ตอนที่ 347 ความนัย
ในเวลานี้ท่านหมอเมิ่งต้องการรับความผิดทั้งหมดไว้และปล่อยให้จางซิ่วเอ๋อได้ผ่อนคลายบ้าง
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะคิกคักเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น “ท่านอาเมิ่ง ท่านกำลังพูดอะไร? ข้าจะไม่คิดเรื่องนี้ได้อย่างไรเล่า! คนที่นินทาข้าล้วนแต่อิจฉาที่ข้ามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น พวกนั้นเพียงริษยาและอยากมีชีวิตที่ดีก็เท่านั้น!”
ท่านหมอเมิ่งมองจางซิ่วเอ๋อด้วยความโล่งใจ “ซิ่วเอ๋อ หากเจ้าคิดเช่นนั้นก็ย่อมเป็นเรื่องดีแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้มจาง “คนขี้ขลาดเช่นจางซิ่วเอ๋อคนเก่าไม่มีอีกต่อไปแล้ว สำหรับข้า ข้าจะไม่คิดเรื่องไร้สาระพวกนี้อีกต่อไป แล้วข้าก็จะไม่คิดแสวงหาความตายด้วย ข้าเคยตายแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ข้าตระหนักได้แล้วว่าการมีชีวิตอยู่คือสิ่งสำคัญที่สุด”
จางซิ่วเอ๋อพูดความจริงจากใจ
จางซิ่วเอ๋อคนเดิมตายไปแล้ว ครั้งนี้นางจึงไม่แส่หาความตายอีก
มีหลายพันวิธีบนโลกนี้หากต้องการจะตาย และทางเดียวที่นางจะไม่เลือกก็คือการฆ่าตัวตาย
เมื่อตายไปแล้วครั้งหนึ่ง นางจึงตระหนักได้ว่าการมีชีวิตอยู่คือสิ่งสำคัญที่สุด
ท่านหมอเมิ่งพยักหน้าพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ใช่ การมีชีวิตคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างกระดากใจ “ท่านอาเมิ่ง ท่านเป็นคนดีเกินจนข้ากังวลว่าท่านจะไม่มีความสุข แต่แทนที่จะกล่าวโทษข้า ท่านกลับมาที่นี่เพื่อปลอบโยนข้า ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ข้า… ละอายใจ”
แววตาของท่านหมอเมิ่งเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสงสารเห็นใจ “ข้าจะตำหนิเจ้าได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ความผิดเจ้าเลย อีกทั้งข้าก็เป็นบุรุษ ชื่อเสียงเป็นสิ่งไม่มีประโยชน์และมันกลับทำให้เจ้าต้องเจ็บปวด”
จางซิ่วเอ๋อโบกมือไปมาพร้อมกล่าวตอบ “ไม่มีความขมขื่นหรือเจ็บปวดอะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ คนในหมู่บ้านนี้ล้วนนินทาข้ามากมายมาตั้งนานแล้ว ทุกวันคือการอยู่รอดด้วยตนเอง ดื่มน้ำเปรียบดังมัจฉา ตระหนักทราบถึงความอบอุ่นและหนาวเย็น พวกเขากล่าวคำใด ตัวข้าหาได้สะทกสะท้านไม่!”
“ซิ่วเอ๋อ หาก… วันหนึ่งเจ้ากังวลเรื่องข่าวลือพวกนี้ ข้าสามารถช่วยเจ้าได้” หลังจากที่ท่านหมอเมิ่งกล่าวจบ เขาลุกขึ้นพร้อมหยิบของเดินออกไปทันที
จางซิ่วเอ๋อไม่มีโอกาสที่จะกล่าวคำใดตอบกลับ
จางซิ่วเอ๋อรีบลุกขึ้นเพื่อให้ตามทัน อย่างไรนางก็ควรออกไปส่งท่านหมอเมิ่งไม่ใช่หรือ?
แต่นางก้าวออกไปได้เพียงหนึ่งก้าวและหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
ดูเหมือนนางจะเข้าใจคำพูดคลุมเครือของท่านหมอเมิ่งว่าหมายถึงอะไร นางเหลือบมองแผ่นหลังของท่านหมอเมิ่งด้วยใบหน้าซับซ้อน และในที่สุดนางก็ไม่ได้เดินออกไปส่งเขา
ในเวลานี้จางชุนเถาเดินออกมาจากห้อง นางอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ “พี่หญิง เหตุใดท่านอาเมิ่งจึงกลับเร็วนัก?”
จางซิ่วเอ๋อได้สติกลับมาจึงรีบตอบกลับ “เขามีเรื่องด่วนน่ะ”
“พี่หญิง แล้วท่านอาเมิ่งว่าอย่างไรบ้าง?”
นางเพิ่งเข้าไปเอาของภายในบ้าน เหตุใดท่านหมอเมิ่งจึงรีบจากไปนัก? หากเป็นเมื่อก่อนท่านหมอเมิ่งย่อมอยู่ที่นี่ต่อเพื่อรับประทานมื้อเย็นมิใช่หรือ?
“เจ้าว่าอะไรนะ?” จางซิ่วเอ๋อกล่าวคำอย่างประหม่า แน่นอนว่านางไม่ต้องการบอกกล่าวเรื่องนี้กับผู้อื่น
ไม่ใช่ความผิดปกติของระดูของนาง แต่เป็นเพราะคำพูดที่คลุมเครือครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านหมอเมิ่งจะจากไป
จางชุนเถารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “พี่หญิงใหญ่ เหตุใดท่านจึงดูกังวลนัก? ข้าเพียงอยากถามว่าเขาพูดถึงท่านแม่ของเราหรือไม่? ร่างกายของท่านแม่มีสิ่งใดผิดปกติ?”
จางชุนเถาประหม่าไม่น้อยเมื่อต้องกล่าวคำ
จางซิ่วเอ๋อตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ชุนเถา เจ้าอย่าได้กังวล แม่ของเรายังสบายดี”
จางชุนเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะกล่าวต่อ “ประเสริฐแล้ว”
“ชุนเถา ไปเตรียมอาหารเย็นกันเถอะ” จางซิ่วเอ๋อกล่าว
จางชุนเถายิ้มและตอบกลับ “เจ้าค่ะ! แต่ครั้งนี้ท่านอยากจะชวนพี่หนิงอันและเถี่ยเสวียนหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อมองเข้าไปที่บ้านของหนิงอันและพูดด้วยแววตาทอประกาย “เช่นนั้นไปเรียกพวกเขากัน”
หนิงอันไม่อยู่ ไว้เขากลับมาค่อยว่ากันอีกครั้ง
จางชุนเถาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นคืนนี้กินหมูทอดผัดต้นกระเทียมกัน”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า “ตกลง”
“ข้าพร้อมแล้ว พี่หญิง มาทอดหมูกันเถอะ!” จางชุนเถารู้ว่าทักษะการทำอาหารของนางไม่ดีเท่าจางซิ่วเอ๋อ ดังนั้นนางจึงตระเตรียมสิ่งของเอาไว้และปล่อยให้จางซิ่วเอ๋อเป็นคนทำอาหาร
จางซิ่วเอ๋อย่อมไม่มีความคิดเห็นใด ๆ
จางชุนเถาเดินออกไปแล้ว จางซิ่วเอ๋อมองไปที่ต้นไม้คอเบี้ยวที่มีกิ่งก้านใบเขียวขจี ความเศร้าโศกพลันปรากฏขึ้นในจิตใจ
ท่านหมอเมิ่งไม่ใช่สวี่อวิ๋นซาน
นางสามารถพิสูจน์คำพูดของนางได้ แม้กระทั่งปฏิเสธอวี่อวิ๋นซานอย่างเย็นชาและไร้ปรานี เพราะสวี่อวิ๋นซานหลงรักจางซิ่วเอ๋อคนก่อนหน้านี้
แต่สำหรับนางแล้ว ท่านหมอเมิ่ง…
แม้ความรู้สึกของท่านหมอเมิ่งจะเป็นเพียงความสงสารและกังวล แต่จางซิ่วเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว
อย่างน้อยจางซิ่วเอ๋อก็ไม่สามารถปฏิเสธท่านหมอเมิ่งในแบบเดียวกับที่ปฏิเสธสวี่อวิ๋นซานได้แน่นอน
นอกจากนั้น คำพูดของท่านหมอเมิ่งก็ไม่ได้ชัดเจนแม้แต่น้อย แล้วนางจะเอาสิ่งใดไปปฏิเสธ?
มันจะไม่น่าอายหรอกหรือหากมันเป็นเพียงความรักที่นางคิดไปเอง?
ท่านหมอเมิ่งดูแลนางอย่างดีมาตลอด และเป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำร้ายท่านหมอเมิ่งได้อย่างลงคอ
สุดท้ายแล้วจางซิ่วเอ๋อเพียงถอนหายใจเบา ๆ ท่านหมอเมิ่งเป็นคนดีก็จริง แต่นางก็ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับเขา
ไม่ใช่ว่านางรู้สึกว่าท่านหมอเมิ่งไม่คู่ควรกับตน แต่นางรู้สึกว่าคำพูดของท่านหมอเมิ่งที่กล่าวออกนั้นค่อนข้างไม่เต็มใจ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเป็นคนดีและรู้สึกว่าตนเองควรรับผิดชอบ
แต่ความจริงแล้ว ท่านหมอเมิ่งไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อข่าวลือเหล่านี้เลย
จางซิ่วเอ๋อลูบหน้าผากตนเองไปมา สีหน้าดูเป็นทุกข์ยิ่ง
“แม่นางซิ่วเอ๋อ! เจ้ากลับมาแล้ว!” เวลานี้เถี่ยเสวียนเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเขาเห็นจางซิ่วเอ๋อยืนอยู่ก็เผยท่าทีตื่นเต้น
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกตัวพร้อมหันมาพยักหน้าให้เถี่ยเสวียน
เนี่ยหย่วนเฉียวเดินตามเถี่ยเสวียนเข้ามา
ทันทีที่เขาเข้ามา ดวงตาของเขาจับจ้องใบหน้าของจางซิ่วเอ๋อแล้วจึงถามออกอย่างใจเย็น “เจ้าไม่สบายใจอะไรหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อยกมือลูบใบหน้าพร้อมคิดกับตนเอง นี่นางเผยสีหน้าชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?
“ไม่มีอะไร” จางซิ่วเอ๋อปฏิเสธทันที นางรู้สึกกังวลก็จริง แต่มันก็แค่เรื่องหยุมหยิมเล็กน้อย
นางยังคงหวังว่าคงจะกลับมาสดใสได้ในเร็ววัน อย่างไรแล้วนางก็เป็นเพียงคนธรรมดา และยังมีหลายสิ่งที่นางไม่สามารถตัดสินใจอย่างรวดเร็วได้
“ข้า… เห็นว่าท่านหมอเมิ่งเพิ่งออกไป” เนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวอีกครั้ง
“แล้ว?” จางซิ่วเอ๋อมองเนี่ยหย่วนเฉียวแปลก ๆ การที่นางกับท่านหมอเมิ่งพบเจอกัน มันเกี่ยวข้องกับตัวเขาด้วยงั้นหรือ?
เนี่ยหย่วนเฉียวมองท่าทางของจางซิ่วเอ๋อ เมื่อเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ได้ผิดปกติอะไร เขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขากังวลเล็กน้อยว่าท่านหมอเมิ่งจะรังแกจางซิ่วเอ๋อ
ความจริงเขารู้อยู่แล้วว่าท่านหมอเมิ่งเป็นคนดีและไม่มีวันทำเช่นนั้น แต่… ทันทีที่เขาเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อไม่สดใสเช่นเดิม เขาก็อดคาดเดาไม่ได้ว่าเป็นผู้ใดที่รังแกจางซิ่วเอ๋อ
และในตอนนี้เขาได้พบเจอกับท่านหมอเมิ่ง ดังนั้นเขาจึงถามออกไป
เนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวต่อ “ไม่มีอะไรแล้ว”
ทั้งสองพูดคุยกันจบเพียงเท่านี้
………………………………………………………………………………….………………….……
สารจากผู้แปล
ยังไงดีนะ จะลงเรือท่านหมอหรือเรือคุณชายเนี่ยดี
ไหหม่า(海馬)