ตอนที่ 335 ข้ามีลา
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้หันหน้าหนีเพราะรุ่ยเซียง นางมิใช่คนตระหนี่ถี่เหนียวก็จริง แต่มันเหมาะสมแล้วหรือที่รุ่ยเซียงถามเช่นนี้? ทว่านางจะไม่ยอมหันหน้าหนีอย่างเด็ดขาด
จางซิ่วเอ๋ออธิบายอย่างอดทน “ท่านหมอเมิ่งไม่เคยให้เงินกับข้า”
สิ่งที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวนั้นเป็นความจริง แม้ท่านหมอเมิ่งจะดูแลนางอย่างดี แต่นางก็ไม่เคยใช้เงินจากท่านหมอเมิ่งเลยสักครั้ง
“หืม อย่างนั้นเงินทั้งหมดนี้เพราะเจ้ายืมท่านหมอเมิ่งงั้นหรือ? ไม่อย่างนั้นจะไปเอาเงินมาจากที่ใดมากมายเช่นนี้?” รุ่ยเซียงถามอย่างไม่เชื่อถือ
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วมุ่น “ข้าก็ย่อมมีวิธีหาเงินด้วยตนเอง”
“แล้วเจ้าหาเงินอย่างไร?” รุ่ยเซียงยังคงไม่ยอมแพ้
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่านางหงุดหงิดแล้วจริง ๆ ในเวลานี้
เดิมทีนางไม่ได้รู้สึกแย่กับรุ่ยเซียง แต่คราวนี้เมื่อถูกจี้ถาม ทำให้นางไม่สบายใจจริง ๆ ทำไมรุ่ยเซียงจึงเอาแต่เซ้าซี้ว่านางหาเงินมาจากไหน?
คนที่ไม่รู้จักหาเงิน แต่กลับมายืนพูดว่าเงินที่นางได้มานั้นได้รับมาจากความอัปยศงั้นหรือ?
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่านางไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนว่าตนหาเงินอย่างไร
“ข้าก็มีวิธีของข้า แต่ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับท่านหมอเมิ่ง รุ่ยเซียง หากเจ้าคิดว่าข้าเป็นสหาย อย่าได้กล่าววาจาตามที่ชาวบ้านคาดเดาเช่นนี้” จางซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างหมดความอดทน
เป็นเพราะนี่คือรุ่ยเซียงถาม หากเป็นแม่เฒ่าจาง นางอาจจะเย้ยหยันกลับไปบ้างสักหน่อย
รุ่ยเซียงดูคล้ายไม่พอใจนัก
นางกล่าวด้วยความไม่พอใจ “หากเจ้าไม่ต้องการบอกก็ไม่ต้องบอก ข้าเองก็ไม่อยากจะรู้!”
หลังกล่าวจบ ใบหน้ารุ่ยเซียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
จางซิ่วเอ๋อถึงกับพูดไม่ออกชั่วขณะ นางดูไม่สนใจรุ่ยเซียงหรือ? นางมิใช่หรือที่สมควรโกรธ? แล้วเหตุใดรุ่ยเซียงจึงไม่พอใจ?
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนควรจะผ่อนคลาย ดังนั้นนางจึงกล่าวคำอีกครั้ง “รุ่ยเซียง ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังรักษาผลประโยชน์ของข้า แต่เรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดและข้าก็ไม่สามารถอธิบายให้เจ้าฟังได้ กับท่านหมอเมิ่งนั้นเราบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ดังนั้นอย่ากล่าวถึงเรื่องระหว่างข้ากับท่านหมอเมิ่งอีก”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวออกเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
รุ่ยเซียงเหลือบมองจางซิ่วเอ๋อ “เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว! แต่ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ข้าพูดขึ้นมาเอง อย่าได้กล่าวโทษข้า หากเจ้าต้องการให้ทุกอย่างชัดเจน เจ้าต้องไปหาแม่ม่ายหลิวและแม่หลิน!”
หลังพูดจบ รุ่ยเซียงไม่รอให้จางซิ่วเอ๋อตอบพร้อมพูดต่อ “วันนี้ข้าถามมากไปหน่อย อย่าได้คิดถือสา ข้ามีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อน”
กล่าวจบรุ่ยเซียงก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
แม้จะบอกว่าทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกัน อีกฝ่ายทำท่าราวกับไม่โกรธเลย
แต่จางซิ่วเอ๋อไม่ได้โง่ นางเห็นชัดเจนว่ารุ่ยเซียงกำลังโกรธ
นางค่อย ๆ หยิบตะกร้าไม้ไผ่ขึ้นมา จากนั้นเดินหันหลังกลับเพื่อไปยังบ้านตระกูลจาง
จางซิ่วเอ๋อไม่ต้องการรุกรานผู้ใด แต่นางรู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องทำให้ตนเองเป็นทุกข์เพียงเพื่อให้คนอื่นมีความสุข
หากรุ่ยเซียงคิดเหินห่างนางไปเพราะเหตุผลนี้ จางซิ่วเอ๋อก็เพียงรู้สึกว่าทั้งสองมีทัศนคติไม่ตรงกัน
เมื่อจางซิ่วเอ๋อมาถึงบ้านตระกูลจาง
แม่เถากำลังจัดของอยู่ในลานบ้าน เมื่อเห็นจางซิ่วเอ๋อเดินเข้ามา สายตาของนางที่จับจ้องจางซิ่วเอ๋อก็เผยซึ่งความเหยียดหยาม
จางซิ่วเอ๋อเพิกเฉยต่อแม่เถา อยากมองก็มองไป ของดีไม่มีทางสึกหรอหรอก
“จางซิ่วเอ๋อ” ขณะนั้นแม่เฒ่าจางเดินออกมาจากบ้านพร้อมร้องเรียกจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อยืนขึ้นพร้อมเหลือบมองแม่เฒ่าจาง
จนถึงตอนนี้แม่เฒ่าจางดูใจเย็นไม่น้อย นางไม่ร้องขออาหารเลย แล้วนางคิดจะทำสิ่งใด?
จางอวี่หมินเดินตามแม่เฒ่าจางออกมา ทันทีที่นางเห็นจางซิ่วเอ๋อ ใบหน้าของจางอวี่หมินพลันบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด เป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อเปลี่ยนชุดใหม่!
ใช่แล้ว วันนี้จางซิ่วเอ๋อสวมชุดกระโปรงสีกลีบบัวปักลายดอกไห่ถัง
จางซิ่วเอ๋อซื้อมันมานานแล้ว เพียงแต่ไม่เคยได้สวมใส่เท่านั้น
อันที่จริงเสื้อผ้าของจางซิ่วเอ๋อนั้นมีไม่มากนัก นี่เป็นเพียงเสื้อผ้าสำรองสำหรับนาง เพราะเสื้อผ้าของจางซิ่วเอ๋ออยู่ที่ซ่องนางโลมลับเมื่อหลายวันก่อน
ในเวลานี้ จางซิ่วเอ๋อจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบชุดนี้ออกมาสวมใส่
สำหรับจางซิ่วเอ๋อ มันก็เป็นเพียงการสวมเสื้อผ้าปกติ
แต่ในสายตาของจางอวี่หมิน นางอดไม่ได้ที่จะขุ่นเคืองใจ
จางอวี่หมินมองจางซิ่วเอ๋ออย่างโกรธเคืองพร้อมถามด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง “ข้าได้ยินว่าเจ้าซื้อลา?”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินคำถามของจางอวี่หมิน นางรับรู้ได้ถึงความริษยาที่อยู่ภายใน
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองพร้อมกล่าวออกอย่างเน้นคำ “ใช่! ข้าซื้อมาแล้ว!”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อกล่าวเช่นนี้ ใบหน้านางเปื้อนรอยยิ้มอย่างมีความสุข และนางก็จงใจเผยความสมเพชให้อีกฝ่ายเห็นอย่างชัดเจน
ใช่แล้ว นางจงใจยั่วให้จางอวี่หมินโกรธ
ยิ่งจางอวี่หมินไม่ชอบที่นางซื้อลามากเท่าใด นางยิ่งรู้สึกภูมิใจมากเท่านั้น! ให้จางอวี่หมินมีโทสะยิ่งขึ้น!
จางอวี่หมินมิใช่คนเก็บอารมณ์ได้ เมื่อเห็นท่าทางเหยียดหยามของจางซิ่วเอ๋อ นางถึงกับโกรธจัดในทันที “ก็แค่ซื้อลามิใช่หรือ? น่าตื่นเต้นตรงไหน!”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมอง “ก็ไม่พิเศษอะไร เจ้าก็ซื้อได้หากมีความสามารถ!”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อกล่าวคำสุดท้ายออกมา น้ำเสียงของนางเข้มขึ้นเล็กน้อย มันยิ่งทำให้นางดูเย่อหยิ่งมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของคนตระกูลจาง นางยิ่งรู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ!
“ข้าไม่สามารถอ้าขาทำเงินได้เช่นเจ้าหรอก!” จางอวี่หมินกล่าวกระแทกกระทั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อก็รู้ทันทีว่าตระกูลจางก็ได้ยินสิ่งที่แม่ม่ายหลิวและแม่หลินป่าวประกาศเช่นกัน
สำหรับแม่ม่ายหลิวและแม่หลิน จางซิ่วเอ๋อก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะไม่ยอมปล่อยให้นางได้อยู่อย่างสงบ
จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินพร้อมกล่าวตอบ “อาเล็กเป็นสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงาน หากใครได้ยินเจ้ากล่าวคำน่ารังเกียจเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตเจ้าจะไม่สามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ดีได้นะเจ้าคะ คงต้องแก่ตายคาบ้านนี้แน่!”
“จางซิ่วเอ๋อ นังแม่ม่ายตัวน้อย ข้าคิดว่าเจ้าก็คงจะเป็นม่ายไปตลอดชีวิต ไม่มีผู้ใดต้องการเจ้า! แม้แต่ท่านหมอเมิ่งก็ไม่มีวันแต่งงานกับเจ้าหรอก!” จางอวี่หมินกล่าวเกรี้ยวกราด
จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินพร้อมกล่าวตอบ “แม้อาเล็กจะอิจฉาที่ข้าซื้อลา แต่เจ้าไม่อาจใส่ร้ายข้าเช่นนี้ได้!”
“ลาที่เจ้าได้มาจากการรับใช้บุรุษงั้นหรือ! ข้าไม่สนใจมันหรอก!” จางอวี่หมินตอบโต้
จางซิ่วเอ๋อเอ่ย “เจ้าเพียงอิจฉาที่ข้ามีลา”
“ก็แค่มีลา จะดีเลิศเลออะไรกัน อย่างไรก็เป็นนังตัวขาดทุนวันยังค่ำ!” จางอวี่หมินกัดฟันตอบ
“ข้ามีลา! เจ้าเลยอิจฉา!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวประโยคนี้ซ้ำอีกครั้ง
ไม่ว่าจางอวี่หมินจะกล่าวอะไรในตอนนี้ จางซิ่วเอ๋อจะตอบกลับว่า “ข้ามีลา! แต่เจ้าไม่มี!”
สุดท้ายดวงตาของจางอวี่หมินกลายเป็นสีแดงจัดเพราะความโกรธ
ส่วนใบหน้าของจางซิ่วเอ๋อกลับยกยิ้มอย่างภูมิใจ
ท้ายที่สุดจางอวี่หมินเพียงรู้สึกอิจฉาที่นางมีลา และนางก็เข้าใจว่าเหตุใดจางอวี่หมินจึงคิดดุด่าตนในยามนี้ ทั้งหมดก็เพื่อตอกย้ำความจริงในเรื่องนี้
จางอวี่หมินยิ่งโกรธจัดทุกครั้งที่ได้ฟังถ้อยคำ!
ไม่ เป็นจางซิ่วเอ๋อต่างหากที่โกรธ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรือผีล่มไปแล้วหนึ่ง แง
ไงล่ะอวี่หมิน โดนตอกย้ำความจริงมันเจ็บปวดใช่ไหมล่ะ
ไหหม่า(海馬)