บทที่ 1582+1583 เจอหนีปิ่ง/เข้าไปในคุก
…………….
บทที่ 1582 เจอหนีปิ่ง
หนีปิ่งจ้องมองสองคนอย่างระมัดระวัง และรู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้เป็นอย่างมาก
ถานอวี้ซู… ฮู้กั๋วจวิ้นจู่!
ชายหนุ่มที่อยู่ถัดจากฮู้กั๋วจวิ้นจู่มีรูปลักษณ์อ่อนโยนและสง่างามจนหน้าแปลกใจ หากแต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใด
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถระบุได้ และได้แต่พูดด้วยความลำบากใจ “ใต้เท้าเฉิน ท่านคงได้ยินถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านจิ่นฝูแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาณาจักรต้าชิงของเราไม่เคยมีเหตุการณ์ฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน มีผู้เสียชีวิตพร้อมกันถึงสี่คนต่อหน้าฝูงชนจำนวนมาก ฆาตกรนั้นโหดเหี้ยมยิ่งนัก นี่เป็นเรื่องที่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หลี่ฝานเป็นเจ้าของร้านจิ่นฝู การฆาตกรรมที่โหดร้ายเช่นนี้เกิดจากเขาหรือไม่ ข้ายังไม่ได้ข้อสรุป ตอนนี้ญาติของผู้เสียชีวิตกำลังถกเถียงกันอยู่ในห้องโถง ทุกคนบอกว่าหลี่ฝานคือฆาตกรและต้องการให้เขาชดใช้ด้วยชีวิต แม้ว่าทางการจะยังไม่พบหลักฐานใด ๆ แต่หลี่ฝานคนนี้คือผู้ต้องสงสัยที่สำคัญที่สุด ถ้าเขาได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับผู้อื่น แล้วทำให้รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีรั่วไหล ข้าคงจะแบกรับความผิดไม่ไหวจริง ๆ”
“ใต้เท้าหนี พูดตามตรง ข้ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับเถ้าแก่หลี่ที่อยู่ข้างใน” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยขึ้นขัดจังหวะทั้งคู่ และเห็นถานอวี้ซูที่อยู่ด้านข้างตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ท่านพี่กำลังพูดถึงอะไร”
มีความสัมพันธ์
พี่สาว…
เมื่อหนีปิ่งได้ยินเช่นนั้น เขาก็ตกตะลึงและมองไปที่สองคนตรงหน้า
ถานอวี้ซูถอดหมวกและพูดออกมาตรง ๆ “ผู้บัญชาการหนี ข้าคือฮู้กั๋วจวิ้นจู่ คนที่อยู่ข้างหน้าท่านคือท่านเสี้ยนจู่อันผิงที่ฮ่องเต้เป็นคนแต่งตั้ง”
ว่าอย่างไรนะ
เสี้ยนจู่อันผิง
หนีปิ่งตกตะลึง เขามองไปที่กู้เสี่ยวหวานและเห็นว่านางกำลังถอดผ้าคลุมศีรษะออกพลางพูดว่า “ใต้เท้าหนี เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ข้าควรจะมาพบผู้บัญชาการหนีด้วยใบหน้าที่แท้จริง แต่กองกำลังรักษาความสงบนั้นสำคัญมาก ท้ายที่สุดเราก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำสิ่งที่ไม่ดี”
หญิงสาวในตำนานผู้นี้เติบโตในชนบท ภายหลังลือกันไปทั่วว่าเป็นปรมาจารย์ด้านดนตรี มีความรู้ รูปร่างหน้างดงาม ข่าวลือครั้งก่อนกับคำอธิบายภายหลังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงทั้งหมดคาดเดาว่าใครคือท่านเสี้ยนจู่อันผิง เพียงนางเข้าร่วมในงานเลี้ยงบทกวีและร้องเพลงเท่านั้น ผู้คนจึงชมเชยนางมากมาย
แม้ว่าหนีปิ่งจะมีความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็เป็นคนหยาบกระด้าง เขาเคยนำทหารไปสู้รบและตอนนี้เขายังเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาความสงบ เขาเพียงปกป้องความปลอดภัยในเมืองหลวงของต้าชิงและจับกุมคนทรยศ
หนีปิ่งฟังหูซ้ายทะลุหูขวา คร้านจะสนใจเขา
แต่วันนี้ท่านฮู้กั๋วจวิ้นจู่พูดจริง ๆ ว่าสาวหล่อที่ไม่มีใครเทียบได้ตรงหน้าเขาคือท่านเสี้ยนจู่อันผิง
หนีปิ่งอดไม่ได้ที่จะมองอีกครั้ง
แน่นอนว่าตามที่ข่าวลือกล่าวกันต่อมา นางงดงามมาก ทั้งสูงส่งและสง่างาม แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางและเสน่ห์ของนางเทียบได้กับท่านฮู้กั๋วจวิ้นจู่
ในขณะนี้ ท่านเสี้ยนจู่อันผิงยืนตัวตรง ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ ดวงตาฉายแววแห่งความกังวลอย่างสุดซึ้ง แต่ทว่านางมีท่าทางที่มั่นคงและสงบนิ่ง
“ผู้บัญชาการหนี” กู้เสี่ยวหวานคำนับและพูดกับหนีปิ่งว่า “หลี่ฝานเป็นผู้มีพระคุณของข้า เขาเป็นเจ้าของร้านจิ่นฝู และข้าก็เป็นเจ้าของร้านจิ่นฝูด้วยเช่นกัน แม้ว่าข้าจะไม่เคยแสดงตัวในฐานะเจ้าของร้านคนที่สองของร้านจิ่นฝู แต่ข้าก็เป็นผู้ตรวจสอบรายการอาหารและสมุดบัญชีทั้งหมดในร้านจิ่นฝู และข้าก็เป็นคนเพิ่มรายการอาหารใหม่ในเวลาที่เหมาะสม สถานะของข้าในร้านจิ่นฝูนั้นไม่ต่ำกว่าหลี่ฝาน หากผู้บัญชาการหนีบอกว่าเถ้าแก่หลี่เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ เช่นนั้นข้าก็ควรจะเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยเช่นกัน”
“นี่… ท่านเสี้ยนจู่อันผิง นี่คือ…” หนีปิ่งไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนมาที่ประตูของเขาและบอกว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป ได้แต่มองไปที่เฉินเหมิ่งและถานอวี้ซูอย่างช่วยไม่ได้
เฉินเหมิ่งไม่คิดว่าผู้หญิงอ่อนแอคนนี้จะบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้านจิ่นฝู และเขาไม่รู้ว่าจะยอมรับมันอย่างไร
“ผู้บัญชาการหนี ท่านพี่ของข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อพบกับเถ้าแก่หลี่” ถานอวี้ซูเข้าใจความหมายของกู้เสี่ยวหวานและรีบพูด
“สิ่งที่เกิดขึ้นในร้านจิ่นฝูนั้นเกิดจากคนในร้านจิ่นฝูหรือไม่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด หากใต้เท้าหนีเข้าใจ ท่านพี่ของข้าจะไปถามหลี่ฝานเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางทีหลี่ฝานอาจพูดความจริง และใต้เท้าหนีคงจะยุติคดีนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้ หากไม่ได้รับคำตอบ ใต้เท้าหนีก็ไม่มีอะไรเสียหาย ความสัมพันธ์ระหว่างท่านพี่กับหลี่ฝาน ถ้าท่านต้องการอะไร ผู้บัญชาการหนีก็สามารถเอ่ยปากได้ตลอดเวลา”
จากนั้นหนีปิ่งก็เข้าใจว่าเสี้ยนจู่อันผิงหมายถึงอะไร
อย่างไรก็ตาม เขายังรู้สึกว่าไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลยสำหรับผู้หญิงคนนี้ที่จะบอกคนอื่นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนางกับร้านจิ่นฝู
ผู้บัญชาการหนีถอนหายใจ กู้เสี่ยวหวานได้เปิดเผยตัวตนของนางแล้ว และจดหมายของท่านแม่ทัพถานเย่สิงก็อยู่ที่นี่ด้วย ในวันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ต้องให้พวกนางได้พบกัน ดังนั้นจึงพยักหน้า “ช่างเถอะ เสี้ยนจู่อันผิงได้โปรดมากับข้า”
กู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม แล้วก็สวมผ้าคลุมหน้าและติดตามหนีปิ่งไปอย่างใกล้ชิด
“จวิ้นจู่ เสี้ยนจู่ สถานการณ์ด้านในไม่ดีนัก ข้าหวังว่าท่านสองคนจะไม่ตกใจ” ก่อนเข้าไปในห้องขัง หนีปิ่งกลัวว่าผู้หญิงสองคนจะทนไม่ได้กับความโหดร้ายข้างใน เขาจึงเตือนพวกนางทั้งสองก่อนเข้าประตูไป
ถานอวี้ซูใช้เวลาช่วงหนึ่งที่ชายแดนตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งยังเคยอยู่ในสนามรบที่นองเลือด นางจึงมีภูมิคุ้มกันต่อมัน แต่กู้เสี่ยวหวานไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน
ถานอวี้ซูอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองกู้เสี่ยวหวาน แต่เมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางยังนิ่งเฉยและไม่เห็นความกังวลใด ๆ “ขอบคุณใต้เท้าหนี พวกเราไม่มีวันลืมบุญคุณนี้อย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นว่านางมีท่าทางนิ่งสงบ หนีปิ่งก็คิดว่านางกำลังจงใจเสแสร้ง ดังนั้นเขาจึงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากคิดดูว่าตัวเองได้เตือนนางแล้ว ถ้านางเกิดกลัวขึ้นมา อย่างไรเสียก็ไม่ใช้เรื่องของเขา
ดังนั้นเขาจึงพากู้เสี่ยวหวานเข้าไป
……
บทที่ 1583 เข้าไปในคุก
คุกของกองกำลังรักษาความสงบ รอบด้านก่อด้วยกำแพงอิฐอย่างแน่นหนา มีเพียงช่องเล็ก ๆ ด้านบนของกำแพงซึ่งไม่เพียงแต่ทำไว้เพื่อระบายอากาศเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นหน้าต่างเล็ก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษหลบหนี
หลังจากเข้าไปในห้องขังและเดินผ่านทางเดินที่มืดมิดไร้ซึ่งหน้าต่าง สองข้างทางเดินมีเพียงตะเกียงน้ำมันที่ส่องแสงสว่างเท่านั้น ภาพชั้นในก็ชัดเจนขึ้น
ทางด้านซ้ายมีห้องขังอยู่ห้องหนึ่ง มีประตูถูกปิดไว้อย่างแน่นหนาจนไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีสิ่งใดอยู่ข้างใน แต่กลับมีเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดดังขึ้นจากข้างใน
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินเสียงร้องโหยหวน หัวใจของนางพลันสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ นางตั้งใจฟังอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าเสียงนั้นไม่คุ้นเคยจึงรู้สึกโล่งใจ
ดูสงบนิ่ง
ท่าทางที่ไม่ธรรมดาดังกล่าวทำให้หนีปิ่งต้องมองเป็นครั้งที่สอง
สถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือดเจิ่งนองและโหดร้ายเช่นนี้ หญิงสาวกล้าที่จะมาที่นี่หรือ ไม่ต้องพูดถึงฮู้กั๋วจวิ้นจู่ นั่นเป็นเพราะนางเติบโตในแถบชายแดนตั้งแต่ยังเด็ก จึงคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ดี
อย่างไรก็ตาม เสี้ยนจู่อันผิงคนนี้มาจากเมืองเล็ก ๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่านางจะมีความกล้าหาญมากขนาดนี้ หัวใจของเขาเต้นแรงและอดไม่ได้ที่จะมองนางด้วยความชื่นชม
หลังจากผ่านทางเดินที่ทอดยาว ข้างทางมีเพียงตะเกียงน้ำมันที่จุดไฟให้แสงสว่าง เผยให้เห็นนักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกไม้ทั้งสองด้าน
บางครั้งก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด และเสียงตะโกนด้วยความคับแค้นใจ “นายท่าน ข้าถูกใส่ร้าย ข้าถูกใส่ร้าย ข้าไม่ใช่คนร้าย!”
หนีปิ่งมองไปยังมือสกปรกที่ยื่นออกมาเป็นครั้งคราว ทว่าเขาก็ยังเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามองด้านข้าง
กู้เสี่ยวหวานเดินตามหลังไปไม่ห่าง มองไปที่ผู้ถูกคุมขังในห้องขังทั้งสองด้านผ่านม่านหนาเป็นครั้งคราว โดยหวังว่าจะได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
แต่เมื่อไกลออกไป เสียงก็เบาลงเรื่อย ๆ กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าพวกเขาได้เข้ามายังพื้นที่ส่วนในสุดของคุกแล้ว ซึ่งโดยปกติจะใช้เป็นที่คุมขังนักโทษคนสำคัญ แต่นางกลับไม่เห็นคนที่คุ้นเคย
เมื่อทางเดินลึกขึ้น อากาศภายในก็น้อยลงเรื่อย ๆ ผสมกับกลิ่นอับจากการที่ไม่มีแสงแดดส่องเข้ามาเป็นเวลาหลายปีและกลิ่นหญ้าแห้งที่ขึ้นรา
ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อผ่านห้องขังอีกแห่ง จู่ ๆ มือคู่หนึ่งก็ยื่นออกมาจากภายในห้องขัง มือคู่นั้นสะอาดสะอ้าน เมื่อกู้เสี่ยวหวานกำลังจะเดินไปที่นั่น ก็พบว่าคนที่นอนอยู่เป็นคุณชายเฉิง คนทำบัญชีของร้านจิ่นฝู
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานปรากฏตัวที่นี่ คุณชายเฉิงก็ตกใจในตอนแรก ทั้งมีความประหลาดใจและความสุขฉายชัดในดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็อ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อมองไปที่คนด้านข้างกู้เสี่ยวหวาน เขาก็ทำได้เพียงหุบปากและเหลือบมองกู้เสี่ยวหวาน จากนั้นก็ละสายตาและเดินเข้าไปในห้องขังโดยไม่มองกู้เสี่ยวหวานอีก
กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าคุณชายเฉิงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักนาง เพื่อไม่ให้นางเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นางทำได้เพียงมองไปยังห้องขังที่เดินผ่านมา จากนั้นก็เดินตามหนีปิ่งต่อไป
…………….