ตอนที่ 323 รู้แจ้ง
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้ารับพร้อมกล่าวตอบ “อืม ข้าอาศัยอยู่ที่นั่นจริง”
ใบหน้าของรุ่ยเซียงพลันซีดเผือด นางร้องอุทาน “แล้ว… บ้านของเจ้ามีผีสิงจริงหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อเม้มปากก่อนยกยิ้ม “ข้าได้ยินว่ามีผู้คนเห็นผี แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นมันด้วยตัวเองเลย”
จางซิ่วเอ๋อพยายามกล่าวคำออกมาอย่างคลุมเครือให้มากที่สุด นางคิดว่ารุ่ยเซียงคล้ายกับจะเป็นคนดีอยู่บ้าง อย่างไรเสียรุ่ยเซียงก็เป็นสหายของจางซิ่วเอ๋อคนเก่า แต่เนื่องจากรุ่ยเซียงไม่ใช่สหายของนาง นางจึงไม่ค่อยรู้เรื่องของรุ่ยเซียงมากนัก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่าจางซิ่วเอ๋อไม่มีทางบอกความจริงกับรุ่ยเซียง
จางซิ่วเอ๋อเชื่อเสมอว่าใจไม่อาจทำร้ายผู้อื่น และใจก็ไม่อาจป้องกันผู้อื่นที่คิดร้ายได้เช่นกัน
“เจ้าไม่เห็นมันด้วยตนเองงั้นหรือ?” รุ่ยเซียงถามออกอย่างอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “ใคร ๆ ก็ต่างพูดว่าชีวิตข้านั้นลำบากนัก เจ้าไม่เห็นหรือว่าสามีของข้าต้องสิ้นชีพเพราะข้า? อาจเป็นเพราะชีวิตของข้าลำบากยากเข็ญเกินไปกระมัง พวกภูตผีจึงไม่กล้าเข้าใกล้”
“ส่วนผู้อื่นนั้น พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเช่นข้าเท่านั้นเอง” จางซิ่วเอ๋อหยุดไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวเสริม
รุ่ยเซียงพยักหน้าพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นใจ “อืม ชีวิตเจ้าช่างยากลำบากจริง ๆ”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร เรื่องมันจบไปแล้ว หลังจากที่เจ้ากลับมาคราวนี้ เจ้ามีแผนจะทำอะไรต่อหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที นางเริ่มถามเกี่ยวกับเรื่องของรุ่ยเซียงบ้าง
รุ่ยเซียงลังเลก่อนจะตอบกลับ “หลังจากที่ข้ากลับมา พวกเขารู้จากคนของสำนักปกครองแล้วว่าข้ามาจากซ่องนางโลม ท่านแม่โกรธข้ามาก หากข้าไม่ขยัน นางคงไล่ข้าออกจากบ้านแน่นอน”
จางซิ่วเอ๋อประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ อีกฝ่ายเป็นแม่ของรุ่ยเซียง นางจะปฏิบัติกับรุ่ยเซียงเช่นนี้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นับว่าเป็นความวุ่นวายในบ้านของคนอื่น จางซิ่วเอ๋อจึงไม่อาจแทรกแซงได้ นางจึงพูดเพียงว่า “แล้ว… เจ้าจะทำอะไรหรือ?”
“ข้าบอกท่านแม่ไปว่าจะรีบแต่งงานออกไปให้เร็วที่สุด หลังจากแต่งงานแล้ว ข้าก็จะไม่รบกวนที่บ้านอีก” รุ่ยเซียงกล่าวเสียงเบา
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้ารับพร้อมกล่าวปลอบ “ก็นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อย”
“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าจะแต่งงานอีกครั้งเมื่อใดหรือ?” รุ่ยเซียงมองจางซิ่วเอ๋อพร้อมเอ่ยถาม
จางซิ่วเอ๋อยกยิ้มพร้อมตอบกลับ “ข้ายังไม่อยากแต่งงาน อีกทั้งตอนนี้ข้ายังเป็นม่ายด้วย ใครกันเล่าจะสนใจมาแต่งงานกับข้า?”
“แล้วหากว่ามีคนเต็มใจล่ะ?” รุ่ยเซียงถามทันควัน
จางซิ่วเอ๋อส่ายศีรษะพร้อมตอบกลับ “แม้มีคนต้องการข้า ข้าก็จะไม่แต่งงานหรอก ชีวิตข้ามันยากลำบากพอแรงแล้ว ข้าไม่อยากทำร้ายผู้อื่น”
จางซิ่วเอ๋อตระหนักได้ถึงสัจธรรม ไม่ว่าจะได้แต่งงานหรือไม่ นางก็จะไม่รีบร้อน ปล่อยให้โชคชะตานำพาตัวนางไปก็พอ
“รุ่ยเซียง หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะ” จางซิ่วเอ๋อกล่าวขึ้นทันทีที่นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องให้ทำมากมายอยู่ที่บ้าน
รุ่ยเซียงมองจางซิ่วเอ๋อพร้อมเผยแววตาอาลัยอาวรณ์ “เจ้าจะไปแล้วหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวพร้อมยิ้มจาง “เราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ย่อมมีโอกาสอีกมากที่จะได้พบกันในภายหลัง”
“ซิ่วเอ๋อ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องมาหาข้าบ่อย ๆ นะ!” รุ่ยเซียงมองจางซิ่วเอ๋ออย่างคาดหวัง
เมื่อตระหนักดูแล้ว นางก็ไม่มีสหายรุ่นเดียวกันเลย ทั้งยังเป็นเรื่องยากที่รุ่ยเซียงเต็มใจจะเข้าใกล้นางเช่นนี้ แน่นอนว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ปฏิเสธ นางกล่าวตอบรับด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน หากมีโอกาสข้าจะมาพบเจ้า!”
“ซิ่วเอ๋อเจ้าเดินดี ๆ ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวล้ม” รุ่ยเซียงกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง
จางซิ่วเอ๋อกล่าวตอบขณะเดินออกไป “ข้ารู้แล้ว! เจ้าเองก็รีบกลับไปได้แล้วนะ!”
จางซิ่วเอ๋อเดินกลับไปที่ป่าผีสิงด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินเข้ามาในป่าผีสิง รอยยิ้มนั้นก็ยังคงประดับบนใบหน้า แต่สุดท้ายแล้วมันก็จางหายไปอย่างรวดเร็วในขณะที่นางเดินเข้ามาในบ้านผีสิง
ขณะนี้เนี่ยหย่วนเฉียวและเถี่ยเสวียนกำลังยืนอยู่กลางลานบ้าน
ทันทีที่จางซิ่วเอ๋อกลับมา ดวงตาของทั้งสองก็จับจ้องที่จางซิ่วเอ๋อในทันที
จางซิ่วเอ๋อจ้องมองคนทั้งสองเช่นกัน
เถี่ยเสวียนก้าวถอยหลังไปอย่างระมัดระวังพร้อมกับละสายตาจากจางซิ่วเอ๋อ เขารีบรุดเดินเข้าห้องไปทันที
จางชุนเถากินอาหารเช้าเสร็จสิ้นแล้วและนางเดินทางไปยังภูเขาเพื่อขุดผักป่า นางวางแผนว่าจะทำผักกาดดองเพื่อไว้ใช้รับประทานในฤดูหนาวด้วย
ดวงตาของจางซิ่วเอ๋อและเนี่ยหย่วนเฉียวสบกัน
ในที่สุดเป็นจางซิ่วเอ๋อที่ยอมพ่ายแพ้เสียก่อน นางกะพริบตาถี่พร้อมกล่าวถาม “หนิงอัน เจ้า…เป็นคนจัดการกับซ่องนางโลมแห่งนั้นใช่หรือไม่?”
หลังจากที่หนิงอันมาส่งนางเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็จากไป จางซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกว่าหนิงอันเป็นคนทำเรื่องนี้
เนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวอย่างสงบ “ไม่ใช่ข้า”
เขามีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ หากเขายอมรับ จางซิ่วเอ๋อย่อมคิดว่าเขาเป็นพวกที่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และจางซิ่วเอ๋อคงไม่ยินยอมที่จะให้เขาดูแลนาง
จางซิ่วเอ๋ออดคิดไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดกับตระกูลเถา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นเนี่ยหย่วนเฉียวที่เป็นคนจัดการ แต่เนี่ยหย่วนเฉียวกลับปฏิเสธอย่างจริงจัง
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองเนี่ยหย่วนเฉียว “ข้าคิดว่าเจ้าโกหกไม่เก่งนัก”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกได้ว่าต้องเป็นเนี่ยหย่วนเฉียวที่ลงมือทำเรื่องนี้
เมื่อเถี่ยเสวียนได้ยินสิ่งนี้จากในห้อง เขาก็รู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อย จางซิ่วเอ๋อกล่าววาจากับเจ้านายของเขาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? สิ่งที่เจ้านายพูดเมื่อครู่นี้มันไม่ใช่การย้ำแล้วย้ำอีกว่าเขาไม่ได้ทำไม่ใช่หรือ?
ตั้งแต่ได้พบกับจางซิ่วเอ๋อ นายท่านก็เปลี่ยนไปมาก! เห็นได้ชัดว่าเขาทำความดี แต่กลับไม่ยอมรับ! ราวกับว่าไปทำเรื่องชั่วช้ามา!
เนี่ยหย่วนเฉียวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำนั้น
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะออกมาทันที “อย่าโมโหข้าเลย ข้าก็เพียงหยอกล้อเจ้าเท่านั้น!”
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อด้วยความสับสน
เขาเห็นจางซิ่วเอ๋อกัดฟันพร้อมพูดว่า “ข้ารู้สึกสะใจนักที่เห็นคนพวกนั้นได้พบจุดจบเช่นนี้! หนิงอันเจ้าทำได้ดีมากสำหรับเรื่องนี้!”
จางซิ่วเอ๋อต้องการแก้แค้นด้วยตนเองก็จริง แต่ถ้านางต้องแก้แค้นด้วยตนเอง มันก็ต้องใช้เวลานานกว่านี้หลายเท่า ซึ่งซ่องนางโลมแห่งนั้นอาจทำเรื่องชั่วร้ายได้อีกหลายอย่าง
แม้จางซิ่วเอ๋อจะรู้สึกว่าเนี่ยหย่วนเฉียวดีต่อตนมาก แต่นางก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ทว่าสำหรับเรื่องนี้แล้วจางซิ่วเอ๋อรู้สึกขอบคุณเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ
และจางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่านางไม่ควรจะมองเนี่ยหย่วนเฉียวในแง่ร้ายนัก
เนี่ยหย่วนเฉียวไม่ได้เป็นหนี้นางและยังทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อนางมากมาย เหตุใดนางจึงต้องโกรธแค้นเขา? เมื่อตระหนักได้เช่นนี้แล้ว จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าสิ่งที่ตนกระทำลงนั้นมากเกินกว่าเหตุไปนิดหน่อย มันก็แค่การแก้แค้น!
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋ออย่างไม่เข้าใจในความคิดของนาง เห็นได้ชัดว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ชอบให้เขาเข้าไปยุ่งกับเรื่องของนางแท้ ๆ แต่แล้วเหตุใดในวันนี้นางจึงดูเปลี่ยนไปเล่า?
เนี่ยหย่วนเฉียวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เถี่ยเสวียนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า หัวใจของสตรีคล้ายกับเข็มที่ก้นมหาสมุทร ซึ่งนั่นก็คือความหมายของมัน
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกว่าจิตใจของสตรีผู้นี้เข้าใจได้ยากเย็นนัก
ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องราวต่าง ๆ อยู่ เนี่ยหย่วนเฉียวก็พลันได้สติ เขาเกิดสนใจสิ่งที่อยู่ในหัวใจของสตรีผู้นั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?
“หนิงอัน?” เมื่อเห็นว่าเนี่ยหย่วนเฉียวไม่ตอบกลับคำใด จางซิ่วเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะร้องเรียก
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับมองจางซิ่วเอ๋อและตอบกลับ “เป็นข้า”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เสียงของเนี่ยหย่วนเฉียวพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา “คนพวกนั้นปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้ พวกมันสมควรแล้วที่ได้พบจุดจบอย่างนั้น”
หากไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากดึงดูดสายตาของผู้อื่นก็คงจะสังหารพวกมันให้สิ้นไปแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยพวกมันไปง่ายดายเช่นนี้แน่!