ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 133 เมาสุรา

บทที่ 133 เมาสุรา

บทที่ 133 เมาสุรา

ผิวพรรณขาวมาก

เฉินเกอพยักหน้าแล้วยิ้มกับเธอ

“แฮ่ๆ เฉินเกอ คนนี้คือพี่สาวของฉัน(ลูกพี่ลูกน้อง) มาสังสรรค์กับฉันด้วย สวยใช่มั้ยล่ะ?”

เว่ยเมิ่งเจียวกล่าว

เฉินเกอพยักหน้า

ฮึ เพียงแต่ว่าพี่สาวฉันแต่งงานนานแล้ว เมื่อก่อนเป็นดาวมหาวิทยาลัยนะ ตอนนี้ก็ยังเป็นดอกกุหลาบที่สวยงามอยู่ ฮ่าๆ!”

เว่ยเมิ่งเจียวพูดอย่างขำขัน

“คนนี้ น่าจะเป็นคุณชายเฉินแห่งจินหลิงใช่ไหม? สวัสดีค่ะคุณชายเฉิน ฉันชื่อโอหยางหรู ฉันแก่กว่าพวกเธอ นายเรียนฉันว่าพี่โอหยางก็ได้!”

โอหยางหรูพูดอย่างยิ้มแย้ม

“คุณชายเฉินรู้หรือไม่ ตระกูลบ้านพี่สาวฉันที่อยู่เมืองหนานหยางก็มีอำนาจบารมีมาก พี่สาวฉันนั้น ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย!”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่โอหยาง!”

หลังจากทักทายกันพอสมควร เฉินเกอก็ได้เดินตามคนอื่นๆเข้าไป

และหลังจากที่เฉินเกอเข้าไปไม่นานนัก

ได้มีรถหรูคันหนึ่ง ราคาอย่างต่ำๆก็ต้องสิบล้านขึ้นไป ได้จอดลงที่หน้าประตูโรงแรม

จากนั้น คนขับได้ลงจากรถ แล้วมาเปิดประตูรถด้านหน้าอย่างสุภาพ คนใส่สูทคนหนึ่ง บนสูทยังได้แขวนนาฬิกาหรูไว้ที่อกซึ่งเป็นคนชายท่านหนึ่งได้เดินลงมา

“คุณชายหลง!”

คนขับรถเคารพอย่างสุภาพ

คนผู้นี้ ก็คือหลงเช่าหยุน

และมุมปากของหลงเช่าหยุนนั้นได้ยิ้มขึ้นราวกับมีเลศนัยบางอย่าง

เวลานี้ได้มองไปด้านในโรงแรมแวบหนึ่ง

จากนั้นจึงได้ยิ้มแล้วเปิดประตูรถด้านหลัง

“น้องฉินหยา ถึงแล้ว ลงมาเถอะ?”

ในรถ คนที่นั่งอยู่ก็คือฉินหยา

ฉินหยาลงจากรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ

วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆ แต่ว่ายังคงสวยเหมือนเดิม ยังคงมีสง่าราศีมาก

ทำให้หลงเช่าหยุนที่มองแล้ว ตาทั้งคู่เกือบจะเปล่งประกายแสงออกมา

เพราะตั้งแต่เห็นฉินหยาครั้งแรก หลงเช่าหยุนก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นแม้แต่นิดเดียว

เขาเคยพบเจอผู้หญิงตั้งมากมาย ไม่ว่าแบบไหนก็เคยเจอมาแล้ว

แต่ฉินหยาที่มีสง่าราศีเช่นนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เจอ

แต่ว่าน่าเสียดาย ครั้งแรกที่เจอกันนั้น ตัวเองพยายามจะทำดีด้วยหลายครั้ง

ตามหลักแล้ว คุณชายสามของบ้านตระกูลหลงแห่งเยี่ยนจิง ขอเพียงแต่พยักหน้า ก็จะมีผู้หญิงเข้ามาหาอย่างนับไม่ถ้วน

โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วยเลย

แต่ฉินหยานั้น กลับไม่ได้สนใจตัวเขาเลย

หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่า เธอมีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้ว

เพราะฉะนั้น หลงเช่าหยุนจึงได้ไปบีบบังคับตระกูลฉิน

วันนี้จึงบังคับให้ฉินหยามากินข้าวกับตัวเองได้

“อย่าอารมณ์ไม่ดีแบบนี้สิน้องฉินหยา ที่จริงปกติเธอมองฉันเหมือนลูกคนรวยคนที่ไม่เอาไหน แต่จริงๆแล้วฉันเป็นคนดีมากเลย ใน บางครั้งคนบางคนภายนอกดูดี ไม่แน่ภายในอาจจะซ่อนอะไรเอาไว้ แต่คนอย่างฉันมีอะไรก็พูดแบบนั้น เป็นคนที่ตรงไปตรงมาแบบนี้มีน้อยแล้วนะ!”

“ขอบคุณ ฉันวิเคราะห์ได้ด้วยตนเอง!”

ฉินหยากล่าวอย่างเย็นชา

“จ้าจ้าจ้า ไปเถอะ เราเข้าไปกันเถอะ!”

หลงเช่าหยุนยิ้มๆ

พูดจบแล้วยังอยากที่จะยื่นมือไปกอดเอวของฉินหยา

แต่ฉินหยารีบหลบทันควัน

และยังจ้องหลงเช่าหยุนไปแวบหนึ่ง

“แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้เหรอ? เธอเป็นว่าที่ภรรยาของฉันนะ!”

หลงเช่าหยุนกล่าว

“ใครบอกว่าฉันเป็นว่าที่ภรรยาของนาย ฉันยังไม่ได้ตกลงที่จหมั้นกับนายเลย คุณชายหลง ขอให้คุณสำรวมด้วย!”

ฉินหยากล่าวด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด

พูดตามตรง นอกจากเธอจะขยะแขยงหลงเช่าหยุนนั้นแล้ว ไม่มีความรู้สึกอื่นใดเลย

ก็ใช่สิ ตอนนี้ที่ตระกูลกำลังมีวิฤกต คุณพ่อคุณแม่ก็เลยได้เกลี้ยกล่อมตัวเอง ให้ทำเพื่อคนในครอบครัว ต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่าง

เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าฉินหยาจะไม่เคยคิดมาก่อน ก็ได้พยายามประนีประนอมกับตระกูลหลง จากนั้นก็จะค่อยๆยอมรับคุณชายหลง

แต่สุดท้ายแล้ว ก็ล้มเหลว

ความรู้สึกที่เธอมีต่อหลงเช่าหยุน นอกจากขยะแขยงก็คือขยะแขยง

ไม่สามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์ได้เลยแม้แต่น้อย

สองสามวันมานี้ ฉินหยาถึงขั้นมีความกังวลจนมีความคิดเลวร้ายบางอย่าง

และวันนี้ เป็นคุณพ่อที่เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองมา

ฉินหยาก็ไม่รู้ว่าควรที่จะก้าวออกไปมั้ย

“ได้ ไม่เป็นไร เรื่องหมั้น ก็เป็นเรื่องที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น ฮ่าๆ ไม่พูดแล้ว เราเข้าไปกันเถอะ!”

หลงเช่าหยุนก็ได้พาฉินหยาเดินเข้าไป

ย้อนกลับมาพูดถึงเฉินเกออีกครั้ง

เฉินเกอได้เข้าไปในห้องวีไอพีแล้ว วันนี้แขกที่เว่ยเมิ่งเจียวเชิญมาไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากพี่โอหยางหรูแล้ว แขกคนอื่นๆอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกัน

มีคนในพื้นที่ของจินหลิง และยังมีคนที่มาจากนอกพื้นที่ของจินหลิง

คนกลุ่มนี้ต่างเคารพเฉินเกอเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะเว่ยเมิ่งเจียว อยู่ด้านข้างคอยคีบอาหารให้เฉินเกอตลอด

ยังพูดว่ากลางคืนให้ไปเที่ยวด้วยกัน ยังมีเพื่อนอีกกลุ่มจะมาสมทบอีก

เดิมทีนั้น เฉินเกอคิดไว้ว่าจะมาแค่แป๊บเดียวก็จะจากไป แต่หลังจากที่ไปแล้ว เว่ยเมิ่งเจียวก็ให้บริกรเสิร์ฟอาหารเลย

ไม่มีทางอื่น จนต้องอยู่ดื่มกับพวกเขาก่อน

คนกลุ่มนี้ต่างดื่มเก่งกันทุกคน

ทั้งดื่มทั้งคุย ดื่มไปดื่มมา ก็มีคนทนฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่ไหวแล้ว

คนนั้นก็คือพี่โอหยางหรูของเว่ยเมิ่งเจียว

“ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ฉันมึนหัวมากเลย พวกเธอดื่มต่อเถอะ? ฉันจะกลับไปนอนที่รถแป๊บ!”

โอหยางหรูกล่าว

“ห๊า? พี่ แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ ยังนึกว่าพี่คอแข็งมากสักอีก อีกอย่างพี่จะไปนอนบนรถทำไม ร้านอาหารนี้ข้างบนมีห้องพัก ฉันพยุงพี่ขึ้นไปพักผ่อนนะ!”

“ใช่แล้วพี่ ที่ฉันยังมีโซดาหนึ่งขวด พี่ดื่มมันนหน่อย จะได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง!”

เว่ยเมิ่งเจียวเปิดฝาแล้วให้โอหยางหรูดื่มไปสองสามอึก

และโอหยางหรูนั้น ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงได้พยักหน้า

เว่ยเมิ่งเจียวก็ได้ให้บริกรเปิดห้องไว้ให้แล้ว โอหยางหรูดูแล้วน่าจะคออ่อนมากทีเดียว

เกือบจะยืนไม่ไหวแล้ว

“แฮ่ๆ เมิ่งเจียวฉันช่วยเธอพยุงพี่โอหยางขึ้นไปด้วยดีกว่า!”

ผู้ชายคนหนึ่งขออาสาทันที

ใช่สิ เว่ยเมิ่งเจียวหน้าตาสวยซักขนาดนั้น และโอหยางหรูยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย นอกจากจะมีสง่าราศีแล้วคนก็สวยมากด้วย

ถึงแม้อายุจะมากกว่าทุกคน แต่กลับดูมีเสน่ห์มาก

ไปไกลๆตีนเลย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าพวกแกคิดอะไรกันอยู่ ไม่มีใครดีเลยสักคน ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ พี่สาวฉันเป็นคนตระกูลโอหยางที่เมืองหนานหยาง นะ

เว่ยเมิ่งเจียวพูดอย่างขุ่นเคือง

แต่จะให้เธอพยุงคนเดียว มันก็หนักเอาการ

ขณะนั้นได้มองไปที่เฉินเกอ “คุณชายเฉิน ฉันเชื่อนาย นายช่วยฉันพยุงพี่ฉันขึ้นไปด้วยกันเถอะ?”

“ได้สิ!”

เฉินเกอพยักหน้า

ถึงแม้ตัวเองจะไม่สะดวก แต่ในเมื่อเว่ยเมิ่งเจียวได้เอ่ยขึ้นแล้ว ก็ไม่อยากปฏิเสธ

ที่สำคัญคือตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไรที่ไม่ดีอยู่แล้ว

จากนั้นจึงได้พยุงโอหยางหรูเข้าไปในห้องนอนบนชั้นเจ็ด

โอหยางหรูที่จับหน้าผากไว้ นอนลงบนเตียง ก็สลบสลายไปทันที

“เฮ้ย ให้พี่สาวฉันพักสักแป๊บ เธอน่ะ คออ่อนเกินไปจริงๆ คุณชายเฉิน คอนายแข็งใช้ได้เลยนะ?

เว่ยเมิ่งเจียวกล่าว

“ก็นิดหน่อย!”

“แหวะ!”

ในเวลานี้ โอหยางหรูก็อยากอ้วกขึ้นมา ดูท่าทางแล้วน่าจะทรมานไม่น้อย

“ห๊า? พี่ เป็นไรป่ะพี่? ฉันไปซื้อยาแก้เมาให้พี่เดี๋ยวนี้เลย คุณชายเฉิน คุณช่วยดูพี่สาวฉันไว้หน่อยนะ ฉันจะรีบกลับมา!”

เว่ยเมิ่งเจียวกล่าว

พูดจบ ก็รีบร้อนออกไปทันที

และเฉินเกอนั้น ก็ไม่รู้ว่าต้องดูแลยังไง!

ขณะนั้นโอหยางหรูก็ไม่ได้อ้วกแล้ว และกำลังนอนอย่างสะลึมสะลือ

เฉินเกอรู้สึกว่าตัวเองรออยู่ในห้อง ก็ไม่สมควรเท่าไหร่

จึงได้ถือคีการ์ดออกไปรอเว่ยเมิ่งเจียวด้านนอกประตู

ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงของต่อสู้โอหยางหรูถูกส่งออกมา

เหมือนกำลังใช้แรงต่อสู้กับอะไรอยู่

เริ่มแรกเฉินเกอก็ไม่ได้สนใจ แค่คิดว่าโอหยางหรูคงจะแค่เมา

แต่ยิ่งฟัง ยิ่งผิดปกติมากขึ้น เพราะด้านใน มีเสียงเคลื่อนไหวอื่นๆด้วย!

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset