ตอนที่ 336 ยืมลา
คำว่า ‘ลา’ กลายเป็นจุดตายของจางอวี่หมิน
ในตอนนี้นางแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ฉีกปากของจางซิ่วเอ๋อออกเป็นชิ้น ๆ
ขณะนี้เองแม่เฒ่าจางก็กวาดสายตามองจางซิ่วเอ๋อแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้ามีลา ก็เอามันมาให้ข้าในวันพรุ่งนี้”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงหยิ่งผยองของแม่เฒ่าจาง จางซิ่วเอ๋อถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ “เอามันมาที่นี่เพื่ออะไรเจ้าคะ?”
น้ำเสียงของแม่เฒ่าจางเผยถึงความมีเหตุผล “ถึงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวสาลีที่บ้านแล้ว เราจึงต้องการสัตว์ไว้ใช้งาน”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่เฒ่าจางพร้อมยกยิ้ม “ท่านย่า อย่าลืมสิเจ้าคะว่าข้าเป็นคนซื้อลาตัวนี้มา”
“ข้ารู้ว่าเจ้าซื้อมันมา แล้วอย่างไร? ไม่สามารถนำมันมาใช้ที่บ้านได้หรือ?” แม่เฒ่าจางถามกลับ
จางซิ่วเอ๋อกล่าวถ้อยคำเด็ดขาด “ย่อมไม่ได้ ข้าต้องการใช้ลาตัวนี้ หากท่านต้องการใช้งานสัตว์เลี้ยงจริง ๆ ท่านสามารถหยิบยืมบ้านอื่นได้”
ดวงตาของแม่เฒ่าจางเบิกกว้าง “เจ้าหมายความว่าไม่ต้องการให้ข้าใช้มันงั้นหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวออกอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ข้าไม่สามารถให้ท่านยืมลาได้เจ้าค่ะ”
จางอวี่หมินถึงกับกรีดร้องเสียงแหลม “จางซิ่วเอ๋อ เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เราเพียงต้องการยืมลาของเจ้า เจ้ากลับทำเช่นนี้น่ะหรือ?”
“ลาเป็นของข้า ข้าสามารถให้ใครใช้งานมันก็ได้ตราบเท่าที่ข้ายินยอม แล้วอีกอย่างข้าก็สามารถใช้งานมันได้ตามต้องการ ข้าพูดอะไรผิดงั้นหรือ?” จางซิ่วเอ๋อถามกลับ
จางอวี่หมินชี้นิ้วไปที่จางซิ่วเอ๋อด้วยความโกรธเคือง “จางซิ่วเอ๋อ เจ้าจงอย่าลืมว่าพวกข้าทุกคนคือผู้อาวุโสของเจ้า และพ่อของเจ้าก็เป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในไร่นา หากเจ้าไม่ให้ยืมลา ก็นับว่าเจ้าเป็นลูกอกตัญญู!”
เมื่อเห็นว่าจางอวี่หมินกำลังสวมหมวกลูกอกตัญญูให้ จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกจนใจ
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้าเป็นคนกตัญญูจริง เหตุใดจึงไม่ซื้อลาให้ครอบครัวล่ะ?”
“ฮึ่ม! แน่นอนว่าในอนาคตข้าจะทำหน้าที่ลูกกตัญญูแน่นอน! ตอนนี้เจ้าไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้ ข้าจะบอกกล่าวเรื่องนี้กับพ่อของเจ้าว่าเขามีบุตรสาวอกตัญญู!” จางอวี่หมินรู้สึกว่าตนเองมีสิทธิมีเสียงสั่งการภายในครอบครัวสูงที่สุด
แต่จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ใช่คนที่ยินยอมให้ใครมารังแกโดยง่าย แม้จางต้าหูจะมาขอยืมลาด้วยตนเอง จางซิ่วเอ๋อก็ไม่คิดยินยอมเช่นกัน
ตอนนี้นางไม่คิดที่จะเปลี่ยนความคิดเพียงเพราะคำพูดของจางอวี่หมิน
ความจริงแล้ว หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อได้ยินคำพูดของจางอวี่หมิน ในใจนางก็ยิ่งขุ่นเคือง และคิดหาทางเอาคืนในทันที
“อาเล็ก ข้าแต่งงานแล้ว แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่อาจสั่งสอนข้าได้ อีกทั้งเจ้ายังเป็นเพียงอาเล็กของข้าเท่านั้น! เจ้าจะมานั่งสั่งสอนข้าเพื่อสิ่งใด? หากมีเวลามาสอนข้า เจ้าควรจะเอาเวลานี้ไปหาทางซื้อลาให้ครอบครัวจะดีกว่า” จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นังตัวขาดทุน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมายอกย้อนข้า?” จางอวี่หมินกัดฟันตอบโต้
“โอ้ อาเล็ก เจ้ากล่าวหาว่าข้าเป็นนังตัวขาดทุน แต่อย่าลืมว่าตัวขาดทุนอย่างข้าสามารถซื้อลาได้ แต่เจ้ากลับไม่ได้ครอบครองแม้แต่ขนลา ข้าคิดว่าเจ้าน่ะเป็นตัวขาดทุนเสียยิ่งกว่าข้าอีก” จางซิ่วเอ๋อตอบโต้
“ซิ่วเอ๋อ นี่เจ้ากำลังทะเลาะอะไรกับอาเล็กของเจ้า? ครอบครัวเพียงแค่ขอยืมลา ทำไมเจ้าจึงดูเหมือนจะเป็นจะตายนัก?” จางต้าเหอออกมาจากห้องฝั่งตะวันออกเพื่อช่วยจางอวี่หมินเถียง
จางซิ่วเอ๋อมองจางต้าเหอพร้อมถอนหายใจอย่างเย็นชา
ในสายตาของจางซิ่วเอ๋อ ทั้งจางต้าเหอและจางอวี่หมินต่างก็น่ารำคาญทั้งคู่
ไม่เพียงแต่น่ารำคาญธรรมดา แต่ยังยากจะจัดการอีกด้วย
แม้จางอวี่หมินจะส่งเสียงดัง แต่สิ่งหนึ่งที่จางอวี่หมินไม่เก่งกาจก็คือเรื่องการเก็บซ่อนอารมณ์ ดังนั้นแม้นางจะสามารถคิดการสิ่งใดมากมายในหัว แต่นางก็ไม่อาจวางตัวให้ดีได้ ซึ่งสังเกตได้จากท่าทางและคำพูดของนาง
แต่สำหรับต้าเหอล่ะ? เขาคนนี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ในใจคิดอีกอย่าง ต่อหน้าพูดอีกอย่าง
ภายนอกดูคล้ายสุภาพบุรุษ ไม่มีพิษภัย แต่แท้จริงแล้วจิตใจของเขาชั่วช้ายิ่งกว่าใคร
“จางซิ่วเอ๋อ หากเจ้าไม่ให้เรายืมลา ก็หมายความว่าเจ้าเป็นคนอกตัญญู!” แม่เฒ่าจางกล่าวเสริม
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองไปรอบ ๆ ผ่านมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่นางมองบรรดาคนก้าวร้าวเหล่านี้ นางรู้ดีว่าพวกเขากำลังใช้คำว่า ‘ลูกกตัญญู’ เพื่อบังคับให้นางยอมจำนน
นางทำได้เพียงสบถอยู่ในใจอย่างเย็นชา
หากจางต้าหูบอกกล่าวว่าต้องการยืมลา นางก็ต้องให้ยืม
แต่นางมิใช่คนโง่เขลาและกตัญญูอีกต่อไป นางไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องกตัญญูต่อคนเหล่านี้
แม้แต่จางซิ่วเอ๋อคนเดิมก็ยังเกลียดชังคนเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งยังไม่มีความรู้สึกรักใคร่ใด ๆ แล้วเหตุใดนางจึงต้องกตัญญูต่อพวกเขาด้วย?
หากคนเหล่านี้เรียกนางว่าคนนอกคอก นางก็ไม่คิดเกรงกลัวสิ่งใดทั้งนั้น!
ตอนนี้ชื่อเสียงของนางย่ำแย่ยิ่ง และนางก็ไม่กังวลว่ามันจะแย่ไปมากกว่านี้ อีกทั้งนางก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ กล่าวคือหากมันไม่เป็นอันตรายกับนาง จางซิ่วเอ๋อก็ไม่คิดเกรงกลัว
“ข้าจะพูดอย่างชัดเจนเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าพวกท่านจะกล่าวอะไรในวันนี้ ข้าก็จะไม่ให้ยืมลาเด็ดขาด” จางซิ่วเอ๋อสูดลมหายใจลึกพร้อมกล่าวเย็นชาก่อนจะเดินไปที่ห้องทางทิศตะวันตก
แม่เฒ่าจางไม่คาดคิดมาก่อนว่าจางซิ่วเอ๋อจะหนักแน่นถึงเพียงนี้ นางจึงยิ่งโกรธมากขึ้น
“ท่านแม่ อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ ท่านฟังข้าเถิด เดี๋ยวเราก็แค่ไปบอกพี่สี่ก่อน หากพ่อของนางเป็นคนกล่าวคำ นางจะไม่ให้ยืมเลยหรือ?” จางอวี่หมินเผยความคิดชั่วร้ายออกมา
เมื่อนางนึกถึงจางต้าหู สีหน้าของนางพลันอ่อนลงเล็กน้อย
หากนางเดินไปบอกจางต้าหู นางก็เชื่อมั่นว่าจางต้าหูจะไปยืมลาให้อย่างแน่นอน…
เมื่อจางซิ่วเอ๋อเข้ามาในห้อง นางก็ผ่อนคลายโทสะลง นางไม่ต้องการให้แม่โจวเห็นความโกรธของตน ซึ่งมันจะทำให้แม่โจวเป็นกังวลได้ง่าย
อันที่จริงจางซิ่วเอ๋อไม่ได้รังเกียจการหยิบยืมสัตว์เลี้ยงเท่าใดนัก
แต่นี่มันสัตว์เลี้ยงของนางมิใช่หรือ? นางไปหยิบยืมสัตว์เลี้ยงจากบ้านอื่นหรือไร?
ไม่มีใครสามารถให้คนตระกูลจางยืมสิ่งนี้ได้ จางซิ่วเอ๋อรู้ดีว่าคนตระกูลจางกำลังคิดสิ่งใดอยู่
ทั้งหมดเป็นความชั่วร้าย ขณะนี้พวกเขาไม่สามารถหยิบฉวยเอาลาของนางไปได้ สุดท้ายพวกเขาก็จะหาวิธีทำร้ายลาของนางจนได้
จางซิ่วเอ๋อหวงแหนลาตัวนี้ยิ่ง แล้วนางจะให้พวกเขาหยิบยืมได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงใบหน้าของคนตระกูลจาง แม้คนตระกูลจางจะใช้ประโยชน์จากลาตัวนี้จริง ๆ แต่จางซิ่วเอ๋อก็ไม่มีวันให้ยืม!
จิตใจมนุษย์มีตราชั่งอยู่ นางรู้ว่าใครดีกับตนและใครชั่วร้ายกับตน
ผู้ที่ปฏิบัติต่อนางอย่างดี นางก็จะตอบแทนพวกเขาอย่างสุดกำลัง
แต่หากผู้ใดทำไม่ดีกับนาง นางก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายตนเอง มีแต่จะต้องต่อสู้เท่านั้น!
เมื่อเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อเดินเข้ามา แม่โจวถามคำอย่างกังวล “พวกเขารบกวนเจ้าอีกแล้วหรือ?”
แม่โจวอยู่ในบ้าน แน่นอนว่านางย่อมได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทด้านนอกอย่างชัดเจน
จางซิ่วเอ๋อยิ้มพร้อมกล่าวตอบ “ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ แม้พวกเขาต้องการสร้างปัญหาให้กับข้า แต่ข้าก็ไม่ใช่อันธพาล”
แม่โจวมองจางซิ่วเอ๋อพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วน “ซิ่วเอ๋อ ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าเป็นมารดาเจ้าแท้ ๆ แต่กลับช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย เจ้ามาที่นี่ทุกวันเพราะข้า แต่ต้องถูกดุด่าไม่หยุดไม่หย่อน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มีปัญญาหาสามีรวยก็ไปซื้อเองสิอวี่หมิน เก็บตัวอยู่อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้ซื้อลา
แปลไปก็เริ่มเหนื่อยใจแทนซิ่วเอ๋อเหมือนกันนะคะเนี่ย /สูดยาดม/
ไหหม่า(海馬)