บทที่ 125 พูดความจริง
“เฉินเกอ นายออกมาเดี๋ยวนี้!”
เมิ่งไฉ่หรูกวาดสายตามองอย่างเคืองแค้น จากนั้นเรียกเฉินเกินออกไป
“เฉินเกอ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย พรุ่งนี้ สามีของเพื่อนสมัยเรียนของฉันเปิดผับแห่งใหม่ ขาดคนช่วยเยอะมาก ถ้าพรุ่งนี้นายไม่ติดอะไรไปช่วยทำงานพาร์ทไทม์เถอะ ที่นี่ให้เงินมากกว่าที่อื่นนะ!”
เมิ่งไฉ่หรูกอดอก พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ทำงานพาร์ทไทม์? ฉัน…”
เฉินเกอตกใจตะลึง
“นายอะไรนายล่ะ? ฟังฉันพูดไม่เข้าใจหรือไง เขาก็แค่เปิดกิจการคืนพรุ่งนี้ มีแขกมาเยอะมาก คนช่วยไม่พอจึงอยากหาคนเพิ่ม นายคิดว่าคนอย่างนาย จะไปทำอะไรที่นั่นได้ล่ะ? นายรู้รึเปล่าว่าเขาเปิดผับที่ไหน? ที่ถนนการค้าจินหลง เข้าใจรึเปล่า? หลังจากนี้ คนที่เขาจะรับสมัคร ต้องเป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งสูง!”
“ฉัน…”
“อะไรอีกล่ะ! เอาตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้ฉันไปรวมพิธีเปิดงานของพวกเขา จะได้ไปรับนายด้วย !”
เมื่อพูดจบ เมิ่งไฉ่หรูเหลือบตามองบนใส่เฉินเกอ จากนั้นก็เดินออกไปทันที
“แม่ง…แม่งเอ๋ย!”
เฉินเกอบ่นด่าเขาในใจ
เมื่อครู่เขาอยากพูดว่า เขาไม่อยากไป และไม่จำเป็นต้องไป แต่เมิ่งไฉ่หรูกลับยืนหยัดจะให้เข้าไป จึงทำให้เฉินเกอรู้สึกหมดความอดทน
สามปีที่ผ่านมา เมิ่งไฉ่หรูต้องการให้เขาทำอะไร ก็ทำตามหล่อนให้ได้
นึกถึงคืนวันนั้นที่เมิ่งไฉ่หรูทำตัวเป็นอีแรด แต่ตอนนี้ กลับทำตัวเย่อหยิ่ง
ช่างน่าบัดซบเหลือเกิน!
แต่สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ ถ้าไม่ไปดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เฮ้อ ไปก็ได้ ยังไงไม่ไปวันนี้ก็ต้องไปสักวัน
เฉินเกอสะบัดหัว จากนั้นเดินเข้าไปเรียนต่อ
วิชาเรียนช่วงเช้าน่าเบื่อเหลือเกิน
ไม่นานนักก็ถึงเวลาใกล้พักกลางวัน
“เฉินเกอ ตอนเที่ยงว่างไหม ออกไปกินข้าวด้วยกันสิ…”
ทันใดนั้นมีข้อความเข้ามา
เป็นข้อความจากจ้าวยีฟาน
คำพูดสั้นๆเพียงแค่นี้
เฉินเกอเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีมารผจญอย่างจ้าวยีฟานอีกหนึ่งคน
เมื่อวานเป็นเพราะเข้าใจผิด จึงทำให้จ้าวยีฟานกลับกลายเป็นแฟนของตัวเอง!
เรื่องนี้ทำให้เฉินเกอปวดหัวมาก
อีกอย่าง ตอนนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ จ้าวยีฟานกำลังทำตัวให้เขาใกล้ชิดหล่อนมากขึ้น
ในความเป็นจริง หากเป็นเมื่อก่อน แม้ว่าจ้าวยีฟานจะเคยดูถูกเฉินเกอ ถ้าหล่อนเป็นแฟนกับเฉินเกอ เขาคงมีความสุขมาก
และจะดูแลหล่อนให้ดี
เพราะจ้าวยีฟานสวยมากจริงๆ!
แต่ตอนนี้ ในใจเฉินเกอกลับคิดถึงเพียงแต่ซูมู่หาน
ถ้ายังคงมีความสัมพันธ์อันคลุมเครือกับจ้าวยีฟานต่อไป เฉินเกอคงเป็นผู้ชายที่งี่เงามาก
ในเมื่อไม่ชอบ แล้วทำไมต้องรักษาสถานะแฟนแบบนี้ไว้อีกล่ะ?
อธิบายให้เข้าใจดีกว่า มิเช่นนั้น หากเข้าใจผิดกันมากไปกว่านี้ เห็นที เรื่องนี้คงลำบากมาก!
เฉินเกอครุ่นคิดไปมา จึงตอบหล่อนไปหนึ่งบรรทัด:
“จ้าวยีฟาน เดี๋ยวพอเลิกเรียน พวกเราเจอกันที่สวนหย่อมนะ เธอคนเดียว! ฉันมีเรื่องต้องอธิบายให้เธอเข้าใจ!”
“โอเค!”
จ้าวยีฟานตอบอย่างรวดเร็ว
หลังจากเลิกเรียน เฉินเกอเดินไปที่สวนหย่อม
จ้าวยีฟานรออยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่า วันนี้หล่อนแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นเฉินเกอ หล่อนทำท่าทีดีใจทันที
“เฉินเกอ นายมาแล้วเหรอ!”
รอยยิ้มอันแสนหวานของหล่อนช่างดูสดใสเหลือเกิน
ตอนนี้เมื่อจ้าวยีฟานเห็นเฉินเกอ แม้ว่าจะมีความรู้สึกสับสนอยู่บ้าง
เพราะเมื่อก่อนหล่อนดูถูกเฉินเกอมาก เหยียดเขาทุกเรื่อง แต่ตอนนี้ กลับพบว่าเฉินเกอหล่อหน้าตาดีมาก และยังมีเสน่ห์ น่าดึงดูดเหลือเกิน!
หล่อนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร
“เมื่อคืนยังอยากให้นายเลี้ยงข้าวอยู่เลย สุดท้ายเห็นนายเป็นแบบนั้น นายหมายความว่ายังไงกันแน่!”
จ้าวยีฟานเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินเกอ
กลิ่นตัวอันหอมหวนของจ้าวยีฟานโชยมา
เฉินเกอเพียงแค่คิดว่าทุกอย่างคือความฝัน หญิงสาวแสนสวยที่เขาไม่เคยเอื้อมถึง วันนี้กลับมายืนเขินอายอยู่ตรงหน้าเขา
เหอะๆ ชีวิตช่างเหมือนละคร
แต่ถึงยังไงเฉินเกอยังอยากที่จะพูดความจริง
“เพราะฉันไม่อยากคบต่อแล้ว!” เฉินเกอพูดตรงๆ
“นายว่าไงนะ?”
“เอ่อ จ้าวยีฟาน จริงๆแล้ว เรื่องนี้เกิดจากความเข้าใจผิดมากมาย ตอนนั้นฉัน…ตอนนั้นฉันไม่ได้จีบเธอ แค่กๆ ฉันพูดไปหมดแล้ว วันนั้น เป็นเพราะฉันจะไปหาซูมู่หานที่คณะพวกเธอ อยากนัดหล่อนออกมาทานข้าว แต่สุดท้าย เมื่อฉันเข้าไป กลับถูกสาวๆคณะเธอรุมล้อม คิดว่าฉันจะมาสารภาพรัก! หลังจากนั้น…”
เฉินเกอพูดระบายสิ่งที่ค้างคาในใจออกมาทั้งหมด
จ้าวยีฟานหายใจหอบ ราวกับโดนเข็มทิ่มแทงในทุกๆคำพูดที่เขาเปล่งออกมา ทิ่มแทงทะลุไปตรงหัวใจ ทำให้หล่อนรู้สึกเสียใจ จนสั่นไปทั้งตัว
“จากนั้น ฉันก็เดินออกมาพอดี จึงทำให้เข้าใจผิดว่านายมาบอกรักฉัน และฉันยังตอบตกลงไปอีกด้วย ใช่ไหม?”
จ้าวยีฟานขมวดคิ้ว
“อื้ม! สถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนั้น ขืนฉันบอกไปตรงๆ คงดูไม่ดี!”
เฉินเกอก้มหน้าลงพูดขึ้น
“เหอะๆ ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่แท้จ้าวยีฟานอย่างฉัน ก็เป็นแค่คนโง่! ถูกคนหลอกจนโง่เง่า!”
จ้าวยีฟานพูดด่าด้วยสีหน้าเยือกเย็น
เสมือนกับว่าตัวเองแบกหน้าไปหาคนอื่นเอง สุดท้ายเขาไม่สนใจ เป็นการตบหน้าตัวเองชัดๆ
จ้าวยีฟานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวตลก
มีความรักครั้งแรกกลับเข้าใจผิด คิดว่าจวงเฉียงเป็นคนช่วยหล่อน พอได้คบกัน สุดท้ายกลับทำให้ตัวเองขายหน้า
จากนั้น เมื่อมีความรักครั้งที่สอง เฉินเกอที่คอยช่วยเหลือหล่อนมาโดยตลอด แต่กลับทำให้หล่อนต้องชอกช้ำใจ
พอแล้ว! พอกันที!
ตัวหล่อนเองอยากหาแฟนที่ทั้งรวยและมีเสน่ห์ไม่ใช่เหรอ?
เรื่องง่ายๆแค่นั้น ทำไมพอเป็นเรื่องของตัวเองถึงยากขนาดนี้?
“เพี๊ยะ!”
จ้าวยีฟานโมโหเฉินเกอจนตบไปที่หน้าของเขาอย่างจัง
“ไอ้สารเลว เฉินเกอ นายขาดเงินนักไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นคนที่นายลวงหลอกได้ง่ายๆงั้นเหรอ! คอยดูนะ ต้องมีสักวันที่จ้าวยีฟานอย่างฉัน จะหาแฟนรวยให้ได้ และจะมาต่อยนายให้หน้าบวม!”
ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจ จ้าวยีฟานตบหน้าเขาเสร็จ ใช้สายตาอันเคียดแค้นจ้องไปที่เขา จากนั้นเดินออกไปทันที
เฉินเกอจับคลำใบหน้าที่ถูกหล่อนตบ
ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นใจ
“เห้อ ขอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดหน่อยเถอะ บนโลกนี้ยังมีใครที่รวยกว่าผมอีกเหรอ? อะแฮ่ม!”
แต่เมื่อพูดเรื่องนี้ออกมา ทุกอย่างก็จบ
เฉินเกอรู้สึกสบายใจมาก และไม่ได้ทำร้ายจ้าวยีฟานมากมาย!
งั้นก็ตามนี้นะ!
เฉินเกอนั่งลงที่สวนหย่อม
มองดูแม่น้ำลำธาร ให้จิตใจสงบลง
ทันใดนั้น มือถือของเขาดังขึ้น เมื่อดูเบอร์ที่โชว์ เฉินเกอรู้สึกดีใจขึ้นมา
สายจากซูมู่หาน
ตั้งแต่เมื่อวาน ซูมู่หานได้ตัดขาดกับเฉินเกออย่างสิ้นเชิง คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะโทรมาหาอีก
รีบกดรับสายทันที
“เฉินเกอ รบกวนคุณหน่อยนะคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณสะดวกรึเปล่า? ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ!”
เสียงของซูมู่หานฟังดูแปลกๆ
เฉินเกอฝืนยิ้มพูดขึ้น : “สะดวกสิครับ ผมไม่มีแฟนสักหน่อย!”
“เหอะๆ เมื่อวานสารภาพรักหวานแหววขนาดนั้น นี่นายเฉินเกอ คิดว่าฉันไม่เห็นงั้นเหรอ?”
แน่นอนว่าเฉินเกอเข้าใจดีว่าซูมู่หานหมายความว่ายังไง
เขาจึงพูดชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดให้จ้าวยีฟานได้เข้าใจ
“อื้ม!”
เมื่อซูมู่หานฟังเขาอธิบายจบ หล่อนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“นัดผมมามีธุระอะไรงั้นเหรอ?”
เฉินเกอถาม
“ต้องมีเรื่องอะไรก่อนถึงจะเจอนายได้งั้นเหรอ?”
ซูมู่หานพูดด้วยความโมโหเล็กน้อย
“ไม่ใช่สักหน่อย คุณเป็นคนบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผม! สรุปมีเรื่องอะไรกันแน่?”
“ไม่มีอะไรแล้ว!”
ตู๊ดๆ…
ตัดสายทิ้งไปทันที
เฉินเกอร้อนใจจนจะเป็นบ้า
ร้อนใจจนร้อนรน กระวนกระวาย
ผู้หญิงนี่เข้าใจยากเสียจริง ผู้หญิงที่ฉลาดยิ่งเข้าใจยาก!
จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกหล่อนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่!
เฮ้อ ช่างเถอะ ค่อยไปหาซูมู่หานแล้วกัน…