บทที่ 1585 ศัตรูเก่า
…………….
บทที่ 1585 ศัตรูเก่า
คนตายเหล่านั้นมีสถานะเป็นชาวบ้านทั่วไป แค่มองก็สามารถเห็นได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาจะอยู่กับโหยวเฉียนได้อย่างไร
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาคืออะไร?
แล้วตัวตนของผู้เสียชีวิตอีกสามคนเป็นใครกัน?
เฉินเหมิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด กู้เสี่ยวหวานเองก็รู้สึกว่ามันแปลกมากเช่นกันเมื่อได้ยินเช่นนี้
ยามนี้ภายในห้องรับรองที่หรูหราแห่งหนึ่ง มีหญิงสาวรูปโฉมงดงามคนหนึ่งนอนเอนกายอยู่บนตั่งกุ้ยเฟยพร้อมกับแสยะยิ้มด้วยความสะใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นท่านพ่อและท่านพี่ที่ต้องการกำจัดร้านจิ่นฝูและร้านฝูจิ่น แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าแค่ปาหินก้อนเดียวจะได้นกถึงสามตัว แถมยังดึงกู้เสี่ยวหวานนังหญิงแพศยาผู้นั้นออกมาด้วย” หมิงตูจวิ้นจู่กล่าวอย่างชั่วร้าย “เจ้าแน่ใจนะว่าได้ยินไม่ผิด นางพูดจริง ๆ ใช่ไหมว่านางเป็นเจ้าของร้านอีกคนของร้านจิ่นฝู”
“ตอบกลับจวิ้นจู่ ไม่ผิดอย่างแน่นอน ข้าน้อยติดตามฮู้กั๋วจวิ้นจู่ตลอดเวลา และก็ได้ยินทุกอย่างด้วยหูของข้าเอง ข้าต้องการเข้าไปปรนนิบัติพวกนาง แต่ถูกขวางไว้ข้างนอก ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เมื่อจวิ้นจู่ฮู้กั๋วจวิ้นจู่ได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในร้านจิ่นฝู นางดูรีบร้อนและต้องการออกไปหากู้เสี่ยวหวานทันที แต่ไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะมาหานางถึงที่เสียเอง นี่คือสิ่งที่ทั้งสองคนพูดตั้งแต่ต้นจนจบทั้งหมดเกี่ยวกับร้านฝูจิ่น” สาวใช้ในชุดสีเขียวคุกเข่าลงบนพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นนาย และนั่นคืออาชิง สาวรับใช้ของถานอวี้ซู!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่คาดคิดเลยว่าการกระทำของท่านพ่อจะช่วยข้าได้จริง ๆ เดิมทีข้าวางแผนเอาไว้ว่าจะจัดการนางด้วยมือของข้าเอง แต่ไม่คิดว่านางจะตกหลุมพรางด้วยตัวเอง หึ ๆ คราวนี้ก็อย่าโทษว่าข้าใจร้ายเลย” มือที่ทาเล็บสีแดงสดจับตรงเท้าแขนของตั่งกุ้ยเฟยแน่น
“วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม หลังจากที่กลับไปแล้วให้จับตาดูถานอวี้ซูต่อไป โดยเฉพาะเรื่องของกู้เสี่ยวหวาน ทันทีที่เกิดเรื่องขึ้นให้รีบมารายงานข้าทันที” ซูหมิ่นยิ้มหวาน หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับสร้างความหวาดกลัวให้คนที่พบเห็น
“ขอบคุณจวิ้นจู่ ขอบคุณจวิ้นจู่ ข้าจะทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่างเพื่อท่าน” นางได้สร้อยข้อมือที่ทำจากหยกขาวแท้คุณภาพดี เพียงแค่มองก็รับรู้ได้ว่ามันมีมูลค่าสูง จากนั้นก็เอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายไม่หยุด
เมื่อเห็นสาวใช้ถือกำไลหยกและจากไป ไฉ่เยว่จึงรินชาร้อนหนึ่งถ้วยส่งให้ซูหมิ่นแล้วพูดว่า “จวิ้นจู่ ทุกคนในร้านจิ่นฝูถูกจับตัวไปแล้ว ข้าได้ยินมาว่า หนีปิ่ง ผู้บัญชาการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เดิมทีเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านแม่ทัพถาน ยิ่งกว่านั้นชายผู้นี้กลับมาที่เมืองหลวงและสามารถเข้าสู่กองกำลังรักษาความสงบได้ ท่านแม่ทัพถานคงต้องช่วยเขาแน่ ๆ” ไฉ่เยว่บอกซูหมิ่นถึงสิ่งที่นางรู้มา
ซูหมิ่นยกถ้วยชาขึ้นก่อนจะกำมือแน่น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าได้ยินมาว่ารองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบนั้นมาจากตระกูลกัว”
“ใช่เจ้าค่ะ เซี่ยงหย่วนหลิน ลูกเขยใหญ่แห่งตระกูลกัวทางตอนใต้ของเมือง”
ครั้นเห็นใบหน้าที่สวยงามของซูหมิ่นมีรอยยิ้มที่พอใจมาก จึงกล่าวต่อ “ข้าได้ยินมาว่า เซี่ยงหย่วนหลินโหยหาตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเป็นอย่าง
มาก”
“ต้องการเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาความสงบ นั่นไม่ใช่สิ่งที่หมิงอ๋องพูดถึงหรอกหรือ” ไฉ่เยว่พูดอย่างระมัดระวังในขณะที่นวดขาของซูหมิ่น
ซูหมิ่นรู้สึกสบายใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ใช่ ตำแหน่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด ข้าได้ยินมาว่าเคยอยู่ในเมืองหลิวเจีย เจ้าเมืองหลิวเจียก็มาจากตระกูลกัวด้วย เขากับเซี่ยงหย่วนหลินเป็นตระกูลเดียวกัน”
“จวิ้นจู่เป็นคนฉลาด ท่านลองคิดดูสิเจ้าคะ ใต้เท้าเซี่ยงจะไม่มีวันปล่อยให้ญาติของตนเองตายไปโดยเปล่าประโยชน์ หากรู้ว่าผู้ใดตั้งตัวเป็นศัตรูกับตนเองในครั้งนี้” ไฉ่เยว่พูดอย่างปราดเปรื่อง “ไปดูเถอะว่าซื่อจื่อ*[1] จะกลับมาเมื่อไร ถ้ากลับมาก็ให้บอกเขาว่าข้ามีเรื่องจะปรึกษา”
ใบหน้าของไฉ่เยว่เต็มไปด้วยความสุข น้ำเสียงจึงดูร่าเริงเล็กน้อย หากแต่ก็พยายามอย่างดีที่จะระงับอาการสั่นเทาที่เกิดขึ้น “รับทราบ ข้าจะไปรอนายน้อย”
หลังจากพูดจบ นางก็เดินออกไปอย่างตื่นเต้น ซูหมิ่นจึงหลับตาลง แต่หลังจากเสียงการเคลื่อนไหวเงียบลงก็ลืมตาขึ้น มองไปยังด้านหลังของบุคคลนั้นที่วิ่งเหยาะ ๆ ออกไปอย่างมีความสุข
……
ไม่นานหลังจากที่กู้เสี่ยวหวานกลับถึงบ้าน โค่วไห่ก็รีบมุ่งหน้าไปที่ลานของกู้เสี่ยวหวาน
เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของผู้มาเยือน โค่วตันจึงหยุดโค่วไห่ไว้แล้วตำหนิเสียงเบา “ท่านพี่ เหตุใดถึงมีท่าทางลุกลี้ลุกลนเช่นนี้ คุณหนูกำลังอารมณ์ไม่ดี อย่าเพิ่งเข้าไปเสียจะดีกว่า”
โค่วไห่พยักหน้าก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูโค่วตัน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ โค่วตันก็หันศีรษะไปมองเขาด้วยความประหลาดใจ กระทั่งสีหน้ายังเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
จากนั้นโค่วไห่ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มันเป็นความจริงอย่างยิ่ง ข้าเห็นด้วยตาของข้าเอง” ใบหน้าของโค่วตันพลันซีดลง หลังจากพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อระงับร่างกายที่สั่นเทา นางจึงหันหลังวิ่งกลับเข้าไปในห้องทันที
กู้เสี่ยวหวานเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เมื่อครู่หลังจากออกมาจากห้องขัง เสื้อผ้าของนางคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เป็นตอนนั้นเองอาจั่วที่กำลังรินชาก็เห็นโค่วตันวิ่งหน้าซีดเข้ามา
โค่วตันมักจะมีท่าทางสงบเสมอ ทำไมวันนี้ถึงมีดูร้อนรนเช่นนี้? กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว เมื่อเห็นใบหน้าของโค่วตันซีดเผือด หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะและรีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“คุณหนู สมาชิกในครอบครัวของผู้ตายเคลื่อนศพไปที่ตระกูลหลี่ คุกเข่าคร่ำครวญโดยบอกว่าต้องการให้เถ้าแก่หลี่ชดใช้ด้วยชีวิต ทำให้ฮูหยินเฒ่าหลี่เป็นลมหมดสติไป ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้นเลย”
โค่วไห่กล่าวว่า ญาติของผู้ตายรวมตัวกันล้อมรอบบ้านตระกูลหลี่ไว้อย่างแน่นหนา แม้แต่มดก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้าหรือออกได้ สาวใช้คนหนึ่งออกมาจากบ้านตระกูลหลี่เพื่อไปตามหมอ แต่ก็ถูกญาติของผู้ตายขวางเอาไว้ หญิงรับใช้ร้อนใจจนทะเลาะกับคนเหล่านั้น และไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนลงมือผลักสาวใช้จนเซล้มลง ทำให้ศีรษะของนางกระแทกกับสิงโตหินหน้าประตูและเสียชีวิตในทันที
*[1] ใช้เรียกลูกชาย ผู้ที่จะสืบทอดบรรดาศักดิ์ของผู้เป็นพ่อ
…………….