอ๋อยังมาไม่ถึง! ”
หยางฮุยพูดเหน็บ
ใช่ ล้วนเป็นคนจากชั้นเดียวกัน จุดเริ่มต้นล้วนเหมือนกัน แต่ผลคือหานเฟยเอ๋อกลายเป็นดาราดังในชั่วข้ามคืน ใครๆ ก็ต่างต้องอิจฉาอยู่บ้าง
หานเฟยเอ๋อมาแล้ว!”
ทันใดนั้น เพื่อนร่วมชั้นก็ร้องอุทานขึ้น
จากนั้นก็เห็นเป็นหานเฟยเอ๋อที่ลงจากรถสปอร์ตเฟอร์รารีท่าทางรีบร้อน เด็กผู้ชายหลายคนและคนที่อยู่รอบๆ หานเฟยเอ๋อจำนวนไม่น้อยเข้าไปถ่ายรูปกับเธอ อีกทั้งยังคิดจะทักทายหานเฟยเอ๋อ
แต่ผลคือหานเฟยเอ๋อไม่สนใจใครทั้งสิ้น เธอสวมแว่นกันแดด และอยู่ภายใต้การคุ้มครองของผู้ช่วยหลายคนเดินตรงไปยังตึกสตาร์ทอัพทันที
เมื่อเฉินเกอมองดูหานเฟยเอ๋อในตอนนี้ที่ช่างแตกต่างจากก่อนหน้า สายตากลับกระตุกเล็กน้อย….